กระบี่จงมา 940.3 ใบท้อพบเจอดอกท้อ

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 940.3 ใบท้อพบเจอดอกท้อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่​เฉิน​พลัน​ร้อง​เอ๊ะ​หนึ่ง​ที​ นวด​คลึง​ปลาย​คาง​ “แบบนี้​ก็ได้​ด้วย​หรือ​? มรรคา​ไม่มีแบ่ง​สูงต่ำ​ มรรค​กถา​ไม่มีความต่าง​เรื่อง​ไกล​และ​ใกล้​จริง​เสีย​ด้วย​”

นอกจาก​หนี​หยวน​จาน​ที่​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ซึ่งไม่รู้เรื่อง​อะไร​ด้วย​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​กับ​ชิงถงต่าง​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงริ้ว​คลื่น​กระเพื่อม​ของ​มรรค​กถา​ที่​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​ซึ่งก่อกำเนิด​ขึ้น​มาใน​ภูเขา​ส่วน​นั้น​ได้​

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​ “แต่ว่า​ยัง​ห่าง​จาก​ขอบเขต​ ‘พูดจา​วางโต​ไม่ละอาย​’ ไป​สักหน่อย​ ยัง​ขาด​ความหมาย​บางอย่าง​ไป​ สหาย​เถาถิงผู้​นี้​ ตอนนี้​บอก​ได้​แค่​ว่า​หา​ความเป็นไปได้​อย่างหนึ่ง​เจอ​ ไม่ต้อง​รู้สึก​สิ้นหวัง​ ได้​แต่​อยู่​เฉย​ๆ รอ​ความตาย​อีกต่อไป​แล้ว​”

ชิงถงกล่าว​ “เฉิน​ผิง​อัน​ ใน​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​นักพรต​ฉุน​หยาง​ก็​พูด​เอง​แล้ว​ว่า​ให้​เจ้าไป​ตามหา​วิชา​กระบี่​ที่​ชี้ตรง​ไป​ยัง​โอสถ​ทอง​บท​นั้น​เอา​เอง​ เมื่อครู่นี้​พวกเรา​เดิน​ทางผ่าน​มาแล้ว​ ทำไม​ไม่ไปดู​สักหน่อย​ล่ะ​?”

ลู่​เฉิน​หลุด​หัวเราะ​อย่า​งอด​ไม่อยู่​ “สหาย​ชิงถงวางใจ​ได้​เลย​ ผิน​เต้า​ไม่มีทาง​แย่งชิง​โชควาสนา​ครั้งนี้​กับ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​หรอก​”

โอ้โห​ สตรี​พอ​เติบใหญ่​แล้วก็​ไม่อาจ​รั้ง​ตัว​ไว้​ใน​บ้าน​ได้​จริงๆ​ เวลา​เพียง​ไม่นาน​ก็​หันไป​เข้าข้าง​คนนอก​อย่าง​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​แล้ว​หรือ​? ก็​จริง​นะ​ ก็​เป็น​เค่อ​ชิงของ​ภูเขา​เซียน​ตู​แล้ว​นี่​นา​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “กำลัง​อ่าน​อยู่​”

……

บน​ภูเขา​โหล​ว​ซาน​ ใน​ศาลา​ลม​ของ​เรือน​หลัง​เล็ก​ที่​เงียบสงบ​มาก​แห่ง​หนึ่ง​ เจ้าประมุข​เกา​เจิ่น​กำลัง​เล่น​หมากล้อม​กับ​บุรุษ​หนุ่ม​ลักษณะ​คล้าย​ปัญญาชน​

คน​ที่​เกา​เจิ่น​เล่น​หมากล้อม​ด้วย​ก็​คือ​หวง​ชงฮ่องเต้​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ ด้านหลัง​ของ​เขา​คือ​สตรี​สวม​ชุด​ชาววัง​คน​หนึ่ง​ที่​มีโชคชะตา​น้ำ​เข้มข้น​ยืน​อยู่​กับ​ผู้เฒ่า​ร่าง​กำยำ​ที่​กลิ่นอาย​แห่ง​มรรคา​ล้ำลึก​

จักรพรรดิ​ผู้​ครอง​แคว้น​ ใน​วันที่​สามสิบ​ซึ่งเป็น​วัน​สิ้นปี​นี้​กลับ​ไม่อยู่​ใน​วัง​ของ​เมืองหลวง​ ดูเหมือนว่า​นี่​ยัง​เป็นครั้งแรก​ของ​ประวัติศาสตร์​แคว้น​เมิ่งเหลียง​เสีย​ด้วย​ ต้อง​รู้​ว่า​จักรพรรดิ​ท่าน​หนึ่ง​ ใน​ช่วง​เวลานี้​มักจะ​ยุ่ง​ที่สุด​ หาก​ใช้คำกล่าว​ของ​หวง​ชงเอง​ก็​คือ​หลบ​มาหา​ความสงบ​ แต่​ฮ่องเต้​หนุ่ม​ผู้​นี้​ก็​มีใจแสวงหา​เต๋า​มาโดยตลอด​ มีความใกล้ชิด​กับ​ลัทธิ​เต๋า​ ย้อนกลับ​ไป​มอง​ภูเขา​เมฆาเรือง​ที่​ทุกวันนี้​คือ​เสาค้ำ​ยัน​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ เนื่องจาก​แนว​ทางการ​ฝึก​ตน​ใกล้เคียง​กับ​ลัทธิ​พุทธ​มากกว่า​ ดังนั้น​ต่อให้​เป็น​เรื่องใหญ่​อย่าง​การเปลี่ยนตัว​เจ้าขุนเขา​ ฮ่องเต้​ก็​ไม่คิด​จะไป​ร่วม​แสดงความยินดี​ด้วยตัวเอง​ แค่​อนุญาต​ให้​เจ้ากรม​พิธีการ​ขึ้น​เขา​ไป​ร่วม​งานพิธี​เท่านั้น​

หวง​ชงมอง​สถานการณ์​บน​กระดาน​หมาก​แล้ว​คีบ​หมาก​ขึ้น​มาหนึ่ง​เม็ด​ สายตา​สอดส่าย​ไปมา​ ยังคง​ยก​เม็ด​หมาก​ค้าง​ไว้​ไม่ยอม​วาง​ เอ่ย​เยาะเย้ย​ตัวเอง​ว่า​ “ดูท่า​พวก​ฉีไต้​จ้าว​ที่อยู่​ใน​วังหลวง​ทั้งหลาย​ เมื่อ​เทียบ​กับ​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ที่​เชี่ยวชาญ​การ​เล่น​หมากล้อม​อย่าง​พวก​เจ้าแล้ว​ยัง​ด้อย​กว่า​ไม่น้อย​”

เกา​เจิ่น​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​พวกเขา​จงใจแพ้​ให้​ฝ่าบาท​ก็​เป็นได้​”

เห็นได้ชัด​ว่า​อยู่​กับ​ฮ่องเต้​ เกา​เจิ่น​ไม่ได้​ยึดหลัก​ข้อห้าม​ระหว่าง​จักรพรรดิ​และ​ขุนนาง​อะไร​ และ​ยิ่ง​ไม่เอ่ย​ถ้อยคำ​ตามมารยาท​ทำนอง​ว่า​ ‘ข้า​คือ​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ด้าน​การ​เล่น​หมากล้อม​บน​ภูเขา​ของ​หนึ่ง​แคว้น​ ฝ่าบาท​คือ​ผู้​ไร้​ศัตรู​เทียมทาน​ด้าน​การ​เล่น​หมากล้อม​ของ​ล่าง​ภูเขา​ใน​หนึ่ง​แคว้น​’

หวง​ชงยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​รับ​ “ก็​เป็นไปได้​”

แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่เพราะ​เกา​เจิ่น​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​เซียน​ดิน​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​แล้ว​จะยกตนข่มท่าน​ รู้สึก​ว่า​ขอบเขต​ของ​ตน​มาก​พอ​จะมอง​เหยียด​จักรพรรดิ​ล่าง​ภูเขา​ได้​แล้ว​

บางที​เมื่อ​หลาย​สิบ​ปีก่อน​ แจกัน​สมบัติ​ทวีป​นอกจาก​ราชวงศ์​ต้า​หลี​แล้ว​ ราชวงศ์​ส่วนใหญ่​อาจ​เป็น​เช่นนี้​ รอ​กระทั่ง​สกุล​ซ่งต้า​หลี​ทำให้​หนึ่ง​แคว้น​กลาย​เป็นหนึ่ง​ทวีป​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​การ​ตั้ง​ป้าย​ศิลา​อยู่​เหนือ​กลุ่ม​ยอดเขา​ สถานการณ์​เช่นนี้​อันที่จริง​ได้​เปลี่ยนแปลง​ทัศนคติ​ของ​ผู้คน​ไป​แล้ว​ เพราะ​ถึงอย่างไร​พรรค​หวง​เหลียง​ใน​ทุกวันนี้​ก็​อยู่​บน​ภูเขา​โหล​ว​ซาน​ที่​เป็น​ภูเขา​บรรพบุรุษ​ ห่าง​จาก​ประตู​ศาล​บรรพ​จารย์​ไป​ไม่ไกล​ก็​มีป้าย​ศิลา​ที่ว่า​นี้​ตั้งอยู่​แผ่น​หนึ่ง​ ต่อให้​ทางทิศใต้​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​จะได้​กอบกู้​แคว้น​กลับคืน​มาแล้ว​ อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่ได้​เป็น​แคว้น​ใต้​อาณัติ​ของ​สกุล​ซ่งต้า​หลี​อีกต่อไป​ ทว่า​ป้าย​ศิลา​แผ่น​นี้​กลับ​ไม่มีจวน​เซียน​แห่งใด​กล้า​ถอน​ออก​ไป​

เคย​มีข่าวลือ​เล็ก​ๆ ข่าว​หนึ่ง​บอ​กว่า​เมื่อก่อน​มีพรรค​บน​ภูเขา​อยู่​หลาย​แห่ง​รู้สึก​ว่า​แผ่น​ป้าย​นี้​ขวางหูขวางตา​จึงปรึกษา​กับ​ราชสำนัก​ล่าง​ภูเขา​ไว้​เรียบร้อย​ ใน​เมื่อ​ได้​ฟื้น​คืน​ชะตา​แคว้น​กลับมา​ ต้า​หลี​ไม่ใช่แคว้น​เหนือ​หัว​อีกต่อไป​ ก็​ย้ายออก​ไป​เถอะ​

ผล​คือ​รอ​กระทั่ง​รายงาน​ภูเขา​สายน้ำ​ฉบับ​หนึ่ง​แพร่​จาก​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​มาถึงแจกัน​สมบัติ​ทวีป​ พวกเขา​ก็​หยุด​ความคิด​นี้​กัน​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ พา​กัน​อาศัย​รายงาน​ข่าว​ของ​บ้าน​ตน​ป่าวประกาศ​แก่​ทั้ง​ทวีป​ แม้เนื้อหา​จะไม่เหมือนกัน​ แต่กลับ​มีความหมาย​อย่างเดียวกัน​

ไม่มีเรื่อง​แบบนี้​เกิดขึ้น​แน่นอน​ ใคร​กล้า​ใส่ร้ายป้ายสี​ก็​จะต้อง​เอาเรื่อง​ให้​ถึงที่สุด​!

ช่วยไม่ได้​ ราชวงศ์​ต้า​หลี​ไม่มีซิ่ว​หู่​แล้ว​ แจกัน​สมบัติ​ทวีป​กลับ​มีอิ่น​กวาน​มาแทน​

อีก​ทั้งสอง​คน​นี้​ยัง​เป็น​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​ที่​มาจาก​สำนัก​เดียวกัน​เสีย​ด้วย​

ในที่สุด​หวง​ชงก็​วาง​เม็ด​หมาก​ เกา​เจิ่น​กวาดตา​มอง​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​ “ฝ่าบาท​แพ้​แล้ว​”

หวง​ชงพยักหน้า​ ทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ไม่พูด​ เพราะ​พอ​คำพูด​มาหยุด​รอ​อยู่​ตรง​ปาก​ก็​ถูก​เขา​กลืน​กลับ​ลงท้อง​ไป​อีกครั้ง​ หา​คำพูด​อย่าง​ใหม่​มายิ้ม​เอ่ย​สัพยอก​ว่า​ “เจ้าประมุข​เกา​ ทุกวันนี้​ในที่สุด​พรรค​หวง​เหลียง​ของ​พวก​เจ้าก็ได้​ร่ำรวย​อู้ฟู่​แล้ว​ ลำพัง​แค่​ข้า​ และ​ยังมี​เทพ​วารี​น่า​ห​ลัน​ เหมย​ซาน​จวิน​ ของขวัญ​แสดงความยินดี​ของ​พวกเรา​สามคน​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ต้อง​เป็น​เงิน​เข้าบัญชี​ที่​ไม่เล็ก​ก้อน​หนึ่ง​กระมัง​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ส่วน​ของ​ภูเขา​เมฆาเรือง​ ขนาด​ข้า​ก็​ยัง​อิจฉา​ อิจฉา​มาก​เลย​ล่ะ​!”

เทพ​วารี​หญิง​แซ่น่า​ห​ลัน​ผู้​นั้น​คลี่​ยิ้ม​หวาน​เอ่ย​ว่า​ “ก่อน​ข้า​จะขึ้น​เขา​มาก็​เคย​โน้มน้าว​ฝ่าบา​ทว่า​ไม่สู้เอา​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ที่​ข้า​กับ​เหมย​ซาน​จวิน​เตรียม​มาเก็บ​กลับ​เข้า​ท้องพระคลัง​ของ​เชื้อพระวงศ์​ไป​พร้อมกัน​ ถึงอย่างไร​เจ้าประมุข​เกา​ก็​ไม่ถือสา​อะไร​อยู่แล้ว​”

เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ท่าน​นี้​สวม​ผ้า​ทอ​สีเขียว​มรกต​ ใช้เส้นด้าย​หลาก​สีรัด​พัน​ที่​ข้อมือ​ ห้อย​ยันต์​ชิ้น​เล็ก​ประดับ​มวยผม​ แค่​ดู​จาก​การ​แต่งกาย​นี้​ก็​รู้​ได้​ว่า​เป็น​ผู้​เลื่อมใส​ซูจื่อคน​หนึ่ง​ (มาจาก​บทกวี​ด้าย​สีรัด​พัน​ข้อมือ​หยก​นวล​ ยันต์​เล็ก​ห้อย​ประดับ​มวยผม​สีนิล​ หวัง​ได้​อยู่​ร่วมกับ​คน​งามนาน​พันปี​)

เกา​เจิ่น​หัวเราะ​เสียงดัง​กังวาน​ “ครั้งนี้​ได้​กำไร​มาไม่น้อย​จริงๆ​ ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ ในที่สุด​ก็​สามารถ​ทำให้​ภูเขา​เมฆาเรือง​มอบ​ของขวัญ​กลับคืน​ได้​แล้ว​ ไม่ง่าย​เลย​จริงๆ​!”

คนรวย​ใช้ชีวิต​ด้วย​การ​ร่ำรวย​ ยิ่ง​ใช้ชีวิต​ก็​ยิ่ง​รวย​ คนจน​ใช้ชีวิต​ด้วย​การ​จ่าย​เงิน​ ยิ่ง​ใช้ชีวิต​ก็​ยิ่ง​ยากจน​

ไม่เลี้ยงแขก​หรือ​ ดู​แล้ว​ไม่มีศักดิ์ศรี​ เลี้ยงแขก​หรือ​ เหมือน​ตบหน้า​ตัวเอง​สวมรอย​เป็น​คน​อ้วน​ แขก​กิน​อาหาร​หมด​แล้ว​จากไป​ ตัวเอง​กลับ​ต้อง​กลับ​ไป​พร้อม​ความหิวโหย​

บน​ภูเขา​ก็​มีหลักการ​เดียวกัน​

ใน​อดีต​เป็น​เพื่อนบ้าน​บน​ภูเขา​ที่อยู่​ห่าง​กัน​ไม่กี่​ก้าว​กับ​ภูเขา​เมฆาเรือง​ ลำบาก​เพียงใด​มีเพียง​ตัวเอง​ที่​รู้​ เงิน​ใส่ซอง​แต่ละครั้ง​ จ่าย​เงิน​ไป​เหมือน​น้ำ​ไหล​ ประเด็นสำคัญ​คือ​นั่น​ยัง​เป็น​ซอง​แดง​ที่​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​มีแต่​จะไป​ไม่มีได้​กลับคืน​

พูดถึง​แค่​ไช่จิน​เจี่ยน​แห่ง​ยอดเขา​ลวี่กุ้ย​ผู้​นั้น​ สร้าง​โอสถ​ทอง​ พิธี​เปิด​ยอดเขา​ จากนั้น​กลายเป็น​ก่อกำเนิด​ ทาง​ฝั่งของ​พรรค​หวง​เหลียง​ต้อง​มอบ​ของขวัญ​แสดงความยินดี​ไป​กี่​ชิ้น​แล้ว​? และ​เวลา​มอบ​ของขวัญ​ให้​ที​จะแร้นแค้น​เกินไป​ก็​ไม่ดี​กระมัง​?

นอกจากนี้​ภูเขา​เมฆาเรือง​ยังมี​ผู้​มีพรสวรรค์​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​คน​แล้ว​คน​เล่า​ คู่รัก​บน​ภูเขา​แต่งงาน​กัน​ ใคร​บางคน​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​ถ้ำสถิต​ กลายเป็น​เทพ​เซียน​ห้า​ขอบเขต​กลาง​ เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ภูเขา​เมฆาเรือง​ที่​สนิทสนม​กับ​พรรค​หวง​เหลียง​รับ​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​คน​ใหม่​…ย้อน​กลับมา​มอง​พรรค​หวง​เหลียง​บ้าน​ตน​ ก็​เพิ่งจะ​มีช่วง​ไม่กี่​สิบ​ปี​มานี้​ที่​ดวง​ดีขึ้น​มาหน่อย​ ก่อนหน้า​นั้น​ต้อง​อยู่​ใน​วัน​เวลา​อัน​น่าอนาถ​ที่​คน​ใบ้​กิน​หวง​เหลียน​จริงๆ​

ครั้งนี้​จัด​งานพิธี​เปิด​ยอดเขา​ ความตั้งใจ​แรก​สุด​ของ​พรรค​หวง​เหลียน​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​จัด​งานใหญ่​สักครั้ง​ ดังนั้น​หวัง​แค่​ว่า​จะ…ไม่ขาดทุน​ก็​พอ​

เพียงแต่ว่า​เรื่อง​ยินดี​ที่​ไม่คาดฝัน​นั้น​ แค่​ไม่ขาดทุน​เสีย​ที่ไหน​ เรียก​ได้​ว่า​ได้​กำไร​กลับมา​เป็นกอบเป็นกำ​เลย​ด้วยซ้ำ​

สำหรับ​เรื่อง​ที่ว่า​จะเชิญผู้ฝึก​ตน​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มาได้​หรือไม่​ เดิมที​พรรค​หวง​เหลียน​ก็​ไม่มีความมั่นใจ​อะไร​อยู่แล้ว​ เทียบเชิญ​ที่​ส่งออก​ไป​โดย​ใช้เนื้อความ​อย่าง​ระมัดระวัง​ฉบับ​นั้น​ก็​แค่​คิด​อยาก​จะลอง​ทำ​ดู​เท่านั้น​

แม้ว่า​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​จะไม่อาจ​มาร่วม​แสดงความยินดี​ได้​ด้วยตัวเอง​ แต่​จูเหลี่ยน​ที่​เป็น​ผู้ดูแล​ใหญ่​ก็​ใช้นาม​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ยอดเขา​จี้เซ่อ​เขียนจดหมาย​ตอบ​กลับมา​ด้วยตัวเอง​ อธิบาย​ถึงสาเหตุ​ที่ว่า​เหตุใด​เจ้าขุนเขา​บ้าน​ตน​ถึงมาเข้าร่วม​งานพิธี​ไม่ได้​

หาก​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไม่ยินดี​มา อันที่จริง​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ทำ​เรื่อง​ที่​เปลือง​แรง​เช่นนี้​ แค่​วาง​เทียบเชิญ​ของ​พรรค​หวง​เหลียง​ทิ้ง​ไว้​ด้าน​หนึ่ง​ก็​พอแล้ว​

อีก​ทั้ง​อิง​ตาม​คำกล่าว​ของ​อาจารย์​ลุง​ เจ้าขุนเขา​เฉิน​ที่​อายุ​ไม่มาก​ก็​เป็น​คน​ที่​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​ความจริงใจ​ มีคุณธรรม​ยาม​อยู่​ร่วมกับ​คนอื่น​ใน​สังคม​ พูดจา​รักษาคำพูด​ ไม่มีทาง​วางมาด​กับ​พวกเรา​ใน​เรื่อง​แบบนี้​เด็ดขาด​ ทาง​ฝั่งของ​ศาล​บรรพ​จารย์​โหล​ว​ซาน​ใคร​ก็​อย่า​คิดมาก​ คิดมาก​ก็​เท่ากับ​ว่า​หู​ตา​คับแคบ​ ใช้ใจคน​ถ่อย​ไป​วัดใจ​ของ​วิญญูชน​

สุดท้าย​ทาง​ฝั่งของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​มีแขก​ผู้สูงศักดิ์​สอง​คน​ขึ้น​เขา​มาร่วม​แสดงความยินดี​จริงๆ​ เฉินห​ลิง​จวิน​ผู้ฝึก​ตน​ก่อกำเนิด​ กวอ​จู๋จิ่ว​เซียน​ดิน​โอสถ​ทอง​

ได้ยิน​มาว่า​ฝ่าย​แรก​คือ​ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​ที่มา​อยู่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก่อน​ใคร​ ไม่ต้อง​เรียก​เจ้าขุนเขา​อะไร​ด้วยซ้ำ​ เรียก​ตรงๆ​ ว่า​นาย​ท่าน​ได้​เลย​

ฝ่าย​หลัง​กลับเป็น​ลูกศิษย์​คน​เล็ก​ใน​ทุกวันนี้​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ถือว่า​เป็น​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ได้​ชั่วคราว​แล้ว​ ใน​เมื่อ​นาง​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ หากว่า​นาง​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​อีก​คน​หนึ่ง​ด้วย​เล่า​?

พรรค​หวง​เหลียง​ไม่กล้า​ป่าวประกาศ​เรื่อง​นี้​ออก​ไป​ด้วยซ้ำ​ กลัว​ว่า​หาก​ทำ​อะไร​ไม่รู้​หนัก​เบา​จะทำให้​ทาง​ฝั่งของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​ทาง​ฝั่งของ​ตน​ได้​คืบ​แล้​วจะ​เอา​ศอก​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​จะทำ​เรื่อง​ดี​ให้​กลาย​เป็นเรื่อง​ร้าย​ไป​

แต่​ใต้​หล้า​นี้​ไหน​เลย​จะมีกำแพง​ที่​ลม​ลอดผ่าน​ไม่ได้​ พอ​ได้ยิน​ว่า​ทาง​ฝั่งของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มีผู้ฝึก​ตน​ที่​สถานะ​ไม่ต่ำ​สอง​คน​มาพัก​อยู่​ใน​จวน​บน​ภูเขา​โหล​ว​ซาน​แล้ว​ ผู้คน​ก็​พา​กัน​พูด​ไป​ปากต่อปาก​จน​แม้กระทั่ง​คนเดินถนน​ก็​ยัง​รับรู้​ ผล​คือ​แขก​ที่​เป็น​ฝ่าย​ขอ​มาเข้าร่วม​งานพิธี​ คน​บางส่วน​ที่​เดิมที​เชิญแล้ว​ไม่มา ต่าง​ก็​พา​กัน​มา จำนวน​คน​ที่มา​เข้าร่วม​งาน อย่าง​น้อย​ก็​เพิ่มขึ้น​อีก​เป็น​เท่าตัว​

แม้แต่​ทาง​ฝั่งของ​ภูเขา​เมฆาเรือง​ก็​ยังมี​บรรพ​จารย์​ผู้คุม​กฎ​หนึ่ง​คน​และ​เจ้ายอดเขา​อาวุโส​สอง​คน​มาเยือน​

ฮ่องเต้​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ก็​ยิ่งขึ้น​เขา​มาด้วยตัวเอง​ เหมย​ซาน​จวิน​แห่ง​ห้า​ขุนเขา​กลาง​ของ​หนึ่ง​แคว้น​กับ​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ที่​เป็น​เทพ​วารี​อันดับ​หนึ่ง​ก็​มาด้วย​เหมือนกัน​ ก็​ต้อง​ช่วย​คุ้มครอง​ฮ่องเต้​ไม่ใช่หรือ​?

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าของ​พรรค​หวง​เหลียง​ที่​ต้อง​ดูแล​เรื่อง​การ​ต้อนรับขับสู้​ ทุกวัน​ปาก​พร่ำบ่น​ไม่หยุด​ แต่​รอยยิ้ม​ที่​เต็มดวง​ตากลับ​ปิดไม่มิด​

กี่​ปี​มาแล้ว​ที่​พรรค​หวง​เหลียง​ไม่เคย​มีหน้ามีตา​ขนาด​นี้​มาก่อน​!

ก่อนที่​หวง​ชงจะลุกขึ้น​ยืน​ก็​ทำท่า​เหมือน​อยาก​จะพูด​อะไร​บางอย่าง​อีกครั้ง​

เกา​เจิ่น​ยังคง​แสร้ง​ทำเป็น​มองไม่เห็น​ หลุบ​สายตา​ลง​ต่ำ​จ้อง​กระดาน​หมาก​ อันที่จริง​เกา​เจิ่น​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจว่า​เหตุใด​ฮ่องเต้​ถึงได้​ขึ้น​มาบน​ภูเขา​ คำ​ว่า​มาหลบ​หา​ความสงบ​หรือ​มาร่วม​งานพิธี​ แน่นอน​ว่า​เป็น​แค่​ข้ออ้าง​ที่​ค่อนข้างจะ​ฟังไม่ขึ้น​เท่านั้น​ ความคิด​ที่​แท้จริง​ก็​คือ​อยาก​ดู​ว่า​จะมีโอกาส​ได้​ผูก​ความสัมพันธ์​ควัน​ธูป​กับ​ทาง​ฝั่งของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​หรือไม่​ ไม่คาดหวัง​ให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ไป​เหยียบ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ และ​หวง​ชงเอง​ก็​ไม่คาดหวัง​ว่า​ตัวเอง​ไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แล้​วจะ​ไม่ต้อง​กิน​น้ำแกง​ประตู​ปิด​ หวัง​เพียง​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​บน​ทำเนียบ​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อย่าง​พวก​เฉินห​ลิง​จวิน​ กวอ​จู๋จิ่ว​นี้​ ไม่ว่า​ใครก็ได้​จะมารับหน้าที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​หรือไม่​ก็​เค่อ​ชิงของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ก็​พอ​

เพียงแต่​เรื่อง​แบบนี้​ เกา​เจิ่น​มิอาจ​ตัดสินใจ​แทน​ได้​ ฮ่องเต้​ไม่เปิดปาก​ เกา​เจิ่น​ก็ได้​แต่​แกล้ง​โง่ต่อไป​ เขา​ไม่คิด​จะหาเรื่อง​ใส่ตัว​เด็ดขาด​

ฮ่องเต้​หนุ่ม​ที่​ขึ้น​ครองราชย์​ใน​ช่วง​กลียุค​ผู้​นี้​ ความทะเยอทะยาน​ค่อนข้าง​สูง ไม่อย่างนั้น​หาก​แค่​ต้องการ​ผู้​ถวายงาน​หรือ​เค่อ​ชิงให้​กับ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​ไป​เยือน​ภูเขา​เมฆาเรือง​ด้วยตัวเอง​สัก​รอบ​ก็​พอ​ ตามหา​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ที่​เป็น​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ก่อกำเนิด​สัก​คน​ให้​กับ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ อันที่จริง​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​อะไร​เลย​

แคว้น​มากมาย​ที่อยู่​โดยรอบ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ต่าง​ก็​รู้กัน​ดี​ว่า​ฮ่องเต้​หนุ่ม​ผู้​นี้​ ปี​นั้น​ต้อง​ลง​มาจาก​หลัง​ม้าแล้ว​มาสวม​ชุด​คลุม​มังกร​

เพราะ​ตอนที่​หวง​ชงยัง​เป็น​องค์​ชาย​คน​หนึ่ง​ก็​เคย​เป็น​ฝ่าย​นำ​ทัพ​ไป​ที่​สนามรบ​ของ​เมืองหลวง​สำรอง​ต้า​หลี​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยัง​เคย​นอน​อยู่​ใน​กอง​คนตาย​แล้ว​ถูก​คน​พลิก​ค้นหา​ตัว​ออกมา​อย่าง​แท้จริง​

ส่วน​ใน​สงคราม​ครานั้น​ พูดถึง​แค่​ที่ว่าการ​กรม​กลาโหม​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ นอกจาก​พวก​คน​เฒ่าคนแก่​แล้ว​ พวก​ขุนนาง​หนุ่ม​ทั้งหลาย​ล้วน​ได้​เปลี่ยน​งาน​กัน​แทบ​ทั้งหมด​

ดังนั้น​แคว้น​เมิ่งเหลียง​จึงเป็น​แคว้น​แรก​สุด​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ที่​ได้​กอบกู้​แคว้น​และ​ได้​ปลดแอก​สถานะ​แคว้น​ใต้​อาณัติ​หลังจาก​สงคราม​ใหญ่​ปิดฉาก​ลง​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยังมี​คน​สัญชาติ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​ทุกวันนี้​ก็​ยัง​ทำหน้าที่​อยู่​ใน​ที่ว่าการ​หก​กรม​และ​ที่ว่าการ​เก้า​มนตรี​เล็ก​ของ​เมืองหลวง​สำรอง​ต้า​หลี​

เห็น​ว่า​เกา​เจิ่น​ไม่รับคำ​ หวง​ชงก็​หัวเราะ​เย้ยหยัน​ตัวเอง​ ทว่า​บน​ใบหน้า​และ​ใน​ใจกลับ​ไร้​ความ​ไม่สบอารมณ์​แม้เพียง​นิด​ ทุก​บ้าน​ล้วน​มีคัมภีร์​ที่​อ่าน​ยาก​ อย่า​ได้​ทำให้​เจ้าประมุข​เกา​และ​พรรค​หวง​เหลียง​ต้อง​ลำบากใจ​เลย​

กฎเกณฑ์​ช่องทาง​บน​ภูเขา​น้อยกว่า​วงการ​ขุนนาง​ล่าง​ภูเขา​เสีย​เมื่อไหร่​?

วันหน้า​ตน​ค่อย​ไปหา​เฉิน​เซียน​ซือ​ที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​มีฉายา​ว่า​ ‘เจ้าตัว​ขาว​น้อย​ใน​คลื่น​แม่น้ำ​อวี้​เจียง​ ราชา​มังกร​น้อย​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว’​ ดื่มเหล้า​กับ​เขา​สัก​มื้อ​ก็แล้วกัน​

แต่​คาด​ว่า​คง​ได้​แค่​ดื่มเหล้า​มื้อ​เดียว​จริงๆ​

คราวก่อน​หวง​ชงทำ​หน้าหนา​ไป​เยี่ยมเยียน​ถึงเรือน​ เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ที่​เป็น​เจียว​น้ำ​ก่อกำเนิด​แต่​มีรูปลักษณ์​เป็น​เด็กชาย​สวม​ชุด​สีเขียว​ผู้​นี้​พูดคุย​ด้วย​ง่าย​มาก​ เข้ากับ​คน​ก็​ง่าย​ บน​โต๊ะ​สุรา​ก็​ถูกใจ​กัน​เป็นพิเศษ​ เพียง​ไม่นาน​ก็​เรียก​ตัวเอง​เป็น​พี่​เป็น​น้อง​กับ​ตน​แล้ว​

เพียงแต่ว่า​เรื่อง​ที่จะ​ให้​มารับหน้าที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ เห็นได้ชัด​ว่า​อีก​ฝ่าย​มีท่าที​ยืนกราน​หนักแน่น​ พูด​อย่าง​เด็ดขาด​ว่าไม่ได้​ ไม่ได้​เด็ดขาด​ นาย​ท่าน​ของ​ตน​ไม่อยู่​บน​ภูเขา​ เรื่องใหญ่​แบบนี้​ เขา​ไม่อาจ​ตัดสินใจ​ได้​เอง​

แน่นอน​ว่า​หวง​ชงย่อม​รู้สึก​ผิดหวัง​อยู่​บ้าง​ แต่​ก็​เหมือนกับ​การ​เล่น​หมากล้อม​กับ​เกา​เจิ่น​ใน​ศาลา​เวลานี้​ แตง​ที่​ฝืน​เด็ด​ย่อม​ไม่หวาน​ อย่า​ได้​ทำให้​คนอื่น​ลำบากใจ​จะดีกว่า​

อีก​ทั้ง​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ที่​มีแซ่เดียว​กับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ เมื่อ​ดื่มเหล้า​กัน​ไป​แล้วก็​ยัง​เดิน​มาส่งตน​ถึงหน้า​ประตู​ พูดจา​จริงใจ​ด้วย​สีหน้าที่​เต็มไปด้วย​ความละอายใจ​อย่าง​ที่​ไม่ค่อย​เหมือน​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​ว่า​ พี่​หวง​ ขอโทษ​ด้วย​นะ​ เรื่อง​นี้​ทำ​ไม่ได้​จริงๆ​ หากว่า​พวกเรา​สอง​คนรู้จัก​กัน​เร็ว​กว่า​นี้​ ข้า​จะไม่พูดพร่ำทำเพลง​สัก​คำ​ เจ้าบอก​ให้​ข้า​เป็น​อะไร​ข้า​ก็​จะเป็น​อย่างนั้น​ ให้​หมวก​ขุนนาง​ใหญ่​เท่า​ฟ้าไม่รังเกียจ​ว่า​ใหญ่​ไป​ ให้​หมวก​ขุนนาง​เล็ก​เท่า​เมล็ด​งาก็​ไม่รังเกียจ​ว่า​เล็ก​ไป​ ล้วน​เป็น​สหาย​กัน​ ก็​แค่​เรื่อง​เล็กน้อย​ที่​พี่​หวง​ตัดสินใจ​เอง​ได้​เลย​ แต่​ทุกวันนี้​ทาง​ฝั่งของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​พวกเรา​เท่ากับ​ว่า​ปิด​ภูเขา​แล้ว​ นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ล้อเล่น​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​นาย​ท่าน​ข้า​พูด​เอง​กับ​ปาก​ ท่าน​ไม่สนิท​กับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​พวกเรา​ก็​อาจจะ​ไม่รู้​ว่า​ อันที่จริง​ข้า​ถือว่า​เป็น​คน​ที่​ขึ้น​ภูเขา​มาก่อน​ใคร​ แล้วก็​เป็น​ข้า​ที่​ช่วยเหลือ​อะไร​นาย​ท่าน​ไม่ได้​มาก​ที่สุด​ หาก​ข้า​ยัง​เพิ่ม​ปัญหา​ให้​นาย​ท่าน​ ก่อให้เกิด​เรื่อง​แทรกซ้อน​ ต่อให้​ข้า​ตาย​แล้ว​ยัง​ต้องการ​ศักดิ์ศรี​หน้าตา​ก็​มิอาจ​เงยหน้า​มอง​คน​ได้​แล้ว​

ตอนนั้น​แม้หวง​ชงจะประหลาดใจ​ว่า​เหตุใด​ผู้ฝึก​ตน​ก่อกำเนิด​ผู้ยิ่งใหญ่​คน​หนึ่ง​ อยู่​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ถึงได้​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ ‘ช่วยเหลือ​อะไร​ไม่ได้​มาก​ที่สุด​’

ต่อให้​จะเป็น​ภูเขา​ของ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ แต่​ตาม​หลัก​แล้วก็​ไม่ควร​เป็น​เช่นนี้​

เพียงแต่​ตอนนั้น​เห็น​สีหน้า​หม่นหมอง​ของ​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ หวง​ชงกลับ​ยินดี​ที่จะ​เชื่อ​

อีก​ทั้ง​สุดท้าย​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ก็​คล้าย​จะนึก​เรื่อง​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​ จู่ๆ เขา​ก็​หัวเราะ​ ตบ​อก​รับรอง​บอ​กว่า​คราวหน้า​หาก​ตน​ได้​เจอ​กับ​นาย​ท่าน​จะลอง​ช่วย​พูด​เรื่อง​นี้​ให้​ ขอ​แค่​นาย​ท่าน​พยักหน้า​ตอบ​ตกลง​ และ​พี่​หวง​เอง​ก็​ไม่รังเกียจ​ ผู้​ถวายงาน​นี้​ ข้า​จะเป็น​ให้​เอง​! พี่​หวง​เจ้าวางใจ​ได้​เลย​ อยู่​กับ​นาย​ท่าน​ ข้า​ไม่เคย​ต้องการ​ศักดิ์ศรี​หน้าตา​มาก​ที่สุด​แล้ว​ ขอ​แค่​นาย​ท่าน​ไม่คัดค้าน​ ข้า​ยัง​สามารถ​ช่วย​ดึง​ตัว​สหาย​รัก​แซ่หมี่​อีก​คน​มาได้​ อย่าง​น้อยที่สุด​ให้​พวกเรา​เป็น​เค่อ​ชิงที่​ได้รับ​การแขวน​ชื่อ​อยู่​ใน​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ก็​ไม่มีปัญหา​แน่​!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด