กระบี่จงมาบทที่ 849.1 สหายเจ้ามาหาใคร

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter บทที่ 849.1 สหายเจ้ามาหาใคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนรู้จัก​เก่าแก่​สอง​คน​ที่​อายุ​แตกต่าง​แต่กลับ​เกี่ยวพัน​กัน​อย่าง​ลึกซึ้ง​ เวลานี้​ต่าง​ก็​กำลัง​นั่ง​ยอง​อยู่​บน​หัว​กำแพง​ อีก​ทั้ง​ต่าง​ก็​ห่อไหล่​ เอา​สอง​มือ​สอด​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​เหมือนกัน​ มอง​ไป​ยัง​ซาก​ปรัก​สนามรบ​ทางทิศใต้​ร่วมกัน​

ลู่​เฉิน​หันหน้า​มามอง​คนหนุ่ม​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ ยิ้ม​เอ่ย​ “หาก​เวลานี้​พวกเรา​สอง​คน​เอาอย่าง​ผู้อาวุโส​หยาง​ ต่าง​คน​ต่าง​หยิบ​เอา​กระบอก​ยาสูบ​มาพ่น​ควัน​โขมง​ คงจะ​สบายอารมณ์​ยิ่งกว่า​นี้​ ขึ้นไป​บน​หัว​กำแพง​สูง ทอดสายตา​มอง​ไกล​ไป​หมื่น​ลี้​ ถ่อมตัว​แด่​ใต้​หล้า​ ละ​ความทุกข์​เบิกบานใจ​”

ผู้เฒ่า​ที่อยู่​เรือน​หลัง​ของ​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​เคย​เยาะ​หยัน​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​ว่า​เป็น​พวก​ผี​ซิว​ (ปี่​เซี๊ยะ)​ ที่​ตัว​ใหญ่​ที่สุด​ใน​ฟ้าดิน​ ดีแต่​กิน​ไม่รู้จัก​คาย​

สิ่งที่​เฉิน​ผิง​อัน​มองเห็น​ใน​สายตา​กลับเป็น​เพียง​ต้น​หญ้า​หร็อมแหร็ม​ ป​รา​รณ​กระบี่​ส่าย​ไหว​ ราวกับว่า​มองเห็น​กระดูก​ขาว​กอง​กัน​เป็น​ภูเขา​ ปราณ​กระบี่​พุ่ง​ทะยาน​สู่ชั้น​ฟ้า ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ที่​เลือด​ท่วม​เต็มตัว​ปล่อย​เส้น​ผม​สยาย​อยู่​กลาง​สนามรบ​ เคย​เอนกาย​นอน​เมามาย​พิง​กระถางธูป​อยู่​ตรง​ระเบียง​ ใน​มือถือ​จอก​น้ำพุ​สุรา​ เซียน​กระบี่​ผู้​มีทั้ง​ชื่อเสียง​และ​มาด​สง่างาม ราวกับว่า​ได้​มองเห็น​การ​เดิน​นำ​ไป​ก่อน​ก้าว​หนึ่ง​ของ​โฉว​เหมียว​ที่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ ทว่า​เขา​กลับ​จากไป​ไม่หวนคืน​ ราวกับ​มองเห็น​เกา​ขุย​ที่​เรียน​กระบี่​แรก​ใน​ชีวิต​นี้​มาจาก​บรรพ​จารย์​ เป็นเหตุให้​กระบี่​สุดท้าย​จึงเป็นการ​ถามกระบี่​ต่อ​บรรพ​จารย์​หลง​จวิน​ มีเซียน​กระบี่​หญิง​โจว​เฉิง ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าอิน​เฉิน​ที่​มีใจพร้อม​ตาย​มานาน​แล้ว​ มีเถาเห​วิน​บน​สนามรบ​ที่​มีเพียง​ความตาย​เท่านั้น​ถึงจะช่วย​ปลดปล่อย​เขา​ได้​ และ​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​รุ่นเยาว์​ที่​มาก​ความรู้​ความสามารถ​อีก​มากมาย​ที่​หันหลัง​ให้​กับ​หัว​กำแพงเมือง​ หันหน้า​เข้าหา​ทิศใต้​ เป็น​ส่งกระบี่​ ตาย​หยุด​กระบี่​…

ลู่​เฉิน​มอง​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​บน​ใบหน้า​ไม่ได้​แสดง​ความ​กลัดกลุ้ม​ทุกข์ใจ​แม้แต่น้อย​คน​นี้​แล้ว​ถอนหายใจ​เอ่ย​ว่า​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าอายุ​น้อย​ๆ ก็​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูงแล้ว​ ช่วย​สร้าง​คุณูปการ​ค้ำฟ้า​ยัน​มหาสมุทร​อัน​ใหญ่หลวง​ให้​กับ​ศาล​บุ๋น​ ใคร​เล่า​จะกล้า​เชื่อ​ บอก​ตามตรง​นะ​ ปี​นั้น​หาก​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​แล้ว​มีใคร​บอก​ข้า​แต่แรก​ว่า​จะมีเรื่อง​ใน​วันนี้​เกิดขึ้น​ ให้​ตาย​ข้า​ก็​ไม่เชื่อ​หรอก​”

อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูแห่ง​นั้น​ ลู่​เฉิน​เคย​พา​เฮ้อ​เสี่ยว​เหลียง​ที่​ออกจาก​สำนัก​โองการ​เทพ​ย้าย​มาเป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​เขา​ไป​พบ​ ‘เฉิน​ผิง​อัน​’ หลาย​คน​ที่​ไม่เหมือนกัน​ มีเฉิน​ผิง​อัน​ที่​อาศัย​ความมานะ​อุตสาหะ​กลาย​ไป​เป็น​บุรุษ​ที่​ครอบครัว​มีอันจะกิน​ ซ่อมแซม​บ้าน​บรรพบุรุษ​ และ​ยังมี​กิจการ​อยู่​ใน​ตัว​จังหวัด​ มีเพียง​ช่วงชิง​หมิง​หรือ​สิ้นปี​เท่านั้น​ที่​ถึงจะพา​คนใน​ครอบครัว​กลับ​บ้านเกิด​มาเซ่นไหว้​หน้า​หลุมศพ​ มีเฉิน​ผิง​อัน​ที่​อาศัย​ความเฉลียวฉลาด​หาเลี้ยงชีพ​ กลาย​ไป​เป็น​พ่อค้า​ร้าน​เล็ก​ๆ ที่​พอ​จะมีกำลัง​ทรัพย์​อยู่​บ้าง​ มีเฉิน​ผิง​อัน​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​เตาเผา​มังกร​ต่อ​ ฝีมือ​ของ​เขา​ยิ่ง​นาน​ก็​ยิ่ง​ขัดเกลา​ได้​อย่าง​ชำนาญ​ สุดท้าย​จึงได้​กลายเป็น​ช่างของ​เตาเผา​มังกร​ แล้วก็​มีเฉิน​ผิง​อัน​ที่​เป็น​ชาย​เร่ร่อน​ไม่โทษ​คน​ไม่บ่น​ฟ้า ใช้ชีวิต​เอ้อระเหย​ลอยชาย​อยู่​ไป​วัน​ๆ แม้จะมีจิต​เป็น​กุศล​ แต่กลับ​ไม่มีความสามารถ​ที่จะ​สร้าง​กุศล​ นาน​ปีแล้วปีเล่า​ กลาย​ไป​เป็น​ตัวตลก​ของ​ชาวบ้าน​ใน​เมือง​เล็ก​ และ​ยังมี​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​เข้าร่วม​การ​สอบ​เค​อจวี่​ ช่วงชิง​ตำแหน่ง​จวี่​เห​ริน​มาได้​ กลาย​ไป​เป็น​อาจารย์​สอนหนังสือ​ใน​โรงเรียน​ ตลอดชีวิต​ไม่แต่ง​ภรรยา​ ชั่วชีวิต​นี้​สถานที่​ไกล​ที่สุด​ที่​เคย​ไป​เยือน​ก็​คือ​ที่ว่าการ​จังหวัด​และ​เมือง​หง​จู๋ มักจะ​ยืน​อยู่​หน้า​ตรอก​เหม่อมอง​ท้องฟ้า​อยู่​เป็นประจำ​

ลู่​เฉิน​ถึงกับ​เริ่ม​ต้ม​เหล้า​ จึงง่วนอยู่กับ​ตัวเอง​ เขา​ที่​ก้ม​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ยาม​ที่​หิมะ​กำลังจะ​ตกลง​มาจาก​ฟ้า เหมาะ​ให้​ดื่ม​สุรา​เป็น​ที่สุด​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ตนเอง​ใน​วันนี้​ทุกๆ​ คน​ก็​ล้วน​ไม่ใช่ตัวเอง​ของ​เมื่อวาน​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ข้า​ไม่ใช่เจ้าลัทธิ​ลู่​เสียหน่อย​ ค้ำฟ้า​ยัน​มหาสมุทร​อะไร​ ฟังแล้ว​น่า​ตกใจ​นัก​ เป็นเรื่อง​ที่​แค่​คิด​ก็​ยัง​ไม่กล้า​เลย​ แต่​บ้านเกิด​ของ​ข้า​มีคำพูด​เก่าแก่​ประโยค​หนึ่ง​ที่​กล่าว​ได้ดี​ เรี่ยวแรง​สามารถ​เอาชนะ​ความยากจน​ ความ​ขยัน​สามารถ​เอาชนะ​เภทภัย​ มีเหลือกินเหลือใช้​ทุกปี​ ทุกครั้งที่​ถึงด่าน​ปี​ก็​จะสามารถ​ผ่านพ้น​แต่ละ​ปี​ไป​ได้​ด้วยดี​ ไม่ต้อง​กลัดกลุ้ม​กังวล​”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​ “ขนบธรรมเนียม​ของ​ชาวบ้าน​ใน​เมือง​เล็ก​เรียบง่าย​บริสุทธิ์​ คำพูด​โบร่ำโบราณ​ก็​มีมากมาย​ ข้า​เคย​สัมผัส​กับ​ตัวเอง​มาก่อน​ ได้ประโยชน์​มาไม่น้อย​ และ​ข้า​เอง​ก็​เป็น​เพราะ​วางแผง​ดูดวง​อยู่​ใน​บ้านเกิด​เจ้าได้​ไม่นาน​พอ​ จึงได้​เรียนรู้​มาแค่​ผิวเผิน​เท่านั้น​ ไม่อย่างนั้น​อยู่​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​แห่ง​นั้น​ ทุกครั้งที่​ไป​เยี่ยมเยือน​นักพรต​ซุน​ที่​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​ ใคร​สอน​ใคร​ให้​วางตัว​เป็น​คน​ก็​ยัง​ไม่แน่​เลย​นะ​”

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​คำพูด​ของ​ลู่​เฉิน​แม่นยำ​ หรือ​เป็น​เพราะ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นี้​ร่าย​วิชา​อภินิหาร​กัน​แน่​ ถึงได้​มีหิมะ​ตก​ลงมา​จริงๆ​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​หิมะ​ใหญ่​เท่า​ขน​ห่าน​อย่าง​สมชื่อ​อีกด้วย​ เกล็ด​หิมะ​ใหญ่​เท่า​ฝ่ามือ​ คนต่างถิ่น​ของ​ไพศาล​ที่​มาหา​ประสบการณ์​บน​หัว​กำแพงเมือง​แห่ง​นี้​อย่าง​พวก​เว่ย​จิ้น​ เฉาจวิ้น​ แน่นอน​ว่า​ตกตะลึง​ระคน​ยินดี​เป็น​ทบ​ทวี​ ยาม​ที่​หิมะ​ใหญ่​ตก​ลงมา​ ทัศนียภาพ​จะยิ่ง​งดงาม​ชวนมอง​ ผืน​แผ่นดิน​กว้างใหญ่​ผู้คน​บางตา​ ลม​พัด​แรง​อากาศ​หนาวเย็น​ เกล็ด​หิมะ​เล็ก​ๆ ปิดผนึก​ภูเขาใหญ่​และ​แม่น้ำ​

ลู่​เฉิน​ที่​ง่วนอยู่กับ​การต้ม​เหล้า​เอ่ย​ปลงอนิจจัง​ขึ้น​มาอย่าง​ไม่มีต้นสายปลายเหตุ​ “ออกจาก​บ้าน​มาอยู่​ข้างนอก​ ทาง​ต้อง​เดิน​ให้​มั่นคง​ ข้าวต้อง​กิน​ช้าๆ คำพูด​ต้อง​พูด​ให้​ดี​ รู้จัก​ทำดี​กับ​คนอื่น​ หาเงิน​ด้วย​ความปรองดอง​ ทะเลาะเบาะแว้ง​ ตีรันฟันแทง​ ช่างน่าเบื่อ​ยิ่งนัก​ เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าว่า​ใช่เหตุผล​นี้​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​หัวเราะ​ร่า​พลาง​พยักหน้า​รับ​ “เวลานี้​สถานที่​นี้​คำพูด​นี้​ ฟังแล้ว​มีเหตุผล​มาก​เป็นพิเศษ​”

ข้าง​กาย​ของ​ตน​ก็​คือ​หนิง​เหยา​ ส่วน​คน​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ลู่​เฉิน​ก็​คือ​สิงกวาน​หาว​ซู่

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ตอนนี้​ฉีถิงจี้และ​ลู่​จือ​ต่าง​ก็​ยัง​ไม่ได้​ออก​ไป​จาก​หัว​กำแพงเมือง​

คน​ทั้ง​สี่ต่าง​ก็​เป็น​คนกันเอง​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​

เหลือ​เพียง​เจ้าคน​ที่​บ้านเกิด​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ แต่กลับ​วิ่ง​ไป​เป็น​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ผู้​นี้​เท่านั้น​ที่​เป็น​คนนอก​ซึ่งไม่เป็นที่ชื่นชอบ​ของ​คนอื่น​สัก​เท่าไร​

ดังนั้น​ก่อนที่​ลู่​เฉิน​จะเอ่ย​ประโยค​นี้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​จึงแอบ​ใช้เสียง​ใน​ใจสอบถาม​หาว​ซู่ว่า​ “ใต้เท้า​สิงกวาน​ หาก​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ให้​เจ้าฟัน​ข้า​ เจ้าจะฟัน​หรือไม่​ฟัน​?”

หาว​ซู่ให้​คำตอบ​อย่าง​ไม่ลังเล​ “อยู่​ที่อื่น​ เฉิน​ผิง​อัน​พูด​อะไร​ล้วน​ไม่ได้ผล​ อยู่​ที่นี่​ ข้า​ย่อม​ต้อง​พิจารณา​อย่าง​จริงจัง​”

อันที่จริง​ลู่​เฉิน​มีอคติ​ต่อ​เรื่อง​ของ​การ​ประลอง​เวท​คาถา​บน​ภูเขา​อย่าง​ถึงที่สุด​ เว้น​เสีย​จากว่า​เป็นเรื่อง​ที่​จำเป็น​จริงๆ​ ยกตัวอย่างเช่น​เดินทาง​ไป​เยือน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู หรือ​ยกตัวอย่างเช่น​ไป​งัดข้อ​กับ​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ที่​ฆ่าอย่างไร​ก็​ไม่หมดสิ้น​ที่​ฟ้านอก​ฟ้า ปี​นั้น​หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ช่วย​ศิษย์​พี่​ปกป้อง​มรรคา​ถึงจำต้อง​หวน​กลับมา​บ้านเกิด​อย่าง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ เขา​ก็​ไม่สนใจ​หรอ​กว่า​ฉีจิ้งชุน​จะสามารถ​ก่อตั้ง​ลัทธิ​ตั้ง​ตน​เป็น​บรรพ​จารย์​ได้​หรือไม่​ บน​โลก​ใบ​นี้​มีเพิ่ม​มาหนึ่ง​ก็​ไม่ถือว่า​มาก​ ลดน้อยลง​ไป​หนึ่ง​ก็​ไม่ถือว่า​น้อย​ ฟ้าดิน​ก็​ยังคง​เป็น​ฟ้าดิน​แห่ง​นั้น​ วิถี​ทางโลก​ก็​ยังคง​เป็น​วิถี​ทางโลก​อยู่​เหมือนเดิม​ไม่ใช่หรือ​ เกี่ยว​อะไร​กับ​เขา​ด้วย​

แต่​คน​ที่​เกียจคร้าน​อย่าง​ลู่​เฉิน​ก็​มีคน​ที่​เลื่อมใส​ ยกตัวอย่างเช่น​ความ​รักเดียว​ใจเดียว​และ​ความ​ดึงดัน​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​แห่ง​ตำหนัก​สุ้ยฉู​ นักพรต​ซุน​บอ​กว่า​เอา​กระบี่​เซียน​ไท่​ป๋า​ย​ให้ยืม​ แต่​แท้จริง​แล้ว​เท่ากับ​มอบให้​ป๋า​ย​เห​ย่​ คือ​อิสระ​เสรี​อย่างหนึ่ง​ที่​มีความ​องอาจ​ห้าว​เหิม​ ใน​ฐานะ​บุคคล​อันดับ​ที่​ห้า​ของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ที่​ต่อให้​ฟ้าผ่า​ก็​ไม่สะเทือน​ และ​ยัง​เป็น​ผู้นำ​ของ​สาย​เซียน​กระบี่​แห่ง​ลัทธิ​เต๋า​ หาก​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ซุน​ไหว​จงถือครอง​ไท่​ป๋า​ย​ เลื่อนขั้น​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ ศิษย์​พี่​รอง​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​ของ​ลู่​เฉิน​ก็​คง​ต้อง​ทำตัว​ให้​กระฉับกระเฉง​เพื่อ​ต่อสู้​กับ​อีก​ฝ่าย​ให้​ดี​ๆ สัก​ตั้ง​

ส่วน​เฉิน​ชิงตู​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ที่​ใช้ความ​ไร้​อิสระ​ของ​คน​คน​หนึ่ง​แลกเปลี่ยน​มาด้วย​อิสระ​เสรี​อัน​ยิ่งใหญ่​ในอนาคต​อีก​พันปี​หมื่น​ปี​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ที่อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ห้า​สี ไย​จะไม่ใช่อิสระ​เสรี​ที่​ยิ่งใหญ่​ของ​ใจคน​

ส่วน​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ใช้สถานะ​ของ​อิ่น​กวาน​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อีก​ครึ่งหนึ่ง​ที่​เหลือ​นั้น​ เป็น​การกระทำ​ที่​จำใจ จิตใจ​มิอาจ​เปลี่ยนแปลง​

ความเสียดาย​เพียง​หนึ่งเดียว​ของ​ลู่​เฉิน​ก็​คือ​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่อาจ​สังหาร​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​หนึ่ง​กับ​มือ​ตัวเอง​แล้ว​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ได้​ ไม่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะแกะสลัก​ตัวอักษร​ตัว​ใด​ลง​ไป​ พูดถึง​แค่​ลายมือ​และ​ความหมาย​นั้น​ ลู่​เฉิน​ก็​รู้สึก​ว่า​ต่อ​ให้ได้​แค่​มอง​ไม่กี่​ที​ก็​คุ้มค่า​ให้​ตน​คอย​แอบ​ดอด​หนี​ออกจาก​ป๋า​ยอ​วี้​จิงมาที่นี่​บ่อยๆ​ แล้ว​

ลู่​เฉิน​ยื่น​เหล้า​ถ้วย​หนึ่ง​ไป​ให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ “มองดู​ภาพ​บรรยากาศ​การ​นั่งลง​ถก​เหตุผล​ของ​เจ้าเมื่อครู่นี้​แล้ว​ มีหวัง​ที่จะ​ได้​เลื่อน​เป็น​เซียน​เห​ริน​ มีความหวัง​มาก​แล้ว​ ขอแสดงความยินดี​ด้วย​ ข้า​อยู่​ที่นี่​ขอแสดงความยินดี​ก่อน​ล่วงหน้า​ ส่วน​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​นั้น​คง​ต้อง​ติด​เอาไว้​ก่อน​ เหลือ​ค้าง​ไว้​สัก​สอง​สามปี​ วันหน้า​เมื่อ​เจ้าไป​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ก็​ไป​ขอ​จาก​ข้า​มาได้​เลย​ ข้า​จะไป​รีดไถ​เอา​มาจาก​นคร​และ​หอ​เรือน​ต่างๆ​ ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​สนิทสนม​กัน​ก็แล้วกัน​”

ดูเหมือนว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะไม่มีจิตใจ​ที่​ระแวดระวัง​อะไร​ เขา​รับ​ถ้วย​เหล้า​มาแล้วก็​ดื่ม​ทันที​ ลู่​เฉิน​ชูแขน​ขึ้น​สูง ยื่น​เหล้า​อีก​ถ้วย​หนึ่ง​ไป​ให้​หาว​ซู่ที่อยู่​ข้าง​กาย​ อิ่น​กวาน​และ​สิงกวาน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ต่าง​ก็​รับ​เอาไว้​แล้ว​ ลู่​เฉิน​โน้มตัว​ไป​ด้านหน้า​ ถามว่า​ “แม่นาง​หนิง​ เจ้าเอง​ก็​เอา​สัก​ถ้วย​ไหม​? เป็น​เหล้า​หมัก​เซียน​ที่​มีเฉพาะ​ของ​นคร​ชิงชุ่ย​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง เจีย​งอ​วิ๋น​เซิงเพิ่งจะ​รับ​ตำแหน่ง​เจ้านคร​ ข้า​อุตส่าห์​ไป​ขอ​มาอย่าง​ยากลำบาก​ เจีย​งอ​วิ๋น​เซิงก็​คือ​นักพรต​น้อย​ที่​เฝ้าประตู​อยู่​กับ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​จางลู่​น่ะ​ ทุกวันนี้​เจ้าลูก​กระต่าย​ผู้​นี้​นับว่า​ร่ำรวย​ใหญ่​แล้ว​ ถึงกับ​กล้า​ไม่เห็น​ข้า​อยู่​ใน​สายตา​ พร่ำพูด​ไม่ขาดปาก​ว่า​ทำ​ทุกอย่าง​ไป​ตามหน้าที่​”

หนิง​เหยา​เอ่ย​ “ไม่ต้อง​”

ลู่​เฉิน​เอง​ก็​ไม่กล้า​บังคับ​ใน​เรื่อง​นี้​ นักพรต​เฒ่าจำนวน​ไม่น้อย​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ทุกวันนี้​ต่าง​ก็​กังวล​ว่า​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ห้า​สีแห่ง​นั้น​ ในอนาคต​วันใดวันหนึ่ง​กองกำลัง​ลัทธิ​เต๋า​จาก​ฝ่าย​ต่างๆ​ ของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​จะถูก​หนิง​เหยา​พก​กระบี่​ไป​ไล่​ฆ่ากวาดล้าง​พวกเขา​จน​หมดสิ้น​หรือไม่​

เฉิน​ผิง​อัน​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ ถามว่า​ “ศิลา​ขอฝน​ที่อยู่​ใน​ศาล​เทพ​วารี​ลำคลอง​ม่าย​เห​อ​แผ่น​นั้น​ เนื้อหา​ของ​คาถา​นั้น​มาจาก​สถานที่​แห่งใด​ของ​ห้า​นคร​สิบสอง​หอ​เรือน​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง?”

ใน​อดีต​จวน​ปี้​โหย​ว​ของ​ลำคลอง​ม่าย​เห​อ​คือ​วัง​มังกร​ลำน้ำ​ใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ใบ​ถงทวีป​ เพียงแต่ว่า​ผ่าน​เวลา​มาเนิ่นนาน​เกินไป​ แม้แต่​ทาง​ฝั่งสำนัก​กุย​หยก​ของ​ของ​เจียง​ซ่างเจิน​ก็​ยัง​ไม่มีหลักฐาน​ให้​ตรวจสอบ​ เพียงแค่​ทิ้ง​เรื่องเล่า​ประหลาด​ที่​ไม่อาจ​คิด​เป็นจริงเป็นจัง​บางอย่าง​ไว้​ตาม​สถานที่​ต่างๆ​ ของ​ราชวงศ์​ต้า​เฉวียน​ ปี​นั้น​จงขุย​เอง​ก็​ไม่ได้​บอก​สาเหตุ​ ทาง​ฝั่งของ​สำนักศึกษา​ต้าฝู​ก็​ไม่มีบันทึก​เอาไว้​

ลู่​เฉิน​เช็ด​มุมปาก​ แกว่ง​ถ้วย​เหล้า​เบา​ๆ เอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจว่า​ “อ้อ​ หมายถึง​คาถา​ห้า​พัน​กว่า​ตัวอักษร​จาก​แผ่น​หยก​นั่น​น่ะ​หรือ​ กลายเป็น​อากาศ​เย็น​สี่ฟ้า ปัดกวาด​ไอ​ร้อน​ให้​ใต้​หล้า​ให้​หมดสิ้น​ ข้า​รู้จัก​ บอก​ตามตรง​ พอ​จะมีความเกี่ยวข้อง​เท่า​เมล็ด​งากับ​ข้า​อยู่​บ้าง​ วางใจ​ได้​ เรื่อง​นี้​ข้า​ไม่มีแผนการ​ยาว​ไกล​อะไร​จริงๆ​ ไม่ได้คิด​จะเล่นงาน​ใคร​ ผู้​มีวาสนา​ย่อม​ได้รับ​มัน​ไป​ เพียง​แค่นี้​เท่านั้น​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “อยาก​ให้​ข้า​ถ่ายทอด​ให้​แก่​เฉินห​ลิง​จวิน​หรือไม่​?”

นี่​คือ​เหตุผล​ที่​แท้จริง​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​ถ่ายทอด​คาถา​บท​นี้​เสียที​ ยินดี​มอบให้​กับ​เจียว​น้ำ​หง​เซี่ย​มากกว่า​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่กล้า​ให้​เฉินห​ลิง​จวิน​มาเกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้​

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​ ไม่ได้​ให้​คำตอบ​โดยตรง​ “ข้า​คาดเดา​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​คง​ไม่ยินดี​จะไป​อยู่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​แล้ว​ล่ะ​ ช่างเถิด​ ฝน​จะตก​สตรี​จะออกเรือน​ ล้วน​ต้อง​ปล่อยไป​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถามอย่าง​สงสัย​ใคร่รู้​ “สรุป​ว่า​เฉินห​ลิง​จวิน​กับ​ธิดา​มังกร​ผู้​นั้น​มีความสัมพันธ์​อย่างไร​ต่อกัน​กัน​แน่​ คู่ควร​ให้​เจ้าต้อง​ใส่ใจขนาด​นี้​เชียว​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​กลอกตา​ “พวก​เจ้ามีช่องทาง​มาก​ ไป​ตรวจสอบ​เอา​เอง​สิ เมืองหลวง​ต้า​หลี​มีเฟิงอี๋​อยู่​คน​หนึ่ง​ไม่ใช่หรือ​? ถึงอย่างไร​ร่าง​จริง​ของ​เจ้าก็​อยู่​ห่าง​จาก​ศาล​เทพ​อัคคี​แค่​ไม่กี่​ก้าว​เท่านั้น​ ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ถือโอกาส​หลอก​เอา​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​มาได้​อีก​หลาย​กา​ก็​เป็นได้​”

นอกจาก​เรื่อง​กวาดล้าง​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​แล้ว​ ยังมี​เรื่องเล่า​ว่า​เอา​หญ้า​อ้าย​ฉ่าว​เผา​นาบ​หน้าผาก​ธิดา​มังกร​ ถือว่า​เป็น​การปกป้อง​บน​มหา​มรรคา​อย่างหนึ่ง​ต่อ​ธิดา​มังกร​ผู้​นั้น​ เส้นทาง​การ​หลบหนี​ของ​มังกร​ที่​แท้จริง​ตัว​สุดท้าย​บน​โลก​ มอง​ดูเหมือน​ตระหนก​ลน​จน​ไม่เลือก​เส้นทาง​ เป็น​ฝ่าย​มาขึ้นบก​ที่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ นอกจาก​เพื่อ​ตามหา​หอ​บิน​ทะยาน​ของ​หยาง​เหล่า​โถว​แล้ว​ ก็​ยัง​หวัง​ด้วยว่า​เฟิงอี๋​ที่​มหา​มรรคา​สอดคล้อง​กับ​ ‘ลมโชย​น้ำขึ้น​’ ผู้​นั้น​จะสามารถ​ช่วย​เป็น​คนกลาง​ พูดจา​ดี​ๆ ถึงนาง​สอง​สามคำ​ ไม่อย่างนั้น​หยาง​เหล่า​โถว​ที่​เป็น​ชิงถงเทียน​จวิน​ซึ่งตำแหน่ง​เทพ​มีหน้าที่​เป็น​ผู้ดูแล​เซียน​ดิน​บุรุษ​แล้ว​ ย่อม​ไม่มีทาง​สนใจ​ความเป็นความตาย​ของ​มังกร​ที่​แท้จริง​ตัว​หนึ่ง​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ใน​สายตา​ของ​กากเดน​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ยุค​บรรพกาล​ส่วนใหญ่​แล้ว​ เผ่า​พันธ์​เจียว​หลง​ของ​ใต้​หล้า​ที่​รับหน้าที่​ดูแล​การ​โคจร​ของ​ชะตาน้ำ​ล้วน​เป็น​พวก​กบฏ​ทั้งสิ้น​

เฉิน​ผิง​อัน​ถามอีก​ “มหา​มรรคา​ใกล้ชิด​กับ​น้ำ​คือ​คุณสมบัติ​ของ​เซียน​ดิน​ก่อนที่​เครื่อง​ปั้น​แห่ง​ชะตาชีวิต​จะแตก​ เป็น​สิ่งที่​ติดตัว​มาตาม​ธรรมชาติ​ หรือว่า​มีความลี้ลับ​อย่าง​อื่น​ ถูก​สร้าง​ขึ้น​มาใน​ภายหลัง​?”

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​อย่าง​ฉุนๆ​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าอย่า​เห็น​ข้า​เป็น​แกะ​แล้​วจะ​จับ​มาถอนขน​อย่างไร​ก็ได้​ ได้​ไหม​? พวกเรา​สอง​คน​แค่​ดื่มเหล้า​ คุย​แต่​เรื่อง​วันวาน​ไม่ได้​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กระตุก​มุมปาก​ “แน่จริง​เจ้าก็​อย่า​แสร้ง​โอ้อวด​วิชา​อภินิหาร​ตัด​บัว​ยัง​เหลือ​ใย​ อาศัย​สือ​โหร​ว​มาลอบ​สังเกตการณ์​การเปลี่ยนแปลง​ใน​เมือง​เล็ก​และ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​สิ”

ลู่​เฉิน​กล่าว​อย่าง​ขุ่นเคือง​ “ชุยตง​ซาน​ตัดขาด​ความ​เชื่อมโยง​ไป​แล้ว​ไม่ใช่หรือ​ เอาแต่​พลิก​เปิดบัญชี​เก่า​อยู่​ได้​ น่าเบื่อ​จะตาย​ไป​ อีก​อย่าง​ข้า​ก็​แค่​เบื่อ​ ไม่ได้คิด​จะทำ​อะไร​สักหน่อย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ได้​เจอ​ลู่​ไถแล้ว​?”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​ “พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​แบ่ง​ออก​เป็น​สี่ส่วน​ เขา​ได้​ครอบครอง​ส่วนหนึ่ง​ใน​นั้น​ ฝึก​ตน​อย่าง​ราบรื่น​ นอน​หนุน​หมอน​สูงไร้กังวล​ เทียบ​กับ​ติง​อิง​ใน​อดีต​แล้ว​ยัง​เป็น​ไท่​ซ่างหวง​มากกว่า​ เลี้ยง​หมา​ไว้ตัว​หนึ่ง​ใน​พื้นที่​ฮวงจุ้ย​มงคล​ที่​มีชื่อว่า​ภูเขา​ฝูหรง​ แต่​ลู่​ไถปล่อย​จิต​หยิน​ออกจาก​ร่าง​เดินทางไกล​ไป​อยู่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ เปิด​ร้านเหล้า​แห่ง​หนึ่ง​ร่วมกับ​แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ข้าง​ตลาด​ปลา​ กิจการ​รุ่งเรือง​นัก​ ร้านเหล้า​เหลา​สุรา​แห่ง​อื่น​ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​เถ้าแก่​เนี้ยะ​ที่​มีเสน่ห์​เย้ายวน​ เรียก​หมู่​ภมร​ให้​บิน​มาดอม​ดม​ แต่​ร้านเหล้า​ของ​เขา​กลับ​ดี​นัก​ ทุกวัน​มีแต่​เสียง​พูดคุย​เจื้อยแจ้ว​ ล้วน​เป็น​สตรี​ที่​อุดหนุน​เพราะ​เลื่อมใส​ใน​ชื่อเสียง​ของ​เขา​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่น​ถ้วย​เปล่า​ไป​ให้​ เอ่ย​ว่า​ “หมา​ตัว​นั้น​ต้อง​ตั้งชื่อ​ได้ดี​แน่​”

ลู่​เฉิน​รับ​ถ้วย​มา ริน​เหล้า​จน​เต็ม​ถ้วย​อีกครั้ง​แล้ว​ยื่น​ส่งกลับ​ไป​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ ยิ้ม​กล่าว​ “ใคร​ว่า​ไม่ใช่ล่ะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ก่อน​อาจารย์​ฉีและ​ช่างห​ร่วน​ อริยะ​สอง​ลัทธิ​พุทธ​และ​เต๋า​ที่​เฝ้าพิทักษ์​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู มีใคร​บ้าง​?”

ลู่​เฉิน​เอ่ย​ “เจ้านี่​ไม่จบ​ไม่สิ้น​สักที​นะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ไม่ยินดี​ตอบคำถาม​นี้​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ตอบ​เรื่อง​ก่อนหน้านี้​”

ลู่​เฉิน​ลังเล​ไป​ชั่วขณะ​ คง​เป็น​เพราะ​ตัว​เขา​มีฐานะ​เป็น​คน​ของ​ลัทธิ​เต๋า​จึงไม่คิด​จะพัวพัน​อยู่​กับ​ลัทธิ​พุทธ​มากเกินไป​นัก​ “เจ้ายัง​จำได้​หรือไม่​ว่า​บรรดา​ช่างของ​เตาเผา​มีชาย​ใจหญิง​คน​หนึ่ง​ที่​ชอบ​แอบ​ไป​ซื้อ​ผง​ชาด​ประทิน​โฉม? ใช้ชีวิต​อย่าง​ละ​เลือน​มาชั่วชีวิต​ ไม่มีวันใด​ที่​ยืด​เอว​ตรง​ได้​ สุดท้าย​ก็ได้​แต่​ฝังศพ​อย่าง​ลวกๆ​ ให้​จบเรื่อง​กัน​ไป​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ ขมวดคิ้ว​กล่าว​ “จำได้​ ดูเหมือนว่า​เขา​จะเป็น​อา​ของ​ซูเตี้ย​น​ผู้ฝึก​ยุทธ​หญิง​ของ​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​ แล้ว​นี่​เกี่ยว​อะไร​กับ​ที่​มหา​มรรคา​ของ​ข้า​ใกล้ชิด​กับ​น้ำ​ด้วย​?”

เคย​ได้ยิน​หลิว​เสี้ยน​หยาง​เล่า​ให้​ฟังว่า​ ซูเตี้ย​น​แห่ง​ร้าน​ยา​คน​นั้น​มีชื่อเล่น​ว่า​แยนจือ​ และ​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​จึงมีท่าทาง​คล้าย​จะเป็น​ปรปักษ์​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​เล็กน้อย​ ใน​เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​หมัด​ นาง​ก็​หวัง​มาโดยตลอด​ว่า​จะเหนือกว่า​ตน​ สำหรับ​เรื่อง​นี้​เฉิน​ผิง​อัน​สับสน​มึนงง​นัก​ เพียงแต่​คร้าน​จะคิด​ให้​ลึกซึ้ง​ เพราะ​ถึงอย่างไร​สตรี​ผู้​นั้น​ก็​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​หยาง​เหล่า​โถว​ ถือว่า​เป็น​คน​รุ่น​เดียว​กับ​ห​ลี่​เอ้อ​ เจิ้งต้าเฟิง​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “เกี่ยวกับ​อดีต​ของ​บุรุษ​น่าสงสาร​คน​นั้น​ เจ้าสามารถ​ไป​ถามห​ลี่​หลิ่ว​ได้​ ส่วน​เรื่อง​อื่นๆ​ ข้า​ก็​ไม่เข้าใจ​เหมือนกัน​ ปี​นั้น​ข้า​ตั้ง​แผง​ดูดวง​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​เป็น​เพราะ​มีกฎเกณฑ์​บังคับ​ นอกจาก​คน​รุ่นเยาว์​อย่าง​พวก​เจ้าแล้วก็​ไม่อนุญาต​ให้​ข้า​สืบสาว​ต้นกำเนิด​ของ​ใคร​ส่งเดช​”

เฉิน​ผิง​อัน​ก้มหน้า​ดื่มเหล้า​ สายตา​เหลือบมอง​ขึ้น​ด้านบน​ ยังคง​เป็นกังวล​กับ​สนามรบ​แห่ง​นั้น​

สิงกวาน​หาว​ซู่ที่​ปรากฏตัว​เพิ่ม​มาคน​หนึ่ง​ อันที่จริง​หา​กรวม​ฉีถิงจี้และ​ลู่​จือ​เข้าไป​ก็​สามารถ​จับมือ​กัน​เดินทางไกล​ครั้งหนึ่ง​ได้​แล้ว​ เพียงแต่​สวรรค์​เท่านั้น​ที่​รู้​ว่า​นี่​ใช่แผนการ​ของ​ลู่​เฉิน​หรือไม่​ กลัว​ก็​แต่ว่า​กระตุก​ผม​เส้น​เดียว​จะสะเทือน​ทั้ง​ร่าง​ ทำลาย​แผนการ​ที่​ศาล​บุ๋น​วาง​ไว้​ให้​ยุ่งเหยิง​อย่าง​สิ้นเชิง​

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “มักจะ​มีเรื่อง​บางอย่าง​ที่​ทำให้​คน​อับจน​หนทาง​ ได้​แต่​เบิกตา​มองดู​อยู่​เฉย​ๆ เท่านั้น​เสมอ​ เข้าไป​ยุ่ง​ด้วย​ก็​มีแต่​จะก่อให้เกิด​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​ แต่​หาก​ไม่ช่วยเหลือ​ ใน​ใจก็​รู้สึก​อึดอัด​ไม่สบายใจ​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด