กระบี่จงมา 847.2 สองคนเคียงข้าง

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 847.2 สองคนเคียงข้าง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฝ่ย​หรา​น​ถอนหายใจ​

ห​ลี่​เซิ่งที่​ไม่ว่า​จะอยู่​แห่งหน​ใด​ อาจารย์​ป๋า​ย​เจ๋อ​ที่​หวนคืน​กลับ​มายัง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ เต๋า​เหล่า​เอ้อ​แห่ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ เฒ่าตาบอด​ใน​ภูเขาใหญ่​แสน​ลี้​

แน่นอน​ว่าไม่ได้​พูดว่า​พวกเขา​มีพลัง​พิฆาต​อย่าง​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ แต่​กลับเป็น​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​สามารถ​รักษาตัว​รอด​ได้​ จึงเหมือน​อยู่​ใน​สถานะ​ของ​ผู้​มิพ่าย​

เฝ่ย​หรา​นท​รุด​ตัว​ลงนั่ง​ยอง​ ยื่นมือ​มานวด​คลึง​ข้าง​แก้ม​ “ดูเหมือนว่า​หลังจากที่​บรรพบุรุษ​ใหญ่​สละ​มรรคา​แล้ว​ ก็​ยาก​ที่​พวกเรา​จะมีผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​ใหม่​ปรากฏ​ขึ้น​มาอีก​”

ผู้เฒ่า​ถอนหายใจ​ยาวเหยียด​ “เพราะ​พวกเรา​มีป๋า​ย​เจ๋อ​มาตั้ง​นาน​แล้ว​ เจ้าตง​ไห่​จมูก​โค​หน้า​เหม็น​ของ​อาราม​กวาน​เต๋า​ ต่อให้​ไม่ได้​ปรากฏตัว​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​ยัง​สร้าง​ผลกระทบ​อย่าง​มหาศาล​ต่อ​พวกเรา​อยู่ดี​”

กล่าว​มาถึงตรงนี้​ ผู้เฒ่า​ก็​เลิกคิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ เอ่ย​ย่าง​มีโทสะ​ว่า​ “ยึด​ห้องส้วม​ไว้​แต่​ไม่ยอม​ถ่าย​!”

ผู้เฒ่า​ใช้เสียง​ใน​ใจพูด​ “รวม​กับ​เจ้าโจว​มี่ที่​ดีแต่​กิน​ไม่รู้จัก​คาย​ออกมา​อีก​คน​ ราชา​บน​บัลลังก์​เก่า​อย่าง​พวก​ลู่​ฝ่าเหยียน​ เหย้า​เจี่ย​ หวง​หลวน​ อันที่จริง​ต่าง​ก็​เท่ากับ​ว่า​ยังอยู่​ แล้ว​ยังมี​เซียว​สวิ้น​ หลิว​สือ​ลิ่ว​แห่ง​สาย​เห​วิน​เซิ่ง มังกร​ที่​แท้จริง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ แล้ว​ศาล​บุ๋น​ยัง​แต่งตั้ง​หญิง​อ้วน​แห่ง​หลุม​น้ำ​ลู่​คน​นั้น​ให้​รับหน้าที่​เป็น​เจ้าแห่ง​โชคชะตา​น้ำ​บน​บก​ บวก​กับ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อย่าง​เจ้าและ​โซ่วเฉิน​ และ​ยังมี​โจว​ชิงเกา​ที่​เดิน​ขึ้น​ฟ้าใน​ก้าว​เดียว​ เฝ่ย​หรา​น​ เจ้าลอง​คำนวณ​ดู​เอง​เถิด​ จะมีผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่อีก​คน​สอง​คน​เพิ่มขึ้น​มาได้​อย่างไร​”

เฝ่ย​หรา​นก​ล่า​ว​ “แม้จะเป็น​เช่นนี้​ แต่​เทียบ​กับ​การ​ประมาณการณ์​ที่​คิด​ไว้​ล่วงหน้า​ บรรยากาศ​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​ยัง​ด้อย​กว่า​หลาย​ขุม​อยู่ดี​”

ผู้เฒ่า​หัวเราะ​หยัน​ “สาเหตุ​เกิน​ครึ่ง​คง​เป็น​เพราะ​เจ้านคร​จักรพรรดิ​ขาว​ผู้​นั้น​”

เพียงแค่​กล่าวถึง​เล็กน้อย​เฝ่ย​หรา​น​ก็​เข้าใจ​ได้​ทันที​ เขา​กล่าว​อย่าง​ตกตะลึง​ว่า​ “หรือว่า​เขา​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่อยู่​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​แล้ว​?”

ชูเซิงพยักหน้า​ “น่าจะ​ไม่ผิด​ไป​จากนี้​แล้ว​ คน​ประเภท​นี้​รับมือ​ได้​ยาก​ที่สุด​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​จุดสำคัญ​ใน​การผสาน​มรรคา​ของ​คน​ผู้​นี้​อยู่​ที่ไหน​”

เฝ่ย​หรา​น​ยิ้ม​กล่าว​ “ก็​จริง​นะ​ จะยอมให้​แค่​หลิว​ชาเลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ แต่​ไม่ยอมให้​คนอื่น​ทำ​เช่นนี้​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ของ​พวกเรา​บ้าง​หรือ​ไร​”

ผู้เฒ่า​รู้สึก​เสียดาย​ยิ่งนัก​ “น่าเสียดาย​ที่​ผี​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​นั้น​ถูก​หนิง​เหยา​หา​ร่องรอย​เจอ​ล่วงหน้า​ ไม่อย่างนั้น​ถ้าขาด​เส้นทาง​เชื่อมโยง​กุย​ซวี​เส้น​นั้น​ไป​ ก็​คง​สามารถ​ทำให้​การบุก​รุดหน้า​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ไม่ถึงขั้น​บ้าระห่ำ​กัน​ขนาด​นี้​”

เฝ่ย​หรา​น​หันหน้า​มาเอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ “จั่ว​โย่วลง​ใต้​มาเร็ว​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​?”

ชูเซิงกล่าว​ “อยู่​ใน​การคาดการณ์​ เว้น​จากว่า​…”

ผู้เฒ่า​ไม่ได้​เอ่ย​ต่อ​ แต่​เฝ่ย​หรา​น​ก็​รู้​ชัดเจน​ดี​อยู่​ใน​ใจว่า​เขา​จะพูดว่า​ เว้น​เสีย​จากว่า​จั่ว​โย่ว​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​กะทันหัน​ ใช้สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​บริสุทธิ์​เต็ม​ตัวอย่าง​สมชื่อ​มาเลื่อนขั้น​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่!

หลิว​ป๋า​ย​ถาม “กระบี่​บิน​เล่ม​นั้น​ของ​อา​เหลียง​มีวิชา​อภินิหาร​เป็น​อะไร​กัน​แน่​?”

ผู้เฒ่า​ส่ายหน้า​ “ไม่รู้​”

เฝ่ย​หรา​น​ยิ้ม​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เป็นปัญหา​ใหญ่​เทียมฟ้า​จริงๆ​ แล้ว​ โชคดี​ที่​ยังอยู่​ใน​การคาดการณ์​”

ผู้เฒ่า​เหลือบมอง​หลิว​ป๋า​ย​ “แม่นาง​น้อย​ เรื่อง​ที่​เจ้าสมควร​ถามจริงๆ​ คือ​ชื่อ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​อา​เหลียง​คือ​อะไร​กัน​แน่​มากกว่า​”

หลิว​ป๋า​ย​อึ้ง​ตะลึง​

ผู้เฒ่า​เอ่ย​ “แม่นาง​น้อย​ เจ้าสามารถ​ไป​รวมตัว​อยู่​กับ​คน​ของ​แผนภูมิ​ฟ้าเก้า​คน​ได้​แล้ว​ ขาด​เจ้าไป​ ต่อให้​รั้ง​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ผู้​นั้น​เอาไว้​ได้​ ก็​สังหาร​ไม่ได้​อยู่ดี​”

หลิว​ป๋า​ย​หันไป​มอง​เฝ่ย​หรา​น​ ฝ่าย​หลัง​พยักหน้า​ให้​ด้วย​รอยยิ้ม​

แต่​เฝ่ย​หรา​น​ยัง​เอ่ย​เตือน​เพิ่ม​มาอีก​หนึ่ง​ประโยค​ “จำไว้​ว่า​ให้​ระวัง​เส้นทาง​กลับ​เหนือ​ให้​ดี​ อย่า​ให้​กลายเป็น​ว่า​ไม่ทัน​ระวัง​ถูก​จั่ว​โย่ว​สังหาร​เข้า​ล่ะ​”

หลิว​ป๋า​ย​พยักหน้า​ ทะยาน​ลม​ออกจาก​สนามรบ​ของ​ยอดเขา​ที่​ตัวนาง​ไม่อาจ​ยื่นมือ​เข้า​แทรก​แห่ง​นี้​ไป​เพียงลำพัง​

เฝ่ย​หรา​น​เอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “ความเร็ว​ใน​การ​ลง​ใต้​ของ​จั่ว​โย่ว​เพิ่มขึ้น​อีกแล้ว​ หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​ข้า​ เมื่อ​เดินทาง​มาถึงที่นี่​ก็​มีแต่​จะ…สูญเสีย​พลัง​การต่อสู้​ไป​แล้ว​”

ผู้เฒ่า​ยิ้ม​เอ่ย​ “ถ้าอย่างนั้น​พวกเรา​ก็​หลบ​ประกาย​เฉียบคม​ของ​เขา​ก่อน​เถอะ​ มอบ​สนามรบ​ให้​กับ​เฉิน​โซ่ว​กับ​ซิน​จวง​ไป​ก่อน​”

เซียว​สวิ้น​พลัน​หันขวับ​ไป​มอง​ทาง​ทิศเหนือ​ ครุ่นคิด​อยู่​เล็กน้อย​ เรือน​กาย​ก็​เปล่ง​วูบ​หาย​ไป​

ริม​ขอบ​สนามรบ​ทาง​ทิศเหนือ​ บรรพบุรุษ​ย้าย​ภูเขา​ผู้​นั้น​หมุนตัว​กลับ​อย่าง​รวดเร็ว​

แสงกระบี่​เส้น​หนึ่ง​ทะลุ​หัวไหล่​ของ​ร่าง​จริง​จูเยี่ยน​ไป​จน​เกิด​เป็น​รู​โหว่​

คง​เป็น​เพราะ​คร้าน​จะพัวพัน​อยู่​กับ​จูเยี่ยน​ แสงกระบี่​เส้น​นั้น​ถึงไม่ได้​หยุดชะงัก​ แต่​ตรง​ไปหา​อา​เหลียง​ทันที​

บุรุษ​สวม​ชุด​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​หนึ่ง​มาหยุด​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​อา​เหลียง​ใน​ชั่วพริบตา​

ทั้งสอง​ยืน​เคียงข้าง​กัน​ คน​หนึ่ง​หันหน้า​ไป​ทาง​ทิศเหนือ​ คน​หนึ่ง​หันหน้า​ไป​ทางทิศใต้​

ไม่เหลือ​ศัตรู​คนใด​อีก​

จั่ว​โย่ว​เอ่ย​อย่าง​เฉยเมย​ “เป็น​อย่างไร​?”

สอง​มือ​ของ​อา​เหลียง​ถือ​กระบี่​ บิด​หมุน​ข้อมือ​วาดลวดลาย​กระบี่​ พยักหน้า​เอ่ย​ “สะใจดี​”

จั่ว​โย่ว​เหลือบตา​มอง​ภาพ​ค่าย​กล​ปลา​หยิน​หยาง​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​ ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​

อา​เหลียง​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เป็น​อย่างไร​ ช่วย​ให้​เสีย​เรื่อง​แล้ว​ล่ะ​สิ ค่าย​กล​ใหญ่​แห่ง​นี้​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ เห็นได้ชัด​ว่า​มีไว้​เพื่อ​รอ​ให้​เจ้าและ​ข้า​จับมือ​กัน​มาเยือน​ หนึ่ง​กิน​ปณิธาน​กระบี่​ หนึ่ง​กิน​ปราณ​กระบี่​ จากนั้น​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​ลดทอน​กันและกัน​จน​สลาย​หาย​ไป​ใน​ค่าย​กล​ ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ช่วย​ป้อน​ให้​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มีผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบ​สี่เพิ่ม​มาอีก​คน​หนึ่ง​ก็​เป็นได้​”

ซิน​จวง​พลัน​คลี่​ยิ้ม​อ่อนหวาน​ ยอบ​กาย​คารวะ​จั่ว​โย่ว​

ค่าย​กล​ใหญ่​ใต้​ฝ่าเท้า​ที่​นาง​และ​โซ่วเฉิน​ร่วมกัน​ควบคุม​ได้​ทำการ​โคจร​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​ ปราณ​กระบี่​ตลอดทาง​ที่​จั่ว​โย่วลง​ใต้​มานี้​ กับ​ปณิธาน​กระบี่​ใน​ภูเขา​สายน้ำ​หมื่น​ลี้​ของ​อา​เหลียง​ต่าง​ก็​ถูก​หอบ​ม้วน​มาอย่าง​บ้าคลั่ง​ ประหนึ่ง​ปลาวาฬ​สูบ​กลืน​น้ำ​

จั่ว​โย่ว​พูด​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ “จัดการ​ได้​ง่าย​”

ร่าง​ของ​ซิน​จวง​พลัน​แข็ง​เกร็ง​ขึ้น​มาทันที​

อา​เหลียง​หัวเราะ​อย่าง​ฉุนๆ​ “มารดา​มัน​เถอะ​ รำคาญ​นิสัย​ข้อ​นี้​ของ​เจ้าที่สุด​แล้ว​ ข้า​ผู้อาวุโส​พูด​จริงจัง​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​คิด​ว่า​ข้า​โม้ แต่​เจ้ากลับ​ดี​นัก​ พูด​อะไร​คนอื่น​ก็​เชื่อ​ไป​หมด​”

ยกตัวอย่างเช่น​ใน​อดีต​ยัง​เคย​ถูก​เจ้าเด็ก​ขา​เปื้อน​โคลน​ถามด้วย​สายตา​ที่​จริงใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ว่า​ ตน​สามารถ​เอาชนะ​จูเห​อ​ได้​หรือไม่​

จะให้​ข้า​ตอบ​อย่างไร​ล่ะ​? บอ​กว่า​เอาชนะ​ได้​ ข้า​ผู้อาวุโส​จะมีเกียรติ​นัก​หรือ​?

แม้ปาก​จะพูด​อย่างนี้​ก็​จริง​ แต่​ก็​ยัง​ต้อง​ลงมือทำ​อยู่ดี​

ส่วน​จะทำ​อย่างไร​ ง่าย​มาก​ อา​เหลียง​กับ​จั่ว​โย่ว​ที่​ยืน​เคียง​บ่า​กัน​

ผู้​ที่​วิถี​กระบี่​สูงที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​ไม่พันธนาการ​ปณิธาน​กระบี่​ของ​ตัวเอง​อีกต่อไป​

ผู้​ที่​เวท​กระบี่​สูงที่สุด​ใน​โลก​มนุษย์​ปลดปล่อย​ปราณ​กระบี่​ของ​ตัวเอง​ออกมา​อย่าง​เต็มที่​

ดังนั้น​ภาพ​หยิน​หยาง​จึงถูก​ดัน​จน​แตก​ แหลก​สลาย​คาที่​ไป​ทันที​

อา​เหลียง​ไม่ได้​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ทำ​เรื่อง​ที่​ร้ายกาจ​อะไร​ เพียงแต่​มอง​ไป​ยัง​ม่าน​ฟ้า มอง​ไป​ยัง​กระบี่​บิน​ที่​เป็น​ของ​ตน​เล่ม​นั้น​

กระบี่​บิน​ที่​ท่อง​อยู่​นอก​ฟ้ามานาน​หลาย​ปี​เล่ม​นั้น​ มีชื่อว่า​อิ่น​เจ่อ​ (นักดื่ม​)

อริยะ​ปราชญ์​นับแต่​โบราณ​มาล้วน​ตาย​กัน​ไป​หมดสิ้น​ จะไม่เงียบเหงา​ได้​อย่างไร​

ทิ้ง​คนใน​ปัจจุบัน​ให้​ดื่ม​สุรา​เลิศ​รส​จน​หมดเกลี้ยง​

ครั้ง​ที่สอง​ที่​เขา​หวนกลับ​มายัง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เรื่อง​ที่​เขา​ปลาบปลื้ม​มาก​ที่สุด​ นอกจาก​เจ้าเด็ก​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​กลายเป็น​อิ่น​กวาน​ พอ​จะขยับ​เข้ามา​ใกล้​แม่หนู​หนิง​ได้​บ้าง​แล้ว​ นอกจากนี้​ก็​คือ​เฉิน​ผิง​อัน​เหมือน​บัณฑิต​มาก​ยิ่งกว่า​ตน​ เป็นที่​กล่าวขวัญ​ไป​ทั่ว​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไม่ว่า​จะผี​ขี้เหล้า​ ชายโสด​ เด็กเล็ก​และ​สตรี​ ก็​ล้วน​เห็น​เฉิน​ผิง​อันเป็น​บัณฑิต​จริงๆ​ อีก​ทั้ง​เจ้าเด็ก​นั่น​ยัง​ไม่ได้​ฟาด​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​ตั้ง​วาง​ใน​ศาล​บุ๋น​ของ​สาย​หย่า​เซิ่งให้​ตาย​จน​หมดสิ้น​เพราะ​หายนะ​เป็น​ตาย​ที่​นคร​มังกร​เฒ่าใน​ปี​นั้น​

ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​ไพศาล​ควร​กลับ​บ้านเกิด​กัน​ไป​ให้​เร็ว​หน่อย​

ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​มีความคิด​เช่นนี้​อยู่​ใน​ใจหรือไม่​ เป็น​ความแตกต่าง​ราว​ฟ้ากับ​เหว​ ปาก​พูด​ออกมา​หรือไม่​ ก็​ยิ่ง​ต่างกัน​ดุจ​ดิน​โคลน​กับ​ก้อน​เมฆ

ผู้ฝึก​ลมปราณ​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ไม่มีทาง​รู้​เลย​ว่า​ คำ​ว่า​ป้าย​สงบสุข​ใน​ร้านเหล้า​นั้น​มีน้ำหนัก​มาก​แค่​ไหน​

อา​เหลียง​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ที​

ถ้าอย่างนั้น​ก็​เข่นฆ่า​ให้​ดี​ๆ สักครั้ง​ ต่อสู้​ให้​สาแก่ใจ​ ไม่เหลือ​ความเสียดาย​ไว้​แม้เพียง​นิด​!

กระบี่​บิน​ อิ่น​เจ่อ​

วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ มีแค่​สามคำ​ ล้วน​ตาย​สิ้น​

ผู้ฝึก​กระบี่​กับ​กระบี่​ ผู้ฝึก​กระบี่​กับ​ศัตรู​

จั่ว​โย่ว​กวาดตา​มอง​รอบด้าน​ มือ​ข้าง​หนึ่ง​ใช้นิ้วโป้ง​ดัน​ด้าม​กระบี่​ ผลัก​กระบี่​ออกจาก​ฝัก​ช้าๆ “ว่า​มาเถอะ​ ฆ่าใคร​ก่อน​”

……

เซียน​ซือ​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​กลุ่ม​ก่อนหน้า​นั้น​ที่​ต้อง​เจ็บตัว​ด้วย​น้ำมือ​เฉิน​ผิง​อัน​ ก่อน​จะออก​ไป​จาก​ซาก​ปรัก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ถึงกับ​เลือก​เดิน​ไป​บน​หัว​กำแพงเมือง​ก่อน​รอบ​หนึ่ง​ อีก​ทั้ง​ดูเหมือนว่า​จะมาเพื่อ​ตามหา​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ด้วย​

เฉาจวิ้นจุ๊​ปาก​ด้วย​ความประหลาดใจ​ “เฉิน​ผิง​อัน​ ตี​คน​แล้ว​ยัง​สามารถ​ทำให้​คน​ที่​ถูก​ตี​เป็น​ฝ่าย​มาขออภัย​ก่อน​ถึงจะกล้า​กลับ​บ้านเกิด​ อิ่น​กวาน​เช่น​เจ้าช่างมีบารมี​อำนาจ​นัก​นะ​ หาก​ข้า​มาถึงที่นี่​เร็ว​หน่อย​ก็​ต้อง​คว้า​ตำแหน่ง​ขุนนาง​สัก​ตำแหน่ง​มาเป็น​ให้ได้​”

สำหรับ​คำพูด​เสียดสี​ของ​เฉาจวิ้น​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ถือสา​

เจี่ย​เสวียน​เค่อ​ชิงอันดับ​รอง​ของ​หอ​โหย​ว​เซียน​ จู้ย่วน​บรรพ​จารย์​ผู้คุม​กฎ​หญิง​ของ​ภูเขา​หง​ซิ่งซื่อ​สุ่ย​ต่าง​ก็​ฟื้น​คืนสติ​กัน​แล้ว​ แต่ละคน​จึงพา​คน​รุ่นเยาว์​ใน​สำนัก​ของ​ตัวเอง​มาหา​เฉิน​ผิง​อัน​ อีก​ทั้ง​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​พวกเขา​แล้วก็​ไม่เหมือนว่า​จะมาเพื่อ​เอาผิด​ กลับ​เหมือนว่า​จะมาขอขมา​ยอมรับผิด​เสีย​มากกว่า​

เว่ย​จิ้น​เอ่ย​ขัดคอ​ขึ้น​มาว่า​ “เจ้าไม่ได้เรื่อง​ เข้าไป​อยู่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ไม่ได้​หรอก​”

ผู้ฝึก​กระบี่​สาย​ของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ หลาย​คน​ที่​เป็น​คนต่างถิ่น​ล้วน​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​รุ่นเยาว์​ที่​หัวสมอง​ดีมาก​กัน​ทั้งนั้น​

หลิน​จวิน​ปี้​ได้​กลายเป็น​ราชครู​ของ​ราชวงศ์​เส้าหยวน​แล้ว​ เติ้ง​เหลียง​ไป​อยู่​ใต้​หล้า​ห้า​สี รับหน้าที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​นคร​บิน​ทะยาน​ นอกจากนี้​ซ่งเกา​หยวน​แห่ง​ตำหนัก​เขากวาง​ เฉากุ่น​แห่ง​หลิว​เสีย​ทวีป​ เสวียน​เซิน​แห่ง​เกราะ​ทอง​ทวีป​ ล้วน​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​อายุ​น้อย​ที่​เฉลียวฉลาด​กัน​ทั้งสิ้น​

แล้วก็​เป็น​อย่าง​ที่​เฉาจวิ้น​คาดการณ์​ไว้​จริงๆ​ เจี่ย​เสวียน​กับ​จู้ย่วน​ต่าง​ก็​มาเพื่อ​ขอขมา​ต่อ​ความ​ผิดที่​ได้​กระทำ​ก่อนหน้านี้​ แต่ละคน​ก้มหน้า​หลุบ​ตา​ลง​ต่ำ​ โดยเฉพาะ​ชายหนุ่ม​หญิงสาว​ที่​ใบหน้า​ได้รับบาดเจ็บ​ไม่เบา​คู่​นั้น​ที่​ก่อน​จะมาได้​ฟังคำสั่งสอน​ของ​ผู้อาวุโส​มาแล้ว​ เวลานี้​จึงก้มหน้า​ ไม่มีท่าทาง​ดุร้าย​แม้แต่น้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​มอง​พวกเขา​ ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ เพียงแค่​เหลือบมอง​เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​อยู่​หลาย​ที​ จากนั้น​ก็​หันหน้า​กลับมา​ จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ หันหน้า​ไป​ทาง​ขุนเขา​สายน้ำ​กว้างใหญ่​ทางทิศใต้​ที่​ราวกับว่า​มีกลิ่นอาย​แห่ง​ความยิ่งใหญ่​เก่าแก่​ขุม​หนึ่ง​พุ่งตรง​มากระแทก​สู่หัวใจ​ ทำให้​คน​ดื่มเหล้า​แล้วก็​ไม่อาจ​กลืน​ลงคอ​ไป​ได้​

เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​พลัน​เดิน​ออกมา​หนึ่ง​ก้าว​ “ข้า​มีเรื่อง​อยาก​จะพูด​กับ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​”

เจี่ย​เสวียน​หน้า​เปลี่ยนสี​ไป​เล็กน้อย​ กระตุก​ชาย​แขน​เสื้อ​ของ​เด็กหนุ่ม​เอาไว้​แล้ว​กระชาก​กลับมา​เบา​ๆ พูด​ด้วย​สีหน้า​ดุดัน​ “จิน​ซวน​ อย่า​เสียมารยาท​!”

จู้ย่วน​ก็​ใช้เสียง​ใน​ใจกล่าวเตือน​ว่า​ “จิน​ซวน​ ห้าม​ก่อเรื่อง​ที่นี่​ ระวัง​จะนำ​ภัย​มาสู่หอ​โหย​ว​เซียน​”

หาก​เพียงแค่​เพราะ​คำ​พูดเหลวไหล​ไม่รู้​เด็ก​รู้​ผู้ใหญ่​สร้าง​ความเดือดร้อน​ ทำให้​สำนัก​ถูก​อิ่น​กวาน​พาล​โมโห​ใส่ ภูเขา​หง​ซิ่งแห่ง​ซื่อ​สุ่ย​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​จะต้าน​รับ​กระบี่​ได้​สัก​กี่​ที​กัน​?

คิดไม่ถึง​ว่า​คน​ชุด​เขียว​ที่​หันหลัง​ให้​ทุกคน​จะเปิดปาก​เอ่ย​ว่า​ “ลอง​มาว่า​สิ พยายาม​ใช้หนึ่ง​ประโยค​อธิบาย​เหตุผล​ที่​เจ้าอยาก​พูด​ให้​ชัดเจน​”

ผู้ฝึก​ตน​เด็กหนุ่ม​จาก​หอ​โหย​ว​เซียน​นาม​ว่า​จิน​ซวน​สะบัดมือ​ของ​เจี่ย​เสวียน​จน​หลุด​ เขา​คารวะ​ก่อน​แล้ว​ค่อย​เงยหน้า​ขึ้น​ ยืด​เอว​ตรง​ พูด​เสียงดัง​กังวาน​ไร้​ซึ่งสีหน้า​ขลาดกลัว​ “อริยะ​กล่าวว่า​ลงโทษ​โดย​ไม่สั่งสอน​ ถ้าอย่างนั้น​การ​ลงโทษ​ก็​จะต้อง​มากขึ้น​ และ​ความผิด​ก็​มีแต่​จะเพิ่มพูน​ยิ่งขึ้น​ อิ่น​กวาน​เห็นด้วย​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​อย่าง​เข้าใจ​ พยักหน้า​ “ดีมาก​ เจ้าสามารถ​พูด​เพิ่ม​ได้​อีก​หลาย​ประโยค​”

คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​เด็กหนุ่ม​มาจาก​ ‘บท​แคว้น​รุ่งเรือง​’ ของ​อาจารย์​ตน​ เด็กหนุ่ม​คน​นี้​ใช้หลักการ​เหตุผล​แห่ง​อริยะ​ปราชญ์​ของ​เห​วิน​เซิ่งมาอธิบาย​เหตุผล​กับ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​สาย​เห​วิน​เซิ่ง ย่อม​เหมาะสม​ยิ่งกว่า​สิ่งใด​

นี่​มีความคล้ายคลึง​กับ​แผนการ​อัน​แยบยล​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ถ่ายทอด​ให้​เทพี​บุปผา​เฟิ่งเซียน​แห่ง​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​ตอน​ที่อยู่​ริม​เกาะ​ยวน​ยาง​ศาล​บุ๋น​ก่อนหน้านี้​ สอน​ให้​นาง​ไป​อธิบาย​เหตุผล​กับ​ลูกศิษย์​ของ​ซูจื่อ​

จิน​ซวน​เดิน​ไป​ข้างหน้า​อีก​หนึ่ง​ก้าว​ เอ่ย​ต่อ​อี​กว่า​ “นี่​จึงเป็นเหตุให้​การ​ลงโทษ​โดย​ไม่สั่งสอน​มิใช่การกระทำ​ที่​พึงกระทำ​ของ​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​!”

เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​รับ​ “มีเหตุผล​ เพียงแต่ว่า​เจ้าจะพิสูจน์​ได้​อย่างไร​ว่า​เหตุผล​ข้อ​นี้​เหมาะสม​จะเอา​มาใช้กับ​เรื่อง​ใน​วันนี้​จริงๆ​?”

จิน​ซวน​เอ่ย​เสียง​หนัก​ “ก่อนหน้านี้​พวกเรา​ต่าง​ก็​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ท่าน​คือ​อิ่น​กวาน​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ท่าน​พูด​โน้มน้าว​สอง​ครั้ง​ พูด​กัน​ด้วย​จิตใจ​ที่​เป็นกลาง​ หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​คนอื่น​ย่อม​ไม่มีทาง​สนใจ​ หาก​นี่​ยัง​ไม่เรียก​ว่า​ลงโทษ​โดย​ไม่สั่งสอน​ แล้ว​แบบ​ไหน​ถึงจะเรียก​ได้​?”

รับฟัง​เด็กหนุ่ม​อธิบาย​จน​จบ​ด้วย​ความอดทน​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เอ่ย​ว่า​ “ต้อง​เปลี่ยนเป็น​คำ​ว่า​ ‘ไม่ค่อย​’ ‘ย่อม​ไม่ค่อย​สนใจ​’ ถึงจะฟังดู​ระมัดระวัง​มากกว่า​ ไม่อย่างนั้น​พูด​มาถึงตรงนี้​ การอธิบาย​เหตุ​ผลดี​ๆ ก็​ง่าย​ที่จะ​เปลี่ยน​มาเป็น​การทะเลาะ​โต้เถียง​กัน​แล้ว​”

เด็กหนุ่ม​อึ้ง​ตะลึง​ คง​เป็น​เพราะ​เคย​จินตนาการ​ล่วงหน้า​ไว้​หลาย​เหตุการณ์​ ยกตัวอย่างเช่น​ถูก​เจ้าหมอ​นี่​ซ้อม​อย่าง​โหดร้าย​ไป​รอบ​หนึ่ง​ ถึงขั้น​อาจ​ตบ​ให้​ตน​ปลิว​กระเด็น​ออก​ไป​จาก​หัว​กำแพงเมือง​ แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​คาดไม่ถึง​ว่า​อิ่น​กวาน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​จะไม่ถือสา​ตน​ที่​ล่วงเกิน​ กลับกัน​ยัง​สนใจ​แค่​คำพูด​ของ​ตน​ บอ​กว่า​ควร​เปลี่ยน​คำ​เสีย​ใหม่​

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด