ซวยจริง กลายเป็นสาวน้อยไม่พอยังเจอเหล่าเจ้าหญิงของโรงเรียนมาจีบอีก 16

Now you are reading ซวยจริง กลายเป็นสาวน้อยไม่พอยังเจอเหล่าเจ้าหญิงของโรงเรียนมาจีบอีก Chapter 16 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

“มันก็แน่นอนอยู่แล้ว….ก็เพราะว่าฉันน่ะชอบเธอไงล่ะ”

 

คำ ๆ นี้มันยังคงวนเวียนในหัวของผมไปมา คำว่าชอบที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของเด็กสาวผู้เป็นที่รักของเหล่าผู้คนในโรงเรียน คำ ๆ นั้น และความรู้สึกแบบนั้นที่ถูกมอบมาให้ ช่างเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่เคยฝันว่าจะได้รับ

ตัวเองที่ไม่มีจุดเด่นอะไร ตัวเองที่ไม่ได้เป็นคนพิเศษที่ไหน…. จนมันทำให้เกิดคำถามว่าเพราะอะไรกัน เพราะอะไร…ทำไมถึงได้เป็นตัวผม

“ชอบ..เรา”

ผมพึมพำกับตัวเอง แทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกแบบนั้นกับตัวผม ทั้งยังเป็นคำบอกที่ออกมาจากปากของบีม… เด็กสาวที่ทั้งเท่และโดดเด่นจนทุกคนในโรงเรียนต้องหันมามอง

แน่นอนว่าการกระทำที่ผ่านมาของคุณบีมนั้นก็พอจะสามารถคาดเดาได้ว่าคำตอบมันจะออกมาแบบนี้ แต่พอมาเจอกับตัวเองตรง ๆ ก็แทบตั้งหลักไม่อยู่ในทัน แถมคำถามที่ถูกยิงมาต่อนั้นก็ทำเอาเสียศูนย์ไปหมด

“แล้วฟ้าล่ะ ชอบฉันไหม” 

ในตอนนั้นหัวของผมมันตื้อไปหมด ราวกับโลกทั้งใบถูกฉาบไปด้วยสีขาวของความว่างเปล่า แม้สิ่งที่อยู่ในอกมันจะยังคงเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก ใบหน้านั้นร้อนผ่าวจนเลือดทั้งร่างกายแทบจะมารวมกันที่หน้า

มือของผมสั่นไปหมด ตัวเองก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เพียงยืนอยู่เฉย ๆ พร้อมกับปากที่พึมพำไม่เป็นภาษา และมันยิ่งเป็นมากขึ้นกว่าเดิมเรื่อย ๆ เมื่อใบหน้าที่คมสวยได้ค่อย ๆ เคลื่อนมาใกล้ ๆ ทีล่ะนิด….

ตี๊ด ๆ

และทุกอย่างก็ถูกหยุดลงไปเมื่อเสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นมา เป็นตอนนั้นที่พี่อีฟได้ขับรถมาถึงโรงเรียนและกำลังตามหาตัวผมอยู่

ไม่มีครั้งไหนที่ผมจะรู้สึกขอบคุณพี่สาวคนสวยคนนี้เท่าครั้งนี้อีกแล้ว เพราะว่าอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมได้มีเวลาที่จะทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นมา

“เอ่อ…. ขอตัวก่อนนะ…พอดีพี่สสาวเรามารับน่ะ”

“อืม… เจอกันพรุ่งนี้นะ”

ตามหลักการแล้วเธออาจจะอยากได้คำตอบทันที แต่เมื่อเห็นสีหน้าของผม คุณเจ้าชายคงจะรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะตอบแค่ไหน ดังนั้นด้วยความห่วงใยเธอจึงแค่ยกมือโบกไปมาเป็นการอำลา นั่นทำให้รู้สึกถึงความห่วงใยที่เธอมีให้กับผม ทำเอาอดแอบยิ้มไม่ได้

“ทำสีหน้าแบบนั้น… มีเรื่องอะไรกำลังกังวลอยู่เหรอคะ”

จู่ ๆ พี่อีฟที่ตอนนี้กำลังขับรถอยู่ก็ร้องทักถามขึ้นมาทำให้ผมสะดุ้งก่อนที่จะกลับมาอยู่ในโลกของปัจจุบัน

“เอ่อคือ… เรื่องนั้นคือ…..มีอะไรให้คิดนิดหน่อยน่ะ”

“พอจะบอกได้ไหมคะว่าเป็นเรื่องอะไร ไม่สิ ถ้าเป็นเรื่องที่มีผลต่อร่างกายหรือจิตใจก็อยากให้บอกมาแบบไม่ปิดบังด้วยค่ะ เพราะนี่มีผลต่อการวิจัยของบริษัทเรา…และอีกอย่าง.”

น้ำเสียงของพี่อีฟดูจริงจังมาก เธอขยับแว่นตาทีหนึ่งก่อนที่จะมองมาที่ผมผ่านกระจกมองหลังด้วยสายตาอันคมกริบที่เพียงแค่สบตาก็หวาดกลัวเสียวไปทั่วทั้งสันหลัง

“และอีกอย่าง..?”

“เวลาพูดจากับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพี่สาวของตัวเองอย่าลืมลงท้ายว่า ค่ะ ด้วยนะคะ”

เรื่องนั้นเองหรอกเหรอ!!!

“แต่…แต่คุณอีฟ…”

“พี่อีฟค่ะ”

สายตาของคุณพี่แกดดูดุขึ้นมากจนมือของผมนั้นสั่นไปหมดเวลาที่จ้องมองมัน ราวกับหนูตัวน้อย ๆ ที่กำลังถูกงูเห่าจ้องมอง

“คุณ..เอ่อ พี่อีฟ…..เข้าใจแล้วค่ะ”

“ดีมากค่ะคุณฟ้า ทำตัวให้ชินไว้ ความลับจะได้แตกยาก ๆ หน่อย อย่าลืมว่าความลับของคุณหากมีคนรู้ขึ้นมา อาจส่งผลกับบริษัทเราเป็นอย่างมากค่ะ”

เรื่องมันก็จริงอย่างที่พี่อีฟว่า เพราะหากมีคนบอกว่าทำคนเปลี่ยนเพศแล้วเอาผู้ชายไปใส่โรงเรียนหญิงล้วน คงได้มีข้อครหามหาศาลจากสังคมแน่นอน

“แล้วสรุปกังวลเรื่องอะไรงั้นเหรอคะ?”

ผมเงียบไปสักพัก เพราะไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้นั้นมันสมควรที่จะบอกคนตรงหน้าหรือไม่ แต่พอคิดแล้วว่าหากไม่พูดออกไป ทางนั้นคงหาทางให้ผมเผยมันออกมาอยู่ดี

“พี่อีฟคะ…คือว่า…. คนเราสามารถจะชอบกันได้ทั้งที่เพิ่งเจอกันอาทิตย์เดียว ได้เหรอเปล่าคะ?”

เอี้ยดดดดดดด

เสียงเบรกดังขึ้นมาพร้อมกับแรงมหาศาลที่เกิดขึ้นจากการหยุดกระทันหันทำเอาผมเสียศูนย์ไปชั่วขณะ และตอนนั้นเองที่พี่อีฟหันกลับมามองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจขึ้นมา

“พี่อีฟ?”

“เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะคะคุณฟ้า?แค่อาทิตย์เดียวก็มีสาวที่ชอบแล้วงั้นเหรอคะ? ไม่ดีนะคะ ฉวยโอกาสในช่วงที่เป็นสาวน้อยแบบนี้ อย่าปล่อยให้จิตวิญญาณชายหนุ่มครอบงำสิคะ”

จู่ ๆ พี่อีฟก็รัวคำพูดออกมาเป็นปืนกล ซึ่งทั้งหมดมันตรงข้ามกับความจริงจนผมโบกมือส่ายหน้าปฏิเสธรัว ๆ

“ไม่ ๆ ไม่ใช่แบบนั้นนะคะพี่อีฟ….. มันตรงข้ามเลยต่างหาก!!”

“ตรงข้าม… มีเด็กสาวมาชอบคุณงั้นเหรอคะ?”

“ชะ..ใช่แล้วค่ะ… มีผู้หญิงมาบอกว่าชอบเราน่ะ”

….!!!

เอี๊ยดดดดดด

รถเบรกแรงรอบสอง….

พี่อีฟเบิกตากว้างคล้ายราวกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมพูดออกมา เธอพยายามจ้องมาที่ข้างในตาของผมราวกับอยากจับผิด แต่ว่ามองแค่ไหนมันก็ไม่มีความผิดให้หรอกนะ ทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริงนี่นา…ถึงจะไม่น่าเชื่อก็เถอะ

 

“ละ..แล้วได้ตอบไปอย่างไรบ้างคะ?”

เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงสั่น ๆ มาจากพี่อีฟ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกอย่างไร แต่ให้ผมเดา พี่แกน่าจะกำลังตะลึงกับเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่น่าเกิดขึ้นในชีวิตนี้อย่างแน่นอน

“ยังไม่ได้ตอบน่ะ…. พอดีพี่อีฟมาก่อน”

“จะบอกว่าเป็นความผิดของพี่งั้นเหรอคะ?”

“มะ..ไม่ใช่ ๆ ต้องขอบคุณพี่อีฟต่างหากที่มา ถ้าพี่ไม่มา ผม..เอ้ย เราก็ไม่รู้แล้วว่าจะตอบกลับไปอย่างไร”

“จะบอกว่าเป็นความผิดของดิฉันงั้นเหรอคะ?”

“ใช่ที่ไหน ก็บอกว่าขอบคุณไงคะ”

“แล้วคิดจะตอบกลับว่าอย่างไรล่ะคะ ถ้าอีกฝ่ายสารภาพรักมาแบบนี้อย่างไรเสียพรุ่งนี้ก็ถามคำตอบอีกอยู่ดีนั่นล่ะค่ะ”

น้ำเสียงของพี่อีฟดูจริงจังและเป็นงานเป็นการมากขึ้น มันเริ่มเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังพยายามให้คำแนะนำกับเด็กที่กำลังสับสน นั่นเปิดให้ผมเริ่มรู้สึกวางใจที่จะพูดกับพี่เขามากยิ่งขึ้น

“เรื่องนั้น…… เราก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเหมือนกันค่ะ”

“ไม่รู้จะตอบอย่างไรงั้นเหรอคะ… เป็นคำตอบที่คาดไม่ถึงเลยนะคะ”

“นี่คิดว่าเราจะตอบว่าอะไรกันคะเนี่ย”

“คิดว่าจะบอกว่ายินดีเป็นอย่างยิ่งอะไรแบบนั้นซะอีก อย่างไรก็เด็กชายไม่ใช่เหรอคะ มีสาวน่ารัก ๆ มาชอบ ส่วนใหญ่ก็ดีใจจนเนื้อเต้นกันทุกคนนี่คะ”

“นี่คิดว่าผม…เอ้ย เราเป็นคนแบบไหนกันเนี่ย!!!”

ผมโผล่งออกมาเมื่อคำพูดของพี่อีฟมันช่างมาในรูปแบบเหมารวมซะเหลือเกิน

“เด็กหนุ่มวัยกลัดมันที่เพิ่งกลายมาเป็นสาวน้อยน่ารักไงคะ”

“มันก็ใช่แหละแต่นั่นมันก็ตรงเกินไปหน่อย……”

สักพักพี่อีฟก็ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ แต่ว่าเธอก็ยังคงเหลือบตามองมาที่ผมเป็นระยะ ๆ

 

“แล้วคุณฟ้าล่ะคะ?”

พี่อีฟถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ ขณะที่มือของเธอยังประคองพวงมาลัยอย่างระมัดระวัง

“จริง ๆ แล้วรู้สึกยังไงกับเด็กผู้หญิงคนนั้นกันแน่?”

ผมถอนหายใจยาว กอดแขนตัวเองอย่างไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดี เพราะสิ่งนี้นั้นมันเป็นเรื่องที่ใหม่มากสำหรับผม มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่คุ้นเคยและไม่รู้ว่าจะตอบสนองกับมันอย่างไรดี

“เราไม่รู้จะบอกว่ารู้สึกยังไงเหมือนกันค่ะ… บางทีอาจเป็นเพราะว่ามันเกิดขึ้นเร็วไป เราก็เลยไม่รู้ว่าจะตอบยังไง”

“ไม่รู้จะตอบยังไงเหรอคะ?หรือไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงกันแน่คะ?”

คำถามของพี่อีฟทำเอาผมชะงัก เธออาจจะพูดถูก บางทีผมอาจจะไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับคุณบีม มันแค่มีบางอย่างที่ทำให้ใจเต้นแรง ทำให้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกกลัวและสับสน ใช่ มันยังมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่ในลึก ๆ ของจิตใจ

“อาจจะจริงแบบที่พี่อีฟพูดก็ได้ค่ะ… หัวใจที่เต้นแรง ความตื่นเต้นที่มีทุกครั้งที่เข้าใกล้ ทั้งหมดนั้นจะเรียกว่าชอบเหรอเปล่า หรือเป็นแค่ความรู้สึกตอบสนองทั่วไปเวลามีคนให้ความสนใจเท่านั้น…. เราไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว”

ผมพยายามหาคำตอบในจิตใจของตัวเองเมื่อได้ฟังคำของพี่อีฟ และคำตอบทั้งหลายของความสับสนมันก็พลั่งพรูออกมาไม่หยุด

“ถ้าแค่ดีใจที่มีคนมาชอบ แต่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น… แบบที่เขารู้สึก แบบนั้นเรียกว่าชอบเขาเหรอเปล่า? แล้วถ้าตอบรับไปทั้ง ๆ แบบนั้นมันจะดีจริง ๆ เหรอ”

คำพูดทั้งหลายได้ถูกพูดออกมาเรื่อย ๆ พี่อีฟไม่ได้ทำอะไรนอกจากเงียบและฟังความกังวลใจของผม และหลังจากที่ผมได้เงียบลงเธอก็ได้พูดขึ้น

“บางทีสิ่งที่เรียกว่าความรักอาจไม่ใช่สิ่งที่ต้องรีบเข้าใจในทันทีนะคะ”

พี่อีฟพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพลางหันมา แม้ว่าใบหน้าจะยังคงนิ่งสงบ แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นบ่งบอกได้ถึงความเอ็นดูและเป็นห่วงได้อย่างชัดเจน

“สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าเรารู้สึกยังไง ถ้าฟ้ายังไม่แน่ใจ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบให้คำตอบ เพราะยังไงความรู้สึกเหล่านั้นจะชัดเจนขึ้นเองค่ะ และเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์สิ่งนั้นให้เอง”

คำพูดนั้นช่วยให้ใจผมสงบลงเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงทิ้งความลังเลเอาไว้ในใจของผม

“พี่อีฟหมายถึงว่า.. ให้เราขอเวลาในการจะให้คำตอบเธอคนนั้นงั้นสินะคะ”

“ค่ะ… แบบนั้นล่ะค่ะ อีกฝ่ายเอง หากชอบคุณจริง ๆ แล้วล่ะก็ เจ้าตัวคงอยากจะได้รับคำตอบที่มาจากใจจริง ๆ ของคุณมากกว่าความรู้สึกชั่ววูบแน่นอน”

“ถ้างั้น….เรารู้แล้วล่ะว่าเราจะบอกอะไรกับคุณบีมในวันพรุ่งนี้ดี”

กึก

มือของพี่อีฟจู่ ๆ ก็กำพวงมาลัยแน่นขึ้นกว่าเดิมอย่างฉับพลัน ทำเอาผมสะดุ้งเล็กน้อย ๆ ก่อนจะหันไปมองพี่อีฟที่ตอนนี้กำลังมือสั่นและหันมาถามผมอย่างไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้มาก่อน

“บีม…ห้องห้าทับสาม….. บีมที่ว่านี่ไม่ได้นามสกุลว่า อัศวเศรษฐานนท์ ใช่ไหมคะ”

“อ้าวรู้จักคุณบีมด้วยงั้นเหรอ”

เอี๊ยดดดดดดดดดด

เสียงเบรกดังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ดังขึ้นพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนจนรถแทบคว่ำ ทำเอาผมรีบเกาะเบาะตรงหน้าแทบไม่ทัน ตอนนั้นเองก็ได้เห็นพี่อีฟที่มองมาด้วยสายตาตื่นกลัว

“นั่นลูกสาวมาเฟียเบอร์หนึ่งของไทยนะคะ”

“ก็พอรู้อยู่”

“คุณพ่อเขาหวงลูกมากนะคะ”

“ก็พอทราบ”

“ตอบไม่ดีนี่…. อ่าวไทยไม่ใช่แค่ชื่อนะคะ”

“เรื่องนั้น….ข่าวลือมากกว่าไหม”

“เรื่องอื่นอาจจะข่าวลือ แต่เล่นกับหัวใจลูกสุดรักนี่……อ่าวไทยแน่นอนค่ะ”

มันก็จริงแหะ…. ถึงเรื่องอื่นมันจะดูล้อเล่น แต่กับเรื่องหัวใจนี่ถ้าเดินก้าวผิดไปแล้วทำให้คุณบีมเสียใจ รับรองว่าอ่าวไทยได้โบกมือเรียกณัฐชาไปเยี่ยมก้นทะเลแน่นอน….

“ดังนั้นช่วยตอบอะไรระมัดระวังด้วยนะคะ ดิฉันกลัวจะได้ลงอ่าวไทยเป็นเพื่อนคุณค่ะ คุณฟ้า”

“แล้วแบบนี้ผมจะตอบยังไงถึงจะรอดได้เนี่ย พี่อีฟ ช่วยผมด้วยยยยย”

“อย่าเอาดิฉันเข้าไปอยู่ในวงวนของอาชกรรมได้ไหมคะ ดิฉันยังอยากเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ อยู่”

“ฮือออ ผมก็ยังอยากเป็นนักเรียนธรรมดา ๆ นะ”

“ถ้างั้นก็บอกขอเวลาไปก่อนแล้วกันค่ะ เตะถ่วงไว้จนกว่าจะหาทางออกที่ดีได้”

“แบบนั้นจะไม่เป็นไรแน่นะ”

“หรืออยากตอบรับไปเลยล่ะคะ เป็นแฟนกับลูกเจ้าพ่อ หลายคนคงอิจฉาคุณน่าดู”

“ขืนตอบไปแบบส่ง ๆ มันจะมีปัญหาเอาน่ะสิ ความรักที่ไปด้วยการหวังผลน่ะ มันไม่ยั่งยืนนะ แบบนั้นถ้าพ่อเขารู้ก็อ่าวไทยอยู่ดีนะพี่อีฟ”

ใช่ ตำนานว่าไว้ว่าหากคนเราคบกันด้วยผลประโยชน์แล้วนั้น ปลายทางของความรักมันย่อมไม่ดีแน่นอน และไหนจะการคบกันแบบที่ตัวเองยังไม่รู้กระทั่งความรู้สึกของตัวเอง ทรงนี้นิยายทั้งหลายบอกว่ามีแต่ดราม่ารออยู่ และถ้าชีวิตลูกสาวเจ้าพ่อเจอดราม่า… รับรองว่าผมกับพี่อีฟได้ไปหาอาม่าที่สวรรค์แน่นอน

“ก็รู้ดีไม่ใช่เหรอคะ งั้นทางออกมันก็มีอยู่ทางเดียวแล้วล่ะค่ะ”

“โอเคค่ะพี่อีฟ งั้นเอาตามนี้”

ว่าแล้วหลังตัดสินใจได้ก็พร้อมแล้วที่จะขอเวลากับคุณบีมสำหรับการสำรวจจิตใจของตัวเองในตอนนี้ว่าตัวผมนั้นรู้สึกอย่างไรกันแน่ ใช่ ทุกอย่างมันจะต้องเรียบร้อย ต้องเรียบร้อยดีถ้าไม่มีปัญหาอื่นมาแทรก

มันควรจะเป็นแบบนั้น…..

แล้วทำไม….

“ค่อย ๆ จรดพู่กันลงที่กระดาษนะคุณฟ้า”

เสียงหวานนุ่มได้กระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูจนรู้สึกว่าทั่วร่างมันเสียวสะท้านไปหมด หัวใจดวงน้อย ๆ นี้ก็เต้นระรัวจนแทบจะทะลุมาจากอก

สัมผัสนุ่ม ๆ ของร่างกายที่แนวชิดติดกันและมือที่นุ่มนวลจนราวกับผ้าชั้นดีที่สัมผัสที่มือนั้นยิ่งพาให้สติที่ตะเลิดอยู่แล้วยิ่งตะเลิดไปกว่าเก่า

“เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยวก่อนคุณน้ำ!”

ผมพยายามจะถอยหนี แต่มือเธอยังคงกุมมือผมไว้อย่างแน่นหนา ราวกับไม่รู้ถึงแรงสะท้านในใจที่ทำให้สติของผมกระเจิงไปหมด ทำไมกัน ทั้ง ๆ ที่มือเล็ก ๆ นี่ไม่น่าจะมีแรงแท้ ๆ แต่กลับไม่สามารถดึงมืออกมาได้

“ไม่เป็นไรนะฟ้า… ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยดีค่ะ ฟ้าเก่งอยู่แล้วนะ…….”

คุณน้ำกระซิบเบา ๆ ข้างหู ยิ่งทำเอาสติที่แทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วให้ยิ่งแตกซ่านกระเด็นกระดอนไปแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง เลือดลมต่างสูบฉีดจากทั้งทั่วร่างมารวมอยู่แค่เพียงที่หน้าจนมันรู้สึกร้อนผ่าวไปหมด

ทำไมกัน…. ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้…..

กัปตันอีฟนี่มันเกินกว่าจะควบคุมแล้วครับบบบบ!!!!

 

****************************************************************

ไงล่ะฟ้า เพื่อความอยู่รอดของคนแต่งแล้ว คิดว่าฉากกับคุณน้ำมันจะมาไม่ถึงงั้นเหรอ เสียใจด้วยนะฉันรับสินบนมาไว้เป็นชีวิตของตัวเองเรียบร้อยแล้วล่ะ

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด