กระบี่จงมา 873.3 ใต้ฟ้าบนดิน

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 873.3 ใต้ฟ้าบนดิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ครั้งนั้น​ติดตาม​หอ​บิน​ทะยาน​ ‘บิน​ทะยาน​’ ไป​ คน​ที่​ได้​รับประโยชน์​สูงสุด​คือ​สวี่​หุน​แห่ง​นคร​ลม​เย็น​ที่​สวม​เสื้อเกราะ​โหว​จื่อ​ แม้จะแค่​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ขั้น​เดียว​ แต่กลับ​ได้​เลื่อน​จาก​ก่อกำเนิด​เป็น​หยก​ดิบ​

ทว่า​คน​ที่​น่าเสียดาย​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​หลิว​ป้า​เฉียว​ที่​เดิน​ขึ้น​สู่ทะเล​เมฆ ได้​มองเห็น​ประตู​ใหญ่​พร้อมกับ​สวี่​หุน​

อันที่จริง​ขาด​อีก​นิดเดียว​เขา​ก็​จะมีโอกาส​ได้​เลื่อน​ขอบเขต​ติดต่อกัน​สอง​ขั้น​ สร้าง​วีรกรรม​ยิ่งใหญ่​ ทว่า​ทั้งๆ ที่​หลิว​ป้า​เฉียว​ได้​ก้าว​ออก​ไป​ก้าว​ใหญ่​แล้ว​ ไม่รู้​ทำไม​ถึงได้​ถอย​กลับมา​ก้าว​เล็ก​ๆ อีก​หนึ่ง​ก้าว​

หลิว​ป้า​เฉียว​สอด​สอง​มือรอง​ไว้​ใต้​ท้ายทอย​ ทอดถอนใจ​อย่า​งอด​ไม่อยู่​

หลังจากที่​ศิษย์​พี่​เดินทางไกล​ไป​ยัง​เปลี่ยว​ร้าง​ สวน​ลม​ฟ้าก็​มีผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​อย่าง​เขา​แค่​คนเดียว​แล้ว​

หลิว​ป้า​เฉียว​ไม่ถนัด​ที่จะ​จัดการ​ดูแล​กิจธุระ​ทั้งหลาย​ งาน​ทุกอย่าง​จึงยก​ให้​พวก​ลูกศิษย์​และ​ศิษย์​หลาน​ไป​ดูแล​ ซ่งเต้า​กวง​ ไจ้เสียง​ สิงโห​ย่วเหิง​ หนันกง​ซิงเยี่ยน​ ผู้ฝึก​กระบี่​สี่คน​นี้​ต่าง​ก็​อายุ​น้อย​มาก​ โอสถ​ทอง​สอง​คน​อายุ​ไม่ถึงร้อย​ปี​ด้วยซ้ำ​ อีก​คน​หนึ่ง​เป็น​ประตู​มังกร​ และ​อีก​คน​ที่​เป็น​ชมมหาสมุทร​ก็​ย่อม​อายุ​น้อย​ยิ่งกว่า​

หาก​ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ ตัวเลือก​เจ้าสำนัก​ของ​สวน​ลม​ฟ้าคน​ถัดไป​ก็​จะต้อง​เลือก​มาจาก​คน​รุ่นเยาว์​สี่คน​นี้​

ส่วน​หลิว​ป้า​เฉียว​ที่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ เขา​ทั้ง​ไร้​ใจแล้วก็​ไร้​กำลัง​

บางครั้ง​หลิว​ป้า​เฉียว​ก็​นึก​อยาก​จะเอา​ขอบเขต​ของ​ตน​ยก​ให้​กับ​เจ้าเด็ก​สิงโห​ย่วเหิง​นั่น​นัก​

ขอ​แค่​ทำได้​ หลิว​ป้า​เฉียว​จะทำ​โดย​ไม่ขมวดคิ้ว​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​

แน่นอน​ว่า​อย่า​เห็น​ว่า​เวลา​ปกติ​สิงโห​ย่วเหิง​เอ้อระเหย​ลอยชาย​ แท้จริง​แล้ว​เขา​เอง​ก็​เหมือนกับ​ศิษย์​พี่​ที่​เย่อหยิ่ง​โอหัง​อย่าง​มาก​ ไม่มีทาง​รับ​ไว้​แน่นอน​

ส่วน​พวก​ตาแก่​ทั้งหลาย​ของ​สวน​ลม​ฟ้าที่​นิสัย​ดุร้าย​ พูดจา​ไม่น่าฟัง​ กลับ​ไม่มีความคิดเห็น​กับ​เรื่อง​นี้​ แค่​ตั้งใจ​ฝึก​กระบี่​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ ช่วงชิง​อำนาจ​ไขว่คว้า​ผลประโยชน์​? นับตั้งแต่​ที่​สวน​ลม​ฟ้าก่อตั้ง​มาก็​ไม่มีคำกล่าว​เช่นนี้​มาก่อน​

หาก​พวก​ผู้เฒ่า​เจอ​กับ​หลิว​ป้า​เฉียว​โดยบังเอิญ​ก็​จะด่า​อย่าง​ไม่ไว้หน้า​ ไม่เลอะเลือน​เลย​แม้แต่น้อย​ หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ แม้แต่​ห​ลี่​ถวน​จิ่งอดีต​เจ้าสำนัก​ก็​ยัง​เดือดร้อน​โดน​ด่า​ไป​ด้วย​

ก็​แค่​ว่า​พวกเขา​เอาชนะ​หลิว​ป้า​เฉียว​ไม่ได้​ หรือไม่​ควรจะ​บอ​กว่า​ไล่ตาม​หลิว​ป้า​เฉียว​ที่​ขี่​กระบี่​หนี​ไม่ทัน​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​ถอด​พื้น​รองเท้า​เอา​ไป​วาง​ไว้​บน​หน้า​หลิว​ป้า​เฉียว​แล้ว​

ถึงอย่างไร​ทุกครั้งที่​ผู้อาวุโส​เหล่านี้​ฝึก​กระบี่​ได้​ไม่ราบรื่น​ก็​จะต้อง​ไปหา​หลิว​ป้า​เฉียว​ที่​ขัดหู​ขัดตา​ ใน​เมื่อ​ขัดหู​ขัดตา​ ไม่ไป​ด่า​เขา​ถึงบ้าน​สัก​สอง​สามประโยค​จะไม่เสียเปล่า​แย่​หรอก​หรือ​

ใน​ฐานะ​หนึ่ง​ใน​สิบ​คน​รุ่นเยาว์​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ลำดับ​รายชื่อ​ของ​หลิว​ป้า​เฉียว​กลับ​ถดถอย​ลงมา​เรื่อยๆ​ ไม่หยุด​ ตอนแรก​ก็​เป็น​เซี่ยห​ลิง​แห่ง​สำนัก​กระบี่​หลง​เฉวียน​ที่​ตาม​มาทัน​ ภายหลัง​ก็​ถูก​อาจารย์​ลุง​ของ​หม่า​ขู่​เสวียน​ อวี๋สือ​อู้​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​การทหาร​เบียด​ให้​ไป​อยู่​ข้างหลัง​

‘ป้า​เฉียว​อ่า​ จะให้​ข้า​เรียก​เจ้าว่า​นาย​ท่าน​ใหญ่​หลิว​ก็ได้​นะ​ คน​รุ่นเยาว์​สิบ​คน​ คน​รุ่นเยาว์​สิบ​คน​ มีแค่​สิบ​คน​นะ​ ไม่ใช่ร้อย​คน​’

‘อาจารย์​ลุง​พูด​ผิด​แล้ว​ ข้า​ยัง​สามารถ​ถอย​ไป​อยู่​ตัวสำรอง​สิบ​คน​ได้​อีก​นะ​’

ผู้เฒ่า​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เต็มไปด้วย​ความปรารถนาดี​ ‘ตั้งใจ​ฝึก​กระบี่​หน่อย​ได้​ไหม​? ก็​แค่​ก่อกำเนิด​ที่​ต้อง​เลื่อน​เป็น​หยก​ดิบ​ไม่ใช่หรือ​ เรื่องใหญ่​แค่​ไหน​กัน​เชียว​ หาก​เปลี่ยน​ให้​อาจารย์​ลุง​อย่าง​ข้า​ที่​เป็น​ก่อกำเนิด​…’

หลิว​ป้า​เฉียว​รีบ​ประจบ​เอาใจ​อาจารย์​ลุง​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​ผู้​นั้น​ทันที​ ‘เป็น​ก่อกำเนิด​อะไร​ หาก​อาจารย์​ลุง​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ยัง​อยุติธรรม​กับ​ท่าน​เลย​’

‘เจ้าตะพาบ​น้อย​ รีบ​ยื่นหน้า​มาเสีย​ดี​ๆ อาจารย์​ลุง​คัน​มือ​แย่​แล้ว​’

หลิว​ป้า​เฉียว​ตอบ​ตกลง​กับ​ศิษย์​พี่​ไว้​แล้ว​ว่า​จะเลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ภายใน​ร้อย​ปี​

หาก​ศิษย์​พี่​ไม่สามารถ​กลับ​มาจาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​ หลิว​ป้า​เฉียว​ยัง​ต้อง​พยายาม​เลื่อนขั้น​ให้​เป็น​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ หาก​ทำสำเร็จ​ก็​ถือว่า​เขา​มีคำอธิบาย​ที่​พอ​ฟังขึ้น​ให้​กับ​สวน​ลม​ฟ้าแล้ว​

หลิว​ป้า​เฉียว​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ที​ หันหน้า​ไป​มอง​ทิศ​ไกล​

ซูเจี้ย​ได้​สถานะ​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​กลับคืน​มาแล้ว​

ได้ยิน​ว่า​ดูเหมือน​นาง​จะไป​อยู่​บน​ภูเขา​เดียวดาย​เล็ก​ แต่​ก็​ไป​ที่​ยอดเขา​จูอวี๋​ด้วย​

นอกจาก​ฝึก​กระบี่​แล้ว​ หลิว​ป้า​เฉียว​ก็​มักจะ​แอบ​ลง​จาก​ภูเขา​ไป​เป็นระยะ​ ไป​ยัง​ร้านหนังสือ​ที่อยู่​ใน​เมือง​ของ​แคว้น​เล็ก​ใต้​อาณัติ​ราชวงศ์​จูอิ๋ง​เก่า​ร้าน​นั้น​ คน​ที่​ขาย​หนังสือ​เคย​เป็น​หญิงสาว​ที่​รูปโฉม​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​ นาง​ในเวลานั้น​ชื่อว่า​เห​อเจี๋ย​

หลังจาก​นาง​จากไป​ หลิว​ป้า​เฉียว​ก็​ซื้อ​ร้านหนังสือ​เอาไว้​ แล้ว​เก็บ​ทุกอย่าง​ไว้​ดังเดิม​ไม่ไป​แตะต้อง​

ต่อให้​ทุกครั้ง​จะเพียงแค่​ไป​มอง​ร้าน​ที่​ประตู​ถูก​ปิด​เอาไว้​ ไม่ได้​เปิด​ประตู​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ หลิว​ป้า​เฉียว​ก็​ยัง​สบายใจ​ขึ้น​ได้​หลาย​ส่วน​

ใน​ฐานะ​ผู้ฝึก​กระบี่​ เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​กระบี่​ ดูเหมือนว่า​เมื่อก่อน​จะทำ​ไป​เพื่อ​ไม่ให้​อาจารย์​ผิดหวัง​ ภายหลัง​เพื่อ​ไม่ให้​ศิษย์​พี่​ดูแคลน​มากเกินไป​ ทุกวันนี้​ก็​เพื่อ​สวน​ลม​ฟ้า แล้ว​หลังจากนี้​ล่ะ​?

หลิว​ป้า​เฉียว​ไม่รู้​

ดูเหมือนว่า​จะมีเพียง​ชอบ​สตรี​ผู้​นั้น​เพียง​เรื่อง​เดียว​เท่านั้น​ที่​ไม่เคย​เปลี่ยนแปลง​ตั้ง​แต่ต้น​ตราบ​จน​วันสุดท้าย​

น้ำ​เสียงทุ้ม​อ่อนโยน​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​เหนือศีรษะ​ของ​หลิว​ป้า​เฉียว​ “นี่​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​หลิว​ คิดถึง​ใคร​อยู่​หรือ​?”

หลิว​ป้า​เฉียว​โน้มตัว​ไป​ด้านหน้า​ เงยหน้า​ขึ้น​ เห็น​บุรุษ​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​ริม​ชายคา​ ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ที่​ทั้ง​คุ้นเคย​ทั้ง​แปลกหน้า​ น่า​เตะ​ยิ่งนัก​

“โอ้​ นี่​มัน​เซียน​กระบี่​ใหญ่​เฉิน​ไม่ใช่หรือ​ โชคดี​ที่​ได้​พบ​ โชคดี​ที่​ได้​พบ​”

หลิว​ป้า​เฉียว​รีบ​โบกมือ​ทักทาย​ “ระวัง​หน่อย​นะ​ นิสัย​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​สวน​ลม​ฟ้าของ​พวกเรา​ไม่ค่อย​ดี​ คนนอก​บุก​เข้ามา​ใน​ที่​แห่ง​นี้​โดยพลการ​ ระวัง​จะถูก​ล้อม​ฟัน​กระบี่​ใส่เล่า​”

กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่จำเป็นต้อง​วางตัว​ห่างเหิน​อะไร​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​สวน​ลม​ฟ้าเอง​ก็​ไม่มีพิธีรีตอง​ยิบ​ย่อย​ใน​การ​ต้อน​รับแขก​อยู่แล้ว​

ถึงอย่างไร​ตลอด​ทั้งปี​ก็​มีแขก​อยู่​แค่​ไม่กี่​คน​ เพราะ​สหาย​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​สวน​ลม​ฟ้ามีไม่มาก​ ถึงอย่างไร​คน​ที่​ดูแคลน​ไม่เห็น​อยู่​ใน​สายตา​ก็​มีมากกว่า​

เฉิน​ผิง​อัน​กระโดด​เบา​ๆ ลง​มาจาก​หลังคา​ เดิน​ก้าว​หนึ่ง​ก็​ขึ้น​มาอยู่​บน​ราว​ระเบียง​ โยน​เหล้า​กา​หนึ่ง​ให้​กับ​หลิว​ป้า​เฉียว​ คน​ทั้งสอง​นั่งลง​บน​ราว​รั้ว​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​

หลิว​ป้า​เฉียว​แหงนหน้า​กระดก​เหล้า​ดื่ม​อึก​ใหญ่​ ยก​ชาย​แขน​เสื้อ​เช็ด​ปาก​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “อันที่จริง​ห่าง​จาก​คราว​ก่อนที่​พบกัน​ก็​แค่​ไม่กี่​ปี​เท่านั้น​ เวลา​ยี่สิบ​สามสิบ​ปี​บน​ภูเขา​จะนับ​เป็น​อะไร​ได้​ แต่​ทำไม​ถึงได้​รู้สึก​ว่า​พวกเรา​สอง​คน​ไม่ได้​เจอกัน​มานาน​มาก​แล้ว​เลย​ล่ะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​สัพยอก​ “เกือบจะ​จำเจ้าไม่ได้​แล้ว​เชียว​ ทำไม​ ตอนนี้​พวก​เทพธิดา​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ต่าง​ก็​ชื่นชอบ​บุรุษ​ปล่อยตัว​กัน​แล้ว​หรือ​?”

หลิว​ป้า​เฉียว​ยิ้ม​หน้าทะเล้น​ “ลม​ใบไม้​ร่วง​พัด​เอวบาง​ของ​หลิว​หลา​ง (หลา​งเป็น​คำ​เรียก​แทน​บุรุษ​) ยาก​จะเลี้ยง​เนื้อ​อ้วน​ฤดูใบไม้ร่วง​ (หลังจาก​เข้า​ฤดูใบไม้ร่วง​ ชาวบ้าน​จะต้อง​ใช้วิธีการ​ตุ๋น​เนื้อ​เพื่อ​ชดเชย​ ‘เนื้อ​อ้วน​’ ของ​บน​ร่าง​ที่​หาย​ไป​ตอน​ฤดูร้อน​กลับมา​) กลับมา​ได้​อีก​อย่างไรเล่า​”

หลิว​ป้า​เฉียว​นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​ จึงกด​เสียงต่ำ​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าต้อง​ระวัง​ไว้​หน่อย​จริงๆ​ นะ​ ที่​แห่ง​นี้​ของ​พวกเรา​มีแม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​หนันกง​ซิงเยี่ยน​ รูป​โฉมงามสะคราญ​ ทว่า​นิสัย​กลับ​ฉุนเฉียว​ดุร้าย​ไป​สักหน่อย​ คราวก่อน​ชมบุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​ ดวงตา​สอง​ข้าง​ของ​แม่นาง​น้อย​เป็นประกาย​ ทุกวันนี้​นาง​จะต้อง​มีคำพูด​ที่​พูด​ติดปาก​อยู่​ทุกวัน​ นั่น​คือ​ ‘ใต้​หล้า​นี้​ถึงกับ​มีบุรุษ​ที่​หล่อเหลา​สง่างามถึงเพียงนี้​ด้วย​หรือ​?!’ เซียน​กระบี่​เฉิน​ ต้อง​ถามเจ้าแล้ว​ว่า​กลัว​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่สนใจ​เรื่อง​นี้​เลย​สักนิด​ เขา​เอ่ย​ว่า​ “ดูเหมือนว่า​ศิษย์​พี่​ของ​เจ้าจะไป​ที่​เปลี่ยว​ร้าง​แล้ว​ ทุกวันนี้​อยู่​ที่​ท่าเรือ​รื่อ​จุ้ย​ ถูกชะตา​กับ​เหวย​อิ๋ง​แห่ง​สำนัก​กุย​หยก​มาก​”

ได้ยิน​ว่า​หวงเหอ​หยุด​อยู่​ที่​ซาก​ปรัก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เพียง​ไม่นาน​ พูดคุย​กับ​เว่ย​จิ้น​ผู้ฝึก​กระบี่​บ้าน​เดียวกัน​สอง​สามประโยค​ก็​ไป​ที่​รื่อ​จุ้ย​ทันที​ แต่​พอ​หวงเหอ​ไป​ถึงท่าเรือ​ก็​บอก​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เฝ้าท่าเรือ​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ เขา​จะใช้สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​อิส​ระมา​ออก​กระบี่​เพียงลำพัง​ แต่​ภายหลัง​ดูเหมือนว่า​จะเปลี่ยนใจ​แล้ว​ รับหน้าที่​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ติดตาม​กองทัพ​ที่​ไม่ได้​บันทึก​ชื่อ​ของ​กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​กอง​หนึ่ง​เป็นการชั่วคราว​

ทาง​ฝั่งของ​รื่อ​จุ้ย​ นอกจาก​ซูจื่อ​และ​หลิ่ว​ชีแล้ว​ ยังมี​ซ่งจ่างจิ้งแห่ง​ต้า​หลี​ เหวย​อิ๋ง​แห่ง​สำนัก​กุย​หยก​

เฉิน​ผิง​อัน​เชื่อ​มาโดยตลอด​ว่า​ไม่ว่า​จะเป็น​ห​ลี่​ถวน​จิ่งหรือ​หวงเหอ​ อาจารย์​และ​ศิษย์​คู่​นี้​ หาก​เกิด​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ผลสำเร็จ​บน​วิถี​กระบี่​จะต้อง​สูงมาก​อย่าง​แน่นอน​

ไม่แน่​ว่า​อาจ​สามารถ​ยืน​เคียง​บ่า​กับ​พวก​เซียน​กระบี่​ใหญ่​อย่าง​หมี่​ฮู่ เย​ว่​ชิงได้​

หลิว​ป้า​เฉียว​ถามอย่าง​ใคร่รู้​ “เจ้ารู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ศิษย์​พี่​ของ​ข้า​อยู่​ที่​ท่าเรือ​รื่อ​จุ้ย​ ถึงขั้น​ที่ว่า​เรื่อง​ที่​เขา​ถูกชะตา​กับ​เหวย​อิ๋ง​เจ้าก็​ยัง​รู้​ด้วย​? เจ้าหนู​เจ้ามีตาทิพย์​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าก็​เดา​เอา​เอง​สิ”

สวน​ลม​ฟ้าไม่มีบุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ไม่ได้​สร้าง​รายงาน​ขุนเขา​สาย​น้ำขึ้น​มาเอง​ ไม่ได้​มีการไปมาหาสู่​ที่​เกินความจำเป็น​กับ​ผู้อื่น​ และ​เรื่อง​การ​ทำการค้า​กับ​ภายนอก​ก็​มีข้อจำกัด​สูงมาก​

ใน​สายตา​ของ​คนนอก​ สวน​ลม​ฟ้านั้น​ตัดขาด​กับ​โลก​ภายนอก​ไป​แล้ว​ เอาแต่​ฝึก​ตน​อย่าง​ไร้รสชาติ​น่าเบื่อหน่าย​ นอกจาก​ฝึก​กระบี่​ก็​ยัง​เป็น​ฝึก​กระบี่​

ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ศาล​บรรพ​จารย์​หลาย​สิบ​คน​ บวก​กับ​ลูกศิษย์​ฝ่าย​นอก​ที่​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ และ​พวก​ผู้ดูแล​ นักการ​ สาวใช้​ที่​คอย​ช่วย​จัดการ​กิจธุระ​ทางโลก​ทั้งหลาย​ รวม​ๆ กัน​แล้วก็​มีแค่​สอง​ร้อย​กว่า​คน​เท่านั้น​

ตาม​คำสั่งสอน​ของ​บรรพบุรุษ​สวน​ลม​ฟ้า สถานที่​แห่ง​นี้​คือ​สถานที่​ของ​การ​ถ่ายทอด​วิถี​แห่ง​กระบี่​ ไม่ใช่สถานที่​ที่จะ​เลี้ยงดู​คนว่างงาน​

ภูเขา​ลูก​อื่น​ ทุกครั้งที่​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ โดยทั่วไปแล้ว​ศาล​บรรพ​จารย์​จะต้อง​มอบ​เงิน​เทพ​เซียน​ก้อน​หนึ่ง​ให้​เป็น​รางวัล​ ทว่า​ใน​สวน​ลม​ฟ้ากลับ​ไม่มีคำกล่าว​นี้​ สิ่งที่​ผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​ขอบเขต​ล่าง​ทั้งหมด​จำเป็นต้อง​ใช้ใน​การหลอม​กระบี่​ วัตถุดิบ​วิเศษ​แห่ง​ฟ้าดิน​ที่​ต้อง​เผาผลาญ​ไป​ สามารถ​เบิก​เป็น​เงิน​เทพ​เซียน​กับ​สวน​ลม​ฟ้าล่วงหน้า​ได้​ หลัง​เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​กลาง​แล้วก็​จำเป็นต้อง​คืนเงิน​ ลง​จาก​ภูเขา​ไปหา​ประสบการณ์​ แน่นอน​ว่า​หาก​พวก​ผู้อาวุโส​ใน​สาย​กระบี่​ยินดี​ควัก​เงิน​ส่วน​นี้​ สวน​ลม​ฟ้าก็​ไม่ห้าม​

ราชวงศ์​ล่าง​ภูเขา​หลาย​แห่ง​ที่อยู่​ใกล้​กับ​สวน​ลม​ฟ้า นอกจาก​ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​ที่​ส่งมอบ​มาให้​กับ​สวน​ลม​ฟ้าแล้ว​ ยัง​เป็น​ฝ่ายเสนอ​ตำแหน่ง​ผู้​ถวายงาน​ เค่อ​ชิงที่​ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​มาให้​ด้วย​ ถือว่า​เป็น​เงินเดือน​ก้อน​ที่​ไม่เล็ก​เลย​ทีเดียว​ ต่อให้​ปี​นั้น​ห​ลี่​ถวน​จิ่งไป​จาก​โลก​นี้​แล้วก็​ยัง​ไม่มีราชวงศ์​ล่าง​ภูเขา​และ​แคว้น​ใต้​อาณัติ​แห่งใด​ที่​กล้า​ถอดยศ​ผู้ฝึก​กระบี่​ หัก​เงิน​เทพ​เซียน​เหล่านั้น​ไป​โดยพลการ​

นั่น​เป็น​เพราะ​ความเคารพ​ยำเกรง​ที่​มีต่อ​ผู้ฝึก​กระบี่​สวน​ลม​ฟ้าได้​ซึมลึก​เข้าไป​ใน​กระดูก​แล้ว​

ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​สวน​ลม​ฟ้าไม่ว่า​จะชาย​หรือ​หญิง​ นอกจาก​มีความต่าง​ด้าน​ขอบเขต​สูงต่ำ​แล้ว​ นอกจากนี้​ก็​เหมือน​แกะสลัก​นิสัย​ออก​มาจาก​พิมพ์​เดียวกัน​

ออก​กระบี่​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ แบ่งแยก​บุญคุณ​ความแค้น​ชัดเจน​ ทำ​อะไร​รวดเร็ว​ฉับไว​

เคย​มีผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​ขอบเขต​กลางคน​หนึ่ง​ถูก​คน​ฟัน​แขน​ทั้งสอง​ข้าง​ระหว่าง​การ​ฝึก​ประสบการณ์​ อีก​ฝ่าย​จงใจปล่อย​ให้​เขา​มีชีวิตรอด​

หลัง​จาก​หลี่​ถวน​จิ่งผู้​เป็น​เจ้าสวน​สอบถาม​เรื่อง​นี้​อย่าง​ชัดเจน​แล้วก็​พก​กระบี่​ลง​จาก​ภูเขา​ไป​เพียงลำพัง​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ภูเขาใหญ่​ที่​เป็น​ของ​ราชวงศ์​จูอิ๋ง​เก่า​ ไม่พูด​อะไร​สัก​คำ​ เพียงแค่​ฟัน​แขน​สอง​ข้าง​ของ​คน​สิบสอง​คนใน​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​อีก​ฝ่าย​จน​ครบถ้วน​

ราชวงศ์​จูอิ๋ง​เก่า​ที่​เคย​ถูก​ขนานนาม​ว่า​มีผู้ฝึก​กระบี่​มากมาย​ดุจ​ก้อน​เมฆ เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ทวีป​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ไม่มีผู้ฝึก​กระบี่​คนใด​กล้า​ออกหน้า​มาช่วย​พูด​แทน​

ต้อง​รู้​ว่า​ห​ลี่​ถวน​จิ่งยัง​ตั้งใจ​ไป​ที่​ชาน​เมืองหลวง​ของ​จูอิ๋ง​โดยเฉพาะ​ เขา​ไป​รอคอย​อยู่​ที่​ท่าเรือ​ของ​ที่นั่น​นาน​ถึงสามวัน​เต็ม​ รอ​ให้​คนอื่น​มาถามกระบี่​

หลิว​ป้า​เฉียว​ถาม “ทำไม​ถึงคิด​อยาก​จะมาสวน​ลม​ฟ้าของ​พวกเรา​ล่ะ​? จะอยู่​นาน​แค่​ไหน​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เดี๋ยว​ก็​จะไป​แล้ว​”

หลิว​ป้า​เฉียว​เอ่ย​สัพยอก​ “กลัว​แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​จริงๆ​ หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “เจ้าจำไว้​ว่า​ถ้ามีเวลาว่าง​ก็​ไป​ภูเขา​ลั่วพั่ว​บ้าง​ ข้า​ต้อง​ไป​เยือน​นคร​มังกร​เฒ่าแล้ว​”

หลิว​ป้า​เฉียว​สัมผัส​ได้​ถึงความผิดปกติ​เสี้ยว​หนึ่ง​จึงพยักหน้า​รับ​ ไม่ได้​รั้ง​ตัว​เฉิน​ผิง​อัน​เอาไว้​

ซาก​ปรัก​นคร​มังกร​เฒ่า ทั้ง​ใน​และ​นอกเมือง​ที่​ใน​อดีต​ใหญ่โต​โอฬาร​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​อำนาจ​ต่าง​ก็​กำลัง​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ อยู่​ใน​ช่วง​ของ​การ​ก่อสร้าง​ ฝุ่น​คลุ้ง​เสีย​ดัง​อึกทึก​

เพียงแต่ว่า​ถนน​ยาว​ร้อย​ลี้​ที่​เคย​อยู่​ในนามของ​ซุน​เจีย​ซู่ หอ​เติง​หลง​ ทะเล​เมฆบน​ฟ้า ร้าน​ยา​ฮุยเฉิน​ใน​ตรอก​เล็ก​ รวมไปถึง​สระ​ดอกบัว​สิบ​ลี้​ที่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​คิดถึง​คำนึง​หา​ ย่อม​ไม่เหลือ​อยู่แล้ว​

ในขณะที่​ม่าน​ราตรี​แผ่​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ไพศาล​ ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​กลับเป็น​เวลากลางวัน​

เวลานี้​เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​อยู่​ริม​ชายหาด​ของ​ทะเล​ทักษิณ​ มอง​ดูเหมือน​หลับตา​ทำสมาธิ​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กำลัง​เปิด​ภาพ​ม้าวิ่ง​แห่ง​กาลเวลา​ภาพ​หนึ่ง​ จึงได้​เห็น​ฉาก​สายฟ้า​นั้น​กับ​ตา​ตัวเอง​

หลัง​ลืมตา​ขึ้น​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หวนกลับ​ขึ้น​เหนือ​ทันที​ เลือก​บ้านเกิด​ตัวเอง​เป็น​จุดหมายปลายทาง​ สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ไป​ยืน​อยู่​บน​บันได​ขั้น​บนสุด​ของ​ตรอก​ฉีหลง​

พอดี​กับ​ที่​เมือง​เล็ก​ของ​บ้านเกิด​เพิ่ง​มีฝน​ใหญ่​ตกลง​มาจาก​ฟ้า ร่วงหล่น​ลง​มายัง​พื้นดิน​

ศึก​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ปิดฉาก​ลง​ไป​แล้ว​ กระบี่​สังหาร​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​

เฉิน​ผิง​อัน​เดินลง​ไป​ตาม​ขั้นบันได​ช้าๆ

น้ำฝน​หยดน้ำ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ที่​หล่น​ลง​บน​พื้น​ไหล​ลงมา​ตาม​ขั้นบันได​ราวกับ​ไล่หลัง​คน​ชุด​เขียว​มา

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่น​นิ้ว​มากด​หว่าง​คิ้ว​ เดิน​ไป​ได้​ครึ่งทาง​ก็​พลัน​หยุด​เดิน​ เขา​หันไป​มอง​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​ก่อน​ แล้วจึง​หันไป​มอง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

ต่อให้​จะมีสายฝน​เท​กระหน่ำ​ ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​ยังคง​ปฏิบัติหน้าที่​ นั่ง​เฝ้าประตู​ใหญ่​อยู่​ที่​ตีนเขา​เพียงลำพัง​

หมี่​ลี่​น้อย​คล้าย​จะรู้สึก​เบื่อ​เล็กน้อย​จึงโคลง​ศีรษะ​ไปมา​อยู่​ตรงนั้น​ กำลัง​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ แต่​ก็​เหมือนว่า​กำลัง​โอ้อวด​บารมี​กับ​ใคร​ มือหนึ่ง​ของ​นาง​ถือ​คาน​หาบ​สีทอง​ อีก​มือหนึ่ง​ถือ​ไม้เท้า​เดินป่า​ จิ้มๆ ชี้ๆ ไป​ยัง​ม่าน​ฝน​ บอ​กว่า​เจ้าคง​มอง​ไม่ออ​กสิ​นะ​ อันที่จริง​ข้า​นิสัย​ร้ายกาจ​มาก​ๆ เลย​ล่ะ​ อารมณ์​ฉุนเฉียว​นิดหน่อย​ ดุดัน​จน​ผู้คน​ขวัญหนีดีฝ่อ​ เชื่อ​หรือไม่​ว่า​ฟาด​คาน​หาบ​ทีเดียว​ก็​ทำให้​เจ้าล้ม​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น​ได้​แล้ว​ ฟาด​ไม้ไผ่​ทีเดียว​ก็​ซ้อม​ให้​เจ้ากลายเป็น​หัวหมู​ได้​เลย​ ช่างเถิด​ๆ ครั้งนี้​ก็​ช่างเถอะ​ แต่​ห้าม​ให้​มีคราวหน้า​อีก​นะ​ ไม่สู้มาปรึกษา​กัน​ดีกว่า​ พวกเรา​ทั้งสองฝ่าย​ต้อง​รู้จัก​จำแล้วก็​ต้อง​รู้จัก​ระมัดระวัง​ ไม่อย่างนั้น​เอาแต่​สร้าง​ปัญหา​ให้​คนอื่น​ ย่อม​ไม่เหมาะสม​ อีก​อย่าง​พวกเรา​ต่าง​ก็​ท่อง​อยู่​ใน​ยุทธ​ภพ​ ต้อง​สามัคคี​ปรองดอง​กัน​สิ รบราฆ่าฟัน​กัน​นั้น​ไม่ดี​ ใช่หลักการ​เหตุผล​นี้​หรือไม่​? ดี​ ใน​เมื่อ​เจ้าไม่ปฏิเสธ​ ข้า​ก็​จะคิด​ว่า​เจ้าฟังเข้าใจ​แล้ว​…

แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​พลัน​หยุด​พูด​ ยู่​ใบหน้า​เล็ก​ๆ ขมวดคิ้ว​เล็ก​สีจางทั้งสอง​ข้าง​ หยุดนิ่ง​ไม่ขยับ​

หรือว่า​ศัตรู​จะมาแก้แค้น​ถึงบ้าน​แล้ว​?

แม้กระทั่ง​ฝน​ก็​ยัง​หยุด​ตกไป​ด้วย​? ดูท่า​ตบะ​ของ​อีก​ฝ่าย​จะสูงมาก​ จะทำ​อย่างไร​ดี​?

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “อะไร​กัน​? ดุดัน​ขนาด​นี้​เชียว​?”

หมี่​ลี่​น้อย​เงยหน้า​พรวด​ ก่อน​จะหัวเราะ​ฮ่าๆ ที่แท้​ก็​เจ้าขุนเขา​คนดี​เอง​หรือ​นี่​

เฉิน​ผิง​อัน​ลูบ​ศีรษะ​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ ถามเสียง​เบา​ “ไหน​เล่า​ให้​ฟังหน่อย​สิ ไป​สร้าง​ปัญหา​ให้​คนอื่น​ได้​อย่างไร​?”

หมี่​ลี่​น้อย​แบก​คาน​หาบ​สีทอง​ไว้​บน​บ่า​ ใช้ไม้เท้า​เดินป่า​ทิ่ม​พื้น​ ยิ้ม​กว้าง​เอ่ย​ว่า​ “ไม่มีอะไร​ๆ ข้า​ก็​แค่​แต่ง​เรื่องราว​ใน​ยุทธ​ภพ​ที่​เต็มไปด้วย​สีสัน​น่าสนใจ​เท่านั้น​”

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​มอง​แม่น้ำ​สาย​หนึ่ง​ที่อยู่​เมือง​หง​จู๋

หมี่​ลี่​น้อย​รีบ​ยื่นมือ​ไป​กระตุก​ชาย​เสื้อ​ของ​เจ้าขุนเขา​คนดี​เอาไว้​ ถามว่า​ “แทะ​เมล็ด​แตง​ไหม​?”

เฉิน​ผิง​อัน​อืม​รับ​หนึ่ง​ที​ ยื่นมือ​ออก​ไป​ หมี่​ลี่​น้อย​รีบ​เปิด​กระเป๋าสะพาย​ใบ​น้อย​ที่​ทำ​จาก​ผ้าฝ้าย​ออก​ทันที​ ใช้สอง​มือ​ควัก​เมล็ด​แตง​ออกมา​กำ​ใหญ่​ รอ​จน​เจ้าขุนเขา​คนดี​รับ​เมล็ด​แตง​ไป​แล้ว​ นาง​ก็​วิ่ง​ตะบึง​ไป​ยก​เก้าอี้​ไม้ไผ่​มาสอง​ตัว​ หนึ่ง​ใหญ่​หนึ่ง​เล็ก​ นั่ง​เคียง​กัน​ แทะ​เมล็ด​แตง​ด้วยกัน​

หมี่​ลี่​น้อย​เกา​แก้ม​ ถามว่า​ “เจ้าขุนเขา​คนดี​ จะกลับมา​บ้าน​เมื่อไหร่​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตอบ​ “อีก​เดี๋ยว​ก็​กลับมา​แล้ว​ รอ​ให้​ข้า​แกะสลัก​ตัวอักษร​ตัว​หนึ่ง​ที่​หัว​กำแพงเมือง​เสร็จ​ก่อน​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด