กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 236 ผู้ชายที่ใจกว้างที่สุด

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 236 ผู้ชายที่ใจกว้างที่สุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถูกคนกักขังหกปี นี่มันโหดร้ายจริงๆ

แค่ทำไมเขาถึงพูดกับเขาล่ะ?

เหมือนว่าในชั่วขณะหนึ่ง เขาเข้าใจว่า จุดประสงค์ที่ไป๋ยิ่นหนิงให้เขามาต้องเกี่ยวข้องกับไป๋หงเฟย

จงจิ่งห้าวหันหน้าไป หรี่ตาลง ความเงียบที่ทำให้อกสั่นขวัญหาย“ประธานไป๋ นี่คือจุดประสงค์ที่คุณให้ผมมาเหรอ?”

ถูกจงจิ่งห้าวมองออก ไป๋ยิ่นหนิงก็ไม่รู้สึกอึดอัดและดูลำบากใจ กลับหัวเราะเสียงดัง“ปิดประธานจงไม่ได้จริงๆด้วย แต่ว่า ผมว่าแค่ประธานจงยอมสืบ จะต้องได้รับผลประโยชน์อย่างมาก”

“มีประโยชน์อย่างไรกับผมเหรอ?”เห็นได้ชัดว่า จงจิ่งห้าวไม่อยากทำเรื่องไม่ดีไปด้วย ถ้าไม่ใช่หลินซินเหยียน เขาก็ไม่อยู่ที่แบบนี้แน่

จะหลอกใช้เขา?

น่าตลก!

ไป๋ยิ่นหนิงจริงจังขึ้นมาหน่อย คิดว่าหลอกใช้จงจิ่งห้าวมาสืบเรื่องนี้อย่างเงียบๆจะต้องไม่มีความเป็นไปได้แน่ จากความฉลาดของจงจิ่งห้าว แป๊บเดียวก็ต้องมองออก

ตอนนี้ อยากให้เขาสนใจเรื่อนี้ ก็ได้แต่โยนเหยื่อล่อออกไปให้เขาสนใจ

“พ่อเลี้ยงผมไป๋หงเฟย ไม่แต่งงานทั้งชีวิต แค่เพราะว่าเขาเสียรักแรกของเขาไป ตอนนั้นเขาหมั้นกับรักแรกของเขา แต่ต่อมา ทั้งสองคนแยกทางกัน รายละเอียดนั้นผมไม่รู้หรอก แค่รู้ว่ารักแรกของเขาแต่งงานกับพ่อคุณ จงฉีเฟิง”

“คุณว่า พ่อเลี้ยงผมถูกขังมาหกปีตั้งนาน ……”

“คุณอยากพูดอะไร?พ่อผมแย่งผู้หญิงของพ่อเลี้ยงคุณเหรอ?”สีหน้าของจงจิ่งห้าวดูแย่ขึ้นมาก เดิมทีเขาไม่ได้รู้สึกดีกับยู่ซิ่วผู้หญิงคนนี้เลย อีกทั้ง ตอนนี้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นก็เกี่ยวข้องกับเธอ

นี่ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก

ไป๋ยิ่นหนิงก็เคยสงสัยว่า ตอนนั้นที่พ่อเลี้ยงถูกกักขังเป็นจงฉีเฟิงที่ทำ เพื่อที่เขาจะได้เฉิงยู่ซิ่วมา จึงขังเขา

นิ้วมือของไป๋หงเฟยถูกตัด ก็เพื่อเอามาข่มขู่เฉิงยู่ซิ่ว ถ้าเธอไม่ยอม เขาก็จะทำร้ายต่อไป บีบบังคับเฉิงยู่ซิ่วจนต้องอยู่กับเขา

นี่ก็เป็นคำอธิบายว่าทำไมไป๋หงเฟยถึงถูกขัง ตัดนิ้วมือ

แต่ว่า เขายังมีอีกเรื่องที่คิดไม่ออก ถ้าเป็นจงฉีเฟิงที่ทำ แล้วเขาหนีจากความโกรธของตระกูลเหวินได้อย่างไร?

ต้องรู้ว่า ตอนนั้นจงฉีเฟิงกับเหวินเสียนเพิ่งเป็นสามีภรรยากัน เขาทำเรื่องร้ายแรงขนาดนั้น ตระกูลเหวินจะนั่งอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรเหรอ?

ดังนั้น ความสงสัยนี้ยังมีอีกหลายจุดที่อธิบายไม่ได้

“คุณไม่เคยสงสัยเลยเหรอ พ่อคุณแต่งกับเฉิงยู่ซิ่วเข้าตระกูลมาหลังจากแม่คุณเสียไปไม่นาน ส่วนตระกูลทางฝ่ายแม่ของคุณ ตระกูลเหวิน ไม่ห้ามเลยเหรอ นี่มันปกติเหรอ?”

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่ที่มีหน้ามีตา หรือว่าครอบครัวจนๆ มีครอบครัวไหนบ้างที่จะทนได้หลังจากที่ลูกสาวตายไปไม่นาน ลูกเขยก็แต่งกับคนอื่น ไม่พูดอะไรสักคำ?

พูดแบบนี้แล้ว เรื่องนี้แปลกมาก

“คุณพูดอะไร เฉิงยู่ซิ่ว?”มีฟ้าผ่ากลางใจของจงจิ่งห้าวไป

เขาเย็นชาไม่สนใจต่อยู่ซิ่วมาตลอด ไม่เคยไปใส่ใจเธอเลย

แต่ว่าชื่อของเธอ เขาก็ยังรู้จัก และพ่อก็แนะนำกับคนนอกว่ายู่ซิ่ว

ตอนนี้ไป๋ยิ่นหนิงกลับพูดว่า เธอชื่อเฉิงยู่ซิ่ว?

แล้วทำไมต้องปิดบังนามสกุล?

ข้างในนี้มีความลับอะไรกันแน่?

รู้อยู่แล้วว่าไป๋ยิ่นหนิงจงใจให้เขารู้ เพื่อยืมมือของเขาไปสืบเรื่องนี้ แต่ว่า ตอนนี้ รู้อยู่แล้วว่าหลอกใช้ แต่เขากลับเต็มใจ

ถ้าเรื่องนี้ไม่เคลียร์ ก็จะรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองอยู่ในแผนการร้ายขนาดใหญ่

“ประธานจง สนใจร่วมมือไหม?”ไป๋ยิ่นหนิงเสนอความปรองดองไปอีกครั้ง

เขาสังเกตได้ถึงความผ่อนปรนของจงจิ่งห้าว

“บอกตรงๆนะประธานจง ที่ผมมีวันนี้ก็เพราะว่าพ่อเลี้ยงของผม เรียกได้ว่าบุญคุณเพียงนิดเดียว ก็ควรตอบแทนให้หลายเท่า เขาเสียไปแล้ว ที่ผมทำได้ ก็คือให้คนที่เคยทำร้ายเขา ได้รับโทษ ส่วนประธานจง ก็อยากรู้ถึงความพัวพันระหว่างเฉิงยู่ซิ่วกับพ่อคุณมาก พวกเราร่วมมือกัน อยากจะรู้ให้เคลียร์ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ประธานจงคิดว่าไง?”

จงจิ่งห้าวหัวเราะเบาๆ“ผมอยากรู้ว่า ผมทำให้เคลียร์เองก็ได้ ทำไมต้องร่วมมือกับคุณล่ะ?”

ความหมายแฝงก็คือ หมากของไป๋ยิ่นหนิงไม่เพียงพอที่จะร่วมมือกับเขา

ไป๋ยิ่นหนิงก้มหน้าลงหัวเราะอย่างขมขื่น“ประธานจง ขาดทุนแค่นิดเดียวก็ไม่ยอม”

“ในมือของผมมีเบาะแสอยู่หนึ่งอย่าง”เดิมทีไป๋ยิ่นหนิงไม่คิดจะพูด แต่ตอนนี้ เขาไม่พูด ก็กลัวจงจิ่งห้าวจะไม่ร่วมมือกับเขา

“อาจารย์ที่ทำผ้าไหมกวางตุ้งได้ ชื่อว่าเฉิงยู่เวิน”นี่ก็ยังเป็นสิ่งที่เขาทุ่มเทอย่างมากถึงสืบได้

เมื่อก่อนตระกูลเฉิงก็เคยรุ่งเรือง ต่อมาก็ไม่ปรากฏตัวอีก แม้แต่คนในตระกูลเฉิง ก็แอบอาศัยที่เขาในชนบทนี้

เฉิงยู่เวิน เฉิงยู่ซิ่ว?

“ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณหลิน น่าจะรู้ที่มาที่ไปของเรื่องแล้ว”ที่เขาอ้างว่าไปจัดการธุระ ที่จริงแล้วกำลังสืบรถที่จอดกะทันหันที่หลังบ้าน

วันนั้นเฉิงยู่เวินพาหลินซินเหยียนไปเจอเฉิงยู่เวิน เขาก็รู้แล้ว

ก่อนที่จงจิ่งห้าวรู้ว่าเฉิงยู่เวินมา

“ก่อนที่คุณหลิน กลับมารับลูกทั้งสองคน เธอเคยอยู่ที่ตระกูลเฉิงหนึ่งวันหนึ่งคืน ในระหว่างนั้น ก็มีเฉิงยู่ซิ่วด้วย”ไป๋ยิ่นหนิงเอาทุกอย่างที่ตัวเองรู้พูดออกไป

จงจิ่งห้าวเอามือไว้ในกระเป๋า อดไม่ได้ที่จะเกร็งแน่น นี่คือสาเหตุที่หลินซินเหยียนเปลี่ยนท่าทีไปไหม?

เธออยู่ที่ตระกูลเฉิงมาหนึ่งวันหนึ่งคืน ช่วงนี้เฉิงยู่ซิ่วพูดอะไรกับเธอ?

“ประธานไป๋รู้เยอะขนาดนี้เลย?”จงจิ่งห้าวไม่พูดอะไร ในใจตัดสินใจแล้วว่าจะร่วมมือกับเขา แต่ใบหน้า ยังคงเก๊กไว้อยู่

ประมาณว่า เขาไม่ให้ไป๋ยิ่นหนิงได้เปรียบ

ไป๋ยิ่นหนิงผายมือทั้งสองข้างออก“ผมรู้แค่นี้แหละ ถ้าผมรู้หมด คงไม่มาร่วมมือกับประธานจง”

จงจิ่งห้าวนั้นคิดว่า เรื่องนี้เกี่ยวพันไปเยอะมาก ที่นี่เป็นถิ่นของไป๋ยิ่นหนิง ให้เขาสืบที่นี่ เขารับหน้าที่ในเมืองB ทั้งสองร่วมมือกัน อยากรู้ความจริง ก็กลัวว่าจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร

“พ่อ……”

หลินลุ่ยซีวิ่งออกมา หาจงจิ่งห้าว วันที่หลินซินเหยียนไม่อยู่ เธอก็ชินที่จะนอนหลับในอ้อมแขนของพ่อ ฉินยาล้างหน้าแปรงฟันให้เธอ ตอนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอขึ้นเตียง เธอก็จะหาจงจิ่งห้าวให้ได้ ฉินยาหมดหนทาง ได้แต่พาเธอมา

“เธอไม่ยอมสวมเสื้อผ้า”ฉินยาพูดอย่างทำอะไรไม่ได้

จงจิ่งห้าวเดินเข้าไป ตอนที่อุ้มลูกสาวขึ้นมาเดินเข้าลานบ้าน หันหลังพูดกับไป๋ยิ่นหนิง“เรื่องที่นี่ ก็มอบให้ประธานไป๋ละกัน”

ไป๋ยิ่นหนิงหัวเราะ“แน่นอน ประธานจงวางใจได้ ผมจะสืบให้เร็วที่สุด”

เขารู้ว่า จงจิ่งห้าวรับปากจะร่วมมือกับเขา

ที่นี่เป็นถิ่นของเขา อยากจะสืบเรื่องของตระกูลเฉิงในตอนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ก็แค่ปัญหาเรื่องเวลา

แค่เรื่องที่เคยเกิดขึ้น ถึงจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็จะทิ้งร่องรอยไว้เสมอ

“พ่อ หม่ามี๊จะกลับมาอีกเมื่อไหร่?”หลินลุ่ยซีโอบคอของเขา เธอคิดถึงยายแล้ว อยากกลับไปหน่อยๆ

“เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”จงจิ่งห้าวลูบหัวของเธอ“เดี๋ยวพ่อพาหนูไปนอน”

“ประธานจง”ไป๋ยิ่นหนิงหมุนรถเข็น ตามเข้ามา“คุณคือผู้ชายที่ใจกว้างที่สุดที่ผมเคยเจอ”

“ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ลูกจะนามสกุลตามพ่อ แต่ประธานจง กลับให้ลูกชายลูกสาวใช้นามสกุลของภรรยา เรียกว่ารักมาก”

พูดจบไป๋ยิ่นหนิงก็หัวเราะ หมุนรถเข็นออกไปทางห้องของตัวเอง

ชัดเจนว่า คำนี้เขาเยาะเย้ย

ทั้งที่รู้ว่า ตอนที่หลินซินเหยียนคลอดเด็กสองคนนี้ จงจิ่งห้าวไม่รู้ จึงนามสกุลตามหลินซินเหยียน

ก็จงใจพูดออกมา เยาะเย้ยเขา

“ที่ผมต้องการ ง่ายมาก ความกังวลของประธานไป๋นั้น มากไปหน่อย”ฝีเท้าของจงจิ่งห้าวชะงักไป แล้วก้าวเดินไปใหม่ เขาไม่ใส่ใจที่ลูกใช้นามสกุลของหลินซินเหยียนจริงๆ ยังไงที่ตัวก็มีเลือดเนื้อของเขา จุดนี้เปลี่ยนไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาอยากได้ลูกที่ใช้นามสกุลของเขา ค่อยคลอดกับเธออีกคนไม่ได้หรือไง?

ไป๋ยิ่นหนิงฟังความหมายแฝงในคำนี้ของจงจิ่งห้าวออก ใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ก็ค่อยๆยิ้มไม่ออก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด