การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 167

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 167 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 167 – ข้อเสนอและการเปลี่ยนแปลง

 

และในตอนนี้แผนการทุกอย่างก็ดำเนินมาจนถึงจุดสุดท้ายแล้ว ข้าจ้องมองไปยังเด็กผู้หญิงตรงหน้า.. ไม่สิ.. เธอน่ะเป็น…

มือของข้าสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางนึกถึงใบหน้าของลูเซียโน่ขึ้นมา เธอพึมพำในใจว่า

‘ถึงจะรู้สึกผิดกับลูเซียโน่นิดหน่อยที่ทำกับลูกเขาแบบนี้ แต่นี่ไม่ใช่ลูกเขาจริงๆ สักหน่อยนี่น่า..’

เธอพึมพำเบาๆ ก่อนที่จะกระแอมขึ้นมาพลางมองไปที่นักเรียนเลทิเซียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเหมือนตอนนี้เธอจะกังวลมาก

“แต่ว่าอันที่จริงก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออกเสมอไปหรอกนะ”

“หมายความว่าไงงั้นเหรอคะ?”

พอข้าพูดออกไป เธอก็ให้ความสนใจและหันหน้ากลับมาทันที ข้านิ่งไปพักหนึ่งคิ้วขมวดท่าทางเหมือนคนกำลังคิดหนักบางอย่าง

แต่ตอนนั้นเองคิ้วของเลทิเซียก็กระตุก สีหน้าเธอมองมาที่ข้าอย่างคลางแคลงใจ อืม.. สมแล้วกับที่เป็นคนฉลาดล่ะนะ

ฉันจะแสดงไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วสิ เพราะไม่งั้นความคงแตกง่ายๆ แน่ ฉันคิดได้แบบนั้นก็เลยพูดขึ้นมา

“ข้ามีข้อเสนอให้เจ้าหนึ่งอย่าง”

“ขอปฏิเสธ”

เธอพูดโดยไม่ทันคิด ไม่สิ บางทีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้นเธอคงคิดไตร่ตรองมาจนดีเยี่ยมแล้วสินะคงเป็นเพราะสังเกตเห็นท่าทางของข้าในตอนนั้นแน่ๆ

แต่ว่าขอโทษนะ นี่ไม่ใช่ข้อเสนอที่สามารถปฏิเสธได้หรอกนะ หรือก็คือนี่เป็นเหมือนคำสั่งนั่นเอง

ข้ายกมือขึ้นพลางส่ายหน้าให้เลทิเซีย

“น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีสิทธิ์นั้น เพราะว่างานประลองคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจจะเกิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเวลาต่อสู้คัดเลือกตัวแทนก็ไม่เหลือแล้ว!”

“แต่นั่นมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่น่า”

เธอตอบออกมา อืม ก็ถูกอย่างที่เธอว่านั่นแหละในเมื่อเธอจะถูกไล่ออกอยู่แล้ว เธอจะสนใจเรื่องในโรงเรียนนี้ทำไม

“งั้นเหรอ น่าเสียดายจริงๆ เพราะว่าคนที่เข้าร่วมการประลองถูกจัดสรรไว้ตามความเหมาะสมโดยนักเรียนทุกคนล้วนมีโอกาสได้เป็นตัวแทนทั้งหมด”

“…..”

“ข้าจำได้ว่านักเรียนที่ชื่อเลวิเนียเองก็ถูกเสนอชื่อด้วยนะ แต่เพราะมีเจ้าอยู่พวกครูใหญ่เลยปฏิเสธ แต่แบบนี้คงเรียกเลวิเนียมาแทนแล้วสินะ”

“……”

“อันที่จริงเธอก็น่าสงสารนะ เพราะโรงเรียนเราแพมาตลอดหลายปี ในปีนี้เลยส่งได้เพียงแค่คนเดียว เธอต้องสู้กับคนมากหน้าหลายตา.. เฮ้อ”

“อย่าเอาเลวิเนียมาใช้ขู่ฉัน”

เธอจ้องมาที่ฉันแล้วก็พูดขึ้น เหมือนเธอจะโกรธมากแต่ว่าแม้จะรู้สึกผิดต่อเธอแต่มันก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ ข้าน่ะรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเลทิเซีย

……รู้ดีจนพอจะเห็นอนาคตข้างหน้าว่าเธอจะเป็นตัวอะไรเลยล่ะ.. ข้ามองไปที่เลทิเซียเพื่อเป็นการตอบรับสายตาเธอ

“ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าหากเธอชนะการแข่งครั้งนี้ได้ละก็ การถูกไล่ออกของเธอจะถูกยกเลิก และข้าเชื่อว่าเธอมีความสามารถในระดับที่ไม่แพ้แน่นอน ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้”

“ทำไมถึงเชื่อมั่นฉันถึงขนาดนั้น?”

“เอ่อ นั่นสินะ..”

ข้าลังเลอยู่พักหนึ่งว่าจะบอกยังไงดีหรือเลือกที่จะบอกดีไหม ก่อนที่จะตัดสินใจได้และถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางพูดออกไป

“ข้ารู้จักกับพ่อของเจ้าน่ะ เจ้าหมอนั่นชอบเอาเรื่องของลูกตัวเองมาอวดให้ฟังบ่อยๆ ฉันจะรู้จักเธอก็คงไม่แปลกใช่ไหมล่ะ”

“…..”

เลทิเซียขมวดคิ้วเล็กน้อย ข้าเลยรีบพูดออกไปว่า

“อ้อ อย่าเข้าใจผิดหมอนั่นไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรอกนะ เขาแค่อยากอวดว่าลูกตัวเองทำได้ดีแค่ไหนเท่านั้นน่ะ”

“….?”

เธอทำสีหน้างงๆ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาหลังจากผ่านไปสักพักเธอก็ตอบกลับมาเบาๆ ว่า

“ก็ได้ ฉันยอมรับข้อเสนอที่เป็นเหมือนข้อบังคับนั่น”

พอพูดแบบนั้นเธอก็เดินจากไป ข้าถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเดินกลับที่พักของตัวเอง…

………..

ในความเงียบงันตะวันใกล้ลาลับท้องฟ้า ดารากำลังทอแสงแทนที่แสงสีฟ้าครามนั้น เท้าของเวโรเน่หยุดลงหันกลับไปมองด้านหลัง

บรรยากาศความแข็งกร้าว ดุร้าย หายไปจนหมดแว่นตาถูกถอดออกอย่างช้าๆ ดวงตานั้นมีเพียงความอ่อนแอประหนึ่งเด็กสาวผู้ไร้เดียงสา

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาช้าๆ …

“ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือ… มันผ่านมานานแล้วนะ.. นานเกินไปแล้ว..”

ภาพในอดีตหวนคืนสู่ความคิดของเธอ ในความทรงจำนั้นทุกอย่างมืดมิดราวกับไม่มีอนาคตสำหรับเธอ

แต่แล้วคนสองคนก็ปรากฏขึ้น… ช่วยเปิดแสงและปัดเป่าความมืดจนหายไปจนสิ้น..

เธอเช็ดแว่นตาด้วยผ้าสะอาดก่อนที่จะสวมใส่แว่นตามเหมือนเดิม น้ำตาที่อยู่บนหน้าหายไปจนหมดราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

บรรยากาศรอบตัวกลับคืนเหมือนเดิมเป็นอาจารย์ที่เป็นคนที่ดูน่ากลัวเหมือนเดิม

………….

ฉันกลับมาที่ห้องก็เห็นชาร์ล็อตนอนอยู่บนเตียง ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วก็นอนลงเตียง

เฮ้อ.. นี่ฉันได้ปัญหามาอีกแล้วสินะ แน่นอนว่าฉันไม่ต้องการที่จะแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับใคร แต่ว่าถ้าหากฉันต้องหนีจนน้องต้องมารับหน้าที่แทนละก็..

พี่คงด่าฉันตายแน่ๆ นี่ไม่ใช่เพราะว่าฉันปฏิเสธเงื่อนไขนั้นไม่ได้ หากฉันต้องการฉันสามารถปฏิเสธได้ เพราะฉันเชื่อว่าเลวี่นั้นเก่งกว่าฉันซะอีก

แต่ว่าหากฉันหนีในตอนนี้มันก็เหมือนกับว่าภาระที่ควรจะเป็นของฉัน ฉันกลับโยนให้เลวี่แทนซะอย่างนั้น

แบบนั้นในฐานะที่ฉันเป็นพี่ก็คงไม่คู่ควรกับตำแหน่งนั้น ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะยอมรับ.. และเลวี่เองก็สอนให้ฉันรู้แล้วว่า

เรื่องบางเรื่องความคิด ความเชื่อฉันของฉันมันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป ตลอดมาฉันเชื่อว่าการที่ตัวเองระแวงและรอบคอบมากที่สุด

มองคนอื่นในฐานะคนที่ควรระวังนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ดีกว่าต้องมานั่งเสียใจเมื่อถูกหักหลังในภายหลัง

ใช่ ฉันอ่านความคิดคนไม่ได้ฉันจึงเชื่อว่าการทำเรื่องแบบนี้น่ะเป็นเรื่องสมควร แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เสมอไป มองดูแล้วฉันก็ยังกังวลอยู่ดีว่า

หากโดนลอบโจมตีขึ้นมาล่ะ ฉันจะทำยังไง หากโดนหักหลังขึ้นมาล่ะฉันจะแก้ไขอย่างไร แต่อย่างน้อย..

ฉันในตอนนี้ก็รู้สึกว่าชาร์ล็อต.. ที่นอนอยู่ตรงนั้นเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย.. ไม่รู้สิ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกแบบนั้นขึ้นมาซะอย่างนั้น

อาจจะเป็นเพราะตอนนั้น ในห้องน้ำที่ฉันทำแบบนั้นกับเธอไปก็ได้ ฉันรู้สึกผิดและย่ำแย่มาก มันยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด

แต่ฉันไม่ชอบมันเลย ดังนั้นฉันเลยต้องการที่จะขอโทษเธอ ฉันไม่อยากจะทำให้เธอเศร้าเสียใจเพราะฉันอีกแล้ว..

อืม.. แปลกจริงๆ เลยนะ ทั้งๆ ที่ในโลกเดิมฉันไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเลยนอกจากเรื่องของครอบครัว นี่คงเป็นครั้งแรกเลยล่ะ

ที่ฉันรู้สึกแบบนี้ ….

พอคิดเรื่อยเปื่อยแบบนั้นอยู่ๆ ฉันก็เผลอหลับโดยไม่รู้ตัว.. พอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าร่างกายตัวเองกำลังถูกรัดแน่นอยู่

ในขณะที่กำลังตกใจว่าทำไมฉันถึงไม่ตอบสนอง ทำไมถึงหลับปานตายจนมีคนมาจับมัดได้… แต่พอลืมตาขึ้นก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่คิด..

ดูเหมือนว่าชาร์ล็อตจะนอนหลับแล้วก็ละเมอเดินมานอนกอดฉัน..

ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นช่วงกลางดึกและฉันในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงของตัวเองโดยมีชาร์ล็อตกอดฉันอยู่

ดูเหมือนว่าเธอจะนอนละเมอมานอนที่เตียงฉันและเข้ามากอดฉัน แถมเหมือนปากกำลังพึมพำเสียงแผ่วเบาออกมาว่า

“อันน่า.. เธออยู่ไหนกัน..”

เสียงของเธอในตอนนี้นั้นมันดูอ่อนแอและไร้พลังมาก

สิ่งที่ทำให้ฉันแปลกใจคือ ทำไมชาร์ล็อตเข้าใกล้ฉันโดยที่ฉันไม่รู้ตัวได้ทั้งๆ ที่ปกติ ฉันควรจะตื่นตั้งแต่เธอเข้ามาในใกล้แล้วแท้ๆ

แต่นี่ขนาดโดนกอดแน่นขนาดนี้ยังไม่ตื่นเลย…? นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่เธอละเมอคงเดินละเมอเข้าแบบไม่รู้ซ้ายรู้ขวาแน่ๆ ซึ่งฉันควรจะรับรู้ถึงมันแท้ๆ ..

แต่ว่าฉันก็หาคำตอบไม่ได้และในขณะที่ฉันกำลังพยายามจะปลุกเธอเพื่อให้เธอกลับไปนอนที่นอนของตัวเอง

แต่ว่าพอฉันกำลังจะแตะไหล่เธอเพื่อปลุก มือของฉันก็หยุดชะงักลงกลางคันสายตามองไปเห็นหางตาของเธอที่กำลังมีน้ำตาไหลอยู่

ปากพึมพำออกมาเบาๆ ว่า

“อย่าปล่อยข้าไว้คนเดียวนะ.. ข้าไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว…”

“…..”

ฉันไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่นอนกลับลงไปที่เตียงเงียบๆ .. ปากพูดออกมาโดยที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว.. “ขอโทษนะ..”

ฉัน.. รู้จักมันดีถึงความรู้สึกหวาดกลัวที่จะสูญเสียน่ะ..

 

…….

[เรืออวยไรท์เขาแหละ ชัวร์ – ใครสักคน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 167

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 167 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 167 – ข้อเสนอและการเปลี่ยนแปลง

 

และในตอนนี้แผนการทุกอย่างก็ดำเนินมาจนถึงจุดสุดท้ายแล้ว ข้าจ้องมองไปยังเด็กผู้หญิงตรงหน้า.. ไม่สิ.. เธอน่ะเป็น…

มือของข้าสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางนึกถึงใบหน้าของลูเซียโน่ขึ้นมา เธอพึมพำในใจว่า

‘ถึงจะรู้สึกผิดกับลูเซียโน่นิดหน่อยที่ทำกับลูกเขาแบบนี้ แต่นี่ไม่ใช่ลูกเขาจริงๆ สักหน่อยนี่น่า..’

เธอพึมพำเบาๆ ก่อนที่จะกระแอมขึ้นมาพลางมองไปที่นักเรียนเลทิเซียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเหมือนตอนนี้เธอจะกังวลมาก

“แต่ว่าอันที่จริงก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออกเสมอไปหรอกนะ”

“หมายความว่าไงงั้นเหรอคะ?”

พอข้าพูดออกไป เธอก็ให้ความสนใจและหันหน้ากลับมาทันที ข้านิ่งไปพักหนึ่งคิ้วขมวดท่าทางเหมือนคนกำลังคิดหนักบางอย่าง

แต่ตอนนั้นเองคิ้วของเลทิเซียก็กระตุก สีหน้าเธอมองมาที่ข้าอย่างคลางแคลงใจ อืม.. สมแล้วกับที่เป็นคนฉลาดล่ะนะ

ฉันจะแสดงไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วสิ เพราะไม่งั้นความคงแตกง่ายๆ แน่ ฉันคิดได้แบบนั้นก็เลยพูดขึ้นมา

“ข้ามีข้อเสนอให้เจ้าหนึ่งอย่าง”

“ขอปฏิเสธ”

เธอพูดโดยไม่ทันคิด ไม่สิ บางทีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้นเธอคงคิดไตร่ตรองมาจนดีเยี่ยมแล้วสินะคงเป็นเพราะสังเกตเห็นท่าทางของข้าในตอนนั้นแน่ๆ

แต่ว่าขอโทษนะ นี่ไม่ใช่ข้อเสนอที่สามารถปฏิเสธได้หรอกนะ หรือก็คือนี่เป็นเหมือนคำสั่งนั่นเอง

ข้ายกมือขึ้นพลางส่ายหน้าให้เลทิเซีย

“น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีสิทธิ์นั้น เพราะว่างานประลองคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจจะเกิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเวลาต่อสู้คัดเลือกตัวแทนก็ไม่เหลือแล้ว!”

“แต่นั่นมันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่น่า”

เธอตอบออกมา อืม ก็ถูกอย่างที่เธอว่านั่นแหละในเมื่อเธอจะถูกไล่ออกอยู่แล้ว เธอจะสนใจเรื่องในโรงเรียนนี้ทำไม

“งั้นเหรอ น่าเสียดายจริงๆ เพราะว่าคนที่เข้าร่วมการประลองถูกจัดสรรไว้ตามความเหมาะสมโดยนักเรียนทุกคนล้วนมีโอกาสได้เป็นตัวแทนทั้งหมด”

“…..”

“ข้าจำได้ว่านักเรียนที่ชื่อเลวิเนียเองก็ถูกเสนอชื่อด้วยนะ แต่เพราะมีเจ้าอยู่พวกครูใหญ่เลยปฏิเสธ แต่แบบนี้คงเรียกเลวิเนียมาแทนแล้วสินะ”

“……”

“อันที่จริงเธอก็น่าสงสารนะ เพราะโรงเรียนเราแพมาตลอดหลายปี ในปีนี้เลยส่งได้เพียงแค่คนเดียว เธอต้องสู้กับคนมากหน้าหลายตา.. เฮ้อ”

“อย่าเอาเลวิเนียมาใช้ขู่ฉัน”

เธอจ้องมาที่ฉันแล้วก็พูดขึ้น เหมือนเธอจะโกรธมากแต่ว่าแม้จะรู้สึกผิดต่อเธอแต่มันก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ ข้าน่ะรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเลทิเซีย

……รู้ดีจนพอจะเห็นอนาคตข้างหน้าว่าเธอจะเป็นตัวอะไรเลยล่ะ.. ข้ามองไปที่เลทิเซียเพื่อเป็นการตอบรับสายตาเธอ

“ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าหากเธอชนะการแข่งครั้งนี้ได้ละก็ การถูกไล่ออกของเธอจะถูกยกเลิก และข้าเชื่อว่าเธอมีความสามารถในระดับที่ไม่แพ้แน่นอน ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้”

“ทำไมถึงเชื่อมั่นฉันถึงขนาดนั้น?”

“เอ่อ นั่นสินะ..”

ข้าลังเลอยู่พักหนึ่งว่าจะบอกยังไงดีหรือเลือกที่จะบอกดีไหม ก่อนที่จะตัดสินใจได้และถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางพูดออกไป

“ข้ารู้จักกับพ่อของเจ้าน่ะ เจ้าหมอนั่นชอบเอาเรื่องของลูกตัวเองมาอวดให้ฟังบ่อยๆ ฉันจะรู้จักเธอก็คงไม่แปลกใช่ไหมล่ะ”

“…..”

เลทิเซียขมวดคิ้วเล็กน้อย ข้าเลยรีบพูดออกไปว่า

“อ้อ อย่าเข้าใจผิดหมอนั่นไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรอกนะ เขาแค่อยากอวดว่าลูกตัวเองทำได้ดีแค่ไหนเท่านั้นน่ะ”

“….?”

เธอทำสีหน้างงๆ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาหลังจากผ่านไปสักพักเธอก็ตอบกลับมาเบาๆ ว่า

“ก็ได้ ฉันยอมรับข้อเสนอที่เป็นเหมือนข้อบังคับนั่น”

พอพูดแบบนั้นเธอก็เดินจากไป ข้าถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเดินกลับที่พักของตัวเอง…

………..

ในความเงียบงันตะวันใกล้ลาลับท้องฟ้า ดารากำลังทอแสงแทนที่แสงสีฟ้าครามนั้น เท้าของเวโรเน่หยุดลงหันกลับไปมองด้านหลัง

บรรยากาศความแข็งกร้าว ดุร้าย หายไปจนหมดแว่นตาถูกถอดออกอย่างช้าๆ ดวงตานั้นมีเพียงความอ่อนแอประหนึ่งเด็กสาวผู้ไร้เดียงสา

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาช้าๆ …

“ยังไม่ถึงเวลาอีกหรือ… มันผ่านมานานแล้วนะ.. นานเกินไปแล้ว..”

ภาพในอดีตหวนคืนสู่ความคิดของเธอ ในความทรงจำนั้นทุกอย่างมืดมิดราวกับไม่มีอนาคตสำหรับเธอ

แต่แล้วคนสองคนก็ปรากฏขึ้น… ช่วยเปิดแสงและปัดเป่าความมืดจนหายไปจนสิ้น..

เธอเช็ดแว่นตาด้วยผ้าสะอาดก่อนที่จะสวมใส่แว่นตามเหมือนเดิม น้ำตาที่อยู่บนหน้าหายไปจนหมดราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

บรรยากาศรอบตัวกลับคืนเหมือนเดิมเป็นอาจารย์ที่เป็นคนที่ดูน่ากลัวเหมือนเดิม

………….

ฉันกลับมาที่ห้องก็เห็นชาร์ล็อตนอนอยู่บนเตียง ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วก็นอนลงเตียง

เฮ้อ.. นี่ฉันได้ปัญหามาอีกแล้วสินะ แน่นอนว่าฉันไม่ต้องการที่จะแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับใคร แต่ว่าถ้าหากฉันต้องหนีจนน้องต้องมารับหน้าที่แทนละก็..

พี่คงด่าฉันตายแน่ๆ นี่ไม่ใช่เพราะว่าฉันปฏิเสธเงื่อนไขนั้นไม่ได้ หากฉันต้องการฉันสามารถปฏิเสธได้ เพราะฉันเชื่อว่าเลวี่นั้นเก่งกว่าฉันซะอีก

แต่ว่าหากฉันหนีในตอนนี้มันก็เหมือนกับว่าภาระที่ควรจะเป็นของฉัน ฉันกลับโยนให้เลวี่แทนซะอย่างนั้น

แบบนั้นในฐานะที่ฉันเป็นพี่ก็คงไม่คู่ควรกับตำแหน่งนั้น ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะยอมรับ.. และเลวี่เองก็สอนให้ฉันรู้แล้วว่า

เรื่องบางเรื่องความคิด ความเชื่อฉันของฉันมันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป ตลอดมาฉันเชื่อว่าการที่ตัวเองระแวงและรอบคอบมากที่สุด

มองคนอื่นในฐานะคนที่ควรระวังนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ดีกว่าต้องมานั่งเสียใจเมื่อถูกหักหลังในภายหลัง

ใช่ ฉันอ่านความคิดคนไม่ได้ฉันจึงเชื่อว่าการทำเรื่องแบบนี้น่ะเป็นเรื่องสมควร แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เสมอไป มองดูแล้วฉันก็ยังกังวลอยู่ดีว่า

หากโดนลอบโจมตีขึ้นมาล่ะ ฉันจะทำยังไง หากโดนหักหลังขึ้นมาล่ะฉันจะแก้ไขอย่างไร แต่อย่างน้อย..

ฉันในตอนนี้ก็รู้สึกว่าชาร์ล็อต.. ที่นอนอยู่ตรงนั้นเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย.. ไม่รู้สิ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกแบบนั้นขึ้นมาซะอย่างนั้น

อาจจะเป็นเพราะตอนนั้น ในห้องน้ำที่ฉันทำแบบนั้นกับเธอไปก็ได้ ฉันรู้สึกผิดและย่ำแย่มาก มันยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด

แต่ฉันไม่ชอบมันเลย ดังนั้นฉันเลยต้องการที่จะขอโทษเธอ ฉันไม่อยากจะทำให้เธอเศร้าเสียใจเพราะฉันอีกแล้ว..

อืม.. แปลกจริงๆ เลยนะ ทั้งๆ ที่ในโลกเดิมฉันไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเลยนอกจากเรื่องของครอบครัว นี่คงเป็นครั้งแรกเลยล่ะ

ที่ฉันรู้สึกแบบนี้ ….

พอคิดเรื่อยเปื่อยแบบนั้นอยู่ๆ ฉันก็เผลอหลับโดยไม่รู้ตัว.. พอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าร่างกายตัวเองกำลังถูกรัดแน่นอยู่

ในขณะที่กำลังตกใจว่าทำไมฉันถึงไม่ตอบสนอง ทำไมถึงหลับปานตายจนมีคนมาจับมัดได้… แต่พอลืมตาขึ้นก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่คิด..

ดูเหมือนว่าชาร์ล็อตจะนอนหลับแล้วก็ละเมอเดินมานอนกอดฉัน..

ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นช่วงกลางดึกและฉันในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงของตัวเองโดยมีชาร์ล็อตกอดฉันอยู่

ดูเหมือนว่าเธอจะนอนละเมอมานอนที่เตียงฉันและเข้ามากอดฉัน แถมเหมือนปากกำลังพึมพำเสียงแผ่วเบาออกมาว่า

“อันน่า.. เธออยู่ไหนกัน..”

เสียงของเธอในตอนนี้นั้นมันดูอ่อนแอและไร้พลังมาก

สิ่งที่ทำให้ฉันแปลกใจคือ ทำไมชาร์ล็อตเข้าใกล้ฉันโดยที่ฉันไม่รู้ตัวได้ทั้งๆ ที่ปกติ ฉันควรจะตื่นตั้งแต่เธอเข้ามาในใกล้แล้วแท้ๆ

แต่นี่ขนาดโดนกอดแน่นขนาดนี้ยังไม่ตื่นเลย…? นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่เธอละเมอคงเดินละเมอเข้าแบบไม่รู้ซ้ายรู้ขวาแน่ๆ ซึ่งฉันควรจะรับรู้ถึงมันแท้ๆ ..

แต่ว่าฉันก็หาคำตอบไม่ได้และในขณะที่ฉันกำลังพยายามจะปลุกเธอเพื่อให้เธอกลับไปนอนที่นอนของตัวเอง

แต่ว่าพอฉันกำลังจะแตะไหล่เธอเพื่อปลุก มือของฉันก็หยุดชะงักลงกลางคันสายตามองไปเห็นหางตาของเธอที่กำลังมีน้ำตาไหลอยู่

ปากพึมพำออกมาเบาๆ ว่า

“อย่าปล่อยข้าไว้คนเดียวนะ.. ข้าไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว…”

“…..”

ฉันไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่นอนกลับลงไปที่เตียงเงียบๆ .. ปากพูดออกมาโดยที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว.. “ขอโทษนะ..”

ฉัน.. รู้จักมันดีถึงความรู้สึกหวาดกลัวที่จะสูญเสียน่ะ..

 

…….

[เรืออวยไรท์เขาแหละ ชัวร์ – ใครสักคน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+