กระบี่จงมา 896.5 คืนนี้สดชื่น

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 896.5 คืนนี้สดชื่น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตาม​คำกล่าว​ของ​เจ้าขุนเขา​ก็​คือ​เฉาเซียน​ซือ​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​เป็น​คน​ช่วย​สาน​สะพาน​ความสัมพันธ์​ให้​กับ​ผู​ซาน​และ​ตำหนัก​พยัคฆ์​เขียว​

เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​ยิ้ม​เอ่ย​ “ได้ยิน​มานาน​แล้ว​ว่า​ผู้คุม​กฎ​ถาน​คือ​ยอด​ฝีมือ​ด้าน​หิน​ทอง​บน​ภูเขา​ เก็บ​สะสมร่าง​แบบ​ตราประทับ​พัน​เล่ม​กับ​ตราประทับ​หมื่น​ชิ้น​ ผู้เยาว์​ต้อง​ขอ​ใช้โอกาส​อัน​ดี​นี้​ไปเที่ยว​ชมเรือน​พัน​ทอง​หมื่น​หิน​ของ​ผู้คุม​กฎ​ถาน​สักครั้ง​แน่นอน​”

“คิดไม่ถึง​ว่า​เฉาเซียน​ซือ​ก็​ชอบ​เรื่อง​พวก​นี้​ด้วย​?”

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ถาน​หรง​ยิ่ง​กด​ลึก​มากกว่า​เดิม​ ต้อง​รู้​ว่า​ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​ท่าน​นี้​ มีเรื่อง​ที่​ภาคภูมิใจ​ที่สุด​ใน​ชีวิต​อยู่​สอง​เรื่อง​ หนึ่ง​คือ​ตอน​อายุ​ครึ่ง​ร้อย​ก็ได้​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ ‘สอง​ทอง​’ ของ​ศาล​บรรพ​จารย์ผู​ซาน​แล้ว​ เป็น​ทั้ง​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​แล้ว​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ร่าง​ทอง​อีกด้วย​ เป็นเหตุให้​เคย​แกะ​ลัก​ตราประทับ​ส่วนตัว​ด้วยตัวเอง​หนึ่ง​คู่​ นอกจากนี้​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ถาน​หรง​เก็บ​สะสมตำรา​ตราประทับ​และ​ตราประทับ​ไว้​มากมาย​

ถาน​หรง​นำ​แขก​ที่​มาจาก​ภูเขา​เซียน​ตู​กลุ่ม​นี้​ทะยาน​ลม​ไป​ยัง​จุด​รับรอง​แขก​ของ​ภูเขา​ผู​ซาน​ด้วยกัน​ สถานที่​แห่ง​นี้​ตั้งอยู่​เหนือ​ทะเล​เมฆนอก​หน้าผา​ใกล้​กับ​ศาล​บรรพ​จารย์บน​ยอดเขา​

มีเพียง​ต้อง​รับรอง​แขก​สูงศักดิ์​เท่านั้น​ เรือ​นอ​วิ๋น​ฉ่าว​ถึงจะเลือก​ที่​แห่ง​นี้​ ตรงจุด​ลึก​ของ​เมฆขาว​มีต้นไม้​โบราณ​เสียดฟ้า​พุ่ม​ใบ​เขียวชอุ่ม​อยู่​ต้น​หนึ่ง​ ร่มเงา​แผ่​กว้าง​กิน​อาณาบริเวณ​หลาย​ร้อย​ไร่​ รอบด้าน​ล้อม​ด้วย​ราว​รั้ว​หยก​ขาว​

ลูกศิษย์​ของ​เรือ​นอ​วิ๋น​ฉ่าว​ ไม่ว่า​จะชาย​หรือ​หญิง​ ล้วน​เป็น​พวก​มาก​ความสามารถ​ แทบ​ทุกคน​ต่าง​ก็​เชี่ยวชาญ​ศาสตร์​พิณ​ หมากล้อม​ พู่กัน​จีน​ ภาพวาด​ คุณ​ความชอบ​ส่วนใหญ่​ล้วน​มาจาก​ที่นี่​

ระหว่างทาง​ก่อนหน้า​นั้น​พูดคุย​กับ​เฉาเซียน​ซือ​อย่าง​ถูกคอ​ ทีแรก​ยัง​นึก​ว่า​เมื่อ​อีก​ฝ่าย​พูดคุย​ถึงด้าน​หิน​ทอง​แล้​วจะ​พูด​แค่​ถ้อยคำ​ตามมารยาท​ที่​ได้ประโยชน์​โดย​ไม่ต้อง​เสียเงิน​หมาย​กระชับ​ความสัมพันธ์​ คาดไม่ถึง​ว่า​ยิ่ง​สอง​ฝ่าย​พูดคุย​กัน​กลับ​ยิ่ง​ถูกคอ​ พูดถึง​ร่าง​ตราประทับ​บางอย่าง​ที่​มีคนรู้จัก​น้อย​นิด​ คำวิจารณ์​ของ​อีก​ฝ่าย​มักจะ​เข้าเป้า​ตรงประเด็น​เสมอ​ มีความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​อย่าง​มาก​ ไม่มีทาง​เพิ่ง​คิด​ขึ้น​มาได้​ เพราะ​เป็น​ถ้อยคำ​ของ​ผู้เชี่ยวชาญ​ที่​ไม่ใช่แค่​ว่า​อ่าน​ตำรา​ตราประทับ​ไม่กี่​เล่ม​ก็​พูด​ออกมา​ได้​

เสี่ยว​โม่เข้าใจ​หลักการ​เหตุผล​อีก​ข้อ​หนึ่ง​ มีสารพัด​ความรู้​ติดตัว​ ย่อม​ไม่มีทาง​เสียเปล่า​ ต้อง​มีช่วงเวลา​ที่​ได้​ใช้งาน​เสมอ​

เผย​เฉียน​เหล่​ตา​มอง​คน​บางคน​ คล้าย​กำลัง​พูดว่า​อาจารย์​พ่อ​ของ​ข้า​ทำได้​ เจ้าทำได้​หรือไม่​? เป็น​ลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ประสา​อะไร​กัน​?

เฉาฉิงหล่า​งอ่อนใจ​ยิ่งนัก​ อยู่ดีๆ​ ก็​อด​คิดถึง​ศิษย์​น้อง​กวอ​ขึ้น​มาไม่ได้​

หา​กก​วอ​จู๋จิ่ว​อยู่​ที่นี่​ คน​ที่​ต้อง​ปวดหัว​ที่สุด​ก็​ต้อง​เป็น​เผย​เฉียน​แล้ว​

ทุกครั้งที่​ร้อย​บุปผา​เบ่งบาน​บน​ต้นไม้​ เมื่อ​ดอกไม้​ผลิบาน​ก็​จะมีสาวงาม​ตัว​จิ๋ว​น่ารัก​น่า​ถนอม​เผย​กาย​อยู่​ใน​นั้น​ พวก​มัน​ล้วน​เป็น​ภูติ​พฤกษา​ที่​หล่อหลอม​เรือน​กาย​สำเร็จ​

สุดยอด​แห่ง​ทัศนียภาพ​อัน​งดงาม​บน​ตระกูล​เซียน​ที่​มีเฉพาะ​บน​ภูเขา​ประเภท​นี้​ไม่เพียงแต่​เผาผลาญ​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​ไป​อย่าง​มหาศาล​ ต่อให้​เป็น​ถาน​หรง​กับ​เซวีย​ไหว​ก็​ไม่ใช่ว่า​ใคร​อยาก​เห็น​ก็ได้​เห็น​ เจ้าประมุข​ของ​ผู​ซาน​แต่ละ​ยุค​แต่ละ​สมัย​ต่าง​เคารพ​นอบน้อม​ต่อ​เจ้าตัว​น้อย​พวก​นี้​มาโดยตลอด​ ห้ามไม่ให้​ใคร​ไป​รบกวน​การ​ฝึก​ตน​อย่าง​สงบ​ของ​พวก​มัน​ ดังนั้น​เจ้าพวก​ตัว​น้อย​จึงเจ้าอารมณ์​กัน​ไม่เบา​ มักจะ​เกียจคร้าน​เฉื่อย​งาน​กัน​เสมอ​ หาก​ดอกไม้​บาน​แล้ว​เอาแต่​นอนคว่ำ​อยู่​ตรงนั้น​ไม่ยอม​ขยับ​ไป​ไหน​ ก็​จะกลายเป็น​เรื่องตลก​แล้ว​ แล้วก็​ไม่ใช่ว่า​ไม่เคย​เกิด​สถานการณ์​อัน​น่า​กระอักกระอ่วน​เช่นนี้​มาก่อน​ จะสั่งสอน​ก็​สั่งสอน​ไม่ได้​ จะตี​จะด่า​ก็​ยิ่ง​ตัดใจ​ไม่ลง​ ยัง​จะทำ​อย่างไร​ได้​อีก​ ต้อง​รู้​ว่า​คราวก่อน​แขก​ผู้สูงศักดิ์​สอง​คน​มาเยือน​ เป็น​ถึงสวิน​ยวน​เจ้าสำนัก​ผู้เฒ่า​ของ​สำนัก​กุย​หยก​ที่​นำพา​เจ้าสำนัก​คน​ใหม่​อย่าง​เจียง​ซ่างเจิน​มาเยี่ยมเยือน​ภูเขา​ผู​ซาน​ด้วยกัน​

คราว​ก่อนที่​ดอกไม้​บาน​ เสียง​ด่า​ดัง​ขรม​ไม่ขาดสาย​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยังมี​ภูต​ไม่น้อย​ที่​บ้าง​ก็​เท้า​เอว​ บ้าง​ก็​เต้นผาง​ถ่มน้ำลาย​ใส่เจียง​ซ่างเจิน​

เจ้าสำนัก​คน​ใหม่​ที่​เป็น​บุรุษ​เอ้อระเหย​เสเพล​ได้​แต่​วิ่ง​วุ่น​ไป​ทั่ว​ ชูสอง​มือ​รองรับ​ ‘น้ำฝน​’ เหล่านั้น​ แล้ว​ยัง​ทำ​หน้าตา​ยิ้มแย้ม​พูด​ติดๆ​ กัน​ว่า​ขอบ​คุณๆ​ อีกด้วย​

สุดท้าย​ยัง​ทิ้ง​ประโยค​หนึ่ง​ไว้​ว่า​ ‘ฝน​ดี​รู้​เวลา​ตก​ พบ​เจอ​ข้า​ก็​พรำ​ลงมา​พอดี​’

แขก​สูงศักดิ์​ที่​เป็น​เช่นนี้​ มาเยือน​ให้​น้อย​จะดีกว่า​

ดังนั้น​ครั้งนี้​ก่อนที่​ผู้คุม​กฎ​ถาน​หรง​จะลง​จาก​ภูเขา​ก็ได้​ตั้ง​ใจมาบอกกล่าว​ไว้​ที่นี่​ก่อน​ล่วงหน้า​ แล้ว​ยัง​ฝืน​มโนธรรม​ใน​ใจพูด​ด้วยว่า​แขก​สูงศักดิ์​กลุ่ม​ที่มา​กัน​ใน​วันนี้​ เฉาหรง​ที่อยู่​ใน​กลุ่มคน​ แม้จะมีตำแหน่ง​เป็น​เค่อ​ชิงปลายแถว​ของ​สำนัก​กุย​หยก​ แต่​อันที่จริง​เขา​ไม่ได้​มีความเกี่ยวข้อง​อะไร​กับ​เจียง​ซ่างเจิน​เลย​แม้แต่น้อย​ ผู้คุม​กฎ​เฒ่ากังวล​ว่า​จะเกิดเรื่อง​จึงพูด​ย้ำ​เรื่อง​ยา​ลืมตน​สอง​เตา​ของ​ตำหนัก​พยัคฆ์​เขียว​ซ้ำอี​กรอบ​ รวมไปถึง​เรื่อง​ของ​ ‘เจิ้งเฉียน’​ ด้วย​ พวก​ภูต​น้อย​มีสีหน้า​กระตือรือร้น​ วาด​ฝัน​จินตนาการ​ไว้​มานาน​แล้ว​

เมฆขาว​เหมือน​พรม​ที่​ปู​แผ่​อยู่​บน​ฟ้า แสงสว่างจ้า​ราวกับ​ทิวากาล​

ด้าน​ข้าง​ม้านั่ง​หิน​หยก​ขาว​หลาย​สิบ​ตัว​ที่​เรียงตัว​เหมือน​ดวงดาว​ ถาน​หรงรอ​ให้​แขก​ทุกคน​นั่งลง​เรียบร้อย​แล้ว​ เซียน​ซือ​เฒ่าถึงได้​หยิบ​ชิ่ง (เครื่องดนตรี​ที่​แขวน​ไว้​สำหรับ​เคาะ​หรือ​ตี​) ทองสัมฤทธิ์​ขนาดเล็ก​ สีเหมือน​หยก​มรกต​ชิ้น​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ใช้นิ้ว​เคาะ​ลง​ไป​เบา​ๆ สามที​ เสียงดัง​กังวาน​ก็​ดังก้อง​ไป​ไกล​

บน​ต้นไม้​ตั้งแต่​สูงถึงต่ำ​ บุปผา​เบ่งบาน​ไล่​ระดับ​ เหล่า​สตรี​ที่อยู่​ท่ามกลาง​ดอกไม้​ เรือน​กาย​อรชร​บ้าง​ก็​ร่ายรำ​ บ้าง​ก็​ดีด​พิณ​ เป่าขลุ่ย​ บ้าง​ก็​ใช้ภาษาโบราณ​ขับร้อง​บทเพลง​ พวก​นาง​มีความสูง​ประมาณ​หนึ่ง​นิ้ว​ โฉมงามดุจ​เซียน​เอ๋อ​เหมย​ มวยผม​สูงแบบ​โบราณ​ สวม​ชุด​กระโปรง​บาง​แขน​ยาว​และ​กว้าง​ กลิ่นหอม​ลอย​อวล​อยู่​รอบด้าน​ ภาพ​บรรยากาศ​งดงาม​ชวน​เคลิบเคลิ้ม​ทั้ง​ยังมี​กลิ่นอาย​เซียน​ล่องลอย​

รอ​กระทั่ง​ภาพ​เหตุการณ์​นี้​ยุติ​ลง​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงลุกขึ้น​ยืน​กุม​หมัด​ขอบคุณ​เหล่า​เซียน​เจิน​ที่​พักพิง​อยู่​ใน​ต้นไม้​โบราณ​เหล่านั้น​ พวก​เสี่ยว​โม่สามคน​ย่อม​ลุกขึ้น​ตาม​ด้วย​

มีสตรี​ร่าง​เล็ก​จิ๋ว​คน​หนึ่ง​พก​ตรา​ลัญจกร​หยก​ขาว​ บน​ศีรษะ​สวมมงกุฎ​ไท่เจิน​แบบ​โบราณ​ รูป​โฉมงามพริ้ง​ บุคลิก​สง่าแผ่​ราศี​ นาง​ขยับ​เท้า​สอง​สามก้าว​มายืน​อยู่​ข้าง​กลีบดอกไม้​ ถามว่า​ “เฉาเซียน​ซือ​ ได้ยิน​ผู้คุม​กฎ​ถาน​บอ​กว่า​ท่าน​มาจาก​สำนัก​กุย​หยก​หรือ​? ท่าน​รู้จัก​อดีต​เจ้าสำนัก​เจียง​ที่​มีคุณ​ความชอบ​ทางการ​สู้รบ​เกริกก้อง​หรือไม่​?”

ถาน​หรง​เป็นกังวล​ยิ่งนัก​ เพียงแต่ว่า​เรื่อง​แบบนี้​ไม่สะดวก​จะใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​เตือน​เฉาโม่

เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​รู้ทัน​นาน​แล้ว​ ออกจาก​บ้าน​มาอยู่​ข้างนอก​ โดยเฉพาะ​อยู่​ต่อหน้า​สตรี​ ใคร​กล้า​พูดว่า​ตัวเอง​เป็น​สหาย​กับ​เจียง​ซ่างเจิน​ โง่หรือ​ไร​ เขา​จึงส่าย​หน้ายิ้ม​กล่าว​อย่าง​ไม่ลังเล​ว่า​ “เฉาโม่เป็น​เพียงแค่​เค่อ​ชิงปลายแถว​ของ​สำนัก​กุย​หยก​ ไหน​เลย​จะโชคดี​ได้​รู้จัก​กับ​อดีต​เจ้าสำนัก​เจียง​ เขา​อยู่​สูงเกิน​กว่า​ที่​ข้า​จะปีนป่าย​ได้​ถึงจริงๆ​”

ภูเขา​ลั่วพั่ว​บ้าน​ข้า​มีแค่​โจว​เฝย​ โจว​อันดับ​หนึ่ง​ ไม่เคย​รู้จัก​เจียง​ซ่างเจิน​อะไร​ทั้งนั้น​

สตรี​ผู้​นั้น​กึ่ง​เชื่อ​กึ่ง​กังขา​ สุดท้าย​ก็ได้​แต่​จุ๊ปาก​ส่ายหน้า​ “บุรุษ​นี่​นะ​”

นาง​ไม่ได้​ถามอะไร​ต่อ​อีก​

สุรา​ของ​ผู​ซาน​มีชื่อเสียง​ยิ่งกว่า​ชาเมฆหมอก​มาก​นัก​ อยู่​บน​ภูเขา​ก็​ได้รับ​การขนานนาม​ว่า​เป็น​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​น้อย​

แค่​มอบให้​ไม่มีขาย​ ผู​ซาน​ไม่ได้​ขาดเงิน​

ลำพัง​เพียงแค่​ค่าเช่า​บน​พื้นที่​ขุนเขา​สายน้ำ​นอก​ผู​ซาน​ก็​มีเจ็ดสิบ​กว่า​แห่ง​แล้ว​ ดังนั้น​บรรพ​จารย์​ที่​ดูแล​เงินทอง​ของ​ผู​ซาน​จึงเป็น​คน​ที่​สบาย​ที่สุด​ ก่อนหน้านี้​มีการประชุม​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​ครั้งหนึ่ง​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​เก็บ​เงิน​ค่าเช่า​ใน​แต่ละ​สถานที่​หลัง​สงคราม​ใหญ่​ผ่านพ้น​ เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​พูดจา​อย่าง​เรียบง่าย​ เอ่ย​แค่​สอง​คำ​เท่านั้น​ ช่างมัน​

โดยทั่วไปแล้ว​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​จะไม่ค่อย​เข้าร่วม​ดูแล​กิจธุระ​ทั้งหลาย​สัก​เท่าไร​ หาเงิน​ใช้เงิน​ นาง​เป็น​เถ้าแก่​ที่​สะบัดมือ​ทิ้ง​ร้าน​มาโดยตลอด​ ทว่า​ขอ​แค่​นาง​ปรากฏตัว​ แต่ไหนแต่ไร​ก็​มักจะ​ตัดสินใจ​อย่าง​เผด็จการ​เสมอ​

เจ้าขุนเขา​เอ่ยปาก​แล้ว​ ก็​ไม่ต้อง​ปรึกษา​พูดคุย​อะไร​กัน​อีก​ เพียง​ไม่นาน​ผู​ซาน​ก็​ประกาศ​ออก​ไป​ว่า​ไม่ว่า​จะเป็น​มหา​บรรพต​ที่​มีชื่อเสียง​หรือ​แม่น้ำ​ทะเลสาบ​ ศาล​แห่งใด​ก็ตาม​ ขอ​แค่​เป็น​ผู้สืบทอด​ที่​ถูกต้อง​ชอบธรรม​ก็​ล้วน​ได้รับ​การยกเว้น​ค่าเช่า​ร้อย​ปี​

ขณะที่​รอคอย​ให้​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​กลับมา​ที่​ภูเขา​ ถาน​หรง​ก็​เอ่ย​ขอบคุณ​เรื่อง​เม็ด​ชุด​ขนนก​สอง​เตา​กับ​เฉาเซียน​ซือ​อีกครั้ง​

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ทุกวันนี้​เจ้าเฒ่าโลภมาก​ที่​ดูแล​เรื่อง​เงินทอง​ยัง​เหน็ดเหนื่อย​วิ่งเต้น​อยู่​ข้างนอก​ ยุ่ง​อยู่​กับ​การซื้อหา​ภูเขา​ลูก​ใหม่​ๆ ไม่อย่างนั้น​ครั้งนี้​เฉาเซียน​ซือ​มาเยี่ยมเยือน​เรือ​นอ​วิ๋น​ฉ่าว​ ด้วย​นิสัย​ของ​ตาแก่​ที่​หน้าไม่อาย​อย่าง​เขา​ เกรง​ว่า​จะต้อง​ค้อมตัว​ก้ม​ต่ำ​ขอบคุณ​ถึงจะพอใจ​ เนื่องจาก​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​หลาย​คน​ของ​คน​ผู้​นี้​ต่าง​ก็ได้​เม็ด​ชุด​ขนนก​ไป​คน​ละเม็ด​ เป็นเหตุให้​เรื่อง​ของ​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ หาก​ไม่มีความมั่นใจ​ยิ่งกว่า​เดิม​ก็​เริ่ม​มีความหวัง​กัน​ขึ้น​มาบ้าง​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ตอนนั้น​ตน​ก็​แค่​ช่วย​พูดถึง​ให้​เท่านั้น​ แค่​บอก​ไป​ว่า​ผู​ซาน​อยาก​จะซื้อ​ยา​นั่ง​ลืมตน​หนึ่ง​เตา​ คิดไม่ถึง​เหมือนกัน​ว่า​สุดท้าย​แล้ว​ตำหนัก​พยัคฆ์​เขียว​จะมอบให้​เปล่าๆ​ คาด​ว่า​คง​เป็น​เพราะ​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​ลู่​เลื่อมใส​และ​ยอมรับ​ใน​ขนบธรรมเนียม​ของ​ผู​ซาน​จาก​ใจจริง​ ไม่อย่างนั้น​อย่าง​มาก​สุด​ก็​เป็น​แค่​การ​ได้​ผลประโยชน์​ใน​เรื่อง​ของ​ราคา​ซื้อขาย​เท่านั้น​

ความจริง​เป็น​อย่างไร​ แน่นอน​ว่า​ถาน​หรง​และ​เซวีย​ไหว​ย่อม​รู้กัน​ดี​อยู่​แก่​ใจ เพียงแต่​อีก​ฝ่าย​จงใจพูด​เช่นนี้​ ถือว่า​ช่วย​ยกยอ​ภูเขา​ผู​ซาน​ ถึงอย่างไร​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​มีหน้ามีตา​

ทั้งสองฝ่าย​พูดคุย​กัน​ไป​ถึงลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​ขุนเขา​ของ​อู๋​ซูอย่า​งก​วอ​ป๋า​ย​ลู่​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ร่าง​ทอง​

สำหรับ​ผู้เยาว์​คน​นี้​ เซวีย​ไหว​ไม่ขี้เหนียว​คำชม​ มั่นใจ​ว่า​ผลสำเร็จ​บน​เส้นทาง​วิถี​วร​ยุทธ​ขอ​งก​วอ​ป๋า​ย​ลู่​ในอนาคต​จะต้อง​สูงมาก​อย่าง​แน่นอน​ ขอบเขต​ร่าง​ทอง​ที่​อายุ​ยี่สิบ​ปี​คน​หนึ่ง​ ประเด็นสำคัญ​คือ​อายุ​น้อย​ๆ ก็ได้​คำ​ว่า​แข็งแกร่ง​ที่สุด​มาถึงสอง​ครั้ง​แล้ว​ โชคชะตา​บู๊​ย่อม​อยู่​ติดตัว​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ อนาคต​ขอ​งก​วอ​ป๋า​ย​ลู่​ต้อง​ยาว​ไกล​ไร้ขีดจำกัด​แน่นอน​

เผย​เฉียน​นั่ง​ตัวตรง​อย่าง​สำรวม​ สีหน้า​ไร้อารมณ์​

ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​หรือ​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​ ทุกวันนี้​ต่าง​ก็​ยอมรับ​ใน​เรื่อง​หนึ่ง​

นั่น​ก็​คือ​เฉาสือ​แห่ง​ราชวงศ์​ต้าตวน​คือ​ผู้นำ​ เขา​คนเดียว​เดิน​นำ​ทุกคน​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ ทิ้ง​ทุกคน​ไป​ไกล​จน​ไม่เห็น​ฝุ่น​บน​เส้นทาง​ของ​การเรียน​วร​ยุทธ​

นอกจากนี้​ตามหลัง​เฉาสือ​แล้ว​ อย่าง​เจิ้งเฉียน​แห่ง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ที่อยู่​ตรงหน้า​นี้​ อวี้เจวี้ยน​ฟูแห่ง​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ รวมไปถึง​กวอ​ป๋า​ย​ลู่​แห่ง​ใบ​ถงทวีป​ พวก​คน​ที่​ช่วง​ยี่สิบ​ปี​มานี้​ต่าง​ก็ได้​รับคำ​ว่า​ ‘แข็งแกร่ง​ที่สุด​’ ไป​ครอง​ ถือว่า​เป็น​คน​รุ่นเยาว์​ที่​มีน้ำหนัก​มาก​ที่สุด​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ใน​บาง​ขอบเขต​ก็​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​ทั้ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​และ​เปลี่ยว​ร้าง​

เซวีย​ไหว​ลัง​เล็กน้อย​ สุดท้าย​ก็​ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​ประลอง​วิชา​หมัด​กับ​เจิ้งเฉียน​ ถึงอย่างไร​อีก​ฝ่าย​ก็​เป็น​แขก​สูงศักดิ์​ คน​ทั้ง​กลุ่ม​ยัง​ไม่ทัน​เจอ​กับ​อาจารย์​ ตน​ก็​จะต่อย​ตี​กับ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ ไม่ถูก​หลัก​มารยาท​

อีก​อย่าง​ เดิมที​ก็​เป็นการ​ถามหมัด​ที่​แพ้ชนะ​ไม่มีอะไร​ให้​ต้อง​ลุ้น​อยู่แล้ว​

เซวีย​ไหว​ไม่คิด​ว่า​ตัวเอง​จะสามารถ​ปล่อย​กระบวนท่า​ได้​เกิน​ยี่สิบ​ท่า​ภายใต้​เงื้อมมือ​ของ​เจิ้งเฉียน​จริงๆ​

จะทน​ได้​เกิน​สิบ​กระบวนท่า​หรือไม่​? ก็​ต้อง​ลองดู​ถึงจะรู้​

คุย​เล่น​กัน​ไป​แล้ว​ ดื่ม​สุรา​คารวะ​กัน​สามรอบ​ เจ้าขุนเขา​ยัง​ไม่รีบ​กลับมา​ที่​ผู​ซาน​ มาช้ากว่า​ที่​คาดการณ์​เอาไว้​มาก​ ถาน​หรง​จึงได้​แต่​พา​กลุ่ม​ของ​เฉาเซียน​ซือ​ไป​ที่​เรือน​พัน​ทอง​หมื่น​หิน​ของ​ตน​

แขก​ทั่วไป​อย่า​หวัง​ว่า​จะได้มา​เหยียบ​ที่​แห่ง​นี้​ ตราประทับ​แต่ละ​ชิ้น​ที่​เก็บรักษา​ไว้​เป็น​อย่าง​ดี​ประหนึ่ง​วีรบุรุษ​กลอกตา​มอง​ฟ้า ตำรา​เหมือน​สาวงาม​ ไย​ต้อง​ชม้อย​ชม้าย​ชายตา​ให้​คนตาบอด​ดู​เล่า​

เมื่อ​ผู้คุม​กฎ​ผู​ซาน​พูดถึง​ตำรา​ตราประทับ​ร้อย​เซียน​กระบี่​และ​ตำรา​ตราประทับ​สอง​ร้อย​เซียน​กระบี่​ว่า​ตน​ยัง​ไม่อาจ​นำ​เก็บ​มาสะสมไว้​ได้​ ช่างน่าเสียดาย​ยิ่งนัก​

พูด​แค่​ว่า​ได้​บอกกล่าว​กับ​ผู้ดูแล​เรือข้ามฟาก​สอง​ลำ​จาก​ต่างถิ่น​ที่​เดิน​ทางข้าม​ทวีป​มาเรียบร้อย​แล้ว​ ขอให้​พวกเขา​ทุ่ม​เงินก้อน​ใหญ่​ซื้อ​มาจาก​ภูเขา​ลูก​นั้น​ของ​ธวัล​ทวีป​ให้​ตน​ให้ได้​ คิด​ค่าเดินทาง​ไป​พร้อมกัน​ได้​เลย​ สรุป​ก็​คือ​ต่อให้​ราคาแพง​ก็​ยัง​ไม่เป็นปัญหา​

คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​ผู้ดูแล​เฒ่าที่​เคย​เดินทาง​ไป​เยือน​ภูเขา​ห้อย​หัว​ ทุกครั้งที่​พูดถึง​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​จะต้อง​เรียก​ว่า​ ‘อิ่น​กวาน​คน​ใหม่​’ ทุก​คำ​ ไม่เคย​เรียก​ว่า​ ‘อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​’ อะไร​ทั้งนั้น​ ผู้ดูแล​เรือข้ามฟาก​คน​นั้น​ต้อง​เรียก​ว่า​หน้าบาน​เป็น​กระด้ง​ บอ​กว่า​แม้ตน​จะไม่เคย​ปรึกษา​พูดคุย​กับ​อิ่น​กวาน​คน​ใหม่​ต่อหน้า​ตัวเอง​มาก่อน​ แต่​ภายหลัง​ยาม​ที่อยู่​ใน​เรือน​ชุน​ฟาน​ภูเขา​ห้อย​หัว​ เก้าอี้​ตัว​ที่​เขา​นั่ง​ก็​อยู่​ห่าง​จาก​เก้าอี้​ของ​อิ่น​กวาน​แค่​สอง​ตัว​เท่านั้น​! หลังจาก​ที่ประชุม​กับ​พวก​เส้าอวิ๋นเหยียน​ เซียน​กระบี่​เยี่ยน​และ​น่า​ห​ลัน​ไฉ่ฮ่วน​เสร็จ​ เขา​ได้​ไป​ลูบ​พนักเก้าอี้​ตัว​นั้น​สัมผัส​กลิ่นอาย​เซียน​มาด้วย​ ผู้คุม​กฎ​ถาน​เจ้าอย่า​ได้​หัวเราะ​ ตอนนั้น​ข้า​ก็​แค่​ลุกขึ้น​ช้าไป​หน่อย​ ไม่ทัน​พวก​เพื่อน​ร่วม​อาชีพ​หน้า​เหม็น​กลุ่ม​นั้น​ ผล​คือ​ยัง​ต้อง​ไป​เข้าแถว​รอ​ด้วย​

คำพูด​ที่​พูด​จน​น้ำลาย​แตก​ฟอง​ทำเอา​ผู้คุม​กฎ​ผู​ซาน​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ แน่นอน​ว่า​เขา​รู้จัก​ เพียงแต่​ข่าว​ที่​มากกว่า​นั้น​กลับ​ไม่เคย​รับรู้​

แต่ไหนแต่ไร​มาใบ​ถงทวีป​ก็​ไม่ยุ่ง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ของ​ทวีป​อื่น​ใน​ใต้​หล้า​

แต่​ถึงอย่างไร​ก็​มีเรื่อง​ที่​ต้อง​ขอร้อง​ผู้อื่น​ ตอนนั้น​ถาน​หรง​จึงแค่​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​รับ​พอเป็นพิธี​ รอ​กระทั่ง​อีก​ฝ่าย​พูดว่า​อย่า​หัวเราะ​ ผู้คุม​กฎ​เฒ่าก็ได้​แต่​ตีหน้า​เคร่ง​ไม่หัวเราะ​จริงๆ​

สุดท้าย​ผู้ดูแล​เฒ่าก็​เริ่ม​คุยโว​โดย​ไม่ต้อง​ร่าง​คำพูด​อีกครั้ง​ บอ​กว่า​หาก​เจ้าขอ​ตำรา​ตราประทับ​สอง​เล่ม​นั้น​เร็ว​กว่า​นี้​ก็ดี​น่ะ​สิ ข้า​จะได้​ปรึกษา​กับ​อิ่น​กวาน​คน​ใหม่​ มอบให้​เจ้าเปล่าๆ​ ก็​ยัง​อาจ​เป็นไปได้​

ตอนนั้น​ถาน​หรง​ยัง​จะทำ​อย่างไร​ได้​อีก​ ก็ได้​แต่​พยักหน้า​เออออ​ตาม​ไป​อีกครั้ง​เท่านั้น​

ทว่า​เวลานี้​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​กลับ​ไม่สังเกตเห็น​ว่า​ นอกจาก​เฉาเซียน​ซือ​ข้าง​กาย​ที่​สีหน้า​เป็นปกติ​แล้ว​ แขก​อีก​สามคน​ล้วน​มีสีหน้า​พิกล​

……

ริม​อาณา​เขตภูเขา​ผู​ซาน​ ใน​ศาล​เทพ​วารี​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ตั้งอยู่​ต้นน้ำ​ของ​แม่น้ำ​เพ่​ย​เจียง​ ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงบ​ห้อง​หนึ่ง​มีสตรี​สวม​ชุด​สีเหลือง​กำลัง​ดื่ม​ชากับ​สหาย​อีก​สอง​คน​ ก็​คือ​ชาสุ่ย​เซียน​เก่าแก่​ที่​ถูก​ส่งจาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​นำมา​ขาย​ไกล​ถึงใบ​ถงทวีป​ ดื่ม​แล้ว​นาง​ถึงกับ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ขนาด​ใช้น้ำพุ​ชั้นยอด​ของ​แม่น้ำ​เพ่​ย​เจียง​มาต้ม​ชาแล้ว​กลับ​ยังมี​รสชาติ​เช่นนี้​ ใคร​เป็น​คน​ตั้งราคา​กัน​แน่​ ใน​ดวงตา​มีแต่​เงิน​หรือ​ไร​

อีก​สามคน​ที่​เหลือ​ใน​ห้อง​ล้วน​มีแต่​สตรี​ คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​คือ​เจ้าบ้าน​เจ้าของ​ศาล​แห่ง​นี้​ ถูก​เซียน​ซือบน​ภูเขา​เรียกขาน​ว่า​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ ‘ตง​ไห่​ฟู่’ นาม​โค่วเซวี่ยน​ฉวี​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​หวง​อี​อวิ๋น​บอ​กว่า​ต้องการ​ดื่ม​ชาเหยียนฉา​จาก​ต่างถิ่น​ นาง​ก็​ไม่กล้า​เอา​ออกมา​รับรอง​แขก​จริงๆ​

ครั้งนี้​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​มาเยือน​ที่​ศาล​เพราะ​ต้องการ​พูดคุย​รายละเอียด​บางอย่าง​เรื่อง​การ​เดินลง​น้ำ​กับ​โค่วเซวี่ยน​ฉวี​ เนื่องจาก​เทพ​วารี​แม่น้ำ​เพ่​ย​เจียง​ไม่มีเหตุผล​ให้​ต้อง​เดินลง​น้ำ​ของ​แม่น้ำ​เพ่​ย​เจียง​ เพราะ​ไม่ได้​มีความหมาย​ใดๆ​ เลย​สักนิด​ ดังนั้น​ก่อนหน้านี้​หวง​อี​อวิ๋น​จึงพูดคุย​กับ​ทาง​ราชวงศ์​ต้า​เฉวียน​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​จะเลือก​ลำคลอง​ม่าย​เห​อ​อัน​เป็นที่ตั้ง​ของ​อดีต​วัง​มังกร​ลำน้ำ​ใหญ่​ ยัง​เป็น​ฮ่องเต้​เหยา​จิ้น​จือ​ที่​ออกหน้า​พูดคุย​ด้วยตัวเอง​ ราบรื่น​อย่าง​มาก​

เทพ​วารี​ลำคลอง​ม่าย​เห​อ​ หลิ่ว​โหร​ว​เจ้าตำหนัก​วัง​ปี้​โหย​ว​ก็​พูดคุย​ด้วย​ง่าย​มาก​ เพียง​ไม่นาน​ก็​ส่งจดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ตอบ​กลับมา​ที่​วังหลวง​นคร​เซิ่น​จิ่ง แค่​สอง​คำ​เท่านั้น​ ยินดีต้อนรับ​

ฝั่งตรงข้าม​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​มีเด็กสาว​เรือนร่าง​บอบ​บางคน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​ สวม​ชุด​กระโปรง​สีชมพู​แดง​เหมือน​แสงสายันต์​รัดเข็มขัด​สีราก​บัว​ สวม​ทับ​ด้วย​เสื้อคลุม​ขน​ห่าน​

นาง​แค่​มีรูปโฉม​เป็น​ดรุณี​น้อย​เท่านั้น​ เพราะ​แท้จริง​เป็น​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ที่​มีประสบการณ์​โชกโชน​ของ​ใบ​ถงทวีป​คน​น​หึ่ง​

นาง​ก็​คือ​เจ้าของ​ถ้ำวัง​มังกร​ขาว​คน​ปัจจุบัน​ มีนาม​ว่า​สวี่​ชิงจู่ ฉายา​รุ่น​เย​ว่​

รูปโฉม​งดงาม​ ท่วงท่า​องอาจ​ ผึ่งผาย​ตรงไปตรงมา​

สวี่​ชิงจู่ชอบ​เดิน​เท้าเปล่า​มาตั้งแต่​เด็ก​ มีนิสัย​ประหลาด​ที่ว่า​ ‘ทั้ง​ชีวิต​จะไม่ยอม​สวม​รองเท้า​ถุงเท้า​’

และ​การ​ที่​เรือ​นอวิ๋น​ฉ่าวผู​ซาน​เข้าร่วม​พันธมิตร​ใบ​ท้อ​ก็​เพราะ​คำแนะนำ​จาก​ตู้​หัน​ห​ลิง​แห่ง​อาราม​จิน​ติ่ง​ ทั้ง​ยังมี​นาง​เป็น​คน​ช่วย​พูด​โน้มน้าว​ แต่​นาง​ใช้แค่​เหตุผล​ข้อ​เดียว​ก็​สามารถ​โน้มน้าว​หวง​อี​อวิ๋น​สหาย​รัก​ที่​เดิมที​ไม่ยินดี​จะเข้าร่วม​เรื่อง​นี้​ได้​แล้ว​

ใบ​ถงทวีป​ต้องการ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​คน​หนึ่ง​ที่​ยินดี​ออก​หมัด​ อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่สน​รา​คาที่​ต้อง​จ่าย​ ไม่สน​ผลลัพธ์​ที่จะ​ตามมา​เพื่อ​ใช้สยบ​ข่มขวัญ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​ทวีป​อื่น​

ก่อนหน้านี้​สวี่​ชิงจู่ได้​ไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ผู​ซาน​ ไป​อยู่​นาน​พักใหญ่​ เนื่องจาก​อีก​เดี๋ยว​นาง​ก็​ต้อง​ปิด​ด่าน​แล้ว​ เรื่อง​อย่าง​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ จะสำเร็จ​หรือ​ล้มเหลว​ก็​ยัง​ไม่อาจ​รู้​ได้​

สตรี​คน​สุดท้าย​มีอายุ​น้อยที่สุด​ ตบะ​ต่ำ​ที่สุด​ นาง​คือ​ผู้เยาว์​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ เย่​เสวียน​จีลูกหลาน​สกุล​เย่​ บรรพบุรุษ​ต้นตระกูล​ของ​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​คน​นี้​ก็​คือ​ศิษย์​พี่​ของ​เย่อ​วิ๋นอวิ๋น​ คอย​ดูแล​เรื่อง​การคลัง​ให้​กับ​เรือ​นอ​วิ๋น​ฉ่าว​มาโดยตลอด​

ขอ​แค่​เย่​เสวียน​จีออก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ก็​มักจะ​ชอบ​สวม​ชุด​อาคม​กระโปรง​มังกร​สาว​ สวม​กำไล​ไข่มุก​ ยาม​ที่​นาง​ยก​ถ้วย​ชา ยก​ข้อ​มือขึ้น​แล้ว​เหลือบ​ไป​เห็น​กำไล​ข้อมือ​ที่รัก​ทะนุถนอม​เส้น​นั้น​ก็​จะแอบ​หัวเราะ​กับ​ตัวเอง​

เนื่องจาก​ตั้นตั้นฮู​หยิน​ที่​ทุกวันนี้​เป็น​เจ้าแห่ง​ชะตาน้ำ​บน​พื้นดิน​ของ​ใต้​หล้า​ได้​ให้​หลุม​น้ำ​ลู่​ป่าวประกาศ​ออกมา​ว่า​ใน​จวน​ไม่เหลือ​ไข่มุก​ฉิว​อีกแล้ว​ ไม่เหลือ​แม้แต่​เม็ด​เดียว​ กำไล​ไข่มุก​เส้น​นี้​จึงกลายเป็น​ผลงาน​ชั้นยอด​ไป​แล้ว​ ราคา​กำไล​บน​ภูเขา​ใน​ทุกวันนี้​จึงเพิ่มขึ้น​พรวดพราด​ ราคา​สูงจาก​เดิม​มากกว่า​สองเท่า​ น่าเสียดาย​ที่​ปี​นั้น​นาง​ควักกระเป๋า​เงิน​จน​เกลี้ยง​ จากนั้น​ก็​ขอยืม​เงิน​จาก​สหาย​ร่วม​สำนัก​ ก็​ยัง​ซื้อ​กำไล​ไข่มุก​บน​ฝ่ามือ​มาได้​แค่​สามเส้น​เท่านั้น​ ดังนั้น​ทุกวันนี้​บรรพบุรุษ​บ้าน​ตน​ที่​เป็น​ท่าน​เทพเจ้า​แห่ง​โชคลาภ​อยู่​ที่​ผู​ซาน​จึงไม่กล้า​พูดว่า​วัน​ๆ นาง​เอาแต่​ใช้เงิน​ส่งเดช​อะไร​อีกแล้ว​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด