กระบี่จงมา 831.4 ฝึกฝน

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 831.4 ฝึกฝน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คนหนุ่ม​ยก​หลัง​มือขึ้น​เช็ด​หัว​ตา​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ขมขื่น​ พูด​เสียงสั่น​ว่า​ “อาจารย์​ ต่อให้​เดือน​หนึ่ง​ดื่ม​แค่​ครั้ง​เดียว​ ข้า​ก็​รับ​ไม่ไหว​หรอก​นะ​ เมื่อไหร่​จะถึงจุดสิ้นสุด​เสียที​?”

ผู้เฒ่า​ยิ้ม​เอ่ย​ “รอ​ให้​เจ้าเป็น​ขุนนาง​ใหญ่​แล้ว​ ถึงคราว​ที่​เจ้าต้อง​เลี้ยง​เหล้า​คนอื่น​ก็​สามารถ​ดื่ม​น้อยลง​ได้​แล้ว​ หาก​อารมณ์ดี​ แล้ว​สุรา​ก็ดี​ด้วย​ จะดื่ม​ให้​มาก​หน่อย​ก็ได้​”

คนหนุ่ม​หันหน้า​ไป​อาเจียน​แห้ง​ๆ ไม่หยุด​ ก่อน​จะวัก​น้ำ​ใน​ลำคลอง​ขึ้น​มา ก้มหน้า​บ้วนปาก​ แล้ว​นั่งลง​บน​พื้น​ อาเจียน​จน​อาเจียน​ไม่ออก​แล้ว​ ในที่สุด​ก็​รู้สึก​ดีขึ้น​ได้​บ้าง​

ผู้เฒ่า​นั่งลง​บน​ขั้นบันได​ด้าน​ข้าง​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “คนพูด​กัน​ว่า​สวรรค์​ไม่ขัดขวาง​คน​ที่​แสวงหา​หนทาง​ร่ำรวย​ แต่​มักจะ​ขัดขวาง​ไม่ให้​คน​อยู่​เฉย​สุขสบาย​ ใน​วงการ​ขุนนาง​ แน่นอน​ว่า​มีแต่​จะยิ่ง​ไม่ว่าง​ ชิน​ไป​แล้ว​ก็ดี​เอง​ แต่ว่า​มีอยู่​ประโยค​หนึ่ง​ เป็น​อาจารย์​คุม​สอบ​เค​อจวี่​ของ​ข้า​ที่​เคย​พูด​กับ​ข้า​ ก็​เป็น​คำพูด​หลังจาก​งานเลี้ยง​สุรา​ผ่าน​พ้นไป​เหมือน​วันนี้​เช่นกัน​ ท่าน​ผู้อาวุโส​บอ​กว่า​ ต่อให้​อ่าน​ตำรา​อีก​มาก​แค่​ไหน​ หาก​ยัง​ไม่รู้จัก​ใกล้ชิด​ผู้คน​ ไม่รู้จัก​สังเกต​สถานการณ์​รอบด้าน​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​อย่า​เป็น​ขุนนาง​เลย​ เพราะ​ปัญญาชน​ไม่ควร​ถูก​เวลา​ใน​การ​อ่าน​ตำรา​เบียดบัง​ และ​ควร​อาศัย​การ​อ่าน​ตำรา​มาทำความเข้าใจ​กับ​โลก​ใบ​นี้​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ก็​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ผู้เฒ่า​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​เอ่ย​ “ดังนั้น​เจ้าหนู​เจ้าต้อง​คืนเงิน​ด้วย​”

คนหนุ่ม​ที่​เดิมที​ก็​หน้า​แดงก่ำ​อยู่แล้ว​ยิ่ง​รู้สึก​อับอายขายหน้า​ เอ่ย​เบา​ๆ ว่า​ “อาจารย์​ เงิน​ค่า​เหล้า​คง​ได้​แต่​ต้อง​ติด​ไว้​ก่อน​แล้ว​”

ผู้เฒ่า​หัวเราะ​ร่า​ “ไม่ต้อง​รีบร้อน​ รอ​ให้​มีเงิน​ก่อน​ค่อย​ใช้คืน​ ร่างกาย​เจ้ายัง​แข็งแรง​ดี​ เงินเดือน​น้อย​นิด​แค่นั้น​ของ​เจ้าก็​เก็บ​ไว้​ก่อน​เถอะ​ เก็บ​เอาไว้​เป็น​เงิน​แต่ง​ภรรยา​ พักอาศัย​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ หาก​คิด​จะแต่ง​สาวงาม​ใน​พื้น​ที่มา​เป็น​ภรรยา​ก็​ยิ่ง​ต้อง​ใช้เงิน​”

เห็น​ว่า​คนหนุ่ม​ยังมี​สีหน้า​ลำบากใจ​โดยไม่จำเป็น​ ผู้เฒ่า​ก็​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “วิญญูชน​ก่อร่างสร้างตัว​ ความยากจน​ไม่ใช่เรื่อง​น่าอาย​”

ขุนนาง​หนุ่ม​ลุกขึ้น​ยืน​โงนเงน​ ประสานมือ​คารวะ​ เอ่ย​ขอบคุณ​ผู้เฒ่า​อย่าง​ไร้​เสียง​

ความ​น้อยเนื้อต่ำใจ​ก่อนหน้านี้​ยัง​หลง​เหลืออยู่​ เพียงแต่​ว่าไม่ได้​มากมาย​ขนาด​นั้น​อีกแล้ว​

ผู้เฒ่า​กับ​คนหนุ่ม​เดิน​ไป​บน​ถนน​ด้วยกัน​ ดึก​มาก​แล้ว​ แต่​ก็​ยัง​คลาคล่ำ​ไป​ด้วย​ผู้คน​

งานเลี้ยง​สุรา​อีก​งาน​หนึ่ง​ก็​สิ้นสุดลง​แล้ว​เช่นกัน​

บุรุษ​ยิ้ม​ถามว่า​ “เป็น​อย่างไร​?”

เทพธิดา​ทั้งสอง​คน​ต่าง​ก็​ยิ้ม​เอียงอาย​ เป็น​พวก​นาง​ที่​เข้าใจ​ผู้อาวุโส​ใน​สำนัก​คน​นี้​ผิด​ไป​จริงๆ​ แต่​จะโทษ​ว่า​พวก​นาง​คิดมาก​ก็​ไม่ได้​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​พูดถึง​แค่​เรื่อง​ที่มา​นั่ง​ดื่ม​สุรา​เป็นเพื่อน​บุรุษ​ หาก​แพร่​ออก​ไป​ก็​ไม่ได้​น่าฟัง​สัก​เท่าไร​

บัณฑิต​ที่​เป็น​หยวน​ไหว้​หลา​งของ​กรม​อาญา​คน​นั้น​เป็น​วิญญูชน​ผู้​เที่ยงตรง​อย่าง​แท้จริง​ เรื่อง​ที่​คุย​ใน​งานเลี้ยง​ก่อนหน้านี้​ส่วนใหญ่​ก็​เป็นเรื่อง​ขนบธรรมเนียม​ของ​บ้านเกิด​ แน่นอน​ว่า​ก็​มีคำพูด​ตามมารยาท​ใน​วงการ​ขุนนาง​ด้วย​ ยกตัวอย่างเช่น​หวัง​ว่า​พรรค​ที่​พวก​นาง​อยู่​ พวก​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​จะลง​จาก​ภูเขา​กัน​มาบ่อยๆ​ นอกจาก​จะหา​ประสบการณ์​ใน​โลก​โลกีย์​แล้ว​ ก็​จะได้​สร้าง​ความ​ผาสุก​ให้​กับ​บ้านเกิด​ ปกป้อง​คุ้มครอง​ชาวบ้าน​ใน​พื้นที่​ด้วย​

กลาง​น้ำ​ใน​ลำคลอง​มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์​ชุด​เขียว​ตน​หนึ่ง​ทะยาน​น้ำ​หยุด​ลอยตัว​นิ่ง​ เงยหน้า​มอง​แสงไฟใน​เหลา​สุรา​บน​ฝั่งของ​ลำคลอง​ชางผู​ตลอดทั้ง​เส้น​

เทพ​ลำคลอง​ชางผู​อย่าง​เขา​ เนื่องจาก​ช่วง​ของ​ลำคลอง​ไม่ยาว​ ระดับ​ขั้น​ของ​ตำแหน่ง​จึงไม่สูง เป็น​แค่​ระดับ​หก​ และ​นี่​ยัง​เป็น​เพราะ​อยู่​ใต้​เบื้อง​พระ​บาท​ของ​โอรส​สวรรค์​ด้วย​ ไม่อย่างนั้น​แค่​ดูแล​น่านน้ำ​น้อย​นิด​ที่​ถูก​เพื่อนร่วมงาน​ล้อ​ว่า​ ‘ถังน้ำ​ไม่กี่​ใบ​’ นี้​ หาก​เอา​ไป​ไว้​ใน​ท้องถิ่น​ คิด​จะชิงตำแหน่ง​พ่อ​ปู่​ลำคลอง​ที่​ระดับ​ขุนนาง​อยู่​ใน​ช่วง​ปลายแถว​มาครอง​ก็​ยัง​ไม่มีหวัง​

เผ่าพันธุ์​น้ำ​ใน​จวน​ตน​หนึ่ง​ที่อยู่​ข้าง​กาย​รีบ​โบกมือ​ขับไล่​กระแสน้ำ​เหม็นคาว​หลาย​ขุม​นั้น​ทิ้ง​ไป​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​เปื้อน​ชุด​ขุนนาง​ของ​นาย​ท่าน​เทพ​วารี​บ้าน​ตน​ให้​สกปรก​ จากนั้น​ก็​ถูมือ​ยิ้ม​เอ่ย​ “นาย​ท่าน​ ถนน​เส้น​นี้​ไม่ได้เรื่อง​เลย​จริงๆ​ ทุกวัน​ส่งเสียง​อึกทึก​จอแจ​ตั้ง​แต่เช้า​จรด​ค่ำ​เช่นนี้​ หาก​เป็น​ข้า​ ข้า​คง​ทนไม่ไหว​แล้ว​ ยังคง​เป็น​นาย​ท่าน​ที่​ใจกว้าง​ ใน​ท้อง​ของ​อัคร​เสนาบดี​สามารถ​ถ่อ​เรือ​ได้​จริงๆ​ หาก​นาย​ท่าน​ไป​เป็น​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​จะไม่ยิ่ง​ร้ายกาจ​มากกว่า​นี้​หรือ​ อย่าง​น้อย​เริ่มต้น​ก็​ต้อง​ได้​เป็น​ขุนนาง​หลัก​ของ​กรม​แห่ง​หนึ่ง​”

เทพ​ลำคลอง​หัวเราะ​หึหึ​ “คง​ไม่ใช่ว่า​ไป​ขอ​เหล้า​คนอื่น​ดื่ม​มาเยอะ​ เมาแล้วก็​เลย​พูดจา​เหลวไหล​หรอก​กระมัง​?”

เฝ้าอยู่​ที่นี่​มานาน​หลาย​ร้อย​ปี​ ถึงอย่างไร​นับตั้งแต่​วัน​แรก​ที่​ต้า​หลี​ก่อตั้ง​แคว้น​ก็​เป็น​เทพ​วารี​ของ​ลำคลอง​ชางผู​เส้น​นี้​แล้ว​ ดังนั้น​เขา​จึงแทบจะ​เคย​เห็น​จักรพรรดิ​ อัคร​เสนาบดี​ ขุนนาง​บุ๋น​บู๊​แทบ​ทุกคน​ของ​ต้า​หลี​มาหมด​แล้ว​ มีทั้งพวก​คน​ที่​กำเริบเสิบสาน​ ใช้ชีวิต​หรูหรา​ฟุ่มเฟือย​ ละโมบ​ถึงขีดสุด​ มีทั้งพวก​แม่ทัพ​ผู้​กล้า​ที่​ปกป้อง​ดินแดน​ ยาม​เข้า​เมืองหลวง​ก็​ยิ่ง​ต้อง​จับกลุ่ม​กัน​มา

คน​ที่​ทำให้​เทพ​ลำคลอง​ชางผู​ท่าน​นี้​จด​จำได้​ลึกซึ้ง​ที่สุด​ค่อนข้างจะ​ประหลาด​สักหน่อย​ ไม่ใช่ว่า​ใคร​สร้าง​วีรกรรม​ยิ่งใหญ่​อะไร​ หรือ​ใคร​เป็น​โจร​ขบถ​ขุนนาง​ชั่ว​ที่​พยายาม​จะแย่งชิง​บัลลังก์​ อีก​ทั้ง​ชื่อเสียง​เกียรติยศ​ยัง​เหม็น​ฉาวโฉ่​อะไร​ แต่​เป็น​เมื่อ​ช่วงเวลา​ร้อย​กว่า​ปี​ล่าสุด​ที่ผ่านมา​นี้​ มีพวก​คน​ที่​พก​หยก​ประดับ​ห้อย​เอว​ราคา​ถูกที่​คุณภาพ​ย่ำแย่​ ฝีมือ​การแกะสลัก​ก็​ยิ่ง​ห่วย​จน​แทบ​ทน​มอง​ไม่ได้​ ซึ่งทำลาย​ภาพลักษณ์​ของ​ชุด​ขุนนาง​ รองเท้า​ขุนนาง​เก่าแก่​อย่าง​ร้ายแรง​

ต่อให้​จนถึง​ทุกวันนี้​ โดย​เฉพาะคน​ของ​ตรอก​อี้​ฉือ​และ​ถนน​ฉือเอ๋อร์​ ขุนนาง​หลาย​คน​ที่​เข้าร่วม​การประชุม​ใน​ท้องพระโรง​ ทั้ง​ชุด​คลุม​ขุนนาง​และ​รองเท้า​ขุนนาง​ต่าง​ก็​เปลี่ยน​กัน​ไป​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ มีเพียง​หยก​พก​เท่านั้น​ที่​ยังคง​ไม่เปลี่ยน​

ราวกับว่า​นี่​ก็​คือ​กฎ​ที่​ไม่เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ข้อ​หนึ่ง​ของ​วงการ​ขุนนาง​ต้า​หลี​

ได้ยิน​ว่า​มีการประชุม​ครั้งหนึ่ง​ที่​คน​ซื่อบื้อ​คน​หนึ่ง​ซึ่งมีชาติกำเนิด​จาก​ตระกูล​สูง แต่​เข้ามา​ใน​วงการ​ขุนนาง​ทีหลัง​ มีวันหนึ่ง​ได้​เปลี่ยน​มาใช้หยก​ประดับ​ที่​มีมูลค่า​ควร​เมือง​

ผล​คือ​นาย​ท่าน​ผู้เฒ่า​กวน​ช่างตาแหลม​ยิ่งนัก​ เป็น​คน​แรก​ที่​สังเกตเห็น​ จึงเรียก​พรรคพวก​เรียก​สหาย​มา พวก​ขุนนาง​สำคัญ​ที่อยู่​ใจกลาง​ของ​ราชสำนัก​กลุ่ม​ใหญ่​พา​กัน​มาล้อมวง​ดู​เรื่อง​สนุก​ของ​ขุนนาง​หนุ่ม​ผู้​นั้น​ แต่ละคน​ล้วน​อิจฉา​ยิ่งนัก​ บ้าง​ถามราคา​ บ้าง​เอ่ย​ชมเชย​ว่า​ฝีมือ​แกะสลัก​ช่างดี​ยิ่งนัก​ ทำให้​ขุนนาง​หนุ่ม​ผู้​นั้น​อาย​จน​แทบจะ​เอาหน้า​แทรกแผ่นดิน​หนี​

ภายหลัง​กลางดึก​ คนหนุ่ม​ก็​มาที่นี่​ก่อน​ อาศัย​สุรา​ดับ​ความทุกข์​ พอ​เห็น​ว่า​รอบด้าน​ไร้​ผู้คน​จึงแผดเสียง​ร้องไห้​คร่ำครวญ​อย่าง​น้อยเนื้อต่ำใจ​ บอ​กว่า​จิ้งจอก​เฒ่าพวก​นี้​รวมกลุ่ม​กัน​สร้าง​ความ​สะอิดสะเอียน​ให้​คนอื่น​ รังแก​คนอื่น​ ทรัพย์สิน​ของ​คน​เขา​สะอาด​บริสุทธิ์​ หยก​พก​ที่​ซื้อ​มา ทำไม​ถึงจะห้อย​ไม่ได้​

ภายหลัง​ขุนนาง​กรม​กลาโหม​ต้า​หลี​ที่​เคย​เป็น​หนุ่ม​ แล้วก็​ไม่หนุ่ม​อีกต่อไป​ผู้​นี้​ แล้ว​ยัง​เป็น​ขุนนาง​บุ๋น​ ได้​รบ​ตาย​อยู่​ใน​สนามรบ​เมืองหลวง​แห่ง​ที่สอง​ท่ามกลาง​ศึก​พิทักษ์​เมือง​ครั้งหนึ่ง​

การประชุม​ใน​ท้องพระโรง​ครั้งหนึ่ง​ของ​เมืองหลวง​ หลังจาก​สิ้นสุด​การประชุม​ พวก​ผู้​เฒ่าแก่​หง่อม​ทั้งหลาย​ พวก​คนแก่​ที่​เคย​หัวเราะเยาะ​คนหนุ่ม​ว่า​ซื่อบื้อ​ ได้​จับกลุ่ม​กัน​เดิน​ออกมา​ จากนั้น​ไป​ยืน​กุมมือ​อยู่​ใน​มุมหนึ่ง​นอก​วังหลวง​

พวก​คนแก่​ที่​หู​ตา​ฟ้าฝาง ฟัน​โยก​ฟัน​หลุด​กัน​มานาน​แล้ว​ไม่ได้​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เสียงดัง​อีกต่อไป​ แล้วก็​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ คล้าย​กำลัง​รับฟัง​เสียง​เหล็ก​เสียง​หยก​แตก​อยู่​เงียบๆ​

ดังนั้น​เทพ​ลำคลอง​ชางผู​ผู้​นี้​จึงรู้สึก​จาก​ใจจริง​ว่า​มีเพียง​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ร้อย​ปี​นี้​เท่านั้น​ที่​ประหนึ่ง​เหล้า​หมัก​ซึ่งทำให้​คน​เมามาย​ได้​อย่าง​แท้จริง​

ราวกับว่า​คนหนุ่ม​แต่ละ​รุ่น​เคย​ดื่มเหล้า​ไป​มาก​เท่าไร​ ใน​ราชสำนัก​บน​สนามรบ​ของ​ต้า​หลี​ก็​จะมีความ​ห้าว​เหิม​มาก​เท่านั้น​

แสงกระบี่​เล็ก​บาง​เส้น​หนึ่ง​พุ่ง​วาบ​มาถึง

ใน​สถานที่​ที่​แสงไฟสว่างไสว​แห่ง​นี้​ แม้กระทั่ง​เทพ​เซียน​ก็​ยัง​ยาก​จะคาดเดา​ถึงแสงกระบี่​นี้​

แม้แต่​เทพ​วารี​ชางผู​ก็​ยัง​สัมผัส​ไม่ถึง

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​บน​หัว​กำแพง​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ห่าง​จาก​ตรอก​เล็ก​มาไม่ไกล​ เก็บ​รวบ​แสงกระบี่​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เท้าคาง​ด้วยมือ​ข้างเดียว​ ใบหน้า​ประดับ​ยิ้ม​น้อย​ๆ

ลุกขึ้น​ยืน​ พลิ้ว​กาย​ลง​บน​ถนนใหญ่​ ไป​พบ​กับ​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ต่ง​หู​

ใน​วังหลวง​ของ​ต้า​หลี​

ฮ่องเต้​ ไทเฮา​ นั่ง​หันหน้าเข้าหากัน​ใน​ห้อง​เล็ก​แห่ง​หนึ่ง​ ข้าง​กาย​ซ่งเห​อ​ยังมี​สตรี​รูปโฉม​อ่อนเยาว์​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​ นาง​มีนาม​ว่า​อวี๋เหมี่ยน​ สถานะ​สูงศักดิ์​เป็น​ถึงฮองเฮา​ต้า​หลี​ มาจาก​สกุล​อวี๋​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​

ไม่มีขุนนาง​บุ๋น​บู๊​คนใด​ของ​ต้า​หลี​มาร่วม​ปรึกษา​ ราวกับว่า​เป็น​แค่​การคุย​เล่น​กัน​ของ​คนใน​ครอบครัว​เท่านั้น​

ใน​มือ​ขอ​งอ​วี๋เหมี่ยน​ถือ​พัด​ ร่าง​โน้ม​มาด้านหน้า​เล็กน้อย​ เอนกาย​พิง​โต๊ะ​ช่วย​โบก​พัด​พัดลม​ให้​กับ​ฮ่องเต้​เบา​ๆ เนื่องจาก​ห้อง​ไม่ใหญ่​ และ​คืนนี้​ก็​ไม่ได้​เปิด​หน้าต่าง​ ไอ​ร้อน​จึงมีอยู่​ไม่น้อย​

สกุล​อวี๋​คือ​สกุล​ที่​เมื่อ​เทียบ​กับ​บรรดา​แซ่สกุล​เสาค้ำ​ยัน​แคว้น​ทั้งหมด​แล้ว​ถือว่า​อยู่​ห่างไกล​จาก​วงการ​ขุนนาง​มาก​ที่สุด​ ตอนนี้​ในนาม​ก็​ดูแล​แค่​เรื่อง​ของ​ผ้าแพร​ต่วน​ เรื่อง​ชาที่​ผลิต​จาก​ทางการ​ทั้งหมด​ใน​ท้องถิ่น​ของ​ต้า​หลี​

เมื่อ​เทียบ​กับ​ ‘แม่สามี’ ที่อยู่​ข้าง​กาย​แล้ว​ ลูกสะใภ้​สกุล​ซ่งอย่า​งอ​วี๋เหมี่ยน​ผู้​นี้​ชื่อเสียง​ไม่สมคำเล่าลือ​เลย​จริงๆ​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ใน​ราชสำนัก​นาง​ไม่มีคำ​เรียกขาน​ว่า​ ‘เพียบพร้อม​ไป​ด้วย​คุณธรรม​’ อะไร​ด้วยซ้ำ​

อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​เข้า​ร่วมงาน​บวงสรวง​ หรือไม่​ก็​คุย​เล่น​กับ​พวก​ฮูหยิน​ตราตั้ง​ทั้งหลาย​ที่​เข้า​วัง​มาเท่านั้น​

ซ่งเห​อ​ถามเสียง​เบา​ “เสด็จ​แม่ ไม่อาจ​มอบ​เศษกระเบื้อง​ชิ้น​นั้น​ออก​ไป​ได้​เลย​หรือ​?”

เรื่อง​ใน​บ้าน​และ​เรื่อง​ของ​แคว้น​ไม่อาจ​เอา​มาปะปนกัน​ อีก​ทั้ง​สิ่งที่​สกุล​ซ่งต้า​หลี​ต้องการ​ได้มา​ล้วน​เป็น​ของ​ที่อยู่​ใน​กระเป๋า​ทั้งหมด​แล้ว​ แล้ว​ไย​ต้อง​ทำให้เกิด​ปัญหา​แทรกซ้อน​เพียงแค่​เพราะ​เรื่องเล็ก​เท่านี้​

เก็บ​เอาไว้​ทำไม​? ไม่มีประโยชน์​อะไร​เลย​แม้แต่น้อย​

ในความเป็นจริง​แล้ว​ตอนนั้น​ที่​กอง​โหราศาสตร์​ส่งข่าว​มา ได้​ถือโอกาส​คัดลอก​ภาพ​ขุนเขา​สายน้ำ​ที่​โรงเตี๊ยม​กั้วอวิ๋น​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ส่งเข้า​วัง​มาพร้อมกัน​ด้วย​ จากนั้น​ก็​ส่งมอบ​มาให้​เขา​ที่​เป็น​ฮ่องเต้​

ซ่งเห​อ​แค่​มอง​การกระทำ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานั้น​ก็​รู้​ทันที​ว่า​เรื่อง​นี้​ต้อง​เป็นปัญหา​ที่​ไม่เล็ก​อย่าง​แน่นอน​

สตรี​พลัน​เอ่ย​อย่าง​เดือดดาล​ “เรื่อง​ใน​บ้าน​ของ​โอรส​สวรรค์​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​บ้านเมือง​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​?! เป็น​ถึงจักรพรรดิ​ของ​แคว้น​หนึ่ง​ เป็น​เจ้าเหนือหัว​ของ​ปวงประชา​ หลักการ​ตื้นเขิน​แค่นี้​ก็​ยัง​ต้อง​ให้​ข้า​สอน​เจ้าด้วย​หรือ​?”

นาง​ยื่น​ฝ่ามือ​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​กด​ลง​บน​โต๊ะ​ “เขา​เฉิน​ผิง​อันเป็น​ราษฎร​ของ​ต้า​หลี​ จาก​เด็กบ้านนอก​ขา​เปื้อน​โคลน​ใน​ปี​นั้น​ เจอ​โชคดี​ครั้ง​ใหญ่​ ได้เงิน​เหรียญทองแดง​แก่น​ทอง​ไป​สอง​สามถุงจึงซื้อ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มาได้​ ภายหลัง​จึงตั้ง​สำนัก​เป็น​ของ​ตัวเอง​ หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กันที่​เขา​เคย​ทำ​สีหน้า​ดี​ๆ ให้​ราชสำนัก​ต้า​หลี​เห็น​ ใน​พื้นที่​ของ​จังหวัด​หลง​โจว​ เขา​ยัง​ถึงขั้น​จงใจไม่เห็น​หัว​ตั้งแต่​ที่ว่าการ​ผู้ตรวจการ​ ไป​จนถึง​ผู้ว่า​ เจ้าเมือง​ นายอำเภอ​ ล้วน​ไม่เคย​เห็น​อยู่​ใน​สายตา​ เคย​ไปมาหาสู่​กัน​สักนิด​ไหม​?”

“ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก่อตั้ง​สำนัก​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ไม่อาศัย​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ของ​พวกเรา​ ทำให้​สกุล​ซ่งต้า​หลี​ของ​พวกเรา​เสียหน้า​ไป​ถึงศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​โน่น​! นี่​ก็​คือ​ความจริงใจ​ของ​เขา​เฉิน​ผิง​อัน​อย่างนั้น​หรือ​?!”

“เหอะ​ ถึงกับ​ดึง​เอา​จู๋หวง​ไป​ดื่ม​ชาด้วย​กันที่​ศาล​บรรพ​จารย์​ยอดเขา​อี​เซี่ยน​ นี่​เพิ่ง​ผ่าน​ไป​แค่​ไม่กี่​ปี​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​กล้า​บังอาจ​ไร้​มารยาท​เช่นนี้​แล้ว​ หาก​ผ่าน​ไป​อีก​สัก​สอง​สามปี​ก็​ไม่ใช่ว่า​เขา​จะมาดื่ม​ชาที่นี่​แล้ว​หรือ​? ฮ่องเต้​ ท่าน​คิด​จะให้​ข้า​ช่วย​ยก​น้ำ​ส่งชาให้​เขา​ด้วย​หรือไม่​?”

ฮ่องเต้​ได้​แต่​ยิ้ม​ฝืด​เฝื่อน​

ส่วน​ฮองเฮา​ต้า​หลี​ก็​คอย​ก้มหน้า​หลุบ​ตา​ แสดงท่าที​อ่อนโยน​อยู่​ตลอดเวลา​

นาง​วาง​พัด​ลง​เบา​ๆ เงียบเชียบ​ไร้​เสียง​ หยิบ​ส้มลูก​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ใน​ถาด​กระเบื้อง​ ห้า​นิ้ว​เรียว​ราวกับ​ต้น​หอม​ นิ้ว​เรียว​บาง​ปอกเปลือก​ส้มสีเหลือง​นวล​ จากนั้น​ยื่น​ส่งให้​ฮ่องเต้​เบา​ๆ

อันที่จริง​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ไม่ค่อย​ถูกใจ​ลูกสะใภ้​คน​นี้​เท่าใด​นัก​ ว่าง่าย​รู้ความ​มากเกินไป​ โอนอ่อนผ่อนตาม​มากเกินไป​ เก็บ​ประกาย​เฉียบคม​มากเกินไป​ พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​เหมือน​ตน​ตอน​อายุ​น้อย​มากเกินไป​

ทว่า​งานแต่ง​ครั้งนี้​เป็นอดีต​ฮ่องเต้​ที่​จัดการ​เอาไว้​ให้​ ราชครู​เป็น​คน​ดำเนินงาน​อย่าง​เป็น​รูปธรรม​ นาง​หรือ​จะกล้า​พูด​คำ​ว่า​ไม่?

ยิ่ง​พูด​สตรี​ออกเรือน​แล้วก็​ยิ่ง​โมโห​ นาง​ตบ​โต๊ะ​ “ซ่งเห​อ​ อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​ความเลื่อมใส​ใน​ด้าน​บู๊​ก็​คือ​รากฐาน​ของ​แคว้น​ต้า​หลี​เรา​!”

นาง​หันหน้า​ไป​ทา​งอ​วี๋เหมี่ยน​ “เจ้าออก​ไป​”

ฮองเฮา​ลุกขึ้น​ยืน​ทันใด​ บอกลา​อย่าง​นอบน้อม​ จากนั้น​หยิบ​พัด​กลม​ด้าม​นั้น​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ ซ่งเห​อ​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ ทำ​ท่าจะ​ดึง​มือ​ของ​นาง​ นาง​กลับ​ขยับ​นิ้ว​ส่าย​เบา​ๆ

ซ่งเห​อ​ยิ้ม​อย่าง​รู้ใจ​ จึงไม่ขัดขวาง​การ​จากไป​ของ​นาง​อีก​

สตรี​ออกเรือน​แล้ว​แสร้ง​ทำเป็น​มองไม่เห็น​การกระทำ​เล็ก​ๆ ของ​ลูกสะใภ้​ ได้​แต่​หัวเราะ​หยัน​อยู่​ใน​ใจ นาง​จิ้งจอก​! เป็น​จิ้งจอก​เจ้าเล่ห์​ยิ่งกว่า​จิ้งจอก​เจ้าเล่ห์​เสีย​อีก​

รอ​กระทั่ง​อวี๋เหมี่ยน​จากไป​ สตรี​ออกเรือน​แล้วก็​ไม่มีท่าทาง​เป็น​เดือด​เป็น​แค้น​อีกต่อไป​ นาง​พูด​ด้วย​สีหน้ามืด​ทะมึน​ว่า​ “อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​ตัวอักษร​สอง​คำ​ว่า​เห​อมู่​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​รู้เรื่อง​นี้​ด้วย​ อีก​อย่าง​เจ้ารู้สึก​ว่า​เขา​ใกล้ชิด​สนิทสนม​กับ​เจ้าที่​ไม่เคย​พบ​หน้า​กัน​มาก่อน​มากกว่า​ หรือ​สนิท​กับ​ ‘ซ่งมู่’ ที่​เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​มานาน​หลาย​ปี​มากกว่า​?! แล้วก็​ยิ่ง​อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​ ใน​ศาล​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​ ตอนนั้น​คน​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ซึ่งมีชีวิต​หวน​กลับมา​บ้านเกิด​เดินทาง​มาด้วย​คือ​ซ่งจี๋ซิน​แห่ง​ตรอก​หนี​ผิง​ คือ​ซ่งมู่อ๋อง​เจ้าเมือง​ที่​พิทักษ์​เมืองหลวง​แห่ง​ที่สอง​ของ​ต้า​หลี​ ไม่ใช่ฝ่าบาท​!”

ฮ่องเต้​เงียบงัน​

สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ยิ้ม​กล่าว​ “ฮ่องเต้​อย่า​ได้​สนใจ​อีก​เลย​ ข้า​รู้​ว่า​ควรจะ​พูดคุย​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​อย่างไร​”

อวี๋เหมี่ยน​ฮองเฮา​ต้า​หลี​เดิน​เนิบ​ช้าอยู่​ใน​ระเบียง​ ห่าง​ไป​ไม่ไกล​ด้านหลัง​มีนางกำนัล​สอง​สามคน​ของ​นาง​ติด​ตามมา​ ฝีเท้า​ของ​พวก​นาง​เบา​มาก​ ทุก​ย่างก้าว​ล้วน​เป็นไปตาม​กฎระเบียบ​ แต่​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ล้วน​มีสีหน้า​ราวกับว่า​กำลัง​เดิน​เหยียบ​อยู่​บน​แผ่น​น้ำแข็ง​บาง​ๆ

บางครั้ง​อวี๋เหมี่ยน​จะถามถึงเรื่องราว​และ​บุคคล​ที่​น่าสนใจ​ของ​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ฮ่องเต้​ก็​จะเลือก​เรื่อง​บางอย่าง​มาเล่า​ให้​ฟัง เรื่อง​หนึ่ง​ใน​นั้น​ นาง​จด​จำได้​อย่าง​ลึกล้ำ​ ได้ยิน​มาว่า​เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ที่​กิน​ข้าวของ​พวก​เพื่อนบ้าน​เติบ​โตมา​ หลังจาก​ร่ำรวย​เป็น​เศรษฐี​แล้ว​ ภูเขา​ลั่วพั่ว​กับ​ร้าน​ใน​ตรอก​ฉีหลง​ก็​ยังคง​ดูแล​พวก​เพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​ใน​อดีต​อยู่​เหมือนเดิม​ ทุกครั้งที่​มีคน​ผ่า​ฟืน​มาพัก​เท้า​ที่​หน้า​ประตู​ภูเขา​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​จะต้อง​มีแม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​ที่​ทำหน้าที่​เฝ้าประตู​ยก​น้ำชา​ออกมา​ให้​ ตอนกลางวัน​ยังมี​การ​เอา​โต๊ะ​มาวาง​ไว้​ข้างทาง​โดยเฉพาะ​ ตอนกลางคืน​ถึงจะเก็บ​กลับ​ไป​

ดังนั้น​อันที่จริง​นาง​จึงมีความรู้สึก​ที่​ดี​ต่อ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อยู่​หลาย​ส่วน​ เพราะ​นาง​รู้สึก​ว่า​ขนบธรรมเนียม​เหมือนกับ​บ้านเดิม​ของ​นาง​อยู่​มาก​

แต่​นาง​คิด​อย่างนี้​แล้​วจะ​อย่างไรเล่า​ นาง​คิด​อย่างไร​ ไม่สำคัญ​เลย​สักนิด​นี่​นา​

นาง​หันหน้า​ไป​มอง​ม่าน​ราตรี​ ดวงจันทร์​ลอย​อยู่​กลาง​นภา​ ไม่รู้​ว่า​พรุ่งนี้​อากาศ​จะมืด​สลัว​ จะฟ้าโปร่ง​หรือ​จะมีลม​พัด​แรง​ฝน​เท​กระหน่ำ​

นาง​รู้​แค่​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​เดียว​

ตระกูล​ร่ำรวย​มักจะ​มีญาติ​ที่​ยากจน​ไปมาหาสู่​ด้วย​เสมอ​ หาก​ญาติ​ที่​ยากจน​ไม่เคย​ต้อง​กลับ​ไป​มือเปล่า​ ก็​คือ​ตระกูล​ที่​ซื่อสัตย์​จริงใจ​

เดินผ่าน​ประตู​สูง ชาวบ้าน​ไม่มีเร่งรีบ​เดินผ่าน​เหมือน​ต้องการ​หลบ​หายนะ​ ก็​คือ​ครอบครัว​ที่​สั่งสมคุณความดี​

นอก​ตรอก​เล็ก​ของ​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​

เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​ยิ้ม​กล่าว​ “ให้​รอง​เจ้ากรม​ต่งรอ​นาน​แล้ว​”

เมื่อ​ครู่​ต่ง​หู​มองเห็น​เงาร่าง​ชุด​เขียว​บน​ถนน​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที​ รอ​กระทั่ง​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ หัวใจ​ก็​บีบ​รัดตัว​ทันใด​

และ​ประโยค​ที่สอง​ของ​คนหนุ่ม​ที่​มีสถานะ​มากมาย​คน​นี้​กลับ​ยิ่ง​ทำให้​อารมณ์​ของ​ต่ง​หู​ซับซ้อน​มากกว่า​เดิม​ ไม่รู้​ว่า​ควร​ดีใจ​หรือ​ควร​เป็นกังวล​กัน​แน่​

เพราะ​เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “รบกวน​รอง​เจ้ากรม​ต่ง​แจ้งไป​ทาง​วังหลวง​สัก​คำ​ว่า​ หาก​จะพูดคุย​กัน​จริงๆ​ ก็​ให้​สตรี​ผู้​นั้น​มาคุย​กัน​ที่นี่​ ไม่อย่างนั้น​ข้า​ก็​คง​ต้อง​ไป​เป็น​แขก​ที่​บ้าน​ของ​นาง​แล้ว​”

ต่ง​หู​ถามเสียง​เบา​ “จะทำ​แบบนี้​จริงๆ​ หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​มอง​สารถี​อายุ​มาก​ที่​คล้าย​กำลัง​งีบหลับ​ ถามว่า​ “เกลียด​ขี้หน้า​ข้า​หรือ​?”

ต่ง​หู​รู้สึก​หัวโต​เป็น​สองเท่าตัว​ ตั้ง​แต่ต้น​จนถึง​ตอนนี้​สารถี​ผู้​นั้น​ไม่ได้​มอง​เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​สักครั้ง​เลย​นะ​

สารถี​เฒ่าลืมตา​ขึ้น​ เอ่ย​อย่าง​เฉยเมย​ว่า​ “ใช่แล้ว​อย่างไร​ ไม่ใช่แล้ว​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตาหยี​ “จริง​ดัง​คาด​ เป็น​ผู้อาวุโส​ที่​ปี​นั้น​เปิดปาก​พูด​เป็น​คน​ที่สอง​”

สารถี​เฒ่ากระตุก​มุมปาก​ “ฝึกฝน​ฝีมือ​หน่อย​ไหม​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กำลังจะ​พูด​ แต่กลับ​เงยหน้า​พรวด​ขึ้น​ฉับพลัน​ เห็น​เพียง​ว่า​กลางอากาศ​เหนือ​ตลอดทั้ง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​พลัน​มีน้ำวน​ลูก​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ จากนั้น​ก็​มีแสงกระบี่​พุ่ง​ตรงดิ่ง​มาที่​เมืองหลวง​ต้า​หลี​

เฉิน​ผิง​อัน​จึงรู้​ว่า​ตอนนั้น​ที่​ตัวเอง​เป็น​ฝ่าย​ออก​มาจาก​โรงเตี๊ยม​นั้น​คิด​ถูก​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​คน​ที่​โดน​ตี​ต้อง​เป็น​ตน​แน่นอน​

เพราะว่า​คน​ที่​ออก​กระบี่​คือ​หนิง​เหยา​ที่​ฟุบ​ตัว​นอน​อยู่​บน​โต๊ะ​ นาง​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​หงุดหงิด​ แล้ว​ดัน​มาเห็น​สารถี​ที่​อาศัยว่า​อายุ​มากกว่า​มารังแก​คนอื่น​ผู้​นี้​อีก​ ฝึกฝน​ฝีมือ​ ฝึกฝน​กับ​มารดา​เจ้าสิ

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด