กระบี่จงมา 876.3 ขอบเขตถดถอย

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 876.3 ขอบเขตถดถอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสี่ยว​โม่พลิก​เปิด​ตำรา​ใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​อย่าง​รวดเร็ว​ ตามหา​ความหมายแฝง​ของ​คำศัพท์​คำ​ว่า​ ‘วีรบุรุษ​แห่ง​แคว้น​’

“ก่อนที่​เจ้าจะหวนกลับ​บ้านเกิด​ สามารถ​ไป​พบ​เซียน​ฉาสักหน่อย​ได้​หรือไม่​”

เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​เปิดปาก​ถาม “แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่ให้​เจ้ายอมรับ​ใน​สถานะ​ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​เขา​ นี่​เป็นเรื่อง​ใน​บ้าน​สาย​เต๋า​ของ​เจ้า ข้า​ไม่เข้าไป​เกี่ยวข้อง​”

เซียน​ฉา มีอีก​ชื่อว่า​กู้​ชิงซง คือ​คน​มหัศจรรย์​ที่​ชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​ไพศาล​โดย​ไม่ต้อง​ใช้ขอบเขต​

เขา​เคย​ช่วย​ลู่​เฉิน​ถ่อ​เรือ​ออก​ทะเล​ไป​เยี่ยมเยือน​เซียน​ ดังนั้น​จึงถูก​เฉาหรง​ เฮ้อ​เสี่ยว​เหลียง​มอง​เป็น​ลูกศิษย์​ใหญ่​ที่​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ของ​ลู่​เฉิน​ผู้​เป็น​อาจารย์​

ตอน​อยู่​ศาล​บุ๋น​กู้​ชิงซงเคย​รับปาก​ตน​ว่า​วันหน้า​จะดูแล​ลูกศิษย์​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ทุกคน​ที่​เขา​เจอ​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​อย่าง​ขัน​ๆ ปน​ฉุน​ “เจ้าไม่เห็น​เรื่อง​ขอบเขต​ถดถอย​สำคัญ​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​?!”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ “ชิน​ไป​แล้ว​ก็ดี​เอง​ เมื่อ​คุ้นเคย​ก็​เกิด​เป็น​ความชำนาญ​”

นั่น​เป็น​เพราะ​เจ้าไม่รู้​ว่า​ตอนนั้น​ที่​ข้า​อยู่​ที่นี่​เคย​โอสถ​ทอง​แตกสลาย​ไป​กี่​ครั้ง​ ขอบเขต​ถดถอย​มาไม่รู้​กี่​ครั้ง​ต่อ​กี่​ครั้ง​แล้ว​

เสี่ยว​โม่เอ่ย​อย่าง​สะท้อนใจ​ “คุณชาย​สมกับ​เป็น​เซียน​กระบี่​จริงๆ​”

ลู่​เฉิน​กล่าว​ “ไม่มีปัญหา​ ข้า​รับปาก​เจ้า แค่​จะไป​พบ​หน้า​เจ้าโง่นั่น​สักหน่อย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถึงกับ​ยังมี​แรง​โยน​ของ​ชิ้น​หนึ่ง​ให้​กับ​ลู่​เฉิน​

ลู่​เฉิน​รับ​มาแล้วก็​เห็น​ว่า​เป็นที่​วาง​พู่กัน​ปะการัง​ชิ้น​นั้น​ จึงเอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ระคน​ยินดี​ว่า​ “มอบให้​ข้า​แล้ว​หรือ​?!”

อิ่น​กวาน​หนุ่ม​เหล่​ตา​มอง​เจ้าลัทธิ​ลู่​หนึ่ง​ที​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​อย่าง​ขลาด​ๆ ว่า​ “ข้า​จะพยายาม​ช่วงชิง​ผลประโยชน์​ของ​วัง​มังกร​ครึ่งหนึ่ง​มาจาก​หวัง​ต้ง​ให้ได้​ เพียงแต่ว่า​พวกเรา​สอง​คน​จะแบ่ง​ส่วนแบ่ง​กัน​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​ตัดสินใจ​เอา​เอง​แล้วกัน​ ใช้จิตสำนึก​เป็นตัว​ตัดสิน​”

เสี่ยว​โม่ผงกศีรษะ​คลี่​ยิ้ม​ ดูท่า​คุณชาย​คง​เห็น​ตน​เป็น​คนกันเอง​จริงๆ​ แล้ว​ ก่อนหน้านี้​พูดจา​เกรงใจ​ แต่​พอ​พูดคุย​กับ​สหาย​ลู่​ ดูเหมือนว่า​จะไม่ค่อย​เหมือนกัน​สัก​เท่าไร​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “เจ้าและ​ข้า​แบ่ง​กัน​สามต่อ​เจ็ด​ส่วน​ เงื่อนไข​คือ​เจ้าต้อง​ช่วย​ข้า​คิด​หา​วิธี​รับมือ​กับ​ภูเขา​เมฆาเรือง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ด้วย​ หาก​สามารถ​ทำได้​ พวกเรา​ก็​แบ่ง​กัน​สี่ต่อ​หก​”

ปี​นั้น​ไช่จิน​เจี่ยน​แห่ง​ภูเขา​เมฆาเรือง​ช่วย​ส่งกระบี่​บิน​นำ​ความ​ไป​บอกต่อ​ เฉิน​ผิง​อัน​จำเป็นต้อง​ชด​ใช้คืน​ความสัมพันธ์​ควัน​ธูป​ใน​ส่วน​นี้​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เซียน​ดิน​ยอดเขา​เกิง​อวิ๋น​อย่าง​เจ้ายอดเขา​หวง​จงโหว​ที่​เขา​เพิ่ง​รู้จัก​ก็​เป็น​คน​ที่​น่าสนใจ​มาก​ สามารถ​ถือเป็น​สหาย​ร่ำสุรา​ได้​ครึ่งตัว​แล้ว​

ภายใน​เวลา​เกือบ​ร้อย​ปี​ ภูเขา​เมฆาเรือง​มิอาจ​สกัด​ขวาง​การ​ไหล​หาย​ไป​ของ​โชคชะตา​ได้​ เนื้อหนัง​ภายนอก​ดู​ดีแต่​ภายใน​กลับ​ว่างเปล่า​ ดังนั้น​ต่อให้​ภูเขา​เมฆาเรือง​ได้​เลื่อน​เป็น​สำนัก​ ไม่ถึงสามร้อย​ปี​ ยอดเขา​สิบ​เก้า​แห่ง​ของ​ภูเขา​เมฆาเรือง​ที่​มียอดเขา​ลวี่กุ้ย​ เกิง​อวิ๋น​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ และ​ภูเขา​สายน้ำ​งดงาม​ทั้งหลาย​ที่​ยัง​ไม่ถูก​เซียน​ดิน​บุกเบิก​ยอดเขา​ ก็​จะต้อง​กลายเป็น​ดั่ง​เมฆหมอก​ที่​พัด​ลอย​ผ่าน​ตา​ไป​ กลาย​มาเป็น​สถานที่​ที่​ปราณ​วิญญาณ​เบาบาง​ไม่เหมาะ​แก่​การ​ฝึก​ตน​ การ​เสื่อมถอย​ของ​โชคชะตา​ประเภท​นี้​ของ​ภูเขา​เมฆาเรือง​เป็นเรื่อง​ที่​ประหลาด​อย่าง​มาก​ ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ลอง​มองดู​แล้วก็​ถึงกับ​เห็น​ว่า​ไม่ใช่ว่า​ยันต์​อักษร​ภูเขา​และ​ยันต์​อักษร​น้ำ​สอง​แผ่น​จะแก้ไข​ได้​

“ยอดเยี่ยม​ไป​เลย​ ผิน​เต้า​มีสมบัติ​ชิ้น​หนึ่ง​ที่​ค่อนข้าง​มีวาสนา​กับ​ภูเขา​เมฆาเรือง​อยู่​พอดี​ ความคิด​อัน​เงียบสงบ​ล่องลอย​อยู่​ใน​แสงเรื่อ​เรือง​ บังเอิญ​ยิ่งนัก​ เป็นการ​ให้ยา​ที่​ถูก​กับ​โรค​พอดี​”

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​ฮ่าๆ หยิบ​กุย​หยก​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​จาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ด้านบน​แกะสลัก​ลาย​เมฆแบบ​นูน​ ของ​ชิ้น​นี้​มีความมหัศจรรย์​อย่าง​มาก​ สีสัน​จะสามารถ​เปลี่ยนแปลง​ไป​ตามฤดูกาล​ จำแลง​ภาพ​มงคล​ไม่ซ้ำกัน​ออกมา​ และ​ตัวอักษร​โบราณ​ที่​แกะสลัก​ก็​จะสอดคล้อง​กับ​สี่ฤดู​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​รบกวน​เจ้าลัทธิ​ลู่​ที่​ไป​พบ​ผู้อาวุโส​กู้​บน​ทะเล​แล้ว​ช่วย​ขึ้นบก​ไป​เยือน​ภูเขา​เมฆาเรือง​ด้วยตัวเอง​อีก​สักครั้ง​”

ลู่​เฉิน​ถามอย่าง​กังขา​ “เจ้าไม่เอา​ของ​ชิ้น​นี้​ไป​ส่งด้วยตัวเอง​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ลอง​เอาอย่าง​ตู้​อวี๋​ดู​บ้าง​”

ไม่อย่างนั้น​วันหน้า​หาก​มีเวลาว่าง​แล้ว​ได้​ไป​ดื่มเหล้า​กับ​หวง​จงโหว​ที่​ยอดเขา​เกิง​อวิ๋น​อีกครั้ง​ก็​จะขาด​รสชาติ​ไป​อีก​หลาย​ส่วน​

ลู่​เฉิน​ถาม “ตู้​อวี๋?​ เทพ​เซียน​จาก​ที่ใด​กัน​?”

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ไม่สนใจ​ ปล่อย​จิตใจ​จมดิ่ง​ลง​ไป​อีกครั้ง​

ลู่​เฉิน​จึงได้​แต่​ดื่มเหล้า​กับ​เสี่ยว​โม่ต่อ​อีกครั้ง​ ไม่พูด​อะไร​อีก​

เสี่ยว​โม่มอง​นักพรต​หนุ่ม​ที่​สวม​กวาน​ดอกบัว​ไว้​บน​ศีรษะ​ คนเรา​มีชีวิต​อยู่​บน​โลก​ย่อม​มีความรู้สึก​เดียวดาย​อย่าง​เลี่ยง​ได้​ยาก​

ใคร​เล่า​จะรู้​ขอ​เส้นทาง​ไม่ขอ​ปลา​ เวลานี้​ถึงได้​รู้​ว่า​ตัวเอง​มีอิสระ​เสรี​ที่​แท้จริง​

“เจิ้งจวี​จงไม่เสียแรง​ที่​เป็น​เจิ้งจวี​จง!”

ลู่​เฉิน​พลัน​เผย​สีหน้า​ตกตะลึง​ระคน​ยินดี​ “ขนาด​นี้​แล้ว​ยัง​ถึงกับ​สกัด​ขวาง​ไว้​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ ไม่มีช่องโหว่​เลย​แม้แต่น้อย​ แล้ว​ยัง​ถือโอกาส​จัดการ​กับ​ภัย​แฝงบางอย่าง​ไป​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ลืมตา​ขึ้น​ แบมือ​ “เอา​เหล้า​มากา​หนึ่ง​”

ลู่​เฉิน​โยน​เหล้า​หมัก​เถาเจียง​ที่​มาจาก​นคร​เสิน​เซียว​ไป​ให้​หนึ่ง​กา​

เฉิน​ผิง​อัน​แกะ​ผนึก​ดิน​ออก​ ดื่มเหล้า​อึก​ใหญ่​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “มารดา​มัน​เถอะ​ สักวันหนึ่ง​ข้า​ผู้อาวุโส​จะฆ่าไอ้​ตะพาบ​นี่​ให้​ตาย​แม่งเลย​”

เสี่ยว​โม่ยังคง​เอ่ย​ประโยค​จาก​ใจจริง​ประโยค​นั้น​ “คุณชาย​สมกับ​เป็น​เซียน​กระบี่​จริงๆ​”

ลู่​เฉิน​เช็ดหน้า​ สหาย​เสี่ยว​โม่ผู้​นี้​จะต้อง​อยู่​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ได้​อย่าง​เจริญก้าวหน้า​แน่นอน​

……

อาณา​เขตภูเขา​ลั่วพั่ว​ เป็น​วัน​ธรรมดา​ที่​ผ่าน​พ้นไป​อีก​วัน​ สายลม​อบอุ่น​แสงแดด​งดงาม​

วันนี้​จูเหลี่ยน​ที่อยู่​บน​ภูเขา​ฮุย​เห​มิงซึ่งอยู่​ระหว่าง​การ​ก่อสร้าง​ได้​พา​เจี่ยงชวี่ลง​งาน​ด้วยตัวเอง​ พ่อครัว​เฒ่ากำลัง​กระทุ้ง​ดิน​ ผู้ฝึก​ตน​หนุ่ม​ช่วย​ช่างบน​ภูเขา​ตีเส้น​

หน่วน​ซู่น้อย​ยังคง​ง่วน​ทำงาน​อยู่​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ตอนเช้า​ต้อง​ไป​ทำความสะอาด​ห้อง​ของ​นาย​ท่าน​ที่​ชั้นหนึ่ง​ของ​เรือน​ไม้ไผ่​ก่อน​ ไม่ทัน​ระวัง​จัด​หนังสือ​บน​โต๊ะ​เบี้ยว​ไป​อีก​เล็กน้อย​

เหวย​เห​วิน​หลง​นัก​บัญชี​กำลัง​ตรวจสอบ​บัญชี​ร่วมกับ​ลูกศิษย์​ครึ่ง​ตัวอย่าง​จางเจีย​เจิน​ ผู้คุม​กฎ​ฉางมิ่งนั่ง​ดื่ม​น้ำชา​อยู่​ด้าน​ข้าง​เงียบๆ​

หมี่​อวี้​กำลัง​นั่ง​แทะ​เมล็ด​แตง​อยู่​ที่​โต๊ะ​หิน​ริม​หน้าผา​ เบิกตา​ใหญ่​จ้อง​ตา​เล็ก​อยู่​กับ​คน​จิ๋ว​ควัน​ธูป​แห่ง​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​ประจำจังหวัด​ที่มา​ขานชื่อ​บน​ภูเขา​

ไม่มีเฉินห​ลิง​จวิน​คอย​ยั่วยุ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ อันที่จริง​หนึ่ง​คน​ตัว​โต​กับ​หนึ่ง​คน​ตัวเล็ก​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะคุย​อะไร​กัน​ หาก​เด็กชาย​ชุด​เขียว​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ก็​คง​ครึกครื้น​กว่า​นี้​ เพราะ​มักจะ​มีคำพูด​ที่​ทำให้​หมี่​อวี้​มึนงง​หลุด​จาก​ปาก​มาเสมอ​ ยกตัวอย่างเช่น​พอ​พูดถึง​มือ​ไม้อ่อน​เวลา​จับ​คน​ เฉินห​ลิง​จวิน​จะต้อง​มอง​ตา​กับ​คน​จิ๋ว​ควัน​ธูป​ จากนั้น​คน​หนึ่ง​ก็​ปล่อย​เสียงหัวเราะ​ดังลั่น​ อีก​คน​หนึ่ง​เอา​มือ​กุม​ท้อง​หัวเราะ​ก๊าก​ กลิ้ง​ไป​กลิ้ง​มาอยู่​บน​โต๊ะ​ หมี่​อวี้​ต้อง​ใช้สมอง​ขบคิด​อยู่​หลาย​ตลบ​ถึงจะเข้าใจ​ว่า​เจ้าบ้ากาม​สอง​คนพูด​เรื่อง​อะไร​กัน​อยู่​

หมี่​อวี้​ล่ะ​อัดอั้นตันใจ​นัก​ ล้วน​เป็น​ความสามารถ​ที่​เรียนรู้​มาจาก​เจิ้งต้าเฟิงคน​เฝ้าประตู​ทั้งหมด​เลย​หรือ​?

นี่​ทำให้​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ยิ่ง​รู้สึก​เลื่อมใส​ ‘พี่น้อง​ต้าเฟิง’​ คน​นั้น​มากขึ้น​ทุกที​

พ่อครัว​เฒ่า เว่ย​ซาน​จวิน​ บวก​กับ​เฉินห​ลิง​จวิน​ แต่ละคน​ล้วน​ชอบ​ผลัก​คุณ​ความชอบ​ไป​ให้​เจิ้งต้าเฟิง​กัน​ทั้งนั้น​ ดังนั้น​ใน​ใจของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ อีก​ฝ่าย​จึงมีภาพลักษณ์​ที่​ยิ่งใหญ่​สง่างามอย่าง​มาก​ เก่ง​ทั้ง​บุ๋น​และ​บู๊​ ว่า​กัน​ว่า​รูปโฉม​ยัง​หล่อเหลา​อีกด้วย​

ด้าน​การ​ประลอง​หมากล้อม​ ฝีมือ​ก็​ไม่ธรรมดา​อย่างยิ่ง​ ขนาด​จูเหลี่ยน​และ​เว่ย​ป้อ​ก็​ยัง​เอาชนะ​ไม่ได้​ แล้ว​ยัง​สามารถ​พูดคุย​เรื่อง​ความรู้​ใน​ด้าน​การ​สอบ​เค​อจวี่​กับ​เมล็ด​พันธ์​บัณฑิต​อย่าง​เฉาฉิงหล่า​ง หยวน​ไหล​สอง​คน​นี้​ได้​ด้วย​

ว่า​กัน​ว่า​ทุก​วันที่​เฝ้าประตู​ภูเขา​ เขา​จะต้อง​ช่วย​ชี้แนะ​วิชา​หมัด​ให้​กับ​เฉิน​ยวน​จีอย่าง​มีน้ำอดน้ำทน​

พูดจา​ตลกขบขัน​น่าสนใจ​ ทั้ง​ทะลึ่งตึงตัง​ทั้ง​จริงจัง​ ทั้ง​สามัญทั้ง​สง่างาม อะไร​ที่​บอ​กว่า​คนแก่​ผม​ขาว​ทัด​บุปผา​เหมือน​คนหนุ่มสาว​ ยาม​บุรุษ​ทำ​ตุ้งติ้ง​ขึ้น​มาก็​ไม่มีเรื่อง​อะไร​ของ​สตรี​แล้ว​ ล้วน​ต้อง​ชิด​ซ้าย​ไป​เลย​

ตรงหน้า​ประตู​ภูเขา​ ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​กำลัง​งีบหลับ​อยู่​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ กอด​คาน​หาบ​สีทอง​และ​ไม้เท้า​เดินป่า​สีเขียว​เอาไว้​ สัปหงก​เหมือน​ลูกเจี๊ยบ​จิก​เมล็ด​ข้าวเปลือก​

แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​ขยี้ตา​ เริ่ม​รอคอย​ให้​เจ้าขุนเขา​คนดี​พา​ตน​ไป​เที่ยวเล่น​ที่​เมือง​หง​จู๋ด้วยกัน​ ท่อง​ยุทธ​ภพ​ไม่ต้อง​สน​ว่า​ใกล้​หรือ​ไกล​นี่​นะ​

ตอนกลางวัน​ก็​มีข้อดี​ของ​ตอนกลางวัน​ ตอนกลางคืน​ก็​มีข้อดี​ของ​ตอนกลางคืน​ หิ่งห้อย​โผบิน​ จิ้งหรีด​และ​กบ​ตัว​เขียว​ทะเลาะ​กัน​ สายน้ำ​ที่​ไหล​ระหว่าง​ร่อง​คันนา​แวะเวียน​มาทักทาย​ ต้น​หญ้า​ป่า​งีบหลับ​ท่ามกลาง​สายลม​บางเบา​ ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า​กะพริบตา​ปริบๆ​ ให้​กับ​โลก​มนุษย์​

หมี่​ลี่​น้อย​กระโดด​ผลุง​ขึ้น​มา มือหนึ่ง​ถือ​คาน​หาบ​สีทอง​ อีก​มือหนึ่ง​คว้า​ไม้เท้า​เดินป่า​ ร่าย​วิชา​กระบี่​มาร​คลั่ง​ที่​ร่ำเรียน​มาจาก​เผย​เฉียน​

เฉินห​ลิง​จวิน​อยู่​ที่​ศาลา​ระหว่าง​เส้นทาง​ภูเขา​ ลาก​ป๋า​ย​เสวียน​พี่น้อง​คนดี​ให้​มาชมบุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​ด้วยกัน​

ก่อน​จะออกจาก​บ้าน​ ป๋า​ย​เสวียน​ได้​ชงชาโก่​ว​ฉี่ (เก๋า​กี๊​ เป็น​ยาสมุนไพร​จีน​ ลักษณะ​เป็น​เม็ด​เล็ก​ๆสีแดง​) มาเอง​หนึ่ง​กา​ เคย​ได้ยิน​เฉินห​ลิง​จวิน​บอ​กว่า​ ดื่ม​ชาชนิด​นี้​แล้​วจะ​ดู​ว่า​ตน​คือ​คน​เก่าแก่​ใน​ยุทธ​ภพ​

ทุกวันนี้​ป๋า​ย​เสวียน​หงุดหงิด​ใจอย่าง​มาก​ เรียน​วิชา​หมัด​ช่างยาก​ยิ่งนัก​ ไม่เหมือนกับ​ฝึก​กระบี่​เลย​

แค่​มอง​ก็​เป็น​ แค่​ใช้ก็​ไร้ประโยชน์​

โชคดี​ที่​ขอ​แค่​ไม่ต้อง​ขึ้น​เวที​ประลอง​ก็​ยังคง​ไร้​ศัตรู​ทัดทาน​อยู่ดี​

เฉินห​ลิง​จวิน​มักจะ​พูดจา​แทงใจดำ​คน​เสมอ​ บอ​กว่า​คราวก่อน​เจ้าประลอง​ยุทธ​กับ​เผย​เฉียน​ ร้ายกาจ​มาก​เลย​นะ​ เกือบจะ​ล้ม​ไป​กอง​เสียแล้ว​ ขนาด​ถูก​ต่อย​ก็​ยัง​ต้อง​ยืน​กลับ​ไป​ให้ได้​

หาก​ไม่เป็น​พี่น้อง​บ้าน​ตัวเอง​ ป่านนี้​ป๋า​ย​เสวียน​คง​ถลก​แขน​เสื้อ​วางมวย​ด้วย​ไป​แล้ว​

เงิน​หนึ่ง​อีแปะ​ล้ม​วีรบุรุษ​ผู้​กล้า​ได้​ เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​เฉินห​ลิง​จวิน​ที่อยู่​ใน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ กระเป๋า​เงินแห้ง​กรอบ​ ไม่มีเงิน​จะให้การ​สนับสนุน​ใคร​แล้ว​ ไม่อาจ​รั้ง​เงิน​ไว้​ได้​เลย​จริงๆ​

ใน​ช่วงเวลา​หลาย​ปี​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อัตคัด​ขัดสน​ที่สุด​นั้น​ ต่อให้​ต้อง​ตาย​เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​ยัง​รัก​หน้าตา​ อันที่จริง​เขา​คอย​ควัก​เงิน​ใน​กระเป๋า​ตัวเอง​แล้ว​เปลี่ยน​วิธีการ​นำมา​มอบให้​กับ​ภูเขา​บ้าน​ตัวเอง​อยู่​ตลอด​

นอกจาก​เงิน​แต่ง​ภรรยา​ที่​ต่อให้​ฟ้าผ่า​ก็​มิอาจ​สะเทือน​ได้​แล้ว​ เขา​ก็​ไม่มีเงิน​ให้​ใช้จ่าย​ฟุ่มเฟือย​ติดมือ​สัก​เหรียญ​เดียว​

ภายหลัง​ได้​เงินเดือน​จาก​ทาง​ภูเขา​ ทรัพย์สมบัติ​ส่วนใหญ่​ล้วน​หมด​ไป​กับ​การ​เดินทาง​ท่อง​อุตรกุรุทวีป​ครานั้น​ คบหา​สหาย​หลาย​คน​ เขา​เคยชิน​กับ​การ​ทุ่ม​ทองพันชั่ง​มานาน​แล้ว​ จึงใช้หมด​ไป​นาน​แล้ว​

ดังนั้น​ทุกครั้งที่​ชมบุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​ ก่อน​เฉินห​ลิง​จวิน​ทุ่มเงิน​เพื่อ​เปิดปาก​พูด​ก็​จะต้อง​คิด​อยู่​นาน​ว่า​ควร​พูด​อะไร​ เงิน​ส่วน​นั้น​ถึงจะไม่เสียเปล่า​

โชคดี​ที่​ได้มา​เจอ​กับ​โจว​อันดับ​หนึ่ง​ที่​ใจกว้าง​มือเติบ​ แต่กลับ​รู้จัก​วางตัว​เป็น​คนเก่ง​กว่า​เว่ย​ซาน​จวิน​ร้อย​เท่า​!

เพราะ​โจว​อันดับ​หนึ่ง​ได้​ทิ้ง​เงิน​เทพ​เซียน​ไว้​ให้​สอง​ถุง ถุงหนึ่ง​เป็น​เงิน​ฝน​ธัญพืช​ ถุงหนึ่ง​เป็น​เงินร้อน​น้อย​ ล้วน​ยก​ให้​เฉินห​ลิง​จวิน​ทั้งหมด​ บอ​กว่า​ให้​ช่วย​ออก​เงินสนับสนุน​แทน​เขา​ อย่า​ให้​บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​ของ​เทพธิดา​หลิว​แห่ง​ยอดเขา​อี​ไต้​เงียบเหงา​เกินไป​

ก่อนหน้านี้​ดื่มเหล้า​ที่​ตรอก​ฉีหลง​ไป​ด้วยกัน​มื้อ​หนึ่ง​ เฉินห​ลิง​จวิน​ โจว​อันดับ​หนึ่ง​ เจ้าบ้าน​อย่าง​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ ต่าง​ก็​ดื่ม​กัน​อย่าง​เต็มคราบ​บันเทิง​เริงใจ​

เฉินห​ลิง​จวิน​ดื่ม​จน​หน้าแดง​หู​แดง​ ยืน​อยู่​บน​ม้านั่งยาว​ ตบ​อก​ตัวเอง​อย่าง​แรง​ พูด​รับรอง​กับ​เจียง​ซ่างเจิน​ว่า​ ‘พวกเรา​สอง​พี่น้อง​คือ​ใคร​กับ​ใคร​ ไม่ต้อง​พูด​ให้​มากความ​ ล้วน​อยู่​ใน​สุรา​หมด​แล้ว​ เจอกัน​ใหม่​คราวหน้า​ก็​จะได้​ร่วมมือ​กัน​อีกครั้ง​!’

หลิว​รุ่น​อวิ๋น​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ของ​ยอดเขา​อี​ไต้​ถูก​เทพธิดา​ของ​ทะเลสาบ​หนัน​ถังขัดขวาง​ แต่​ก็​ยัง​แอบ​เปิด​บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สาย​น้ำขึ้น​มาอย่าง​ลับ​ๆ ผู้ชม​มีไม่มาก​ แต่​ปราณ​วิญญาณ​ของ​ยอดเขา​อี​ไต้​กลับ​ได้รับ​ผล​เก็บเกี่ยว​ไม่น้อย​

เพราะ​ได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​คน​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​ชื่อ​เปิง​เลอะ​เจินจ​วิน​ อีก​คน​หนึ่ง​คือ​ปลา​ขาว​น้อย​ใน​คลื่น​น้ำ​ ลงมือ​ที​ก็​ใจป้ำ​จน​น่า​เหลือเชื่อ​

ทาง​ฝั่งของ​ตรอก​ฉีหลง​ ก่อนหน้า​นั้น​เด็กชาย​ผม​ขาว​ที่​เป็น​ลูกจ้าง​อยู่​ใน​ร้าน​ยา​สุ้ย​ทำเอา​เจ้าใบ้​น้อย​โมโห​ไม่เบา​ เสร็จ​แล้วก็​ไป​ลาก​เด็กสาว​ฮวา​เซิงที่อยู่​ใน​ร้าน​ติดกัน​ให้​ไป​นั่ง​อาบแดด​ตรงหน้า​ประตู​ กิน​ขนม​ที่​ติดเงิน​ไว้​ใน​ร้าน​ด้วยกัน​ กำลัง​คิด​ว่า​จะอาศัย​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​หลอก​เอา​เงิน​ส่วนหนึ่ง​มาจาก​ชุยฮ​วา​เซิงอย่างไร​ดี​ หนี้​ที่​ติด​ไว้​จะได้​ใช้คืน​เสียที​

ส่วน​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ก็​ออกจาก​ร้าน​ฉ่าว​โถว​บ้าน​ตน​แวะ​มาเยี่ยม​ร้าน​ติดกัน​ พูดคุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​กับ​น้อง​สือ​ที่​โต๊ะ​คิดเงิน​อยู่​สอง​สามประโยค​

แม้สือ​โหร​วจะ​รำคาญ​เพื่อนบ้าน​ที่​ชอบ​โอ้อวด​คน​นี้​มาก​ๆ แต่​ก็​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ยคน​นี้​ไม่ถือว่า​กินเปล่า​อยู่​เปล่า​จริงๆ​ ยกตัวอย่างเช่น​ทุกๆ​ วัน​ที่สอง​เดือน​สอง​ของ​ทุกปี​ นักพรต​ผู้เฒ่า​ก็​จะต้อง​ให้​เถียนจิ่วเอ๋อร์​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ทำ​ ‘มังกร​ร้อย​ด้าย​’ ด้วย​การ​เอา​กาน้ำ​มาหนึ่ง​กา​ ใส่เหรียญทองแดง​ลง​ไป​สอง​สามเหรียญ​ แล้วไป​ดึง​น้ำ​มาจาก​บ่อ​ ระหว่างทาง​ที่​กลับมา​จะต้อง​เท​น้ำ​ออกจาก​กา​ทีละน้อย​ไป​ตลอดทาง​ สุดท้าย​เอา​น้ำ​ที่​เหลือ​ใน​กา​และ​เงิน​เหรียญทองแดง​ไป​เท​ใน​อ่าง​น้ำ​ที่​เรือน​ด้านหลัง​ร้าน​ นอกจากนี้​ทุกๆ​ วัน​ชิงหมิง​ จะต้อง​ไป​เผา​กระดาษเงินกระดาษทอง​ที่​มุมถนน​ อันที่จริง​ก็​มีข้อ​พิถีพิถัน​เยอะ​มาก​

บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ คน​ที่​พิถีพิถัน​ที่สุด​และ​ใส่ใจกับ​ขนบธรรมเนียม​เก่าแก่​พวก​นี้​มาก​ที่สุด​ นอกจาก​ผู้ดูแล​ใหญ่​จูเหลี่ยน​แล้วก็​คือ​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ที่​ขึ้นเหนือล่องใต้​มาเกิน​ครึ่ง​ชีวิต​ผู้​นี้​แล้ว​

งานมงคล​ของ​เพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​ เขา​ก็​จะไป​ช่วย​งาน​ด้วย​เช่นกัน​ แค่​กินข้าว​มื้อ​เดียว​ก็​พอ​ ไม่เก็บ​เงิน​ ไม่เพียงแค่​เมือง​เล็ก​เท่านั้น​ อันที่จริง​อำเภอ​และ​เขต​ทั้งหลาย​ใน​จังหวัด​หลง​โจว​ก็​มีการ​เชิญเทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ที่​ยิ่ง​นาน​ก็​ยิ่ง​มีชื่อเสียง​ไป​เช่นกัน​ ครอบครัว​เศรษฐี​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มอบ​ซอง​แดง​ให้​ ใหญ่​หรือ​เล็ก​ก็​อยู่​ที่​น้ำใจ​ ดู​ตามกำลัง​ทรัพย์​ของ​ตัวเอง​ ให้​มาก​หรือ​ให้​น้อย​ก็​ไม่เป็นไร​ หาก​ฐานะ​ทางบ้าน​ไม่ค่อย​ดี​ นักพรต​ผู้เฒ่า​ก็​จะไม่เก็บ​เงิน​แม้แต่​อีแปะ​เดียว​ กินข้าว​หนึ่ง​มื้อ​ มอบ​เหล้า​ข้าว​หมัก​ใน​พื้นที่​ให้​สัก​กา​ แค่นี้​ก็​เพียงพอ​

คน​มากมาย​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ บางที​คน​ที่​ชอบ​ดื่มเหล้า​อย่าง​แท้จริง​ หรือ​ควรจะ​บอ​กว่า​ดื่มเหล้า​แทน​ข้าว​ ก็​น่าจะ​มีแค่​เจี่ยเฉิง​แล้ว​ อันที่จริง​หมี่​อวี้​และ​เฉินห​ลิง​จวิน​ต่าง​ก็​ไม่ได้​ชอบ​ดื่มเหล้า​อย่าง​นักพรต​เฒ่า

วันนี้​ผู้เฒ่า​เอนกาย​พิง​โต๊ะ​คิดเงิน​ คุย​ถึงเจ้าขุนเขา​บ้าน​ตน​กับ​สือ​โหร​ว​ เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​กล่าว​ “การ​พูดจา​และ​ทำ​อะไร​ระมัดระวัง​ของ​เจ้าขุนเขา​ของ​พวกเรา​ อย่า​ได้​ดูแคลน​เด็ดขาด​ นี่​ถือ​เป็นการ​รักษาศีล​อย่างหนึ่ง​แล้ว​”

ตลอดทั้ง​อาณาเขต​หลง​โจว​ต้า​หลี​ นอกจาก​ผู้ฝึก​ตน​จำนวน​น้อย​นิด​แล้ว​ ทั้ง​บน​และ​ล่าง​ภูเขา​ต่าง​ก็​ไม่รู้​เลย​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​

ในความเป็นจริง​แล้ว​ผู้ฝึก​ลมปราณ​แทบจะ​ทั่ว​ทั้ง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ต่าง​ก็​มึนงง​สับสน​เช่นเดียวกัน​

เพราะ​ภาพ​เหตุการณ์​ประหลาด​นั้น​เกิดขึ้น​เร็ว​เกินไป​แล้ว​จริงๆ​

ท้องฟ้า​มีรู​โหว่​ แสงสีขาว​เส้น​หนึ่ง​เปล่ง​วูบ​แล้ว​จางหาย​

ใน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มีเพียง​ชุยตง​ซาน​ที่นอน​อยู่​บน​ระเบียง​ชั้นสอง​ของ​เรือน​ไม้ไผ่​เท่านั้น​ที่​สัมผัส​ได้​ถึงความผิดปกติ​

เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ที่อยู่​ตรอก​ฉีหลง​สัมผัส​ได้​ถึงพลานุภาพ​น่า​หวั่นเกรง​ที่​ทำให้​หายใจ​แทบ​ไม่ออก​

คล้าย​กับ​ทัณฑ์​สวรรค์​อัน​ยิ่งใหญ่​น่าเกรงขาม​ยาม​ที่​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ต้อง​เจอ​เมื่อ​ฝ่าทะลุ​คอขวด​

ซาน​จวิน​เว่ย​ป้อ​สัมผัส​ได้​ทางจิต​ เขา​ถึงขั้น​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​ชั่วพริบตา​นั้น​อาณาเขต​ของ​ขุนเขา​เหนือ​ได้​ถูก​ทำลาย​ย่อยยับ​ใน​เวลา​เพียง​ชั่ว​ครู่เดียว​ ทว่า​รอ​กระทั่ง​เว่ย​ป้อ​ออก​มาจาก​จวน​ที่พำนัก​ มาที่​ยอดเขา​พี​อวิ๋น​ กลับ​ไม่พบ​ความผิดปกติ​ใดๆ​

ภาพลวงตา​หรือ​?

แน่นอน​ว่า​ต้อง​ไม่ใช่ภาพลวงตา​

นั่น​เป็น​วิธีการ​หนึ่ง​ที่​โจว​มี่ปล่อย​ลง​มายัง​โลก​มนุษย์​กับ​มือ​ตัวเอง​

เป็นการ​ลงมือ​อย่าง​เฉียบคม​ตาม​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ครั้งแรก​หลังจากที่​โจว​มี่ขึ้น​สวรรค์​ไป​

เพียงแต่ว่า​หายนะ​วอดวาย​ที่​เดิมที​มาก​พอ​จะทำให้​อดีต​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูทั้ง​แห่ง​สลาย​หาย​ไป​ กลับ​จางหาย​ดุจ​หมอก​ควัน​ใน​ชั่วพริบตา​เพียง​เพราะ​การ​ลงมือ​ขัดขวาง​ของ​คน​คน​หนึ่ง​

บุรุษ​แปลกหน้า​คน​หนึ่ง​ที่​คล้าย​แขก​ผู้มาเยือน​ เรือน​กาย​สูงเพรียว​ สวม​ชุด​ตัว​ยา​วสี​ขาว​หิมะ​ เขา​ยืน​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​หน้า​ประตู​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ คลี่​ยิ้ม​อบอุ่น​ หันหน้า​ไป​ถามแม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​เบา​ๆ “นั่ง​ได้​หรือไม่​?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด