กระบี่จงมา 894.2 เล่นหมากล้อม

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 894.2 เล่นหมากล้อม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหลียงส่วง​ถาม “อยาก​จะทำ​เรื่อง​นี้​ให้​สำเร็จ​ ชุย​ฉาน​จึงต้อง​ขอ​ความรู้​ด้าน​วิธี​ผนึก​ภูเขา​จาก​อาจารย์​ซาน​ซาน​จิ่ว​โหว​หรือ​?”

ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ทั้ง​เป็นการ​ขอ​ความรู้​ แล้วก็​เป็น​ทั้ง​การ​ประลอง​ฝีมือ​”

และ​นี่​ก็​ถือ​เป็นความ​เคารพนับถือ​ผู้อาวุโส​เนื่องจาก​ตน​ถูก​กล่อมเกลา​มาจาก​อาจารย์​ หาก​เปลี่ยนไป​เป็น​เจ้าตะพาบ​เฒ่า จะไม่เอ่ย​ประโยค​ว่า​ ‘ไม่ถือว่า​เป็นการ​ขอ​ความรู้​อะไร​ แค่​ประลอง​ฝีมือ​กัน​เท่านั้น​’ หรอก​หรือ​?

หาก​ยัง​ไม่สาแก่ใจ​มาก​พอ​ก็​อาจ​เพิ่ม​ไป​อีก​ประโยค​ว่า​ ‘คน​ยุคปัจจุบัน​ไม่จำเป็นต้อง​เทียบ​คนโบราณ​ไม่ได้​’?

เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​เอ่ย​ “รอ​สักครู่​”

ชุยตง​ซาน​พยักหน้า​รับ​ “ผู้เยาว์​จะรอ​ก็แล้วกัน​”

เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​ใช้จิต​แห่ง​มรรคา​ควบคุม​ปณิธาน​เต๋า​ของ​ทั้ง​ร่าง​ แล้ว​ใช้ปณิธาน​เต๋า​ชักนำ​ปราณ​เต๋า​ สุดท้าย​ใช้ปราณ​เต๋า​ชักนำ​ปราณ​วิญญาณ​ที่​พลัง​อำนาจ​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​เหมือน​แม่น้ำ​ลำน้ำ​ใหญ่​ที่​ไหล​ซัด​เชี่ยว​ให้​มาโคจร​รอบ​ใหญ่​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​รอบ​หนึ่ง​ พอ​เหลียงส่วง​ถอย​ออก​มาจาก​ฟ้าดิน​ของ​สภาพ​จิตใจ​แล้ว​ คน​ทั้งสอง​ก็​เข้ามา​อยู่​ใน​ห้อง​ที่​เรียบง่าย​แห่ง​หนึ่ง​ ด้านใน​มีเบาะ​รอง​นั่ง​อยู่​แค่​สอง​ใบ​กับ​โต๊ะ​น้ำชา​เล็ก​ๆ ตัว​หนึ่ง​เท่านั้น​ ด้านบน​วาง​กระถางธูป​โป๋​ซาน​ใบ​หนึ่ง​ ควัน​ม่วง​ลอย​กรุ่น​ ใน​ห้อง​อบอวล​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​

ใบหน้า​ของ​เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​เผย​รอยยิ้ม​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ “อาจารย์​ของ​เจ้าคน​นี้​ระมัดระวัง​ตัว​นัก​ ดูเหมือนว่า​จะเริ่ม​สงสัย​แล้ว​ว่า​ตัวเอง​อยู่​ใน​ความฝัน​หรือไม่​”

ก่อนหน้านี้​คำพูด​ของ​จิต​หยิน​ตน​ อันที่จริง​แทบ​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​การ​ถามกระบี่​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​แล้ว​ ร่าง​จริง​ของ​เหลียงส่วง​ที่อยู่​ที่นี่​จึงถือโอกาส​นี้​ใช้ใจฟ้ามอง​ใจคน​

คนรู้จัก​ใน​อดีต​บน​โลก​มนุษย์​มีน้อย​นิด​

โจว​จื่อ​คือ​คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​

ชุยตง​ซาน​ยก​ฝ่ามือ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​โบก​ต่าง​พัด​สามที​ ชักนำ​ควัน​สีม่วง​ทอง​ที่​ล้ำค่า​ยิ่งกว่า​ควัน​ธูป​ใน​ศาล​ให้​มาทาง​ตัวเอง​หลาย​ส่วน​

ไม่มาก​ไม่น้อย​ สามส่วน​พอดี​

น้อยกว่า​นี้​ไม่ได้​ ผู้ใหญ่​มอบ​ของ​ให้​ไม่ควร​ปฏิเสธ​ มากเกินไป​ก็​ไม่เหมาะสม​

ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​กล่าว​ “สามารถ​แบกรับ​ความยากลำบาก​จาก​สวรรค์​คือ​วีรบุรุษ​ ยาก​ที่สุด​นั้น​อยู่​ที่​ยังคง​ความ​เดียงสา​ไว้​ได้​ตลอดกาล​”

เหลียงส่วง​ไม่ยอมรับ​และ​ไม่ปฏิเสธ​ ถามว่า​ “ข้า​จำต้อง​ทำ​เพราะ​ไม่มีทางเลือก​ แต่​เจ้าล่ะ​?”

เรื่อง​ที่​ปล่อย​จิต​หยิน​ออก​เดินทางไกล​ มิอาจ​ดำรงอยู่​ได้​นาน​นัก​ ทว่า​ใต้​หล้า​นี้​ไม่มีเรื่อง​อะไร​ที่​ตายตัว​ บน​ภูเขา​ก็​มีวิชา​นอกรีต​อยู่​ไม่น้อย​ ยกตัวอย่างเช่น​การสังหาร​สามอสุ​ภะของ​ลัทธิ​เต๋า​ หรือ​อย่างเช่น​การ​กำราบ​จิตใจ​ที่​เป็น​ดั่ง​วานร​เตลิด​ม้าพยศ​ของ​ลัทธิ​พุทธ​

ชุยตง​ซาน​ไม่ปิดบัง​แม้แต่น้อย​ “แบ่ง​ดวงจิต​ส่วนหนึ่ง​ออกมา​สิงอยู่​ใน​คน​กระเบื้อง​ แอบ​ไป​ที่​ใต้​หล้า​ห้า​สี เดิมที​ข้า​คิด​ว่า​จะใช้เวลา​อยู่​ที่นั่น​หกสิบ​ปี​ ช่วย​ให้​ภูเขา​ลั่วพั่ว​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​”

“วิธีการ​มากมาย​ กลอุบาย​ลึกล้ำ​ แต่​โอกาส​จาก​สวรรค์​กลับ​ตื้นเขิน​”

เหลียงส่วง​ขมวดคิ้ว​ “หว่าน​แห​ไป​ทั่ว​เช่นนี้​ เจ้าไม่ต้องการ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​แล้ว​หรือ​?”

ชุยตง​ซาน​กล่าว​ “นอกจาก​อาจารย์​ของ​ข้า​แล้ว​ ภูเขา​ลั่วพั่ว​ล้วน​ไม่ขาด​ใคร​ แต่​พวกเรา​ขาด​อาณาเขต​ที่​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ขาด​กำลังคน​ และ​ยัง​ขาดเงิน​”

ภูเขา​ลั่วพั่ว​ใน​ทุกวันนี้​ ลำพัง​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ก็​มีถึงสอง​คน​แล้ว​ คือ​เสี่ยว​โม่กับ​คู่รัก​จิต​มาร​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​

เหลียงส่วง​พยักหน้า​รับ​ “สำนัก​ใหญ่​ที่​เป็น​ดั่ง​ต้นไม้​เจริญงอกงาม​ดี​”

ชุยตง​ซาน​คลี่​ยิ้ม​เจิดจ้า​ ยก​มือขึ้น​กุม​หมัด​เขย่า​อย่าง​แรง​ “ต้อง​เป็น​คำทำนาย​ที่​เป็น​มงคล​อย่าง​แน่นอน​”

เหลียงส่วง​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “อาจารย์​ของ​เจ้าคน​นี้​ขอบเขต​ถดถอย​จาก​หยก​ดิบ​มาเป็น​โอสถ​ทอง​ ตอนนี้​จึงเหมือน​สตรี​ที่​ต่อให้​มีฝีมือ​แต่​ไม่มีวัตถุดิบ​ปรุงอาหาร​ก็​แสดง​ฝีมือ​ไม่ได้​แล้ว​ แม้เขา​จะรู้​มรรค​กถา​หลากหลาย​ที่​ถือว่า​เป็น​คาถา​ชั้นยอด​ แต่​เรื่อง​ของ​การ​สะสมปราณ​วิญญาณ​กลับ​ถูก​จำกัด​เสียได้​ มิน่าเล่า​ถึงไม่ตี​กัน​ก็​ไม่รู้จัก​กับ​ ‘ข้า​’ ที่แท้​ก็​เป็น​คน​ที่​มีชะตากรรม​เดียวกัน​นี่เอง​”

ชุยตง​ซาน​กลัดกลุ้ม​ยิ่งนัก​

เฉิน​ผิง​อัน​เรียน​หมัด​กลายเป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ก่อน​ หลังจาก​กลายเป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​แล้วก็​มีชูอี​สือ​อู่​ที่​ไม่อาจ​หลอม​ใหญ่​ได้​สำเร็จ​เสียที​ บวก​กับ​ฝีมือ​ด้าน​ยันต์​ ยาม​ที่​รับมือ​กับ​ผู้อื่น​จึงถือว่า​มาก​พอ​เหลือแหล่​ ภายหลัง​อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ได้​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​แท้จริง​คน​หนึ่ง​ ได้​ครอบครอง​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​ที่​ ‘ไร้เหตุผล​อย่าง​ถึงที่สุด​’ ดังนั้น​จึงไม่ถูก​จำกัด​ด้าน​ปราณ​วิญญาณ​ว่า​มีมาก​หรือ​น้อย​ จากนั้น​ก็​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่งหนึ่ง​ที่​เหลือ​ รวมไปถึง​ยืม​มรรค​กถา​ขอบเขต​สิบ​สี่จากลู่​เฉิน​มาใช้ชั่วคราว​

ดังนั้น​ตลอดทาง​ที่​เดิน​มานี้​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงถึงกับ​ไม่เคย​ประสบ​กับ​การเข่นฆ่า​บน​ภูเขา​ที่​ ‘ปราณ​วิญญาณ​ถูก​เผาผลาญ​หมดสิ้น​’ มาก่อน​

ไม่อย่างนั้น​การ​ประลอง​เวท​คาถา​บน​ภูเขา​ หรือ​การ​ปิด​ด่าน​ฝึก​ตน​ ทำการ​ ‘พลิก​’ ขุนเขา​สาย​น้ำขึ้น​ใหม่​ ปราณ​วิญญาณ​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​แห้งขอด​จน​มองเห็น​ก้นบึ้ง​ซึ่งบางครั้ง​เป็น​ฝ่าย​กระทำ​เอง​ บางครั้ง​เป็น​ฝ่าย​ถูกกระทำ​ ก็​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ปกติ​อย่าง​มาก​

บน​ภูเขา​มีการ​ยกตัว​อย่างว่า​ ปราณ​วิญญาณ​และ​ทรัพย์สมบัติ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​ล่าง​มีมาก​หรือ​น้อย​ก็​คือ​ความต่าง​ระหว่าง​เงิน​เกล็ด​หิมะ​หนึ่ง​เหรียญ​หรือ​หลาย​เหรียญ​

เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​กลาง​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​สร้าง​โอสถ​ทอง​ก็​เท่ากับ​ว่า​ได้​ครอบครอง​เงินร้อน​น้อย​หนึ่ง​เหรียญ​แล้ว​

รอ​กระทั่ง​ฝ่าทะลุ​คอขวด​ก่อกำเนิด​ เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ ปราณ​วิญญาณ​และ​ทรัพย์สมบัติ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​คน​หนึ่ง​ก็​สามารถ​นำ​เงิน​ฝน​ธัญพืช​มาประเมิน​ได้​แล้ว​

เหลียงส่วง​ถาม “เจ้าเตรียม​จะก่อร่างสร้างตัว​ด้วย​มือเปล่า​จาก​ทั้งที่​ใบ​ถงทวีป​และ​ใต้​หล้า​ห้า​สีในเวลาเดียวกัน​หรือ​?”

ชุยตง​ซาน​หัวเราะ​หึหึ​ “หวัง​ว่า​จะเป็น​เช่นนั้น​”

“ข้า​รู้สึก​ใคร่​รู้อยู่​บ้าง​ เจ้าดึง​ความมั่นใจ​ส่วน​นั้น​ขึ้น​มาอย่างไร​?”

ผู้ฝึก​ตน​ บำรุง​จิตวิญญาณ​ง่าย​ แต่​ทำ​จิตวิญญาณ​ให้​กระปรี้กระเปร่า​นั้น​ยาก​ จิต​แห่ง​มรรคา​ง่าย​ที่จะ​ปริ​แตก​ ยาก​ที่จะ​ซ่อมแซม​แก้ไข​ ความมั่นใจ​ร่วง​ดิ่ง​ลง​ง่าย​ ยก​ดึง​ขึ้น​มากลับ​ยาก​

ชุยตง​ซาน​เอ่ย​อย่าง​ขุ่นเคือง​ “ตอน​ที่อยู่​หน้า​ประตู​ภูเขา​บ้าน​ตัวเอง​ถูก​เจ้าคน​แซ่เจิ้งทำให้​โมโห​เกือบตาย​”

เหลียงส่วง​พยักหน้า​ “ฝีมือ​การ​เล่น​หมากล้อม​ของ​เจิ้งจวี​จงสูงเกินไป​ ย่อม​มีมาด​สูงส่งของ​ตัวเอง​ แต่​เขา​กลับ​โปรด​ปราณ​ซิ่ว​หู่​เป็นพิเศษ​”

ใน​เมื่อ​พูด​ไป​ถึงเจิ้งจวี​จง เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​ที่​เชี่ยวชาญ​ศาสตร์​การ​เล่น​หมากล้อม​จึงยิ้ม​ถามว่า​ “มาประชัน​กัน​สัก​ตา​ดี​ไหม​?”

เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ถูมือ​ “ผู้อาวุโส​อยาก​แพ้​หรือ​อยาก​ชนะ​ล่ะ​?”

เหลียงส่วง​ส่ายหน้า​ “ไม่รู้จัก​พูด​เหมือน​อาจารย์​เจ้าเลย​”

หลังจากนั้น​เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​ก็​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​หนึ่ง​ครั้ง​ ขุนเขา​สายน้ำ​ใน​ใบ​ถงทวีป​ถูก​จำแลง​ออกมา​ใน​ห้อง​ เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​สอดส่าย​สายตา​ไป​ทั่ว​ เลือก​ห้า​ขุนเขา​ใหม่​เก่า​และ​ภูเขา​ทายาท​ออกมา​ หลอม​รวมพวก​มัน​เป็น​เม็ด​หมาก​สีเขียว​มรกต​หนึ่งร้อย​หกสิบ​เม็ด​ ชุยตง​ซาน​เอาอย่าง​ จำแลง​แม่น้ำ​ลำคลอง​ของ​หนึ่ง​ทวีป​ให้​กลายเป็น​เม็ด​หมาก​สีขาว​หิมะ​เม็ด​แล้ว​เม็ด​เล่า​ แต่กลับ​มีแค่​ห้าสิบ​เม็ด​เท่านั้น​ เห็นได้ชัด​ว่า​จำนวน​ของ​เม็ด​หมาก​น้อยกว่า​เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​มาก​ เอา​พวก​มัน​มารวมกัน​ไว้​ข้าง​ฝ่าเท้า​ เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​กำ​เม็ด​หมาก​สีขาว​หิมะ​กำ​หนึ่ง​ขึ้น​มา จากนั้น​ชูกำปั้น​ขึ้น​ “เดา​ก่อน​?”

เหลียงส่วง​หยิบ​เม็ด​หมาก​สีเขียว​ออกมา​เม็ด​หนึ่ง​โดยตรง​ โน้ม​กาย​ไป​ด้านหน้า​เล็กน้อย​ ดูเหมือน​จะกระโดด​ข้าม​ขั้นตอน​การ​เดา​ก่อน​ไป​โดยตรง​ เป็น​ฝ่าย​วาง​เม็ด​หมาก​นำ​ไป​ก่อน​ เม็ด​หมาก​ลอยอยู่​กลางอากาศ​

ราวกับ​กำลัง​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​กับ​เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ว่า​ ข้า​เหลียงส่วง​คือ​ผู้อาวุโส​ที่​ขึ้น​เขา​ฝึก​ตน​เร็ว​ยิ่งกว่า​ ทุกวันนี้​ขอบเขต​ก็​สูงกว่า​เจ้าด้วย​ เรื่อง​อย่าง​การ​เดา​ก่อน​ ใน​เมื่อ​ไม่มีอะไร​ให้​ต้อง​ลุ้น​ ไย​ต้อง​ทำ​เรื่อง​ที่​เกินความจำเป็น​นี้​ด้วย​เล่า​

ปัญหา​เพียง​หนึ่งเดียว​ใน​ตอนนี้​คือ​ระหว่าง​คน​ทั้งสอง​ไม่มีกระดาน​หมาก​

นี่​เป็น​ ‘มาด​ผู้อาวุโส​’ อีก​อย่างหนึ่ง​ของ​เหลียงส่วง​แล้ว​ เรื่อง​ของ​การ​เดา​ก่อน​ตน​ได้เปรียบ​ ทว่า​บน​กระดาน​หมาก​กลับ​ไม่ได้เปรียบ​ชุยตง​ซาน​เลย​แม้แต่น้อย​ ขณะเดียวกัน​ ขนาดใหญ่​เล็ก​ของ​กระดาน​หมาก​ที่​ประลอง​กัน​ครั้งนี้​สามารถ​มีช่อง​ที่​ตัด​สลับ​กัน​มากกว่า​สิบ​เก้า​ช่อง​ได้​ นอกจากนี้​ระยะห่าง​ระหว่าง​เส้น​สอง​เส้น​ที่​ตัด​สลับ​กัน​ อันที่จริง​จำเป็นต้อง​ให้​ทั้งสองฝ่าย​อาศัย​การ​วาง​เม็ด​หมาก​มาตัดสิน​ เป็นเหตุให้​กระดาน​หมาก​นี้​ นับตั้งแต่​เม็ด​หมาก​ไป​จนถึง​การ​เดา​ก่อน​ จน​มาถึงกระดาน​หมาก​ ล้วน​แผ่​ความลี้ลับ​ขุม​หนึ่ง​ออกมา​ให้​เห็น​ กฎ​เดิม​ กฎ​ใหม่​ ล้วน​มีทั้งหมด​ ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​มีสูตร​ของ​การ​ลงมือ​ก่อน​ วิธี​เทพ​เซียน​ วิธี​ไร้เหตุผล​ ล้วน​เกิดขึ้น​ตามลำดับ​ เม็ด​หมาก​ที่อยู่​บน​กระดาน​ประหนึ่ง​ขุน​เขาใหญ่​หลาย​ลูก​ที่ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​บน​พื้นดิน​ หลักการ​การ​เล่น​หมากล้อม​มากมาย​ก็​เหมือน​สายน้ำ​หลาย​เส้น​ที่​ทอด​ยาว​อยู่​ใน​นั้น​ ราวกับว่า​มี ‘อายุขัย​ยาวนาน​ไม่เสื่อมสลาย​’ ยิ่งกว่า​เซียน​เห​ริน​เสีย​อีก​ ประหนึ่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​บน​โลก​มนุษย์​ที่​ต่าง​ก็​เกิด​และ​ดับ​อยู่​บน​กระดาน​หมาก​อย่าง​ต่อเนื่อง​

ทั้งสอง​วาง​เม็ด​หมาก​รวดเร็ว​ราวกับ​บิน​

หลังจาก​ต่าง​คน​ต่าง​ลงมือ​ไป​ห้าสิบ​ครั้ง​แล้ว​ ชุยตง​ซาน​ที่​ไม่เหลือ​เม็ด​หมาก​สีขาว​หิมะ​แล้วก็​พลัน​กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ สุดท้าย​ถึงกับ​หลอม​รวม​เม็ด​หมาก​สีเขียว​มรกต​เม็ด​หนึ่ง​มาจาก​ภูเขา​เซียน​ตู​ของ​สำนัก​บ้าน​ตัวเอง​ คีบ​ขึ้น​มาเบา​ๆ วาง​เคาะ​ลง​ไป​บน​กระดาน​

เหลียงส่วง​จ้องมอง​กระดาน​หมาก​ ครุ่นคิด​อยู่​นาน​ ก่อน​จะถอนหายใจ​ คว้า​เม็ด​หมาก​สีเขียว​กำ​หนึ่ง​มาโปรย​ลง​บน​กระดาน​ นี่​ถือว่า​เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​โยน​เม็ด​หมาก​ยอมแพ้​แล้ว​

ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​กล่าว​ “ผู้อาวุโส​มีเกียรติ​และ​หยิ่งในศักดิ์ศรี​จริงๆ​”

เหลียงส่วง​ถาม “ชื่อ​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​?”

ชุยตง​ซาน​ตอบ​ “เลือก​ภูเขา​เซียน​ตู​ของ​ใบ​ถงทวีป​ ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​สำนัก​กระบี่​ชิงผิง​”

เหลียงส่วง​พยักหน้า​รับ​ “ยอดเขา​ตระหง่าน​เสียดแทง​ชั้น​เมฆใกล้​แดน​สวรรค์​ เทือกเขา​ไม่ขาดสาย​ทอด​ตรง​ไป​ยัง​ริม​ชายหาด​มหาสมุทร​ใหญ่​ หันกลับ​ไป​มอง​เมฆขาว​ล่าง​ภูเขา​เชื่อมโยง​เป็น​แถบ​ หมอก​อวล​ผลุบ​หาย​เข้าไป​ใน​หุบเขา​ ดินแดน​เซียน​ (เซียน​ตู​) ก่อกำเนิด​บน​เมฆขาว​ คน​ชุด​เขียว​กลับ​อยู่​นอก​ภูเขา​ เพียงแต่​คน​ไม่สนใจ​ว่า​ยังอยู่​”

ชุยตง​ซาน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

ผู้อาวุโส​ที่​ไม่ด่า​คน​ส่งเดช​ก็​คือ​ผู้ใหญ่​ที่​ดี​

เหลียงส่วง​กล่าว​ “ห​ลิง​จือ​ใน​ภูเขา​และ​ฉิว​น้อย​ที่​ขดตัว​อยู่​บน​นั้น​ก็​มอบให้​พวก​เจ้าจัดการ​แล้วกัน​”

ชุยตง​ซาน​ลุกขึ้น​อำลา​

เหลียงส่วง​ลุกขึ้น​ยืน​ เดิน​ไป​ส่งถึงหน้า​ประตู​ก็​หยุด​เท้า​ มอง​เมืองหลวง​แคว้น​เหลียง​ที่​คึกคัก​รุ่งเรือง​และ​ทัศนียภาพ​ขุนเขา​สายน้ำ​ที่อยู่​ห่างไกล​ยิ่งกว่า​

ชุยตง​ซาน​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​ไป​แล้วก็​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “เห็น​ต้น​หม่อน​ต้น​ป่าน​ปลูก​เรียงราย​สอง​ข้างทาง​ ถึงเพิ่ง​รู้​ว่า​ที่แท้​ข้า​อยู่​ใน​ยุค​สันติสุข​”

เหลียงส่วง​ยังคง​ไม่ถอน​สายตา​กลับคืน​มา สุดท้าย​เอ่ย​ประโยค​ทำนาย​ที่​มีความหมาย​ลึกล้ำ​อย่าง​ถึงที่สุด​

ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​รับ​ ฟังแล้วก็​ปล่อย​ผ่าน​ไป​ เรือน​กาย​กลายร่าง​เป็น​รุ้ง​ขาว​ เดินทาง​ไป​ยัง​ศาล​เทพ​ภูเขา​ที่​ตั้งอยู่​ชายแดน​ของ​แคว้น​เหลียง​

เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​หมุนตัว​เดิน​กลับ​เข้า​ไปหา​กระดาน​หมาก​ที่​ยัง​ไม่ถูก​สลาย​ทิ้ง​ ลูบ​หนวด​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​พยักหน้า​เอ่ย​ “ตา​นี้​ หาก​ข้า​วาง​มาก​ไว้​ตรงนี้​ต้อง​ชนะ​ได้​แน่นอน​”

สตรี​ที่​เดิน​ถือ​โค​มวน​ไป​วน​มาอยู่​ใน​ระเบียง​มาที่​หน้า​ประตู​ด้วย​ความ​มึนงง​ มอง​กระดาน​หมาก​และ​เม็ด​หมาก​ที่​แปลกประหลาด​ใน​ห้อง​ นาง​ถามเสียง​เบา​ “อาจารย์​ ท่าน​เล่น​หมากล้อม​กับ​เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​แล้ว​แพ้​หรือ​เจ้าคะ​?”

เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​เอ่ย​ “จะเป็นไปได้​อย่างไร​”

สตรี​เหลือบมอง​สถานการณ์​หมาก​ แล้วจึง​หันไป​มอง​อาจารย์​อีกครั้ง​

เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​จึงได้​แต่​อธิบาย​ว่า​ “แพ้​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​ แต่กลับ​ชนะ​ใน​เรื่อง​น้ำใจ​และ​จิตใจ​”

……

บน​ขั้นบันได​หน้า​ประตู​ศาล​เทพ​ภูเขา​ เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​เอ่ย​อำลา​เจิน​เห​ริน​ผู้เฒ่า​

คน​ทั้ง​กลุ่ม​กลับ​ไป​ยัง​ภูเขา​ลูก​ที่​พลิ้ว​กาย​ลงมา​ก่อนหน้านี้​อีกครั้ง​ ฝู่จวิน​เหนียง​เนียง​ยังคง​ถูก​ทิ้ง​ให้​รอ​อยู่​ที่นี่​

ชุยตง​ซาน​ใช้เสียง​ใน​ใจบอกเล่า​คร่าวๆ​ รอบ​หนึ่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ สายตา​ของ​ตน​ไม่เลว​ เป็นยอด​ฝีมือ​นอก​โลก​ที่​จิตใจ​ยาก​จะคาดเดา​คน​หนึ่ง​จริงๆ​ ด้วย​

บน​ยอดเขา​ เจียง​อิ๋งฝู่จ​วิน​แห่ง​ภูเขา​จี้ซาน​ ฝู่จวิน​เหนียง​เนียง​ท่าน​นี้​ถูก​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​บางส่วน​ที่​คุ้นหน้า​คุ้นตา​กัน​ดี​เรียกขาน​อย่าง​ให้​ความเคารพ​ว่า​อวิ๋น​เฮ้อ​ฮูหยิน​ นาง​มีบุคลิก​ที่​สง่างามอย่าง​มาก​ เทพ​หญิง​และ​สาวใช้​ใน​จวน​ถูก​นาง​ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​ไฉ่ซือ​กวาน​ (ขุนนาง​ผู้​รวบรวม​บทกวี​) สี่โม่ (ขุนนาง​ผู้​ล้าง​หมึก​) กวาน​ เป็นต้น​

สาวใช้​ประจำ​กาย​คน​หนึ่ง​ที่​รับผิดชอบ​หวี​ผม​ประทิน​โฉมให้​กับ​เจียง​อิ๋ง​ถามเสียง​เบา​ “เหนียง​เนียง​ คนต่างถิ่น​กลุ่ม​นี้​ดูเหมือนว่า​จะไม่ใช่ผู้ฝึก​ลมปราณ​ทั่วไป​นะ​เจ้าคะ​”

ยาม​นาง​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ฝู่จวิน​เหนียง​เนียง​ ตัว​จะเตี้ย​กว่า​อีก​ฝ่าย​ถึงสอง​ช่วง​ศีรษะ​

เจียง​อิ๋ง​ยิ้ม​เอ่ย​สัพยอก​ “เจ้าก็​มองออก​ด้วย​หรือ​?”

ก่อนหน้านี้​คน​กลุ่ม​นั้น​ใช้วิธีการ​หลบหนี​ที่​ลี้ลับ​อย่าง​มาก​ พริบตาเดียว​ก็​ขยับ​ห่าง​ไป​หลาย​ร้อย​ลี้​โดย​ไม่มีปราณ​วิญญาณ​กระเพื่อม​แม้แต่น้อย​ พลัง​อำนาจ​น่า​ครั่นคร้าม​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ที่​ศาล​เทพ​ภูเขา​แห่ง​นั้น​ บริเวณ​รอบด้าน​ขมุกขมัว​เหมือน​มอง​บุปผา​ใน​ม่าน​หมอก​

นี่​หมายความว่า​มังกร​ข้าม​แม่น้ำ​ที่​ยัง​ไม่ทราบ​สถานะ​กลุ่ม​นี้​ อย่าง​น้อยที่สุด​ต้อง​มีคน​สอง​คน​ที่​เป็น​ก่อกำเนิด​ ไม่แน่​ว่า​ใน​กลุ่ม​อาจ​ยังมี​เทพ​เซียน​ห้า​ขอบเขต​บน​อยู่​ด้วย​ อีก​ทั้ง​ต่อให้​นาง​จะเลื่อนขั้น​เป็น​ซาน​จวิน​ห้า​มหา​บรรพต​ของ​หนึ่ง​แคว้น​แล้ว​ หาก​ไม่มีควัน​ธูป​ที่​โชติช่วง​ห้า​หกร้อย​ปี​ ร่าง​ทอง​ก็​อย่า​หวัง​ว่า​จะเลื่อน​เป็น​ระดับ​ก่อกำเนิด​ได้​

ฝู่จวิน​เหนียง​เนียง​แห่ง​ภูเขา​จี้ซาน​ท่าน​นี้​ใช้ตราประทับ​ลมโชย​บุปผา​เบ่งบาน​ยี่สิบ​สี่ฤดูกาล​เล่ม​นั้น​เคาะ​ฝ่ามือเบา​ๆ

วิธี​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​ก็​คือ​กลับ​ไป​ที่​ราชรถ​แล้ว​เดินทาง​กลับ​จวน​ทันที​ ทำเป็น​ว่า​ไม่มีเรื่อง​อะไร​เกิดขึ้น​ทั้งนั้น​

ใบ​ถงทวีป​ใน​ทุกวันนี้​ มังกร​ข้าม​แม่น้ำ​ที่​มาจาก​ทวีป​อื่น​มีมากเกินไป​จริงๆ​

พูดถึง​แค่​ท่าเรือ​ชวี​ซาน​ที่อยู่​ทางทิศใต้​สุด​ก็​มี ‘เซียน​กระบี่​สวี่จ​วิน​’ ที่มา​จาก​ทวีป​อื่น​ รับผิดชอบ​คอย​รับรอง​เรือ​ข้าม​ทวีป​สอง​ลำ​ที่มา​จาก​…สกุล​หลิว​ธวัล​ทวีป​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ผู้ฝึก​ตน​เพื่อนบ้าน​อย่าง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ที่อยู่​ทาง​ทิศเหนือ​ ปี​นั้น​อีก​ฝ่าย​ทำได้​แค่​ยืด​คอ​ยาว​แหงน​มอง​ใบ​ถงทวีป​ ทว่า​ทุกวันนี้​ลม​และ​น้ำ​หมุนเวียน​เปลี่ยน​ผ่าน​ กลายเป็น​ผู้ฝึก​ตน​ของ​ใบ​ถงทวีป​ที่​พอ​เจอ​หน้า​พวกเขา​แล้ว​ต่ำต้อย​กว่า​หนึ่ง​ขั้น​ ขอบเขต​ต่ำกว่า​หนึ่ง​ระดับ​แล้ว​

ผู้ฝึก​ตน​ต่างถิ่น​จำนวน​ไม่น้อย​ซ่อนตัว​อยู่​เบื้องหลัง​ ไม่ว่า​จะอาศัย​เงินทอง​หรือ​อาศัย​อะไร​ ไป​อยู่​แคว้น​เล็ก​ๆ บางแห่ง​ที่​เพิ่งจะ​กอบกู้​แคว้น​ได้​ไม่กี่​ปี​ก็ได้​เป็น​ไท่​ซ่างหวง​ที่​ยึด​กุม​การปกครอง​ คอย​ประคับประคอง​หุ่นเชิด​อยู่​อย่าง​ลับ​ๆ ได้​แล้ว​ พวกเขา​มัก​ทำ​อะไร​เด็ดขาด​ ยาม​หาเงิน​ขึ้น​มาก​็ใจดำ​ยิ่งนัก​ กว้าน​เอา​ทรัพยากร​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​มาอย่าง​กำเริบเสิบสาน​ ยกตัวอย่างเช่น​ตระกูล​โหว​แห่ง​นคร​มังกร​เฒ่าที่​เป็น​พันธมิตร​กับ​ราช​วงศ์สกุล​อวี๋…​แต่​ก็​มิอาจ​ปฏิเสธ​ได้​ว่า​ จำนวน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​เหลืออยู่​ซึ่งหนี​กลับ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ไม่ทัน​มีเยอะ​มาก​ หาก​ไม่มีพวก​ผู้ฝึก​ตน​ต่างถิ่น​ที่​ข้าม​มหาสมุทร​มาพวก​นี้​ ใบ​ถงทวีป​ที่​ย่อยยับ​มาก​พอแล้ว​สรรพ​ชีวิต​ก็​มีแต่​จะยิ่ง​มอดม้วย​วอดวาย​ ลำพัง​เพียงแค่​ผู้ฝึก​ตน​ใน​ท้องถิ่น​ เกรง​ว่า​ต่อให้​ผ่าน​ไป​อีก​หกสิบ​ปี​ก็​ยัง​ไม่อาจ​รวบรวม​ขุนเขา​สายน้ำ​เก่า​กลับมา​ได้​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด