กระบี่จงมา 859.1 ดึงแม่น้ำ

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 859.1 ดึงแม่น้ำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจาก​นคร​เซียน​จาน​ครึ่ง​บน​ถูก​ฝ่ามือหนึ่ง​ตบ​ออก​ไป​ ลำแสง​นับ​ร้อย​นับ​พัน​เส้น​ก็​พา​กัน​สว่าง​วาบ​ในเวลาเดียวกัน​ คือ​เงาร่าง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​นคร​เซียน​จาน​ที่​พา​กัน​ทะยาน​ลม​จากไป​

ลู่​เฉิน​เหลือบมอง​ภาพ​ที่​กลิ่นอาย​เซียน​ล่องลอย​ สีสัน​พร่างพราว​เจิดจ้า​ งดงาม​ตระการตา​ภาพ​นี้​ น่าเสียดาย​ที่​เป็น​ไม้ล้ม​ลิง​ค่าง​แตก​ซ่าน​ วันหน้า​เปลี่ยว​ร้าง​จะไม่มีนคร​สูงอันดับ​หนึ่ง​อีกต่อไป​แล้ว​

รวบรวม​ทราย​กลายเป็น​ภูเขา​อย่าง​ยากลำบาก​ กระแสน้ำ​ไหล​กระจัดกระจาย​ เสน่ห์​อัน​องอาจ​ย่อม​ต้อง​ถูกลม​พัด​ฝน​ซัด​ให้​ปลิว​หาย​ไป​ได้​เช่นกัน​ แต่​วันนี้​นคร​เซียน​จาน​ถูก​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ใช้ท่วงท่า​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​มาทำลาย​ให้​หัก​ครึ่ง​แล้ว​ทุบ​จน​แหลก​เละ​

ลู่​เฉิน​เก็บ​สายตา​กลับคืน​มา เอ่ย​เตือน​ว่า​ “พวกเรา​หยุด​แค่​พอสมควร​เถอะ​ เสียเวลา​อยู่​ที่นี่​นาน​เกินไป​จะถ่วง​รั้ง​การ​ออก​กระบี่​”

เฉิน​ผิง​อัน​แบกรับ​ชื่อจริง​ของ​เผ่า​ปีศาจ​เอาไว้​ ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เดิมที​ก็​ถูก​มหา​มรรคา​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​สยบ​กำราบ​ไว้​อยู่แล้ว​ อันที่จริง​ตลอดทาง​ที่​ลู่​เฉิน​เดินทางไกล​มานี้​ก็​ไม่ได้​ผ่อนคลาย​นัก​ ต้อง​คอย​ช่วย​เฉิน​ผิง​อัน​จำแลง​มรรค​กถา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ คอย​สลาย​การ​สยบ​กำราบ​ที่​ล่องลอย​มีอยู่​ทุกหนทุกแห่ง​นั้น​ทิ้ง​ไป​ ไม่อย่างนั้น​ยันต์​เปิน​เย​ว่​สามแผ่น​ แค่​กระดิก​นิ้ว​ก็​ได้มา​ ถึงอย่างไร​มัน​ก็​ไม่เหมือนกับ​ยันต์​สามภูเขา​ ยันต์​เปิน​เย​ว่​คือ​ยันต์​ที่​ลู่​เฉิน​เป็น​ผู้สร้าง​ขึ้น​มา เจ้าลัทธิ​สามอยู่​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ไม่มีอะไร​ทำ​ อยู่​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิงรู้สึก​อุดอู้​ก็​จะทะยาน​ลม​ไป​กลาง​นภา​กา​ศ ดื่ม​สุรา​อยู่​ใน​ดวงจันทร์​ (เปิน​เย​ว่​แปล​ว่า​บิน​เข้าหา​ มุ่งเข้าหา​ดวงจันทร์​) เพียงลำพัง​

ไม่เหมือน​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ บน​ท้องฟ้า​ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​อื่นๆ​ ล้วน​มีดวงจันทร์​ดวง​เดียว​ ซึ่งเป็น​สถานที่​ต้องห้าม​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ต่อให้​ขอบเขต​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เพียง​พอที่จะ​ประคับประคอง​ให้​เดินทางไกล​ แต่​การ​บิน​ทะยาน​ไป​ยัง​ดวงจันทร์​ก็​คือ​เรื่อง​ต้องห้าม​ใหญ่​อันดับ​หนึ่ง​ พูดถึง​แค่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ เคย​มีผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​พยายาม​แหก​กฎ​ไป​เที่ยวเล่น​ที่​ซาก​ปรัก​ของ​ตำหนัก​ดวงจันทร์​บรรพกาล​ ผล​คือ​ถูกอวี๋​โต้​ว​ที่อยู่​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจับ​เบาะแส​ได้​ จึงปล่อย​กระบี่​อยู่​ไกลๆ​ ฟัน​คน​ให้​ร่วง​ลง​บน​โลก​มนุษย์​ จาก​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​หล่น​มาเป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ ผล​คือ​ได้​แต่​กลับมา​ที่​สำนัก​ ดื่มเหล้า​ดับทุกข์​อยู่​ใน​ดวงจันทร์​ของ​พื้นที่​มงคล​บ้าน​ตัวเอง​ ป่าวประกาศ​ว่า​เต๋า​เหล่า​เอ้อ​หาก​เจ้าแน่จริง​ก็​ลอง​สอด​มายุ่ง​เรื่อง​ของ​ข้า​ผู้อาวุโส​อี​กสิ​ ข้า​ผู้อาวุโส​ดื่มเหล้า​อยู่​ใน​ถิ่น​ของ​บ้าน​ตัวเอง​ เจ้าลอง​ควบคุม​ฟ้าควบคุม​ดิน​อี​กสิ​…ผล​คือ​อวี๋​โต้​ว​ปล่อย​กระบี่​ออกมา​อีกครั้ง​จริงๆ​ ฟัน​ให้​ดวงจันทร์​ของ​พื้นที่​มงคล​แยก​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​ ถึงท้ายที่สุด​เต้า​กวาน​หลาย​ร้อย​คน​ของ​ทั้ง​สำนัก​กลับ​ไม่มีใคร​สัก​คน​ที่​กล้า​ไป​ตี​กลอง​ฟ้าร้องทุกข์​ กลาย​เป็นเรื่อง​ตลกขบขัน​เรื่อง​หนึ่ง​

ในที่สุด​กาย​ธรรม​นักพรต​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หยุด​มือ​ เหลือบตา​มอง​ร่องรอย​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​หนี​กระเจิง​กัน​ไป​กลางอากาศ​ “ดูเหมือนว่า​จะไม่มีเงาของ​รอง​เจ้านคร​อิ๋น​ลู่​ ใน​นคร​อีก​ครึ่งหนึ่ง​ก็​สัมผัส​ไม่ได้​ถึงกลิ่นอาย​ของ​ปีศาจ​ตน​นี้​ เจ้าหา​ตัว​เขา​เจอ​หรือไม่​?”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “คาด​ว่า​คง​ใช้เวท​ลับ​บางอย่าง​หลบ​ซ่อนตัว​ไป​แล้ว​ แสวงหา​ความร่ำรวย​ท่ามกลาง​ความเสี่ยง​นี่​นะ​ รากฐาน​มหา​มรรคา​ของ​นคร​เซียน​จาน​หยั่งราก​ลึก​อยู่​ที่นี่​นาน​แล้ว​ ขอ​แค่​เจ้าไม่ทำลาย​ปิ่น​นักพรต​ชิ้น​นั้น​ทิ้ง​ อิ๋น​ลู่​เซียน​เห​ริน​ที่​อีก​เดี๋ยว​ก็​จะฉวยโอกาส​นี้​เลื่อนขั้น​เป็น​เจ้านคร​ ก็​ยัง​มีโอกาส​ที่จะ​กลับมา​ลุก​ผงาด​ใหม่​อีกครั้ง​ ด้วย​คุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ของ​มัน​ ช่วงชิง​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​มาก็​ไม่ถือว่า​เป็น​ความเพ้อฝัน​ แน่นอน​ว่า​เป็น​แค่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​มีเพียง​โครง​ว่างเปล่า​เท่านั้น​ เมื่อ​เทียบ​กับ​อาจารย์​ของ​มัน​แล้วก็​ไม่ได้ดี​ไป​กว่า​กัน​สัก​เท่าไร​ ขายหน้า​ปีศาจ​ใหญ่​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ยิ่งนัก​ มิน่าเล่า​เสวียน​ผู่​ถึงไม่เคย​กล้า​ไป​โผล่​หน้าที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อีก​เดี๋ยว​พวกเรา​สอง​คน​ไป​ใน​นคร​อีก​ครึ่ง​นั้น​ ผิน​เต้า​พอ​จะเป็น​วิชา​คำนวณ​อยู่​บ้าง​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​หา​เบาะแส​อะไร​เจอ​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ ลู่​เฉิน​เผย​สีหน้า​เคร่งเครียด​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ “ขอ​ผิน​เต้า​ปากมาก​พูด​สัก​ประโยค​ ห้าม​คิด​ทำลาย​ปิ่น​ชิ้น​นั้น​เด็ดขาด​เชียว​ อดีต​เจ้าของ​ของ​วัตถุ​ชิ้น​นี้​ มีคุณูปการ​ใหญ่หลวง​ต่อ​โลก​มนุษย์​ของ​พวกเรา​ ตาม​คำกล่าว​ใน​ปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​ ถือเป็น​ผู้​ที่​บน​มรรคา​มีทักษะ​ โลก​มนุษย์​มีตบะ​ฌาน​ มีครบถ้วน​ทั้ง​ทักษะ​และ​ตบะ​ฌาน​ ดังนั้น​ทาง​ที่สุด​ที่สุด​พวกเรา​ไม่ควร​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​หยุด​แต่​เพียงเท่านี้​ ไม่เสียเวลา​อยู่​ที่นี่​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​เอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “เรื่อง​ที่​ใช้สอง​หมัด​ทุบ​ทำลาย​นคร​เซียน​จาน​ ให้​ผู้ฝึก​ตน​ของ​นคร​เซียน​จาน​รื้อถอน​ศาล​บรรพ​จารย์​กันเอง​ ใน​สายตา​ของ​ผิน​เต้า​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​วีรกรรม​ที่​ยิ่งใหญ่​มากกว่า​”

เก็บ​กาย​ธรรม​นักพรต​สูงแปด​จั้งนั้น​ลง​ไป​ ร่าง​สูงเท่า​คน​ปกติ​ เฉิน​ผิง​อัน​เปลี่ยน​มาอยู่​ใน​ชุด​คลุม​สีเขียว​สวม​กวาน​เต๋า​อีกครั้ง​ เงยหน้า​มอง​ ‘นคร​เซียน​จาน​’ ที่​ไม่ขัดตา​มาก​ถึงเพียงนั้น​แล้ว​หลาย​ที​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ก็​แค่​รู้​เหตุผล​ว่า​ทำไม​มัน​ถึงเป็น​เช่นนี้​ก็​เท่านั้น​”

เหตุผล​นั้น​เรียบง่าย​ยิ่ง​ ก็​เหมือน​ชาวบ้าน​ฐานะ​ธรรมดา​แต่กลับ​ชอบ​ทำบุญทำทาน​ ย่อม​ยาก​ที่จะ​เข้าใจ​ว่า​ตระกูล​เศรษฐี​ร่ำรวย​ที่​ได้​ครอบครอง​ภูเขา​เงิน​ภูเขา​ทอง​ เหตุใด​ถึงได้​ขี้เหนียว​กว่า​ตน​ เหตุใด​ถึงได้​ตัดใจ​ทำบุญทำทาน​ได้​ยาก​นัก​ อันที่จริง​ก็​แค่​มอง​เส้นสาย​เส้น​หนึ่ง​ไม่ออก​ เดิมที​เงินทอง​บางส่วน​ก็​เข้า​บ้าน​มาจาก​ประตู​ด้าน​ข้าง​ แล้​วจะ​เพ้อฝัน​ให้​เงินทอง​พวก​นี้​ออกจาก​ประตู​หลัก​ด้านหน้า​ได้​อย่างไร​? ก็​เหมือน​คนธรรมดา​คน​หนึ่ง​ที่​ยาก​จะทำความเข้าใจ​หลักการ​ถามถึงแค่​การหว่าน​ไถ ไม่ถามถึงผล​เก็บเกี่ยว​ ผู้ฝึก​ตนเอง​ก็​ยาก​จะทำ​เรื่อง​ที่​ถามแค่​สาเหตุ​ไม่ถามถึงผลลัพธ์​ได้​อย่าง​แท้จริง​เช่นกัน​

จิต​ของ​ลู่​เฉิน​ขยับ​ไหว​ สอง​นิ้ว​ประกบ​กัน​ปาด​ลงมา​เป็น​เส้นตรง​ วาด​เส้นตรง​เส้น​หนึ่ง​ จากนั้น​จึงวาด​จักจั่น​ตัว​หนึ่ง​อยู่​ข้าง​เส้นตรง​นี้ คล้าย​จักจั่น​เกาะ​ต้นไม้​

จักจั่น​ตัว​หนึ่ง​บน​กระดาษ​คล้าย​จะส่งเสียงร้อง​ว่า​ทราบ​แล้ว​ ทราบ​แล้ว​ไม่หยุด​อยู่​ท่ามกลาง​สายลม​ฤดูใบไม้ร่วง​…

ลู่​เฉินยก​สอง​มือขึ้น​อีกครั้ง​ ใช้นิ้ว​วาด​กรอบ​ภาพ​ครอบ​ภาพ​นี้​เอาไว้​ แล้ว​เก็บ​ม้วน​ภาพ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ “ไม่เสียแรง​ที่​เดินทาง​มาครั้งนี้​”

ลู่​เฉิน​ยื่น​ฝ่ามือ​มาบัง​ไว้​ตรง​หน้าผาก​ กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ ถามว่า​ “พวก​หนิง​เหยา​ยัง​ตามมา​ไม่ทัน​ จะเอา​อย่างไร​? จะไปหา​อิ๋น​ลู่​แล้ว​พูดคุย​กัน​สัก​สอง​สามประโยค​ไหม​?”

ถึงอย่างไร​สถานที่​แห่ง​นี้​ก็​เป็น​ภาพมายา​ภูเขา​แห่ง​สุดท้าย​แล้ว​ ไม่มีขีดจำกัด​เวลา​ที่​หยุด​อยู่​ที่นี่​ได้​แค่​หนึ่ง​ก้านธูป​เท่านั้น​ รอ​ให้​พวก​หนิง​เหยา​สามคน​มาเจอกัน​ที่นี่​ ลู่​เฉิน​ก็​จะมอบ​ยันต์​สามภูเขา​ส่วน​สุดท้าย​ให้​พวกเขา​ ภาพมายา​ภูเขา​สามแห่ง​แบ่ง​ออก​เป็น​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​ ลำคลอง​อู๋ติ้ง​ซึ่งเป็น​น่านน้ำ​ใน​อาณาเขต​ของ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ ภูเขา​ทัว​เย​ว่​

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​รีบร้อน​อยาก​จะเดินทาง​ไป​เยือน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ถือสา​ที่จะ​รอ​อยู่​ที่​เดิม​ เฝ้าตอ​รอ​กระต่าย​อยู่​ใน​นคร​เซียน​จาน​แห่ง​นี้​จริงๆ​

หาก​บวก​กับ​หาว​ซู่สิงกวาน​ นัก​เดินทางไกล​อย่าง​กลุ่ม​ของ​พวก​ตน​นี้​ก็​คือ​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สามคน​ รวมไปถึง​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​คน​หนึ่ง​ที่​พลัง​การต่อสู้​สามารถ​มอง​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ได้​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​พลัง​การ​สู้รบ​ขั้นสูงสุด​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​ส่วนใหญ่​จะไป​อยู่​ใน​สนามรบ​ของ​อา​เหลียง​กับ​จั่ว​โย่ว​หมด​แล้ว​

ใคร​จะมาเป็น​กองหนุน​? หาก​ไม่กล้า​มา เฉิน​ผิง​อัน​ก็​อยาก​จะเอา​ความกล้า​ให้​พวก​ปีศาจ​ใหญ่​บน​บัลลังก์​เก่า​ใหม่​พวก​นั้น​ยืม​จริงๆ​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “เซียน​เห​ริน​อย่าง​อิ๋น​ลู่​นี้​ ความสามารถ​ใน​การ​เก็บ​ทรัพย์สมบัติ​และ​อำพราง​ร่องรอย​ช่างสุดยอด​จริงๆ​ นคร​เซียน​จาน​ครึ่งหนึ่ง​ที่อยู่​ตรงหน้า​แห่ง​นี้​กลับ​ไม่เหลือ​ของมีค่า​อะไร​ไว้​ให้​เจ้าเลย​”

อันที่จริง​นี่​ก็​คือ​คน​ฉลาด​เสียท่า​เพราะ​ความ​ฉลาด​ของ​ตัวเอง​ ไม่ฉลาด​เลย​จริงๆ​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ตอนนี้​ทั้ง​ใน​และ​นอก​นคร​เซียน​จาน​ คน​ที่​ต้องการ​ชีวิต​ของ​อิ๋น​ลู่​ ไม่ได้​มีแค่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​คนเดียว​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เสียงทุ้ม​หนัก​ “พื้นที่​มงคล​แห่ง​นั้น​ หาก​นำ​ไป​ได้​ก็​นำ​ไป​ นำ​ไป​ไม่ได้​ ต่อให้​ขุด​ดิน​ลึก​ลง​ไป​สามฉื่อ​ ต่อให้​ข้า​ต้อง​ทุบ​นคร​เซียน​จาน​ให้​แหลก​เละ​ก็​ต้องหา​ตัว​มัน​ออกมา​ให้ได้​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ข้า​?”

ยังคง​ไม่ใช่พวกเรา​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ต่อให้​เป็นการ​แบ่ง​ผลกำไร​จาก​การ​ร่วมมือ​กัน​ทำการค้า​ ตลอดทาง​มานี้​เจ้าลัทธิ​ลู่​ไม่มีคุณ​ความชอบ​ก็​ต้อง​มีคุณ​ความ​เหนื่อยยาก​ หาก​มีแต่​จ่าย​ไม่มีรับ​ ขนาด​ข้า​ก็​ยัง​ทน​มอง​ไม่ไหว​แล้ว​จริงๆ​”

ดวงตา​ลู่​เฉิน​เป็นประกาย​วาบ​ “หาก​ได้มา​จริงๆ​ ข้า​จะไม่นำ​ไป​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ มอบให้​ศาล​บุ๋น​ก็แล้วกัน​ แลก​มาด้วย​โอกาส​ที่จะ​ได้​แวะเวียน​มาเยี่ยมเยือน​กัน​สามครั้ง​”

นคร​เซียน​จาน​ครึ่งหนึ่ง​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​หลาย​ร้อย​ลี้​ ประหนึ่ง​ศพ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​นอนตาย​อยู่​บน​พื้น​

ทว่า​เพียง​ชั่วพริบตา​นั้น​ นคร​สูงที่​ถูก​ทำลาย​คล้าย​ราก​ภูเขา​คว่ำ​อยู่​บน​พื้น​กลับ​สามารถ​ตรง​ตั้ง​ตระหง่าน​ชี้ขึ้น​ฟ้าได้​อีกครั้ง​ พยายาม​จะพุ่ง​กลับ​มายัง​ที่​เดิม​ ประกบ​ติดกับ​นคร​ครึ่ง​ล่าง​ที่​เหลือ​

เพียงแต่​ถูก​เฉิน​ผิง​อัน​ยก​เท้า​ข้าง​หนึ่ง​กระทืบ​ลง​ไป​ พริบตาเดียว​ก็​ร่วง​ลงพื้น​เหมือนเดิม​ ใช้มรรค​กถา​ของ​ขอบเขต​สิบ​สี่สยบ​วิชา​การชักนำ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​ปิ่น​นักพรต​ชิ้น​นั้น​เอาไว้​

ขณะเดียวกัน​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​แต่งกาย​เป็น​นักพรต​ก็​ยก​มือขึ้น​ วาด​ยันต์​บท​หนึ่ง​เหนือ​นคร​เซียน​จาน​ที่อยู่​ตรงหน้า​ อันที่จริง​ก็​แค่​เขียน​อักษร​คำ​ว่า​ ‘ภูเขา​’ ลง​ไป​คำ​เดียว​เท่านั้น​

ส่วน​เฉิน​ผิง​อัน​อีก​คน​ที่​สวม​ชุด​สีเขียว​ก็​โคจร​ตราประทับ​แห่ง​ชะตาชีวิต​อักษร​ภูเขา​ นิ้ว​วาด​ข​ระ​กลางอากาศ​ เขียน​ยันต์​น้ำ​ตามมา​ติดๆ​ ภูเขา​สายน้ำ​อิงแอบ​แนบชิด​ ถึงอย่างไร​ก็​ย่อม​มีการ​จากลา​

เฉิน​ผิง​อัน​ชุด​เขียว​ไป​เยือน​ห้อง​หลอม​โอสถ​ที่​เสวียน​ผู่​สร้าง​ไว้​บน​ยอดเขา​ ใช้วิชา​อภินิหาร​จักรวาล​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ไม่เพียงแต่​เตา​หลอม​สามเตา​ แม้แต่​ขวด​กระปุก​หลาย​ร้อย​ใบ​ที่​วาง​ไว้​บน​ชั้น​วาง​ก็​ล้วน​เก็บ​เข้าไป​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ จากนั้น​จึงเก็บ​ชั้น​ไม้ที่​ใช้วาง​โอสถ​มา พบ​ว่า​วัสดุ​ไม้นั้น​ดีเยี่ยม​ คือ​ไม้ตระกูล​เซียน​ไม่ทราบ​ชื่อ​ชนิด​หนึ่ง​ รื้อ​เสาคาน​ของ​ห้อง​ที่​สร้าง​จาก​ไม้ท่อน​ใหญ่​เก็บ​มาด้วยกัน​ สุดท้าย​สังเกตเห็น​ว่า​อิฐ​ที่​ปู​เต็ม​พื้น​แวววาว​เหมือน​ทองคำ​ ดูเหมือน​จะมีข้อ​พิถีพิถัน​อยู่​บ้าง​ จึงทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​งัด​อิฐ​ก้อน​หนึ่ง​ออกมา​ พบ​ว่า​ด้าน​ใต้​อิฐ​ทุก​ก้อน​ล้วน​แกะสลัก​ปี​และ​ชื่อ​ของ​ผู้ควบคุม​การ​สร้าง​และ​ชื่อ​ของ​ช่างที่​สร้าง​ จึงสะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ เก็บ​ก้อนอิฐ​สีทอง​ที่​มีสอง​พัน​กว่า​ก้อน​มาไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ทั้งหมด​

สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​มอง​ห้อง​ใหญ่​ที่​ ‘ทั้ง​บ้าน​มีแต่​ผนัง​สี่ด้าน​’ ว่างเปล่า​ไร้​สิ่งใด​ เดิมที​คิด​ว่า​ทำดี​ก็​ควร​ทำให้​ถึงที่สุด​ เพียงแต่​พอ​มาคิด​อีกที​กลับ​รู้สึก​ว่า​เป็น​คน​ควร​ไว้หน้า​คนอื่น​บ้าง​

เฉิน​ผิง​อัน​ที่​สวม​ชุด​เขียว​สะพาย​กระบี่​กลับมา​ที่​ศาล​บรรพ​จารย์​อีกครั้ง​ อันที่จริง​สามารถ​เรียก​ว่า​เป็น​ซาก​ปรัก​แห่ง​หนึ่ง​ได้​แล้ว​

บรรพ​จารย์​เปิด​ภูเขา​ของ​นคร​เซียน​จาน​เหมือน​จะยัง​ไม่ได้​ตั้งฉายา​ให้​กับ​ตัวเอง​ มีแค่​ชื่อ​เดียว​ กุย​ห​ลิง​เซียง​ นาง​ก็​คือ​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ที่อยู่​ใน​ภาพเหมือน​ ถือ​เป็นเจ้าของ​คน​ที่สอง​ของ​ปิ่น​นักพรต​บรรพกาล​ชิ้น​นั้น​

ส่วน​บรรพ​จารย์ไท่​ซ่างของ​เซียน​เห​ริน​อิ๋น​ลู่​ มีฉายา​ว่า​ฉงโอว​ ก็​คือ​ผี​หญิง​ชรา​ที่​พอ​เห็นท่า​ไม่ดี​ก็​รีบ​ตัดสินใจ​อย่าง​เฉียบขาด​ นาง​ตัดใจ​ทิ้ง​แส้ปัดฝุ่น​ที่​เป็น​สมบัติ​หนัก​ซึ่งมีระดับ​ขั้นสูง​มาก​ชิ้น​นั้น​ทิ้ง​ไป​ ถึงสลาย​น้ำมัน​หอม​สีทอง​ทั้งหมด​ทิ้ง​ไป​ได้​ จึงไม่ถึงกับ​ปู​ทาง​เส้นใหญ่​สีทอง​ที่​ทิ่มแทง​นัยน์ตา​อย่าง​ถึงที่สุด​สาย​นั้น​ไว้​ระหว่าง​เส้นทาง​กลับ​โลก​มืด​ของ​นาง​ อันที่จริง​ตอนนั้น​เพื่อ​รักษา​ชีวิต​รอด​ นาง​ยัง​เล่นงาน​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​ตัวเอง​ไป​ด้วย​ ก็​คือ​ผู้เฒ่า​ร่าง​สูงใหญ่​กำยำ​ที่​มีฉายา​ว่า​อู​ถีผู้​นั้น​ เพื่อ​รับประกัน​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่จะไม่สามารถ​เล่นงาน​ตน​ได้​อย่าง​เต็มกำลัง​ ตอนที่​นาง​กำ​ม้วน​ภาพ​อยู่​ใน​ความว่างเปล่า​เวิ้งว้าง​ ยัง​สกัด​ขวาง​การ​ร่าย​เวท​คาถา​บท​หนึ่ง​ของ​ลูกศิษย์​อู​ถี เป็นเหตุให้​ฝ่าย​หลัง​ไม่อาจ​เลียนแบบ​นาง​ได้​

เวลานี้​อู​ถียืน​อยู่​ตรง​ริม​อาณาเขต​ของ​ซาก​ปรัก​ศาล​บรรพ​จารย์​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าสวม​ชุด​คลุม​สีดำ​ หนวดเครา​แข็ง​เหมือน​ง้าว​ ใน​มือ​กำ​แกน​ภาพ​สอง​ชิ้น​ แน่นอน​ว่า​ภาพเหมือน​ได้​ถูก​ทำลาย​จน​สิ้นซาก​ไป​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​หาก​จุดอ่อน​นี้​ตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​คน​ชุด​เขียว​ อู​ถีก็​ไม่คิด​จริงๆ​ ว่า​ตัวเอง​จะเจอ​เรื่อง​ดี​อะไร​ได้​

ใน​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​อีก​ฝ่าย​สามารถ​โยน​มัน​ทิ้ง​มาไว้​ที่นี่​ได้​ง่ายๆ​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​ต้อง​มีความมั่นใจ​ว่า​จะเก็บ​กลับ​ไป​ได้​ง่ายๆ​ เช่นกัน​

การกระทำ​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​เปลี่ยว​ร้าง​ ใน​หลาย​ๆ ครั้ง​มักจะ​ตรงไปตรงมา​เช่นนี้​เสมอ​ ขอ​แค่​คิด​เรื่อง​หนึ่ง​จน​กระจ่าง​แล้วก็​มักจะ​ไม่มีการ​อ้อมค้อม​ใดๆ​

ดังนั้น​อู​ถีจึงไม่เลอะเลือน​แม้แต่น้อย​ ภายใน​เวลา​ไม่ถึงครึ่ง​ก้านธูป​ก็​สังหาร​เสวียน​ผู่​ลูกศิษย์​ที่รัก​ซึ่งรับ​นคร​เซียน​จาน​ไป​ดูแล​ต่อ​จาก​ตน​ แล้วก็​จริง​เสีย​ด้วย​ เจ้าเสวียน​ผู่​ผู้​นี้​ นับแต่​เล็ก​มาก็​ไม่เก่งกาจ​ด้าน​การต่อสู้​

อู​ถียัง​สามารถ​หยุด​เวลา​อยู่​ใน​โลก​สว่าง​ได้​อีก​ช่วง​ระยะเวลา​หนึ่ง​ หลังจาก​จัดการ​เสวียน​ผู่​แล้ว​ก็ได้​สลาย​จิตสำนึก​แต่ละ​ส่วน​ไป​ เมื่อ​เทียบ​กับ​คน​ชุด​เขียว​ที่​ไม่รู้​ความเป็นมา​แล้ว​ เขา​ยัง​อยาก​หา​ตัว​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​เสวียน​ผู่​ให้​เจอ​ยิ่งกว่า​เสีย​อีก​ เพราะ​อีก​ฝ่าย​ก็​คือ​ตัวเลือก​เจ้านคร​เซียน​จาน​คน​ถัดไป​ เรื่อง​ของ​การอัญเชิญ​ตัว​ มีเพียง​เจ้าสำนัก​แต่ละ​ยุค​แต่ละ​สมัย​เท่านั้น​ที่จะ​ถ่ายทอด​แก่​ผู้​ที่​สืบทอด​ตำแหน่ง​กับ​ปาก​ตัวเอง​ เรื่อง​นี้​เป็นความลับ​มิอาจ​แพร่งพราย​ ความมืด​และ​ความสว่าง​มีเส้นทาง​ที่​แตกต่าง​ ไป​กลับ​โลก​คน​เป็น​กับ​โลก​คนตาย​ มีกฎเกณฑ์​มากมาย​

แม้จะบอ​กว่า​ม้วน​ภาพ​ถูก​ทำลาย​ไป​แล้ว​ แต่​เพื่อ​ป้องกัน​ไว้​ก่อน​ อู​ถีจึงคิด​ว่า​จะจัดการ​ลูกศิษย์​ของ​ลูกศิษย์​คน​นั้น​ ตัด​ราก​ถอน​โคน​ให้​สิ้นซาก​เสีย​ก่อน​ ระบบ​สืบทอด​ของ​นคร​เซียน​จาน​ ควัน​ธูป​จะสืบทอด​ต่อกัน​ไป​อย่างไร​ ไหน​เลย​จะสำคัญ​ล้ำค่า​เท่า​ชีวิต​บน​มหา​มรรคา​ของ​ตัวเอง​

เมื่อครู่นี้​หนึ่ง​ใน​ร่าง​แยก​ของ​อู​ถีได้​จับตัว​ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​คน​หนึ่ง​ของ​นคร​เซียน​จาน​มา หลังจาก​ถามถึงสถานะ​และ​ฉายา​ของ​อิ๋น​ลู่​แล้วก็​หักคอ​ศิษย์​หลาน​ที่​เป็น​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​ทิ้ง​ กิน​โอสถ​ปีศาจ​ของ​อีก​ฝ่าย​ เจ้าพวก​คน​ที่​ต่อให้​ตาย​เป็น​ร้อย​รอบ​ก็​ยัง​มิอาจ​ไถ่ถอน​ความ​ผิดพวก​นี้​ สร้าง​ความเดือดร้อน​ให้​กิจการ​ของ​บรรพบุรุษ​ต้อง​พัง​ภินท์​ลง​ใน​วัน​เดียว​ ตาย​ทีเดียว​แล้ว​สิ้นเรื่อง​กัน​ไป​ก็​ถือว่า​โชค​ดีมาก​แล้ว​ อู​ถีย่อม​มีวิธีการ​มากมาย​ที่จะ​ทำให้​พวก​ผู้ฝึก​ตน​อยู่​ไม่สู้ตาย​

ปัญหา​นั้น​อยู่​ที่​ทุกวันนี้​นคร​เซียน​จาน​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​อย่าง​มหาศาล​ อู​ถีถึงกับ​มิอาจ​หา​ที่​ซ่อนตัว​ลูกศิษย์​ของ​ลูกศิษย์​ผู้​นั้น​ออกมา​ได้​ในทันที​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “กำลัง​ตามหา​อิ๋น​ลู่​ จะได้​ไม่ต้อง​ทิ้ง​ภัยพิบัติ​ไว้​เบื้องหลัง​? หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​เจ้านคร​ในอนาคต​วาดภาพ​ขึ้น​มาใหม่​แล้ว​จุด​ธูป​อัญเชิญ​ น้อม​รับ​บรรพ​จารย์​มายัง​โลก​สว่าง​อีกครั้ง​หรือ​?”

อู​ถีเหลือบมอง​กระบี่​ยาว​ที่​ยัง​ไม่ออกจาก​ฝัก​ หัวเราะ​หยัน​เอ่ย​ว่า​ “ศิษย์​หลาน​เศษสวะ​ที่​ดีแต่​จะทำตัว​กำเริบเสิบสาน​อยู่​บน​หน้าท้อง​สตรี​ ข้า​จะต้อง​กังวล​อะไร​ กังวล​ก็​แต่ว่า​ถึงเวลา​นั้น​เจ้าจะรอ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ต่างหาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “เจ้าคิด​มากเกินไป​แล้ว​ ข้า​จะออกจาก​นคร​เซียน​จาน​แล้ว​”

“นคร​เซียน​จาน​? ตอนนี้​จะยังมี​นคร​เซียน​จาน​กะ​ผายลม​อะไร​อีก​”

อู​ถีหลุด​หัวเราะ​พรืด​ “ถึงอย่างไร​ก็​ไม่เกี่ยว​ผายลม​อะไร​กับ​ข้า​แล้ว​”

ยันต์​ภูเขา​แผ่น​หนึ่ง​แปะ​ลง​บน​นคร​ครึ่งหนึ่ง​ เป็นเหตุให้​นคร​สูงลดลง​ต่ำ​อย่าง​ต่อเนื่อง​จน​ไป​เชื่อมต่อ​กับ​ราก​ภูเขา​ และ​สถานที่​แห่ง​นี้​ หลังจาก​ร่าย​ยันต์​น้ำ​แผ่น​หนึ่ง​ไป​แล้วก็​มีลาง​ว่า​จะมีหิมะ​ใหญ่​ตก​ลงมา​ เชื่อ​ว่า​อีกไม่นาน​คง​ต้อง​เผชิญ​กับ​หิมะ​ใหญ่​เท่า​ขน​ห่าน​ หาก​ปิ่น​นักพรต​ชิ้น​นั้น​ถูก​โชคชะตา​ขุนเขา​สายน้ำ​อาบ​ย้อม​มากเกินไป​ ผู้ฝึก​ตน​รุ่นหลัง​คิด​อยาก​จะฝืน​ดึง​ยันต์​ภูเขา​สายน้ำ​สอง​แผ่น​ที่​ทั้ง​รูปลักษณ์​และ​จิตวิญญาณ​วิญญาณ​รวม​เป็นหนึ่ง​ออกมา​ ก็​เหมือน​การ​ถลก​หนัง​ดึง​เส้นเอ็น​ของ​คนธรรมดา​ การ​แบ่งแยก​จิตวิญญาณ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ เว้น​เสีย​จากว่า​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่ที่​เชี่ยวชาญ​มรรค​กถา​สาย​ยันต์​ซึ่งอยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​กำลังจะ​จากไป​จริงๆ​ จากนั้น​ก็​มีผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ที่​ขอบเขต​เท่ากัน​อีก​คน​หนึ่ง​เดินทาง​มาถึง ยอม​สละ​ตบะ​ของ​ตัวเอง​อย่าง​ไม่เสียดาย​ ช่วย​สาว​เส้น​ไหม​ให้​กับ​นคร​เซียน​จาน​ ถึงจะมีความเป็นไปได้​ที่จะ​กลับคืน​มาสู่สภาพเดิม​ได้​คร่าวๆ​ แต่​นั่น​ต้อง​เป็น​ความฝัน​ของ​คนปัญญาอ่อน​แน่นอน​ หรือว่า​บน​โลก​ใน​ทุกวันนี้​มีผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่มากมาย​เพียงนั้น​?

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าหันกลับ​ไป​มอง​ตรงจุด​ที่​เคย​แขวน​ภาพเหมือน​สตรี​ที่​เป็น​บรรพ​จารย์​ผู้บุกเบิก​ภูเขา​ใน​อดีต​แล้ว​พลัน​รู้สึก​เสียใจ​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​

เขา​ไม่ได้​มีความทรงจำ​ที่​ดี​อะไร​ต่อ​อาจารย์​อย่าง​ฉงโอว​ นาง​ทำ​เรื่อง​แบบ​นั้น​ออกมา​ได้​ อู​ถีไม่เพียงแต่​ไม่รู้สึก​ประหลาดใจ​ ถึงขั้น​ที่​ไม่รู้สึก​โมโห​อะไร​ด้วยซ้ำ​ มีเพียง​ความรู้สึก​ที่​มีต่อ​บรรพ​จารย์​หญิง​กุย​ห​ลิง​เซียง​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป​ ต่อให้​เป็น​ปีศาจ​ใหญ่​ผู้​มีจิตใจ​เห่อเหิม​ทะเยอทะยาน​อย่าง​อู​ถี ต่อให้​ตอน​มีชีวิต​อยู่​จะทำ​เรื่อง​ชั่วช้า​สามานย์​มาจน​ชิน​ แต่​พอ​คิด​ถึงว่า​กิจการ​ของ​บรรพ​จารย์​ท่าน​นี้​ต้อง​มาล้ม​ครืน​ไม่เป็นท่า​ด้วย​น้ำมือ​ของ​เศษสวะ​อย่าง​พวกเขา​ เขา​ก็​ยัง​อด​เสียใจ​หม่นหมอง​ไม่ได้​ ชั่วชีวิต​นี้​ของ​อู​ถี นอกจาก​บรรพ​จารย์​กุย​ห​ลิง​เซียง​แล้วก็​ไม่เคย​เจอ​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ไม่ชิงดีชิงเด่น​กับ​ใคร​เป็น​คน​ที่สอง​อีก​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด