กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม 63 ใช้งานเลี้ยงเป็นเครื่องมือในการทำร้ายคน

Now you are reading กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม Chapter 63 ใช้งานเลี้ยงเป็นเครื่องมือในการทำร้ายคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินซีเฉินก้มหน้าไว้ไม่พูดจา

หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว“ลูกพูดสิ”

หลินซีเฉินแคะปลายนิ้ว“เขารังแกหม่ามี๊ ผมจะช่วยหม่ามี๊สั่งสอนเขาครับ”

ทีนี้หลินซินเหยียนยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก ก่อนหน้านี้เขาก็คอยย้ำเรื่องนึงอยู่ตลอดเวลา จงจิ่งห้าวรังแกเธอ

เขา——

ทันใดนั้นหลินซินเหยียนเบิกตากว้าง เขาเห็น จงจิ่งห้าวจูบเธอ?

“ลุ่ยซี……”

หลินซินเหยียนไม่รู้จะอธิบายยังไง

ส่วนหลินซีเฉินได้ทุบทรวงอกอย่างแน่วแน่พร้อมพูดว่า“หม่ามี๊ ถึงแม้ผมกับลุ่ยซีไม่มีพ่อ แต่ผมเป็นลูกผู้ชายแท้ๆ ผมจะปกป้องหม่ามี๊เองครับ”

ทันใดนั้นหลินซินเหยียนถูกคำว่าผมไม่มีพ่อทิ่มแทงใจ เรื่องที่ภายในจิตใจแกล้งมองข้ามมาโดยตลอด

เธอไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้

เธอนึกว่า ขอแค่เธอรักพวกเขาให้มากๆ

ก็จะสามารถชดเชยเรื่องที่ไม่มีพ่อได้

แต่ว่า จู่ๆถูกลูกชายเอ่ยขึ้นมาอย่างฉับพลันอย่างนี้

เธอรู้สึกเจ็บแน่นหน้าอก

เธอกอดลูกชายไว้และก้มหน้าจูบผมของเขา ถึงแม้เขาฉลาดมาก แต่แท้จริงแล้วก็เพิ่งจะห้าขวบนิดๆเอง เขายังเป็นเด็กอยู่

แต่กลับพูดอยู่ตลอดว่าจะปกป้องเธอ

ฝ่ามือเธอคอยลูบหลังลูกชาย“หม่ามี๊มากกว่าที่ต้องปกป้องพวกหนู——”

หลินซีเฉินไม่เห็นด้วย จึงได้ส่ายหัว“ผู้ชายต่างหากที่ต้องปกป้องผู้หญิง ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมปกป้องหม่ามี๊เองครับ”

“……”

หลินซินเหยียนมองลูกชายอย่างหมดคำพูด เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ทำไมนิสัยถึงได้เป็นคนที่มีความคิดผู้ชายเป็นใหญ่ขนาดนี้?

“ใครเป็นคนสอนลูก?”หลินซินเหยียนขมวดคิ้วถาม

หลินซีเฉินกะพริบตาปริบๆ ครุ่นคิดอยู่สองวินาที“ครูของผมเองครับ”

หลินซินเหยียนอุ้มลูกชายไปอาบน้ำ กลับคิดอยู่ในใจว่าเธอควรจะไปคุยกับครูของลูกชายหน่อยดีหรือเปล่า

เด็กตัวแค่นี้ พูดเรื่องพวกนี้กับเขามันจะเหมาะสมเหรอ?

“หม่ามี๊ครับ ที่จริงครูของผมหน้าตาหล่อดีนะครับ แถมดีกับผมด้วย——”

“หยุด!”หลินซินเหยียนพูดขัดจังหวะลูกชาย เด็กคนนี้ตัวกะเปี๊ยกเดียว ทำไมความคิดถึงได้ซับซ้อนขนาดนี้?

หลินซีเฉินพึมพำคำนึง“หม่ามี๊ไม่คิดเผื่อตัวเอง ผมจะต้องคิดเผื่อหม่ามี๊”

“……”

หลินซินเหยียนโยนเขาเข้าไปในน้ำ“ต่อไปห้ามยุ่งเรื่องผู้ใหญ่”

“ทำไมครับ?”หลินซีเฉินย้อนถาม

“ไม่ทำไม นี่เป็นการตัดสินใจของหม่ามี๊ คุณครูของลูกน่าจะเคยบอกว่าต้องเชื่อฟังคำพูดของหม่ามี๊?”

หลินซีเฉินก้มหน้าไว้ พร้อมกับพยักหน้า ครูเคยบอกอยู่ว่าเด็กจะต้องเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่

แถมยังบอกด้วยว่าหม่ามี๊เลี้ยงดูเธอกับน้องสาวลำบากมาก

จะทำให้หม่ามี๊โกรธไม่ได้

ถ้าเขามีป่าป๊าบางทีหม่ามี๊ก็อาจจะไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้แล้ว

แต่ว่าหม่ามี๊ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็ไม่กล้าถามอีก

คุณยายยิ่งไม่ให้ถาม

เขาคิด ป่าป๊าของเขาจะต้องเป็นผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบและทิ้งหม่ามี๊แน่นอน

หลินซีเฉินยื่นมือกอดหลินซินเหยียนไว้“ผมรักหม่ามี๊ครับ”

หลินซินเหยียนรู้สึกความอบอุ่นวนเวียนอยู่ในหัวใจ เหมือนน้ำพุร้อน ค่อยๆห่อหุ้มเธอเอาไว้

ทุกอย่างมันคุ้มค่าแล้ว มองดูลูกทั้งสองที่หน้าตาน่ารักขนาดนี้ รู้เดียงสาขนาดนี้ เธอพึงพอใจแล้ว

เธอหอมแก้มลูกชาย“หม่ามี๊ก็รักลูกครับ”

ถึงแม้ช่วงกลางวันมีจวงจื่อจิ่นคอยดูแลเด็กทั้งสอง แต่ตอนกลางคืนหลินซินเหยียนล้วนรับผิดชอบเอง ตั้งแต่เล็กจนโตเธอแทบจะเป็นคนพาพวกเขาเข้านอนเอง

ช่วงกลางวันเธองานยุ่ง เดิมทีเวลาที่ได้อยู่กับลูกก็น้อยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นช่วงกลางคืนเป็นเวลาที่เธอได้ใกล้ชิดกับลูกๆ

เธอเล่านิทานให้พวกเขาฟัง

ลูกๆคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของเธอ นี่เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับเธอ

ญาติที่สนิทชิดเชื้อที่สุด และความผูกพันทางสายเลือด ก็คงจะเป็นแบบนี้สินะ

หลินซินเหยียนมาทำงาน หลินซีเฉินยังจะคอยตามมาด้วย บอกว่าจะปกป้องเธอ แถมยังทำหน้าห้ามปฏิเสธด้วย

ทำให้หลินซินเหยียนอยากปฏิเสธก็ไม่ได้

“หม่ามี๊ทำงาน จะเจออันตรายอะไรได้?”หลินซินเหยียนร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก

เธอที่เป็นผู้ใหญ่ยังต้องให้เด็กมาปกป้องเหรอ

“ผมไม่สน”ท่าทีของหลินซีเฉินเด็ดขาดเกือบจะพูดหลุดปากว่าถ้าจงจิ่งห้าวไอ้สารเลวนั่นมารังแกหม่ามี๊อีกจะทำยังไง?

ตัวไม่ใหญ่ แต่เจ้าเล่ห์ไม่เบาเลย

หลินซินเหยียนเปลี่ยนความคิดของเขาไม่ได้ จึงได้ตกลงพาเขาออกจากบ้าน จวงจื่อจิ่นคอยดูแลหลินลุ่ยซีอยู่ที่บ้าน

พอออกจากบ้าน หลินซีเฉินขึ้นรถเอง หลินซินเหยียนคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขาเสร็จ ก็ได้ลุกขึ้นปิดประตูรถ ในขณะที่เธอกำลังจะเข้าไปนั่งฝั่งคนขับ พบว่ารถที่จอดอยู่ข้างถนนเหมือนกำลังแอบดูเธออยู่

เธอตื่นตกใจ แต่พอคิดๆแล้วตัวเองอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ไปขัดใจใครเข้า ตัวเองคงจะตาฝาดไปแล้วมั้ง?

ใครจะมาด้อมๆมองๆกลางวันแสกๆ?

เธอไม่ได้คิดมากก็ขึ้นรถไปเลย

เธอเหมือนปกติที่ทานข้าวจากบ้านเสร็จ ก็เดินทางไปที่LEOโดยตรงเลย

หลินซินเหยียนมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นรถที่จอดอยู่ข้างถนนคันนั้นกำลังสะกดรอยตามเธอโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

มือของเธอกุมพวงมาลัยไว้แน่น ถ้าเมื่อครู่คือตาฝาด แล้วตอนนี้ล่ะ?

หัวใจของเธอเหมือนถูกอะไรจับเอาไว้

เธอจะต้องรู้ให้ได้

ช่วงเช้ามีคนน้อย หลินซินเหยียนไม่สามารถสลัดรถที่คอยสะกดรอยตามเธอทิ้ง

คิดไปคิดมาเพื่อไม่ให้ลูกชายเจออันตราย เธอขับรถให้ช้าลง ตอนที่รถขับมาถึงร้านก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ทุกคนแทบจะมาทำงานกันหมดแล้ว

เธอลงจากรถและพาหลินซีเฉินเข้าไปในร้าน

ในร้านมีคนเยอะ ถึงคนที่สะกดรอยตามเธอเป็นคนร้ายก็ไม่กล้าบุกเข้ามาผลีผลามหรอก

จัดเตรียมลูกชายเสร็จ หลินซินเหยียนเดินไปหารถคันนั้น

เธออยากดูซิว่าใครกันที่สะกดรอยตามเธอ

จุดประสงค์ที่สะกดรอยตามเธอคืออะไร

รถคันนั้นได้ติดฟิล์มมืดไว้ หลินซินเหยียนไม่เห็นคนที่อยู่ด้านใน จึงได้ยกมือเคาะกระจกรถ

ไม่มีคนตอบ กระจกรถก็ไม่ได้เลื่อนลงมา

หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้ารถ“สะกดรอยตามฉันมาตลอดทาง ถูกฉันพบเห็นเข้ายังมาหลบอีก มันสนุกมากเลยเหรอ?”

กวนจิ้งที่อยู่ในรถเกาศีรษะ เขามาตรวจสอบข้อมูลของเธอ เวลาเร่งด่วนมาก สองวันนี้เขาไม่ได้พักผ่อนดีๆ เมื่อวานก็นอนอยู่ในรถ ร่างกายไม่สดชื่นไม่กระปรี้กระเปร่า ถึงได้ถูกหลินซินเหยียนพบเห็น

เขาเอามือทั้งสองกุมหน้า ใช้แรงขยี้รอบนึงถึงรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง

เขาเลื่อนกระจกรถลงมา ยิ้มพร้อมเป็นฝ่ายทักทายก่อน“ไม่ได้เจอกันนานเลยครับ”

หลินซินเหยียนจ้องมองเขาอยู่สองวินาที“ทำไมถึงเป็นนาย?”

เธอแปลกใจมาก

กวนจิ้งกินปูนร้อนท้องอย่างไร้สาเหตุ สายตาเขาลุกลี้ลุกลน“เอ่อ……ผมมาทำธุระที่นี่ครับ”

หลินซินเหยียนหัวเราะเยาะเสียงนึง เมื่อวานจงจิ่งห้าวมา วันนี้เขาก็บังเอิญโผล่มาทำธุระที่นี่อีก?

มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เลยเหรอ?

“เขาให้นายมาทำอะไร?”หลินซินเหยียนไม่คิดจะต่อความยาว สาวความยืดกับเขา แต่ได้ถามตรงๆ

กวนจิ้งปิดปากเงียบไม่ยอมพูด

จะบอกว่ามาตรวจสอบเธอก็คงไม่ได้มั้ง?

ไม่ว่าใครก็คงไม่ชอบที่ถูกคนอื่นตรวจสอบความเป็นส่วนตัวหรอกมั้ง?

“จะให้ฉันโทรถามเขามั้ย?”หลินซินเหยียนมีท่าทีที่แข็งกร้าวมาก

ท่าทีของหลินซินเหยียนทำให้เขาอึ้ง อดสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ได้ ไม่ว่าจะสีหน้าท่าทางจากการพูดจา หรือความรู้สึกโดยรวมที่มีให้กับคนล้วนรู้สึกเธอเปลี่ยนไป

เปลี่ยนเป็นสาวแล้ว

เมื่อก่อนถือได้ว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิง

กวนจิ้งกำผมตัวเอง“เอ่อคือ ประธานจงก็แค่อยากรู้ที่อยู่อาศัยของคุณเท่านั้นเองครับ”

เงียบสงบลงมาทันที

หลินซินเหยียนหันหลังเดินกลับเข้าไปในร้าน

ดูท่าเธอจะต้องเปลี่ยนที่อยู่ใหม่แล้วจริงๆ

เธอไม่อยากถูกรบกวน

โดยเฉพาะจงจิ่งห้าว!

“คุณหลิน——”กวนจิ้งอยากอธิบายสักคำ

หลินซินเหยียนไม่ให้โอกาสเขา แต่ได้เดินเข้าไปในLEOโดยตรง

กวนจิ้งทำปากบรื๋อ มีความรู้สึกเหมือนเทพเทวดาตีกัน มนุษย์โลกรับกรรม

ตอนที่หลินซินเหยียนคิดหาวิธีจากไป เปลี่ยนไปใช้ชีวิตที่อื่น เมืองBของประเทศZ

จงจิ่งห้าวถูกเรียนเชิญไปทานข้าวที่ตระกูลเหอ

หากจงจิ่งห้าวไม่ยกถอนหมั้นมันก็ย่อมดีอยู่แล้ว ทานข้าวด้วยกันก็สามารถเชื่อมสายสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวด้วย

แต่ว่า ตอนนี้ถูกเรียนเชิญไปทานข้าว เกรงว่าคงจะใช้งานเลี้ยงเป็นเครื่องมือในการทำร้ายคนแน่นอน

เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้นเอง จงจิ่งห้าวเตรียมพร้อมตั้งนานแล้ว

เหอรุ่ยหลินแต่งเนื้อแต่งตัวได้สวยงามมาก คนของตระกูลเหอก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

รวมถึงเหอรุ่ยเจ๋อที่อยู่ต่างประเทศมานานหลายปี

ห้องโถงที่เหลืองอร่ามแวววาว ดูเหมือนจะคึกคักมากเป็นพิเศษ

จงจิ่งห้าวใส่ชุดสูทสีดำ เดินย้อนแสงไฟมาอย่างสง่า

เห็นจงจิ่งห้าวเดินเข้ามา สายตาของเหอรุ่ยเจ๋อเปลี่ยนไปทันที……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด