การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) 29

Now you are reading การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) Chapter 29 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“กัปตันเรือ, ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนแล้วครับ?”

 

ด้วยการรักษามาดของลีโอเอาไว้, ฉันก็ไปหากัปตันเรือ

 

พายุอ่อนกำลังลงแล้ว แต่พวกเราที่ติดร่างแหไปด้วยนั้นได้พัดหลงกับเรือที่ลีโอนั่งอยู่, ซึ่งมันคงจะผ่านมานานมากแล้วแน่ๆ เพราะดวงอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว

 

พายุที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่ในระดับที่ถึงแม้เรือจะพลิกคว่ำก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เรือลำนี้คือกองเรือของจักรวรรดิที่มีบุคลากรของกองทัพเรือซึ่งผ่านการฝึกฝนมาแล้วขึ้นเรือมาด้วยดังนั้นพวกเราจึงสามารถรอดพ้นมาได้

 

“พวกเราน่าจะอยู่ในน่านน้ำของราชรัฐอัลบราโทรครับ เรือของพวกเราไม่คว่ำก็จริงแต่เห็นได้ชัดว่าพวกเราถูกคลื่นซัดออกมาจากเส้นทางเดิมของเรา หรือพูดให้ถูกกว่านี้ก็คือพวกเราถูกคลื่นดึงเข้ามาแทนที่จะพัดออกไป พายุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เหตุการณ์ปกติแน่ๆครับ”

 

“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเป็นฝีมือของมอนส์เตอร์สินะ?”

 

“ครับ, ไม่ผิดแน่ ข้าล่องเรือกับท่านปู่ของข้ามาตั้งแต่ยุคของเขา, พายุนั่นเหมือนกับเรื่องราวที่ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับพายุมังกรทะเลเลยครับ”

 

“พายุมังกรทะเลหรอ…..มันเป็นพายุแบบไหนหล่ะ?”

 

“ก็ตามชื่อของมันนั่นแหล่ะครับ, มันคือพายุที่เกิดจากฝีมือของมังกรทะเล มันคือพายุที่จะค่อยๆดึงเรือของเหยื่อไปยังทิศทางที่มันอยู่ ต่อให้รอดพ้นจากพายุไปได้, ก็จะต้องเผชิญหน้ากับมังกรทะเลอยู่ดี มันเหมือนกับเรื่องหลอนสำหรับชาวเรือ, ถึงยังไง, มังกรทะเลก็ถือเป็นหนึ่งในมอนส์เตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเล, การได้เห็นมันก็คงไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้วหรอกครับ, องค์ชาย”

 

หืม, ลักษณะของพายุจากเรื่องเล่ากับพายุที่พึ่งเผชิญมามีความคล้ายคลึงกันอยู่นะ

 

แบบนี้ก็แสดงว่าจะเข้าว่ามีมังกรทะเลอยู่ในพื้นที่นี้ก็คงไม่ผิดอะไรใช่ไหม?

 

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆนี่ก็คงเป็นปัญหาใหญ่แล้วหล่ะ

 

แต่เดิม, มังกรเป็นมอนส์เตอร์ที่มีวัฎจักรระหว่างช่วงที่ออกอาละวาดกับช่วงที่นิ่งสงบสลับกันไปมา ซึ่งช่วงที่สงบนั้นจะมีระยะเวลาที่นานมาก มันเคยมีรายงานด้วยซ้ำว่ามังกรบางตัวจะจำศีลเป็นเวลาร้อยปี

 

ช่วงสงบที่ยาวนานและช่วงอาละวาดในระยะสั้นๆ นี่คือธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามังกร ซึ่งมันก็เป็นเช่นเดียวกันกับมังกรทะเล

 

ฉันไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซนต์ถ้าไม่ได้ตรวจสอบบันทึกแต่ดูเหมือนว่ามังกรทะเลที่จำศีลในพื้นที่นี้จะออกอาละวาดอีกครั้งแล้วสินะ ปัญหาก็คือว่าราชรัฐอัลบราโทรเป็นประเทศที่เด่นด้านการทะเล แน่นอนว่าพวกเขาอ่อนชั้นกว่าจักรวรรดิอยู่หลายขั้นแต่พวกเขาก็มีเครือข่ายการค้ากับประเทศอื่นที่กว้างไกล ถ้ามีมังกรทะเลโผล่มาในอาณาเขตของพวกเขา, ก็คงจินตนาการได้เลยว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้นคงไม่ใช่น้อยๆอย่างแน่นอน

 

ด้วยความที่เข้าใจถึงจุดนี้, อัลบราจึงต้องเริ่มการสืบหาอย่างลับๆแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเผลอไปแหย่โดนเกล็ดย้อนของมังกรเข้าแล้วสินะ

 

ต้นเหตุของพายุก่อนหน้านี้อาจจะเป็นเอวาก็ได้

 

ถ้าเจอพายุแบบนั้นเข้าไปเธอก็ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่แล้ว ช่างเป็นเด็กสาวที่น่าสงสารจริงๆ

 

“งั้นหรอครับ……ถ้างั้นการอยู่แถวนี้นานเกินไปก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่ ท่านพี่กับคนอื่นๆต้องเป็นห่วงพวกเราอยู่แน่ เรารีบจัดเส้นทางตรงไปที่รอนดิเน่เดี๋ยวนี้เลยเถอะครับ”

 

“นะ, นี่! ดูตรงนั้นสิ!!”

 

ในตอนที่ฉันออกคำสั่ง, หนึ่งในลูกเรือก็ตะโกนออกมา

 

ด้วยความรู้สึกไม่ดี, ฉันจึงมองไปตามทิศทางที่เขาชี้และเหมือนกับการตอบรับความคาดหวังของฉัน, มีซากเรือกำลังลอยมาหาเรา

 

“เรือของราชรัฐสินะ……”

 

“ดูเหมือนว่า พวกเขาคงโดนพายุมาเหมือนกับพวกเรานะครับ”

 

“น่าเสียดายจัง…..”

 

ฉันกำลังจะจบเหตุการณ์และออกคำสั่งให้เดินเรือต่อแต่ในตอนนั้นเองอัศวินวัยกลางคนก็เข้ามากระซิบอะไรบางอย่างข้างหูฉัน

 

“องค์ชาย….ถ้าเป็นองค์ชายลีโอนาร์ดคงจะออกคำสั่งช่วยเหลือแน่นอนครับ……!”

 

“พวกเราไม่มีเวลาทำเรื่องแบบนั้นซักหน่อย ก็รู้นี่ว่าอาจจะมีมังกรทะเลซุ่มอยู่ในพื้นที่แถวนี้? ถ้าคิดตามปกติแล้ว, พวกเราควรจะจัดลำดับความสำคัญโดยเลือกออกจากพื้นที่นี้ไม่ใช่หรอ……?”

 

“ข้าก็เข้าใจตรงจุดนั้นอยู่หรอกครับ, แต่ตอนนี้องค์ชายยังต้องแสดงให้เหมือนกับเป็นองค์ชายลีโอนาร์ดอยู่นะครับ ถ้าเกิดมีคนรู้ว่าทูตที่ส่งไปประเทศอื่นได้สลับตัวกับพี่ชายฝาแฝดมันก็จะกลายเป็นข้อครหาได้ไม่ใช่หรอครับ……!?”

 

“ข้ารู้แต่ตอนนี้ลูกเรือกำลังวิตกจากเหตุการณ์พายุก่อนหน้านี้ พวกเขาคงไม่ทันสังเกตเห็นเรื่องเล็กๆแบบนั้นหรอก……!”

 

“จริงๆแล้วมันเป็นเพราะพวกเขากำลังวิตกนั่นแหล่ะครับองค์ชายถึงต้องยิ่งทำตัวให้เหมือนเจ้าชายลีโอนาร์ด ถ้าพวกเขารู้ว่ามีการสลับตัวขึ้นมาหล่ะก็พวกเขาจะตื่นตระหนกแน่นอนครับ พวกเราอาจจะไม่สามารถห้ามพวกเขาจากการพูดคุยกันได้ด้วย, และแน่นอนว่ามันไม่มีทางเลยที่จะรู้ได้ว่าพวกเขาจะพูดอะไรออกมาในตอนที่พวกเราไปถึงรอนดิเน่ไม่ใช่หรอครับ…..?”

 

ความเห็นของอัศวินวัยกลางคนนั้นฟังดูน่าเชื่อถือ

 

ใช่, มันน่าเชื่อถือ แต่ว่า, การทำตัวเหมือนลีโอก็หมายถึงการทำสิ่งที่ฉันไม่อยากจะทำมากที่สุด

 

ในเรื่องนี้, การช่วยเหลือพวกเขามันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับพวกเรา และราชรัฐอัลบราก็ไม่ได้เป็นทั้งพันธมิตรหรือประเทศที่ใกล้ชิดกับพวกเรามาตั้งแต่แรกแล้ว การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตของประเทศแบบนั้นในพื้นที่ที่อาจจะมีมังกรทะเลอยู่ใกล้ๆนั้นมันเป็นเรื่องที่ฟังดูโง่เง่าที่สุด

 

แถมพวกเราก็ไม่มีเวลาแล้วด้วย แค่เพราะพายุที่เจอก่อนหน้านี้ก็ทำพวกเราเสียเวลาไประดับนึงแล้ว ถ้าเริ่มภารกิจช่วยเหลือที่นี่มันจะทำให้พวกเรายิ่งไปถึงรอนดิเน่ช้าขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน และต่อให้ลีโอไปถึงที่นั่นก่อนก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะว่าตอนนี้เขาเป็นอาร์โนลด์อยู่และอาร์โนลด์ก็เป็นเจ้าชายไร้ค่า ถ้าเขาเริ่มเจรจากับรอนดิเน่ด้วยตัวเอง, เขาคงจะถูกสงสัยอย่างแน่นอน

 

ว่าแล้วเชียว, ฉันอยากรีบมุ่งหน้าไปให้ถึงรอนดิเน่จะแย่แล้ว ต่อให้ลีโอมีเอลน่าอยู่ด้วย, ฉันก็กังวลว่าลีโออาจจะไม่สามารถทำตัวเหมือนฉันได้

 

นอกจากนี้, ถ้าพวกเราเริ่มภารกิจช่วยเหลือแล้วเจอผู้รอดชีวิต, พวกเราก็ต้องไปแวะที่อัลบราโทรเพื่อส่งพวกเขาอีก และถ้าเป็นแบบนั้นก็จะกลายเป็นปัญหาอย่างถึงที่สุด มันไม่มีทางหรอกที่พวกเขาจะยอมให้เจ้าชายของจักรวรรดิที่รู้ความลับของพวกเขาออกจากประเทศไปโดยไม่ทำอะไรเลย

 

ถ้าเป็นฉัน, ก็คงจะกักตัวคนระดับนั้นเอาไว้จนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย และถ้าเป็นแบบนั้นลีโอกับฉันก็คงจะต้องสลับตัวไปอีกพักใหญ่ๆ

 

นี่มันไม่มีอะไรดีเลยสักนิด

 

“ตอนนี้ผู้รอดชีวิตคงจะกำลังสิ้นหวังอยู่, รีบไปพาตัวพวกเขามาที่นี่เร็ว”

 

“ดูนั่น, มีคนกำลังเกาะซากเรืออยู่! เขายังไม่ตาย!!”

 

“……”

 

“ท่านจะเอายังไงดีครับ? จะทิ้งพวกเขารึเปล่า?”

 

อัศวินวัยกลางคนถามคำถามที่เขารู้คำตอบอยู่แล้ว

 

ถ้ามันมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากช่วยพวกเขา

 

ชิ! ทำไมปัญหามันถึงถาโถมเข้ามาหาฉันเยอะแยะขนาดนี้เนี่ย!

 

ถ้าพระเจ้ามีตัวตนอยู่จริงๆฉันก็อยากจะสาปแช่งพระองค์เหลือเกิน!

 

“โยนเชือกให้พวกเขา! ทำการช่วยเหลือพวกเขาเดี๋ยวนี้! แล้วก็คอยสังเกตดูรอบๆด้วย, อาจจะยังมีผู้รอดชีวิตอยู่อีก, ลองหาให้ดีๆ!”

 

ฉันออกคำสั่งเหมือนกับลีโอด้วยเมฆหมอกอันมืดมิดที่ครุกรุ่นอยู่ในใจของฉัน

 

ฉันอยากจะหนีไปซะเดี๋ยวนี้เลยแล้วกลับมาเป็นอาร์โนลด์อีกครั้ง มันไม่ใช่ว่าฉันกลัว, ถ้ามังกรทะเลโผล่มาฉันก็เต็มใจที่จะสู้กับมัน

 

แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมันก็จะทำให้พวกเราเจอปัญหาใหญ่โต สถานการณ์อาจจะโกลาหลจนถึงขั้นที่ฉันไม่สามารถจัดการด้วยตัวคนเดียวได้ ฉันต้องหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นั้นด้วยทุกสิ่งที่มี

 

แต่ว่า, ด้วยความที่เป็นคนดีซะขนาดนั้นๆ, ลีโอนาร์ดจะไม่มีวันปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแน่ๆ

 

“พวกเราช่วยเหลือผู้รอดชีวิตมาได้แล้วครับ! จากที่พวกเขาพูด, ดูเหมือนว่าจะยังมีผู้รอดชีวิตอยู่อีกครับ, องค์ชาย!”

 

คำรายงานของลูกเรือได้ดึงจิตใจของฉันกลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน

 

การมีผู้รอดชีวิตจำนวนมากก็หมายความว่ายิ่งพวกเราต้องอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่, ก็ยิ่งต้องจัดการพื้นที่เพื่อที่จะรองรับพวกเขามากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้, พวกเรายังต้องคำนวณเสบียงอาหารกับน้ำด้วย

 

“นี่อัลบราโทรเป็นเทพแห่งความซวยจำแลงมารึไงเนี่ย…..!”

 

“ช่วยระวังคำพูดหน่อยสิครับ…….!”

 

“พูดก็ไม่ได้หรอเนี่ย…..! อ้าก, บ้าชะมัด…..! นี่มันโคตรจะเลวร้ายเลย……!”

 

“ช่วยอดทนหน่อยนะครับ เหตุการณ์นี้มันจะถ่ายทอดคุณธรรมขององค์ชายลีโอนาร์ดในอนาคต ถ้าผู้คนรู้ว่าท่านช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้, รอนดิเน่ก็คงจะปรบมือให้กับการกระทำของท่านและน่าจะไม่ถือโทษในเรื่องนี้ด้วยนะครับ”

 

 

“รู้รึเปล่าว่าความสัมพันธ์ของรอนดิเน่กับอัลบราโทรก็เหมือนหมากับแมว? พวกเขาต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสิทธิควบคุมดินแดนทางใต้มาตั้งนานแล้ว พวกเขาจะสรรเสริญคนที่ช่วยเหลือคนจากประเทศคู่แข่ง…..?”

 

“จักรวรรดิของเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการต่อสู้ทางใต้ของพวกเขาและพวกเราก็เป็นประเทศมหาอำนาจด้วย แค่ท่านทำตัวให้น่ายกย่องมันก็ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ถ้าองค์ชายยอมรับได้แล้วก็ช่วยเตรียมใจเอาไว้ด้วยนะครับ

 

พอถูกอัศวินวัยกลางคนกระตุ้น, ฉันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเงยหน้าขึ้นจากนั้นก็ก้มลงไปอีกแล้วถอนหายใจอีกครั้ง

 

เห้อ, ฉันไม่อยากทำแบบนี้แล้ว มีวิธีหลุดพ้นจากเรื่องนี้โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของลีโอไหมเนี่ย?

 

ไม่, ไม่มีเลยสินะ ถ้าเป็นลีโอ, เขาจะช่วยพวกนั้นอย่างแน่นอน ต่อให้เขาต้องละทิ้งทุกอย่างเพื่อทำแบบนั้นก็ตาม

 

ถ้าเขาเป็นคนที่พิจารณาได้ว่าการกระทำของตัวเองจะสร้างประโยชน์ให้เขาได้รึเปล่าก่อนที่จะเคลื่อนไหวเขาก็คงจะกลายเป็นจักรพรรดิได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากฉัน

 

อันที่จริงนี่มันคือสาเหตุที่เขาคุ้มค่าพอที่จะให้ความช่วยเหลือแต่มันก็เพราะนิสัยและชื่อเสียงเรื่องความดีจ๋าเนี่ยแหล่ะฉันถึงต้องมากลุ้มใจกับสถานการณ์ในตอนนี้

 

“กัปตันเรือ เราจะทำการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต”

 

“นี่ท่านเอาจริงหรอ!? มันอาจจะมีมังกรทะเลซุ่มอยู่แถวนี้ก็ได้นะครับ! ถ้าพวกเราถูกโจมตีในระหว่างทำการช่วยเหลือพวกเราก็จะไร้การป้องกันและมอนส์เตอร์ก็จะกรูเข้ามากินศพของพวกเรา! ตอนนี้แม้กระทั่งมอนส์เตอร์ประเภทอื่นๆนอกจากมังกรทะเลก็ยังถือเป็นภัยคุกคามสำหรับพวกเรานะครับองค์ชาย”

 

“พายุสงบลงแล้ว ตอนนี้มังกรทะเลคงจะพอใจแล้วหล่ะ ยิ่งไปกว่านั้น, มอนส์เตอร์ทั่วไปคงไม่หลงเข้ามาอยู่ใกล้กับสถานที่ที่มีมอนส์เตอร์ที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่หรอก ศัตรูของเรามีแค่มังกรทะเล ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะปลอดภัยอยู่ซักสองสามวันนะ”

 

“แต่ว่าตะวันใกล้ตกดินแล้วนะครับ! การทำภารกิจช่วยเหลือในความมืดมันอันตราย! และถ้าพวกเราใช้แสงเพื่อส่องดูพื้นที่รอบข้าง, พวกเราก็อาจจะไปดึงดูดความสนใจของมังกรทะเลมาที่พวกเราได้ด้วยนะครับ!”

 

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ, พวกเราจะทำการช่วยเหลือพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้าอยากให้ท่านตัดสินใจแนวทางของพวกเราโดยอิงจากข้อมูลที่ได้มาจากผู้รอดชีวิต ขอโทษนะ, กัปตันเรือ นี่เป็นคำสั่งในฐานะทูต จงใช้ทุกสิ่งที่พวกเรามีเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากอัลบราโทร อย่าให้พลาดไปแม้แต่คนเดียวหล่ะ

 

“……ข้าได้ยินข่าวลือมาบ้างแต่ท่านนี่เป็นคนดีโดยแท้เลยนะครับองค์ชาย ในฐานะกัปตันเรือที่คอยดูแลเรือลำนี้ข้าไม่สามารถยอมรับคำสั่งแบบนั้นได้แต่ถ้ามันเป็นคำสั่งจากท่านมันก็คงช่วยไม่ได้ครับ เรามาช่วยพวกเขากันเถอะ”

 

กัปตันเรือที่หมดแรงเถียงแล้วยอมอ่อนข้อให้

 

ฉันเข้าใจความรู้สึกของเขา ฉันเห็นด้วยกับเขาว่านี่มันไร้สาระมาก

 

อย่างไรก็ตาม, นี่คือลีโอ

 

ก็มันช่วยไม่ได้นี่ เพราะงั้นช่วยเลิกทำสายตาไม่พอใจแบบนี้เถอะนะ

 

ด้วยเหตุนี้เอง, การเดินทางไปรอนดิเน่ของพวกเรา, จึงเริ่มด้วยภารกิจช่วยเหลือในทะเลที่อาจจะมีมังกรทะเลอาลวาดอยู่, มันเป็นการกระทำที่โง่เง่าเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด