การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 154 ถูกหลอก

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 154 ถูกหลอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 154 ถูกหลอก

บทที่ 154 ถูกหลอก

เมื่อโม่เจ๋อหยวนได้ยินคำพูดของถังซวง เด็กหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อแทนจิงเจ้อหรง และตนคงไม่สามารถตำหนิซวงเอ๋อร์สำหรับเรื่องนี้ได้ เพราะภาพตรงหน้าคิดอะไรเป็นอื่นไม่ได้นอกจากจิงเจ้อหรงและอดีตคู่หมั้นมาซื้อของด้วยกัน

ในอีกด้านหนึ่ง จิงเจ้อหรงที่หมดความอดทนแล้ว เขามองตรงไปที่เหม่ยหยิงตงแล้วพูดว่า “คุณหลี่ว์ ผมยังมีธุระต้องทำ ขอตัวกลับก่อน”

“คุณ… คุณเรียกฉันว่าคุณหลี่ว์งั้นหรือ?”

เหม่ยหยิงตงกัดริมฝีปากของเธอและมองไปที่จิงเจ้อหรงด้วยความไม่เชื่อปนกับความเศร้าในดวงตาของเธอ “ฉันคิดว่า…”

แต่ก่อนที่เหม่ยหยิงตงจะพูดจบ จิงเจ้อหรงก็หันไปเห็นถังซวง และรีบตรงไปหาเธอทันที “ซวงเอ๋อร์ ทำไมเธอถึงมาที่นี่ล่ะ?”

“ลุงจิง พี่โม่กับฉันมาซื้อของน่ะค่ะ แต่… ฉันเห็นว่าลุงดูยุ่งมาก รีบไปซื้อของกับอดีตคู่หมั้นของลุงเถอะค่ะ อ่อ…จริงสิคุณลุงเคยบอกว่าชอบลูกสาวไม่ใช่หรือ? อดีตคู่หมั้นของลุงก็มีลูกสาวด้วยนี่”

เมื่อได้ยินคำพูดแดกดันของเด็กสาว หัวใจของจิงเจ้อหรงก็เต้นรัวราวกับกำลังแตกสลาย

“ซวงเอ๋อร์ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด…”

ในขณะนี้เองเหม่ยหยิงตง หลี่ว์ตานและฉินหรูเหมิ่งก็เดินเข้ามา และพวกเธอก็เห็นจิงเจ้อหรงกำลังอธิบายบางอย่างกับถังซวงอย่างร้อนรน พวกเธอจึงรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา

เหม่ยหยิงตงมองไปที่ถังซวงอย่างสงสัยและถามว่า “เธอเป็นใครกัน? แล้วรู้จักอาเจ้อได้ยังไง?”

“โอ้… อาเจ้อ…”

ถังซวงเลิกคิ้วของเธอและมองไปที่จิงเจ้อหรง จากนั้นมองไปยังเหม่ยหยิงตงที่สง่างามต่อ หญิงสาวตรงหน้ายังดูอ่อนเยาว์และสวยงาม เด็กสาวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฟังจากชื่อที่เรียกกันแล้ว คุณสองคนดูสนิทกันดีนะคะ”

เหม่ยหยิงตงอ้าปากจะพูดต่อ แต่จิงเจ้อหรงกลับพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมองขึ้นว่า “เงียบไปซะคุณหลี่ว์ รู้สถานะของคุณด้วย แล้วก็เรียกผมด้วยชื่อเต็ม และ… ผมไม่รู้ว่าคุณพูดอะไรกับแม่ของผม ถึงทำให้เธอหลอกให้ผมมาที่นี่ แต่ผมอยากจะบอกเอาไว้ว่าเราสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน และอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”

“อาเจ้อ… นี่คุณ…”

แต่เมื่อกำลังจะพูดต่อ ก็หันไปพบกับสายตาโกรธเกรี้ยวของจิงเจ้อหรง เหม่ยหยิงตงจึงเปลี่ยนใจและพูดว่า “จิงเจ้อหรง แล้วเด็กคนนี้คือใครคะ?”

“เธอจะเป็นใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ”

จิงเจ้อหรงได้หมดความอดทนอย่างสมบูรณ์ และตอนนี้ยังถูกถังซวงเข้าใจผิด ทำให้อารมณ์ของเขาก็แย่มาก สายตาที่ใช้มองเหม่ยหยิงตงก็เย็นชาเรื่อย ๆ ชายหนุ่มมองไปที่ถังซวงทันที “ซวงเอ๋อร์ นี่เธอมาซื้อของใช่ไหม? เดี๋ยวฉันไปด้วยนะ ฉันเองก็มีของที่อยากซื้อเหมือนกัน”

พอได้ยินอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนก็ชำเลืองมองที่จิงเจ้อหรงอย่างไม่พอใจเหมือนแผนที่วางเอาไว้กลับล่มไม่เป็นท่า เขากับซวงเอ๋อร์กำลังไปเดินเที่ยวกันอยู่สองคนแท้ ๆ ทำไมต้องมาเจอคนพวกนี้ขัดขวางตลอดเลยนะ

ส่วนถังซวงก็ชำเลืองมองที่จิงเจ้อหรงเช่นกัน แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่ เธอก็รู้ว่าเขาต้องถูกหลอกให้มาที่นี่แน่ ๆ ดังนั้นจึงไม่พูดอะไร เพียงหันหลังและจากไปอย่างเฉยเมย

เมื่อเห็นเช่นนี้ จิงเจ้อหรงก็รีบตามไป

“จิงเจ้อหรง…!”

เหม่ยหยิงตงไม่สามารถรักษาท่าทางที่สง่างามของเธอได้อีกแล้ว และตะโกนเสียงดัง แต่จิงเจ้อหรงไม่หยุดแม้แต่นิด และเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย

เมื่อมองตามแผ่นหลังไป ใบหน้าของเหม่ยหยิงตงก็ยิ่งมืดมนและน่าขนลุก

พอเห็นแม่ของเธอเป็นแบบนี้ หลี่ว์ตานก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม่คะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ลุงจิงไม่ได้แต่งงานมาหลายปีแล้ว เขาคงรู้สึกห่างเหินกับแม่ ต้องใช้เวลาสักหน่อย…”

ด้านฉินหรูเหมิ่ง เธอมองไปที่สองแม่ลูกด้วยความประหลาดใจ

และหลี่ว์ตานก็สังเกตสายตานั้น หญิงสาวหันไปพูดกับคนโตกว่าทันที “พี่หรูเหมิ่ง พี่น่าจะรู้ว่าพ่อของฉันเสียชีวิตไปนานแล้ว แม้ว่าแม่กับฉันจะเสียใจมาก แต่แม่ก็ยังสาวอยู่… ฉันเลยหวังว่าแม่จะหาคนที่จะมาดูแลแม่ได้ และลุงจิงเองก็ไม่ได้แต่งงานมาหลายปี เพราะอย่างนั้นเขายังรอแม่ของฉันแน่ แม่เลยวางแผนที่จะติดต่อลุงจิงอีกครั้งน่ะค่ะ”

พอได้ยินแบบนี้ฉินหรูเหมิ่งก็นึกถึงการแสดงออกและคำพูดของจิงเจ้อหรงเมื่อครู่ เธอคิดว่าเขาคงไม่ได้มีความคิดแบบนั้นกับแม่ของหลี่ว์ตานอย่างแน่นอน

แต่เด็กสาวเลือกที่จะไม่พูดออกไป แต่พูดว่า “ป้าเหม่ยคะ พอดีฉันมีธุระต้องไปจัดการ ขอตัวก่อนนะคะ”

แต่หลี่ว์ตานกลับรั้งฉินหรูเหมิ่งไว้ “พี่หรูเหมิ่ง พี่ก็เห็นถังซวงแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมพี่ไม่บอกเราเกี่ยวกับเธอ แล้วทำไมเธอถึงรู้จักลุงจิงได้?”

“ฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าเธอกับพี่เจ๋อหยวนรู้จักกัน”

เมื่อได้ยิน หลี่ว์ตานก็ตอบกลับทันที

“ใช่แล้ว ถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนเป็นคู่รักกัน”

ฉินหรูเหมิ่งได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเธอดูบึ้งตึงขึ้นมา “พี่เจ๋อหยวนกับเด็กคนนั้นไม่ใช่คู่รักกัน เธออย่าพูดอะไรไร้สาระ”

ด้านหลี่ว์ตานที่ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา จึงรีบพูดแก้ตัว “ฉันพูดผิดไป ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะ”

ฉินหรูเหมิ่งที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วจากการที่เห็นโม่เจ๋อหยวนกับถังซวงอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลี่ว์ตานอีก เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ “ฉันกลับก่อนนะ”

เธอจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เมื่อมองแผ่นหลังของฉินหรูเหมิ่งที่จากไป แม้ว่าหลี่ว์ตานจะกังวล แต่เธอก็ยังต้องปลอบโยนแม่ของเธอ “แม่คะ ลุงจิงคงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับถังซวงหรอกค่ะ แต่เธอกับโม่เจ๋อหยวนเป็นคู่รักกัน เพราะแบบนี้พี่หรูเหมิ่งเลยอารมณ์ไม่ดี อีกอย่างโม่เจ๋อหยวนชอบถังซวงมาก และเขายังพาผู้หญิงคนนั้นมาซื้อของ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคงไม่ธรรมดาแน่”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหม่ยหยิงตงก็มีกำลังใจขึ้นมา แต่ความไม่ชอบใจถังซวงก็ไม่ได้ลดลงเลย

“เด็กสาวคนนั้นก็ดูอายุไม่เยอะแท้ ๆ แต่คาดไม่ถึงว่ามีมารยาขนาดนี้ แม้แต่โม่เจ๋อหยวน หลานชายคนโตของตระกูลโม่ก็ยังถูกล่อลวง แม่ไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาเจ้อกับเธอคืออะไรกันแน่”

“แม่คะ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอกค่ะ ลุงจิงไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับถังซวงคนนั้นอย่างแน่นอน ยังไงแม่กับลุงจิงจะต้องลงเอยกันแน่”

เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าแม่เคยหมั้นหมายกับใครบางคนเมื่อเธอยังเด็ก พอเธอได้รู้ พ่อก็เสียชีวิตไปแล้ว

แม้ว่าตระกูลหลี่ว์จะมีฐานะทางครอบครัวที่ดี แต่ก็ไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลจิงในปักกิ่งแม้แต่น้อย

ในเวลานั้นที่เหม่ยหยิงตงแต่งงานกับตระกูลหลี่ว์ มันเป็นเพราะพ่อของหลี่ว์ตานที่อ่อนโยนและห่วงใยดูแลเธอในทุก ๆ ด้าน ในสายตาเขาก็เต็มไปด้วยเธอราวกับว่าเธอเป็นทุกอย่างในชีวิต ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับความรู้สึกที่จิงเจ้อหรงไม่สามารถมอบให้ได้เลย จนในที่สุดหญิงสาวก็ล้มเลิกการหมั้นหมายและแต่งงานกับพ่อของหลี่ว์ตานแทน

แต่หลังจากแต่งงานเข้าตระกูลหลี่ว์แล้ว เหม่ยหยิงตงก็ค่อย ๆ มีความสุขน้อยลงเมื่อเผชิญกับชีวิตแต่งงาน

ตระกูลหลี่ว์ไม่ได้มีฐานะดีเท่าตระกูลเหม่ย ดังนั้นชีวิตของเหม่ยหยิงตงจึงตกต่ำลงในหลายด้าน เมื่อความหอมหวานของความรักแปรผกผันกับความจำเป็นของชีวิต ทั้งหมดก็เปลี่ยนไป

เมื่อต้องเผชิญกับความเป็นจริงในชีวิตแต่งงานของเธอ เหม่ยหยิงตงค่อย ๆ สูญเสียความรักที่มีต่อพ่อของหลี่ว์ตานไป และทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกันบ่อย ๆ

เมื่อใดก็ตามที่ทั้งสองทะเลาะกัน เหม่ยหยิงตงก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรหากเธอแต่งงานกับจิงเจ้อหรง และเมื่อเธอได้ยินมาว่าจิงเจ้อหรงยังไม่แต่งงาน หญิงสาวก็มีความสุขอยู่ลึก ๆ ในใจ และคิดว่าอีกฝ่ายยังคงไม่ลืมเธอไปจากใจของเขา

สิ่งนี้ทำให้เหม่ยหยิงตงให้ความสนใจกับจิงเจ้อหรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

แต่เธอยังมีสามีและลูกสาว ดังนั้นเธอจึงได้แต่เก็บความลับนี้ไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ

แต่เมื่อพ่อของหลี่ว์ตานประสบอุบัติเหตุ ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวนั้น เหม่ยหยิงตงไม่ได้รู้สึกเศร้าเลยแม้แต่น้อย และความลับที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างเงียบ ๆ ใช่ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือความรู้สึกของจิงเจ้อหรงในตอนนี้นั้นแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง

มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? จิงเจ้อหรงไม่ดีใจที่ได้พบเธองั้นหรือ?

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่จิงเจ้อหรงตามถังซวงไป เขาก็อธิบายเรื่องนี้ให้เด็กสาวเข้าใจอย่างรวดเร็ว

“ซวงเอ๋อร์ เมื่อเช้านี้ฉันออกไปทำธุระ เพราะปกติแม่ไม่ค่อยขอให้ฉันมาที่นี่เพื่อซื้อของกับเธอเท่าไหร่ แต่เธอกลับบอกว่า เพราะฉันไม่ได้กลับมาหาเธอนานแล้ว ฉันเลยรีบมาที่นี่หลังจากทำธุระเสร็จ แต่ไม่คิดเลยว่าคนที่มาจะเป็นเหม่ยหยิงตงแทน ตอนที่เธอเห็นเรา ฉันก็เพิ่งมาถึงพอดีนั่นแหละ”

ถังซวงมองไปที่จิงเจ้อหรง และพูดว่า “ดูเหมือนว่าแม่ของคุณลุงจะถูกใจกับเหม่ยหยิงตงคนนั้นมากนะคะ”

ในความเป็นจริง ถังซวงรู้สึกงงงวยไม่น้อย ไม่ใช่ว่าเหม่ยหยิงตงแต่งงานแล้วหรอกหรือ? ลูกสาวของเธอก็อายุมากแล้วนี่ คุณนายจิงพยายามจะทำอะไรกันแน่?

แต่โม่เจ๋อหยวนก็อธิบายขึ้นมาพอดี “ฉันได้ยินมาว่าพ่อของหลี่ว์ตานเสียชีวิตไปนานแล้ว ดูเหมือนว่าเธออยากจะกลับมาหาลุงจิงเพื่อฟื้นความสัมพันธ์เก่า ๆ นะ”

จิงเจ้อหรงหันไปที่โม่เจ๋อหยวนแล้วรีบอธิบายให้ถังซวงฟัง “ซวงเอ๋อร์ ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าแม่ของฉันจะไร้สาระมากถึงขนาดที่ร่วมมือกับเหม่ยหยิงตงเพื่อโกหกฉัน แต่ไม่ต้องกังวล ฉันจะกลับไปอธิบายกับครอบครัวของฉันเอง”

ด้วยท่าทางร้อนรนของจิงเจ้อหรง ถังซวงก็พูดอย่างเฉยเมย “ลุงจิง นี่เป็นเรื่องครอบครัวของคุณ ดังนั้นคุณลุงไม่จำเป็นต้องมาอธิบายกับฉันหรอก”

เธอไม่ใช่ถังเซวี่ยและเธอไม่ต้องการมีพ่อ แค่ในตอนแรกเธอเห็นว่าจิงเจ้อหรงดูดีและดีพอสำหรับเฮ่อหลาน ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าแม่และเขาค่อนข้างเหมาะสมกัน แต่ถ้ามีเรื่องวุ่น ๆ แบบนี้ เธอก็รู้สึกรำคาญนิดหน่อย ถ้าแม่ของเธอต้องการใครสักคนที่จะดูแลเธออย่างดีและมีชีวิตที่ดี หากไม่ใช่จิงเจ้อหรง เราก็สามารถหาคนอื่นที่เหมาะกับแม่ได้

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง จิงเจ้อหรงก็รู้ว่าเหตุการณ์ในวันนี้ยังคงทำให้ถังซวงไม่มีความสุข

แม้ว่าถังซวงจะดูโตเป็นผู้ใหญ่ แต่เขาสามารถบอกได้ว่าเฮ่อหลานให้ความสำคัญกับลูกสาวคนนี้มาก ถ้าถังซวงกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องสำคัญบางอย่างในครอบครัว หากเธอปฏิเสธเขาขึ้นมา เขาเชื่อว่าเฮ่อหลานจะต้องเชื่อคำพูดของถังซวงแน่

เมื่อนึกถึงเรื่องนั้น จิงเจ้อหรงก็พูดอย่างจริงใจว่า “ซวงเอ๋อร์ ขอเวลาฉันหน่อย แล้วฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้ครอบครัวของฉันเข้าใจ แล้วพอแม่ของเธอยอมรับฉัน ฉันจะบอกครอบครัวและพาเธอมาที่บ้าน แต่ตอนนี้ฉันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ถึงจะยังไม่ได้รับคำยินยอมจากแม่ของเธอ ฉันก็ควรบอกให้ครอบครัวรู้ว่าฉันมีคนที่ชอบแล้ว”

เมื่อเห็นท่าทีของจิงเจ้อหรง ถังซวงรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมาจากใจ ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรอีก แต่พูดเบา ๆ ว่า “ลุงจิง คุณควรพูดคุยกับครอบครัวของคุณให้ดีก่อนนะคะ แม้ว่าแม่ของฉันและเหม่ยหยิงตงจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสาวทั้งคู่ แต่ท้ายที่สุดแล้วตระกูลเหม่ยก็อยู่ในปักกิ่ง จะเป็นยังไงถ้าครอบครัวของคุณชอบเหม่ยหยิงตงมากกว่า?”

หลังจากพูดแบบนี้ ถังซวงก็พาโม่เจ๋อหยวนออกไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด