การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 75

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 75 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 75 – สม…น้ำ…หน้—

 

“น่ารำคาญจริงๆ นะ ลูกสาวข้าเนี่ย”

แม้ว่าจะกัดสุดแรงแต่ทว่ากลับไม่สร้างบาดแผลอะไรให้กับอัลฟี่เลย ไม่สิ.. แต่แรกเดิมทีทำไมมันมีพลังกายมากขนาดนั้นได้

นั่นคือสิ่งที่เมลไม่เข้าใจและดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ มันต่อยท้องของเมลจนกระเด็นกลิ้งไปบนพื้น

“อ๊อกๆ แค่กๆ”

เมลสำลักเลือดดวงตาเบิกกว้างออกมาคำโต ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นทว่ามีดสั้นเล่มหนึ่งก็พุ่งมาปักท้องเธอจนเลือดไหลทะลัก

“พ่อบอกไปแล้วว่า… พ่อมีตัวตนที่สำคัญมากกว่าเดิมหลายเท่าในโลกใบนี้ นั่นหมายความว่าแม้แต่ผิวหนังของพ่อก็แข็งแกร่งกว่าผิวหนังมนุษย์ไปหลายร้อย หลายพันเท่าแล้ว นี่ไม่ได้ฟังเลยหรือยังไง”

“….”

“อ้อ ส่วนอีกร่างที่ลูกฟันไปน่ะ มันแค่ร่างที่ถูกผนึกคำพูด แล้วพ่อควบคุมมันให้เป็นเหมือนพ่ออีกทีนะ แต่ว่าเจ้านั่นน่ะเป็นคนที่ลูกรักนี่ ฆ่าไปจะไม่เป็นไรเหรอ”

“มะ.. หมาย.. ความว่าไง..”

เมลถึงกับร่างกายสั่นสะท้านแม้แผลจะเจ็บปวด แต่เธอกลับยิ่งสั่นเทิ้มเงยหน้ามองอัลฟี่ด้วยดวงตาสิ้นหวัง

“อ้อ.. ยังไม่ได้บอกนี่น่า เจ้านั่นถูกผนึกคำพูดเอาไว้เลยพูดสิ่งที่คิดออกมาไม่ได้ ด้วยพลังของพ่อเลยยืดมันมีชีวิตมาเป็นร้อยปีได้ก็เถอะ หวังจะใช้เป็นตัวตายตัวแทนในบางสถานการณ์น่ะ น่าเสียดายจริงๆ ที่ถูกลูกฆ่าไปซะแล้ว”

“ซา…ซาเอล…”

ร่างของเมลคลานไปหาชายที่เหมือนจะถูกเธอแทงตาย ตอนนี้หน้าของมันไม่ใช่หน้าอัลฟี่แล้วแต่เป็นหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง

แต่สีหน้าซีดเซียว… ร่างกายของเมลสั่นสะเทือน เต็มไปด้วยความเจ็บปวด.. เธอ… ฆ่าซาเอล.

เธอเป็นคนฆ่าซาเอลพร้อมกับเสียงหัวเราะ.. ภาพใบหน้ากรีดร้องทรมานของอัลฟี่ตอนถูกเมลฆ่าในหัวของเธอพลันเปลี่ยนเป็นใบหน้าของซาเอล

ชายคนที่ตายอยู่ตรงนี้…

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ใช่ข้า.. ไม่ข้า… ไม่!!”

เสียงร้องโหยหวนดังออกจากปากของเมล มือสองข้างกุมหัวด้วยความหวาดกลัว ดวงตาเบิกกว้าง…

“ไม่!!!!”

ด้วยความหวาดกลัว โกรธ และเศร้าโศกส่งผลให้เธอทำอะไรไม่ถูกจิตใจแหลกสลาย.. ดวงตาเบิกโพลงจนดูน่ากลัว

เธอกรีดร้องทรมานและโขกหัวลงพื้นอย่างรุนแรงจนเลือดสาดกระจาย มีดที่ปักอยู่ยิ่งแทงลึกเข้าไปอีก

บัดนี้จิตใจของเธอได้แหลกสลายไปแล้ว.. แม่ถูกพ่อฆ่าตาย ปู่กับย่าถูกพ่อฆ่าตาย ใส่ร้ายป้ายสี ชีวิตเต็มไปด้วยความหลอกลวง

และสุดท้าย.. คนที่เธอรักมากที่สุดก็ถูกฆ่าตายด้วยมือตัวเอง เธอเกิดมาทำไมเกิดมาเพื่ออะไร ทุกสิ่งทุกอย่างทำไมมันมืดมัว

เสียงกรีดร้องโหยหวนเจ็บปวด เศร้าโศกดังไปทั่วคฤหาสน์ ไม่มีคนเข้าใจความโศกเศร้าในสิ่งที่เธอได้พบเจอ และก็จะไม่มีใครได้รู้ถึงความทรมานในคฤหาสน์นี้

นอกจากการเสียสละของเจ้าเมืองอัลฟี่….

อัลฟี่มองเมลที่กำลังเอาหัวฟาดกับพื้น เขาไม่ได้สนใจมากนักแผนการที่เขารอคอยมาร้อยกว่าปี ทุกการเดินหมากล้วนสำคัญยิ่ง

ดังนั้นภาพนี้มันปรากฏขึ้นมาตั้งแต่ร้อยปีก่อนที่เขาเริ่มวางแผนแล้ว เขามองเมลที่เหมือนคนบ้าขาดสติ

“อีกไม่นาน ก็คงตาย.. ทางที่ดีข้าควรจะรีบไปจัดการเรื่องดีกว่า”

ว่าแล้วมันก็เดินออกจากห้องไปยังห้องของเลทิเซียแล้วก็ทสึรุ ทั้งสองคนยังนอนหลับอยู่ในห้อง

อาจจะเพราะเทียนไขภวังค์ก็ดี หรือความเพลียก็ดี ทำให้ทั้งสองนอนหลับไม่ไหวติงใต้ผ้าห่ม

เสียงลมหายใจแผ่วเบาดังขึ้นชัดเจนทันทีเมื่ออัลฟี่เดินเข้ามายังห้อง มันยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก เป็นเวลากว่าร้อยปี..

ตอนนี้.. ตอนนี้มันใกล้ที่จะสำเร็จแล้ว อีกเพียงแค่เอื้อมมันเดินไปยืนอยู่ข้างเตียงและยกดาบขึ้น….

“ข้าไม่ได้มีความแค้นอะไรกับพวกเจ้า.. แต่นี่ก็เพื่อชีวิตใหม่.. ลาก่อน”

สิ้นเสียงมันก็ฟันลงบนเตียงทันที….

…….

ตัดภาพกลับมาที่เมล เธอเอาหัวทุบพื้นจนเลือดของเธอไหลแทบหมดตัว สีหน้าซีดเซียวเพราะเสียเลือดจำนวนมาก

ร่างกายเธออ่อนล้า.. ก่อนที่จะฟุบลงบนพื้น เลือดสีแดงนองเต็มพื้นไม่รู้ว่าเป็นเลือดของเธอหรือซาเอล

เธอสงสัยว่า.. ทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้เธอทำอะไรผิดเหรอ พระเจ้า.. ทำไมกันล่ะ ทำไมถึงทำกับเธอแบบนี้..

ไม่สิ พระเจ้าน่ะบางทีมันคงจะหัวเราะให้เธออยู่เหมือนกับไอ้แก่นรกนั่น… ดวงตาของเมลพลันเบิกกว้างขึ้น…

“มัน…ต้อง….ตาย…”

เธอค่อยๆ ลุกขึ้น แม้จะลื่นเลือดจนล้มหน้าคะมำมีดหลุดออกจากท้องเลือดไหลรินไม่หยุด แต่ว่าเธอก็ลุกขึ้นอีก

เดินไปหาเจ้าแก่บัดซบนั่น เธอเดินอย่างยากลำบากตามระเบียงพิงผนังเดิน.. เสียงเลือดที่หยดลงบนพื้นเป็นสาย พร้อมกับรอยเท้าที่ประทับบนพื้นเป็นสีเลือด

แม้จะลำบากแต่เธอก็พยายามเดินไป… เดินไปเปิดประตูห้องเลทิเซียออกช้าๆ .. หากแต่ว่าทันใดนั้นเองพลันกิ่งไม้พุ่งออกมาจากในห้องแทงทะลุท้องของเธอ

จนเธอกระอักเลือดออกมา..

“อั้ก! นี่มัน…”

ภาพในระยะสายตาพร่ามัว.. แต่ก็หันไปเห็นในห้องแม้จะถูกกิ่งไม้แทงทะลุท้องลอยอยู่เหนือพื้นแต่สายตาก็เลื่อนไปเห็น..

เสียงกรีดร้องทรมานของอัลฟี่ที่ถูกกิ่งไม้และแสงความร้อนเป็นเส้นๆ ยิงทะลุผ่านผิวหนัง จนผิวหนังละลายเป็นของเหลว

“อ๊ากกกกกกกกก”

ดวงตาของเมลเบิกกว้างด้วยความตกใจ… แต่ทว่าวินาทีต่อมามุมปากของเธอก็ยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ

“สม…น้ำ…หน้—”

แต่ทันใดนั้นเองเตียงก็ระเบิดซัดใส่ร่างของเมล ส่วนร่างของอัลฟี่ก็โดนแรงระเบิดนั้นร่างกายแตกกระจุยเหมือนแตงโมระเบิด

กระเด็นออกไปคนละทิศละทาง ห้องทั้งห้องพังกระจายกระจกแตก เมลก็โดนแรงระเบิดจังๆ ปลิวออกจากหน้าต่างระเบียง

หากพิจารณาจากบาดแผลก่อนหน้าแล้ว เธอคงตายไปแล้ว.. แต่เป็นการตายที่เต็มไปด้วยความสุขครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ

“คุณนักเดินทาง.. ขอบคุณนะ….”

……………

อัลฟี่คำนวณผิดไปนิดหนึ่ง.. ใช่.. เพราะเขาโชคร้ายหน่อยคนที่เขาเจอคือคนที่ระวังมากกว่าคนอื่นถึงสิบเท่า หรือมากกว่านั้น

ทุกสิ่งทุกอย่าง… ถูกกำหนดโดยเลทิเซียต่างหาก ไม่ใช่ตัวอัลฟี่ ในขณะที่เขากำลังคิดว่าเดินหมาก แต่ในความเป็นจริงเขากลับถูกล่อให้เดินต่างหาก

ในป่าแห่งหนึ่งนอกเมือง เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้น คนสองคนที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้สวมผ้าคลุมปกปิดใบหน้า ก็เปิดออก

หนึ่งคือทสึรุ และอีกหนึ่งคือเลทิเซีย

“อืม.. โลกนี้มันอันตรายจริงๆ แฮะ”

 

 

……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด