การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 413

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 413 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 413 – ข้ามเวลาอีกครั้ง [จบภาค]

 

เมื่อเลทิเซียต้องการจะขัดกับภาพสะท้อนเธอก็จะทำมันให้สุด.. ร่างแยกของเลทิเซียโผล่ไปแทบทุกทิศทางทั่วโลก

บ้างก็ปรากฏขึ้นกลางสนามรบ บ้างก็ปรากฏขึ้นกลางดินแดนรกร้าง ร่างของเลทิเซียราวกับเทพสงครามจัดการทุกคนให้รู้ซึ้งภายในเสี้ยวพริบตาเดียว

เสียงเลทิเซียยังคงดังกึกก้องราวกับวันฟ้าพิโรธมาเยือน เธอกล่าวย้ำถึงสงครามอันไร้สาระ กล่าวย้ำถึงความจริงที่ไร้สาระทุกอย่าง

ในขณะเดียวกันเลทิเซียก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างๆ เมอร์สัน ทำให้เมอร์สันที่เป็นกังวลอยู่นั้นตกใจ แต่เลทิเซียไม่มีเวลามาพูดคุยกับอีกฝ่าย

เธอเอามือกดลงไปที่หัวของเมอร์สัน ก่อนที่เลทิเซียจะชี้นิ้วทะลุผ่านกำแพงทุกอย่างไปถึงร่างกายของสิ่งมีชีวิตเทียม

เวทมนตร์ที่แช่แข็งเวลาเอาไว้ก็พลันสลายหายไป ในขณะที่เลทิเซียกำลังจะส่งมันข้ามมิติกาลเวลาไปยังอนาคต

ร่างของสิ่งมีชีวิตเทียมก็เกิดปรากฏการณ์บางอย่างที่แปลกประหลาดขึ้น ราวกับมีพลังมากมายไร้ก้นบึ้งระเบิดออกมา

เลทิเซียหรี่ตาลง ขืนเป็นแบบนี้ไอ้พลังนี้ได้ทำลายร่างกายสิ่งมีชีวิตเทียมอย่างแน่นอน…..

“เปลี่ยน!”

เธอพูดเพียงคำเดียว พริบตานั้นพลังที่มากมหาศาลเหล่านั้นก็แตกออกราวกับเป็นเส้นใหญ่นับไม่ถ้วนหลอมรวมกลับเข้าไปในร่าง

เลทิเซียคิดว่าพลังเหล่านี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น.. แผนการของเธอก็คือการแทรกแซงโลกใบนี้.. แทรกแซงโลกใบนี้ให้มีจุดเปลี่ยนบางอย่าง

สิ่งมีชีวิตเทียมนี้จะไปถือกำเนิดใหม่ในอนาคตข้างหน้า และมันอาจจะเป็นตัวแปรในอนาคตก็ได้… เพราะจากการที่ประวัติศาสตร์เกือบจะเปลี่ยนไปในตอนนี้

แสดงให้เห็นแล้วว่า การแทรกแซงตัวแปรบางอย่างที่ไม่มากเกินไปเข้ามา มีโอกาสที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีก

ใช่ ในอนาคตอีกห้าร้อยปีข้างหน้าก็จะมีตัวแปรคนนี้ไปแปรเปลี่ยนบางอย่างเอาไว้ให้ได้.. นี่ก็เพื่อเธอ

เพื่อทุกคน! พลังเหล่านั้นที่แตกออกและหลอมรวมกลับเข้าไปในร่างเกิดจากการที่เลทิเซียเปลี่ยนแปลงพลังเหล่านั้นให้ดำรงอยู่ในลักษณะอื่น

อาจจะมาในรูปแบบของอวัยวะภายใน หรืออาจจะมาในรูปแบบลักษณะนิสัยก็ได้ ไม่มีใครรู้ แต่เลทิเซียยังใช้พลังตัวเองผนึกพลังเหล่านั้นเอาไว้

ให้พลังเหล่านั้นมีบทบาทบางอย่าง หากสิ่งมีชีวิตเทียมพัฒนาขึ้นมามันคงจะสามารถหลอมรวมพลังทั้งหมดกลับคืนมาได้

และถึงตอนนั้นพลังมันจะเต็มที่!

เลทิเซียบิดมืออีกครั้งร่างของสิ่งมีชีวิตเทียมพลันเดินทางข้ามผ่านกาลเวลาไปพร้อมกับหลอดแก้ว

ในขณะเดียวกันนี้เมอร์สันเองก็มีข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา.. แผนใหม่ของเลทิเซียคือการส่งสิ่งมีชีวิตเทียมข้ามไปในอนาคตเลย

และฝากให้เมอร์สันในอนาคตเตรียมการรอ แผนนี้ไม่ต่างจากการแช่แข็งเวลามันไว้เท่าไหร่ก็ตามแต่.. ทว่าสำหรับเมอร์สัน

เลทิเซียไม่กล้าฝากให้เขาดูแลตลอดห้าร้อยปี ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจ แต่ระยะเวลาตลอดห้าร้อยปีไม่ใช่สั้นๆ

อีกอย่างนี่คือแผนการที่ผิดพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด.. ในเมื่อเลทิเซียจะฝืนแล้วก็ไปให้สุดเลยแล้วกัน!

เมอร์สันอีกห้าร้อยปีข้างหน้าจะรออยู่ที่ไหนสักที สำหรับหลอดแก้วมันเป็นเวลาแค่พริบตาเดียวก็จริง แต่สำหรับเมอร์สันนับจากนี้จนถึงอีกห้าร้อยปีข้างหน้า

เขาต้องรอดชีวิตให้ได้ อันที่จริงเลทิเซียนั้นมอบพลังที่มีอายุขัยยืนนานให้เมอร์สันไปแล้ว ต่อจากนี้ตราบใดที่ไม่โดนสังหารเขาก็ไม่มีทางตาย

อีกทั้งพลังการรบของเขาอย่างน้อยก็พอๆ กับจอมมารคงยากที่จะมีใครต่อกรเขาได้!ในเวลาเดียวกันในมือของเมอร์สันก็มีของบางอย่างปรากฏขึ้น

“มอบสิ่งนี้ให้ด้วย… มันจะต้องเป็นตัวแปรบางอย่างที่มองไม่เห็นอย่างแน่นอน”

ในขณะเดียวกันอีกร่างของเลทิเซียก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ข้างกายไอรีน ไอรีนเห็นทุกอย่างแล้วและเธอก็เข้าใจแผนของเลทิเซียทั้งหมดแล้วเช่นกัน

“เลทิเซีย… เจ้า… เพื่อข้า..แล้ว..”

ไอรีนนิ่งเงียบไป เธอรู้ว่าหากเลทิเซียทำแบบนี้อีกไม่นานภาพสะท้อนจะปรากฏขึ้นและฆ่าเธอ.. แต่อย่างน้อยเลทิเซียก็มั่นใจว่า

ประวัติศาสตร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้มันจะน้อยนิดก็ตามที!

เลทิเซียมองหน้าไอรีนก่อนที่เธอจะส่ายหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า..

“นี่เป็นเส้นทางที่ฉันเลือกเอง.. มันไม่เกี่ยวกับเธอหรอก… ถึงแม้หลังจากนี้ พวกเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ตาม”

“แต่ถึงแบบนั้น.. ถึงแบบนั้นฉันก็ยังอยากจะให้พวกเธอได้มีชีวิตอยู่.. ไม่ว่าจะเธอ เวโรเน่หรือแม้แต่เนล”

“ทุกอย่างที่พวกเธอเจอมันเป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่าสงคราม.. พวกเธอยังสามารถมีความสุขได้มากกว่านี้แท้ๆ ”

เลทิเซียพูดด้วยสรหน้าเจ็บปวด มันก็เหมือนกับเหล่าคนสำคัญของเธอในอนาคต จริงอยู่คนที่มีแบบเนลก็มีอยู่เนอะในตอนนี้

แต่ถึงแบบนั้น ถึงแบบนั้นเนลก็มีอยู่เพียงคนเดียวบนโลก และเป็นเพื่อนคร่วมเดินทางคนหนึ่งของเลทิเซียเช่นกัน..

ดังนั้น… เลทิเซียอยากจะให้เธอได้มีความสุขบ้าง.. แต่ว่าทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว เลทิเซียรู้ดีกว่าใครว่าความตายนั้นน่ากลัวขนาดไหน

แต่ในตอนนั้นเอง… ร่างของไอรีน.. ไม่สิ.. ถ้าจะพูดให้ถูกคือดวงวิญญาณไอรีนพลันแตกสลายไปต่อหน้าต่อตาของเลทิเซีย

พอเธอเห็นแบบนั้น..

“ไอรีน?!”

เลทิเซียก็ตกใจ ตราบใดที่ไอรีนจะตาย ต่อให้เป็นเลทิเซียก็ไม่อาจจะขัดขวางได้.. ใช่.. นี่แหละคือสิ่งที่ถูกกำหนดมาไว้แล้วยังไงล่ะ

ไอรีนก้มมองร่างกาย..จิตวิญญาณตัวเองที่กำลังแตกสลาย เลทิเซียกางมือออกพยายามจะรักษาแต่ไอรีนก็จับมือเลทิเซียเอาไว้

“ไม่ได้ผลหรอก.. เลทิเซีย.. เจ้ายังมีสิ่งที่ต้องทำต่ออยู่ไม่ใช่เหรอ.. ต้องพูดนะ.. สิ่งที่เธอจะทำ.. และเมื่อถึงตอนนั้นเธอก็รีบกลับไปอนาคตซะ.. ก่อนที่ภาพสะท้อนจะปรากฏ.. นี่คือทางเดียวที่เธอจะไม่เป็นอะไรนะ..!”

“แต่ว่า!เธอ…!”

“เลทิเซีย!ไม่ต้องเป็นห่วงข้า!สิ่งที่เจ้าต้องการคือช่วยเหลือเพื่อนไม่ใช่หรือไงกัน!เจ้าน่ะตลอดมาเหมือนยืนอยู่คนเดียว มองท้องฟ้าอยู่คนเดียว!”

“…..”

“ข้าน่ะอยากจะไปยืนอยู่ข้างๆ เสมอ ทั้งที่รู้ดีว่าคนที่ทั้งแข็งแกร่งและฉลาดอย่างเจ้าไม่มีที่ให้ข้ายืนอยู่ข้างกาย!เพราะงั้น… อย่างน้อยอย่าให้ฉันเป็นตัวถ่วงของเจ้าเถอะนะ… ไม่อย่างนั้นข้าคงรับไม่ไหว…!”

“ฉัน…”

เลทิเซียนิ่งเงียบไปก่อนจะนึกภาพของใบหน้าเพื่อนมากมายหลายคนในอนาคตและใบหน้าใสสะอาดของไอรีน

“ฉันขอโทษ..”

เลทิเซียกัดริมฝีปากพร้อมกับสลายหายไป เสียงคำรามสุดท้ายที่เลทิเซียเปล่งออกมาดังกึกก้องไปทั่วนภาคือคำว่า

“ผนึก!!”

สิ้นเสียงนั้น.. ร่างเลทิเซียก็หายไปโดมสีแดงที่ปกคลุมทั่วทั้งทวีปมันกลับไม่หายไปทันทีเหมือนเลทิเซีย.. แต่บัดนี้ไอรีน.. ไอรีนได้รู้ว่าเลทิเซียได้หายไปจากโลกในตอนนี้แล้ว..

เธอจะไปอยู่ในอนาคตอันไกลโพ้นอีกประมาณห้าร้อยปีข้างหน้าห่างไกลจากตัวเธอและเวโรเน่.. ไอรีนมองจิตวิญญาณตัวเองที่ค่อยๆ สลายไป

“ท่านพี่… ข้า…”

เวโรเน่ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็พึมพำเสียงเบา ไอรีนก็หันไปยกมือขึ้นพร้อมกับลูบหัวเวโรเน่เบาๆ

จู่ๆ เวโรเน่ก็น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ.. ไอรีนเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาพร้อมกับพูด

“ไม่ต้องห่วงไปหรอกเวโรเน่… เราจะต้องทำสำเร็จแน่นอน.. เข้าใจใช่ไหม”

“แต่ว่า…!”

“ข้ารู้.. สำหรับข้ามันคงผ่านไปเหมือนหลับไปหนึ่งตื่น แต่สำหรับเจ้าน่ะ..ต้องอยู่ต่อไป ข้ารู้ว่ามันเป็นความเห็นแก่ตัว หากเป็นไปได้ข้าอยากอยู่แทนเจ้าด้วยซ้ำ แต่ก็อย่าง ที่เห็น…”

“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย! ถ้าหาก ท่านพี่.. ท่านพี่…”

แม้เธอจะไม่ได้พูดแต่ไอรีนรู้สิ่งที่เวโรเน่คิดดี.. เธอดึงเวโรเน่เข้ามากอดพร้อมกับจุมพิตลงที่หน้าผากของเธอ

“ไม่ต้องห่วง.. ข้าจะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน… เพราะงั้น.. นับจากนี้.. แผนการเพื่ออนาคตอันสดใสของพวกเรา.. ข้าขอฝากมันเอาไว้กับเจ้าด้วยนะ”

ไอรีนยกขวดของเหลวบางอย่างเทใส่ปากพร้อมกับยกมือขึ้นร่ายเวทมนตร์บางอย่างในตอนนั้นเองจิตของเธอก็หวนคืนสู่ปรภพ..

ร่างของเธอก็ค่อยๆ ไร้สติ.. ล้มลงไป แต่ไม่ใช่แค่เธอ เวโรเน่ก็ล้มลงไปพร้อมๆ กัน.. ผ่านไปสักพัก… ร่างร่างหนึ่งก็ขยับ…

น่าแปลกที่ร่างที่ขยับไม่ใช่เวโรเน่.. แต่เป็นร่างกายของ.. ไอรีน

……………..

อีกด้านหนึ่ง.. ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ช่วงเวลาใด..

ร่างอามาเระพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ… ทันทีที่เธอปรากฏขึ้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างเล็กน้อย

ความทรงจำที่เคยลืมหวนคืนกลับมาจนหมด.. ดวงตาเธอเผยแววแห่งความสับสนก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความบ้าคลั่ง

แบบนี้นี่เอง …. แบบนี้นี่เองสินะ เธอเข้าใจแล้ว..

“ไม่ว่ากี่ครั้ง… ต่อกี่ครั้ง… แม้จะเริ่มนับหนึ่งใหม่กี่ครั้ง… ต่อกี่ครั้ง…”

เธอพึมพำเสียงเบา แต่กลับสะท้อนไปทั่วทั้งโลก.. สะท้อนไปยังทุกหนทุกแห่ง.. คำสุดท้ายเธอไม่ได้พึมพำแต่กลับดังก้องในจิตใจ

“ฉันก็จะรอเธอ.. เลทิเซีย”

 

…………

[จบภาคสี่ : อารัมภบทที่แท้จริง]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 413

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 413 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 413 – ข้ามเวลาอีกครั้ง [จบภาค]

 

เมื่อเลทิเซียต้องการจะขัดกับภาพสะท้อนเธอก็จะทำมันให้สุด.. ร่างแยกของเลทิเซียโผล่ไปแทบทุกทิศทางทั่วโลก

บ้างก็ปรากฏขึ้นกลางสนามรบ บ้างก็ปรากฏขึ้นกลางดินแดนรกร้าง ร่างของเลทิเซียราวกับเทพสงครามจัดการทุกคนให้รู้ซึ้งภายในเสี้ยวพริบตาเดียว

เสียงเลทิเซียยังคงดังกึกก้องราวกับวันฟ้าพิโรธมาเยือน เธอกล่าวย้ำถึงสงครามอันไร้สาระ กล่าวย้ำถึงความจริงที่ไร้สาระทุกอย่าง

ในขณะเดียวกันเลทิเซียก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างๆ เมอร์สัน ทำให้เมอร์สันที่เป็นกังวลอยู่นั้นตกใจ แต่เลทิเซียไม่มีเวลามาพูดคุยกับอีกฝ่าย

เธอเอามือกดลงไปที่หัวของเมอร์สัน ก่อนที่เลทิเซียจะชี้นิ้วทะลุผ่านกำแพงทุกอย่างไปถึงร่างกายของสิ่งมีชีวิตเทียม

เวทมนตร์ที่แช่แข็งเวลาเอาไว้ก็พลันสลายหายไป ในขณะที่เลทิเซียกำลังจะส่งมันข้ามมิติกาลเวลาไปยังอนาคต

ร่างของสิ่งมีชีวิตเทียมก็เกิดปรากฏการณ์บางอย่างที่แปลกประหลาดขึ้น ราวกับมีพลังมากมายไร้ก้นบึ้งระเบิดออกมา

เลทิเซียหรี่ตาลง ขืนเป็นแบบนี้ไอ้พลังนี้ได้ทำลายร่างกายสิ่งมีชีวิตเทียมอย่างแน่นอน…..

“เปลี่ยน!”

เธอพูดเพียงคำเดียว พริบตานั้นพลังที่มากมหาศาลเหล่านั้นก็แตกออกราวกับเป็นเส้นใหญ่นับไม่ถ้วนหลอมรวมกลับเข้าไปในร่าง

เลทิเซียคิดว่าพลังเหล่านี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น.. แผนการของเธอก็คือการแทรกแซงโลกใบนี้.. แทรกแซงโลกใบนี้ให้มีจุดเปลี่ยนบางอย่าง

สิ่งมีชีวิตเทียมนี้จะไปถือกำเนิดใหม่ในอนาคตข้างหน้า และมันอาจจะเป็นตัวแปรในอนาคตก็ได้… เพราะจากการที่ประวัติศาสตร์เกือบจะเปลี่ยนไปในตอนนี้

แสดงให้เห็นแล้วว่า การแทรกแซงตัวแปรบางอย่างที่ไม่มากเกินไปเข้ามา มีโอกาสที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีก

ใช่ ในอนาคตอีกห้าร้อยปีข้างหน้าก็จะมีตัวแปรคนนี้ไปแปรเปลี่ยนบางอย่างเอาไว้ให้ได้.. นี่ก็เพื่อเธอ

เพื่อทุกคน! พลังเหล่านั้นที่แตกออกและหลอมรวมกลับเข้าไปในร่างเกิดจากการที่เลทิเซียเปลี่ยนแปลงพลังเหล่านั้นให้ดำรงอยู่ในลักษณะอื่น

อาจจะมาในรูปแบบของอวัยวะภายใน หรืออาจจะมาในรูปแบบลักษณะนิสัยก็ได้ ไม่มีใครรู้ แต่เลทิเซียยังใช้พลังตัวเองผนึกพลังเหล่านั้นเอาไว้

ให้พลังเหล่านั้นมีบทบาทบางอย่าง หากสิ่งมีชีวิตเทียมพัฒนาขึ้นมามันคงจะสามารถหลอมรวมพลังทั้งหมดกลับคืนมาได้

และถึงตอนนั้นพลังมันจะเต็มที่!

เลทิเซียบิดมืออีกครั้งร่างของสิ่งมีชีวิตเทียมพลันเดินทางข้ามผ่านกาลเวลาไปพร้อมกับหลอดแก้ว

ในขณะเดียวกันนี้เมอร์สันเองก็มีข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามา.. แผนใหม่ของเลทิเซียคือการส่งสิ่งมีชีวิตเทียมข้ามไปในอนาคตเลย

และฝากให้เมอร์สันในอนาคตเตรียมการรอ แผนนี้ไม่ต่างจากการแช่แข็งเวลามันไว้เท่าไหร่ก็ตามแต่.. ทว่าสำหรับเมอร์สัน

เลทิเซียไม่กล้าฝากให้เขาดูแลตลอดห้าร้อยปี ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจ แต่ระยะเวลาตลอดห้าร้อยปีไม่ใช่สั้นๆ

อีกอย่างนี่คือแผนการที่ผิดพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด.. ในเมื่อเลทิเซียจะฝืนแล้วก็ไปให้สุดเลยแล้วกัน!

เมอร์สันอีกห้าร้อยปีข้างหน้าจะรออยู่ที่ไหนสักที สำหรับหลอดแก้วมันเป็นเวลาแค่พริบตาเดียวก็จริง แต่สำหรับเมอร์สันนับจากนี้จนถึงอีกห้าร้อยปีข้างหน้า

เขาต้องรอดชีวิตให้ได้ อันที่จริงเลทิเซียนั้นมอบพลังที่มีอายุขัยยืนนานให้เมอร์สันไปแล้ว ต่อจากนี้ตราบใดที่ไม่โดนสังหารเขาก็ไม่มีทางตาย

อีกทั้งพลังการรบของเขาอย่างน้อยก็พอๆ กับจอมมารคงยากที่จะมีใครต่อกรเขาได้!ในเวลาเดียวกันในมือของเมอร์สันก็มีของบางอย่างปรากฏขึ้น

“มอบสิ่งนี้ให้ด้วย… มันจะต้องเป็นตัวแปรบางอย่างที่มองไม่เห็นอย่างแน่นอน”

ในขณะเดียวกันอีกร่างของเลทิเซียก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ข้างกายไอรีน ไอรีนเห็นทุกอย่างแล้วและเธอก็เข้าใจแผนของเลทิเซียทั้งหมดแล้วเช่นกัน

“เลทิเซีย… เจ้า… เพื่อข้า..แล้ว..”

ไอรีนนิ่งเงียบไป เธอรู้ว่าหากเลทิเซียทำแบบนี้อีกไม่นานภาพสะท้อนจะปรากฏขึ้นและฆ่าเธอ.. แต่อย่างน้อยเลทิเซียก็มั่นใจว่า

ประวัติศาสตร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แม้มันจะน้อยนิดก็ตามที!

เลทิเซียมองหน้าไอรีนก่อนที่เธอจะส่ายหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า..

“นี่เป็นเส้นทางที่ฉันเลือกเอง.. มันไม่เกี่ยวกับเธอหรอก… ถึงแม้หลังจากนี้ พวกเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ตาม”

“แต่ถึงแบบนั้น.. ถึงแบบนั้นฉันก็ยังอยากจะให้พวกเธอได้มีชีวิตอยู่.. ไม่ว่าจะเธอ เวโรเน่หรือแม้แต่เนล”

“ทุกอย่างที่พวกเธอเจอมันเป็นเพราะสิ่งที่เรียกว่าสงคราม.. พวกเธอยังสามารถมีความสุขได้มากกว่านี้แท้ๆ ”

เลทิเซียพูดด้วยสรหน้าเจ็บปวด มันก็เหมือนกับเหล่าคนสำคัญของเธอในอนาคต จริงอยู่คนที่มีแบบเนลก็มีอยู่เนอะในตอนนี้

แต่ถึงแบบนั้น ถึงแบบนั้นเนลก็มีอยู่เพียงคนเดียวบนโลก และเป็นเพื่อนคร่วมเดินทางคนหนึ่งของเลทิเซียเช่นกัน..

ดังนั้น… เลทิเซียอยากจะให้เธอได้มีความสุขบ้าง.. แต่ว่าทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว เลทิเซียรู้ดีกว่าใครว่าความตายนั้นน่ากลัวขนาดไหน

แต่ในตอนนั้นเอง… ร่างของไอรีน.. ไม่สิ.. ถ้าจะพูดให้ถูกคือดวงวิญญาณไอรีนพลันแตกสลายไปต่อหน้าต่อตาของเลทิเซีย

พอเธอเห็นแบบนั้น..

“ไอรีน?!”

เลทิเซียก็ตกใจ ตราบใดที่ไอรีนจะตาย ต่อให้เป็นเลทิเซียก็ไม่อาจจะขัดขวางได้.. ใช่.. นี่แหละคือสิ่งที่ถูกกำหนดมาไว้แล้วยังไงล่ะ

ไอรีนก้มมองร่างกาย..จิตวิญญาณตัวเองที่กำลังแตกสลาย เลทิเซียกางมือออกพยายามจะรักษาแต่ไอรีนก็จับมือเลทิเซียเอาไว้

“ไม่ได้ผลหรอก.. เลทิเซีย.. เจ้ายังมีสิ่งที่ต้องทำต่ออยู่ไม่ใช่เหรอ.. ต้องพูดนะ.. สิ่งที่เธอจะทำ.. และเมื่อถึงตอนนั้นเธอก็รีบกลับไปอนาคตซะ.. ก่อนที่ภาพสะท้อนจะปรากฏ.. นี่คือทางเดียวที่เธอจะไม่เป็นอะไรนะ..!”

“แต่ว่า!เธอ…!”

“เลทิเซีย!ไม่ต้องเป็นห่วงข้า!สิ่งที่เจ้าต้องการคือช่วยเหลือเพื่อนไม่ใช่หรือไงกัน!เจ้าน่ะตลอดมาเหมือนยืนอยู่คนเดียว มองท้องฟ้าอยู่คนเดียว!”

“…..”

“ข้าน่ะอยากจะไปยืนอยู่ข้างๆ เสมอ ทั้งที่รู้ดีว่าคนที่ทั้งแข็งแกร่งและฉลาดอย่างเจ้าไม่มีที่ให้ข้ายืนอยู่ข้างกาย!เพราะงั้น… อย่างน้อยอย่าให้ฉันเป็นตัวถ่วงของเจ้าเถอะนะ… ไม่อย่างนั้นข้าคงรับไม่ไหว…!”

“ฉัน…”

เลทิเซียนิ่งเงียบไปก่อนจะนึกภาพของใบหน้าเพื่อนมากมายหลายคนในอนาคตและใบหน้าใสสะอาดของไอรีน

“ฉันขอโทษ..”

เลทิเซียกัดริมฝีปากพร้อมกับสลายหายไป เสียงคำรามสุดท้ายที่เลทิเซียเปล่งออกมาดังกึกก้องไปทั่วนภาคือคำว่า

“ผนึก!!”

สิ้นเสียงนั้น.. ร่างเลทิเซียก็หายไปโดมสีแดงที่ปกคลุมทั่วทั้งทวีปมันกลับไม่หายไปทันทีเหมือนเลทิเซีย.. แต่บัดนี้ไอรีน.. ไอรีนได้รู้ว่าเลทิเซียได้หายไปจากโลกในตอนนี้แล้ว..

เธอจะไปอยู่ในอนาคตอันไกลโพ้นอีกประมาณห้าร้อยปีข้างหน้าห่างไกลจากตัวเธอและเวโรเน่.. ไอรีนมองจิตวิญญาณตัวเองที่ค่อยๆ สลายไป

“ท่านพี่… ข้า…”

เวโรเน่ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็พึมพำเสียงเบา ไอรีนก็หันไปยกมือขึ้นพร้อมกับลูบหัวเวโรเน่เบาๆ

จู่ๆ เวโรเน่ก็น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ.. ไอรีนเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาพร้อมกับพูด

“ไม่ต้องห่วงไปหรอกเวโรเน่… เราจะต้องทำสำเร็จแน่นอน.. เข้าใจใช่ไหม”

“แต่ว่า…!”

“ข้ารู้.. สำหรับข้ามันคงผ่านไปเหมือนหลับไปหนึ่งตื่น แต่สำหรับเจ้าน่ะ..ต้องอยู่ต่อไป ข้ารู้ว่ามันเป็นความเห็นแก่ตัว หากเป็นไปได้ข้าอยากอยู่แทนเจ้าด้วยซ้ำ แต่ก็อย่าง ที่เห็น…”

“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย! ถ้าหาก ท่านพี่.. ท่านพี่…”

แม้เธอจะไม่ได้พูดแต่ไอรีนรู้สิ่งที่เวโรเน่คิดดี.. เธอดึงเวโรเน่เข้ามากอดพร้อมกับจุมพิตลงที่หน้าผากของเธอ

“ไม่ต้องห่วง.. ข้าจะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน… เพราะงั้น.. นับจากนี้.. แผนการเพื่ออนาคตอันสดใสของพวกเรา.. ข้าขอฝากมันเอาไว้กับเจ้าด้วยนะ”

ไอรีนยกขวดของเหลวบางอย่างเทใส่ปากพร้อมกับยกมือขึ้นร่ายเวทมนตร์บางอย่างในตอนนั้นเองจิตของเธอก็หวนคืนสู่ปรภพ..

ร่างของเธอก็ค่อยๆ ไร้สติ.. ล้มลงไป แต่ไม่ใช่แค่เธอ เวโรเน่ก็ล้มลงไปพร้อมๆ กัน.. ผ่านไปสักพัก… ร่างร่างหนึ่งก็ขยับ…

น่าแปลกที่ร่างที่ขยับไม่ใช่เวโรเน่.. แต่เป็นร่างกายของ.. ไอรีน

……………..

อีกด้านหนึ่ง.. ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ช่วงเวลาใด..

ร่างอามาเระพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ… ทันทีที่เธอปรากฏขึ้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างเล็กน้อย

ความทรงจำที่เคยลืมหวนคืนกลับมาจนหมด.. ดวงตาเธอเผยแววแห่งความสับสนก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความบ้าคลั่ง

แบบนี้นี่เอง …. แบบนี้นี่เองสินะ เธอเข้าใจแล้ว..

“ไม่ว่ากี่ครั้ง… ต่อกี่ครั้ง… แม้จะเริ่มนับหนึ่งใหม่กี่ครั้ง… ต่อกี่ครั้ง…”

เธอพึมพำเสียงเบา แต่กลับสะท้อนไปทั่วทั้งโลก.. สะท้อนไปยังทุกหนทุกแห่ง.. คำสุดท้ายเธอไม่ได้พึมพำแต่กลับดังก้องในจิตใจ

“ฉันก็จะรอเธอ.. เลทิเซีย”

 

…………

[จบภาคสี่ : อารัมภบทที่แท้จริง]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+