การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 294 ผ่านไปด้วยดี

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 294 ผ่านไปด้วยดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 294 ผ่านไปด้วยดี

บทที่ 294 ผ่านไปด้วยดี

หลังได้ยินคำพูดของถังซวงแล้ว จิงเจ้อหรงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “คงจะเป็นคนที่รู้ว่าเจ๋อหยวนยุ่งอยู่กับอะไรเมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกมันเลยต้องการจัดการเขา”

เขารู้มาบ้างว่าสิ่งที่โม่เจ๋อหยวนกำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน และการรักษาความลับของงานนี้เข้มงวดมาก แต่ไม่รู้ว่ามีข่าวเล็ดลอดออกไปได้อย่างไร อีกอย่างเขาไม่รู้ว่าชาวฝูซางค้นพบเรื่องนี้ได้ยังไงด้วย ดูเหมือนว่าพวกมันจะเข้ามาเมืองหลวงเพื่อกระทำการใหญ่อีกครั้งแล้ว

ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงอยากถามต่อว่าโม่เจ๋อหยวนกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ แต่ทันใดนั้นเองประตูห้องผ่าตัดเปิดออก

“หมอคะ คนไข้เป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อเห็นว่าหมอออกมาแล้ว ถังซวงรีบวิ่งไปถามทันที

หมอที่เดินออกมาคือคนที่ไล่ถังซวงไปก่อนหน้านี้ เขามองถังซวงด้วยความสงสัยก่อนจะถามว่า “สาวน้อย เธอได้ทำอะไรกับแผลของคนไข้รึเปล่า?”

“ใช่ค่ะ”

มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง ถังซวงพยักหน้ารับโดยตรง

“เธอจัดการมันได้ดีมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธออยากจะลงมือผ่าตัดเขาด้วยตัวเอง แต่ยังไงซะการผ่าตัดคนไข้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถึงเธอจะมีพื้นฐานที่ดี แต่ถ้าไม่เชี่ยวชาญมันจะเป็นอันตรายกับคนไข้ คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกล่ะ”

เมื่อเห็นว่าหมอตอบไม่ตรงประเด็น ถังซวงถามอีกครั้ง “หมอคะ การผ่าตัดเป็นยังไงบ้างคะ?”

“ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างเรียบร้อยดี กระสุนไม่โดนจุดสำคัญและไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ไม่อย่างนั้นเขาคงจะแย่กว่านี้แน่ เอาล่ะ ทีนี้ก็เหลือแค่ดูแลเขาตามอาการ”

หลังจากพูดจบ โม่เจ๋อหยวนถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด

“เขาจะถูกส่งไปที่ห้องพักคนไข้ และสมาชิกในครอบครัวก็ควรจะอยู่กับเขาด้วยนะครับ”

ในตอนท้าย คล้ายกับหมอลังเลที่จะพูดบางอย่าง สิ่งที่โม่เจ๋อหยวนพบเจอไม่ใช่บาดแผลธรรมดา แต่เป็นกระสุนปืน และเขาไม่รู้ว่าบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ไว้ใจได้หรือไม่ แต่เขารู้สึกว่ามีบางอย่างจะต้องพูดออกไป

จิงเจ้อหรงมองเห็นความลังเลใจของหมอ เขาจึงเดินเข้าไปหาหมอแล้วกระซิบบางอย่าง

แพทย์หันมองโม่เจ๋อหยวนด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น ในที่สุดเขาจึงตระหนักได้ว่าทำไมคุ้นหน้าของโม่เจ๋อหยวนนัก เพราะเขาเคยเห็นมันในหนังสือพิมพ์มาก่อน และที่โม่เจ๋อหยวนได้รับบาดเจ็บคราวนี้เพราะความสามารถของเขาที่สร้างอันตรายให้กับตัวเอง

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว หมอรู้สึกชื่นชมโม่เจ๋อหยวนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่ต้องกังวล ผมรู้ว่าอะไรควรพูด ไม่ควรพูด”

ได้ยินอย่างนั้น จิงเจ้อหรงตบไหล่หมอเบา ๆ ก่อนจะยิ้มแล้วตอบว่า “อย่างนั้นรบกวนหมอด้วยนะครับ”

หลังจากโม่เจ๋อหยวนถูกส่งตัวไปที่ห้องพักคนไข้ ถังซวงก็จับชีพจรของเขาทันที

หลังจากถังซวงชักมือออด โม่ถิงฮวาก็ถามออกไป “ซวงเอ๋อร์ เจ๋อหยวนเป็นยังไงบ้าง? เขาไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม?” หากเทียบกับถังซวง เขารู้สึกวางใจถังซวงมากกว่าหมอด้วยซ้ำ เพราะลูกชายของเขาเคยประสบเรื่องร้ายก่อนหน้า ก็ได้ถังซวงช่วยเหลือเอาไว้

ใบหน้าของถังซวงผ่อนคลายลงเล็กน้อย เธอยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ลุงโม่ไม่ต้องกังวลนะคะ พี่โม่สบายดีค่ะ เดี๋ยวเขาจะฟื้นเร็ว ๆ นี้แน่ค่ะ”

ได้ยินอย่างนั้น โม่ถิงฮวาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“อย่างนั้นก็ดีแล้ว”

จิงเจ้อหรงเองผ่อนคลายลงเช่นกัน จากนั้นเขาหันมาพูดคุยกับถังซวง “ซวงเอ๋อร์ คนพวกนั้นยังอยู่ทางชานเมืองตะวันออกไหม? ฉันจะให้ใครสักคนไปจัดการกับพวกมัน อีกอย่างต้องรายงานเรื่องนี้ด้วย”

ถังซวงรีบพูด “พ่อรีบไปจัดการเถอะค่ะ หนูดูแลพี่โม่เอง”

“อืม งั้นพ่อไปทำงานก่อนนะ”

หลังจากนั้นถังซวงหันมองโม่ถิงฮวาแล้วพูดว่า “ถ้าลุงโม่มีอะไร สามารถกลับไปก่อนได้นะคะ ฉันจะดูแลพี่โม่เอง และจะไม่ให้ใครเข้าใกล้เขาเลยค่ะ”

ความจริงแล้ว โม่ถิงฮวายังมีธุระอยู่ แต่ลูกชายของเขาต้องมาเจ้บแบบนี้ ตระกูลโม่ไม่อาจนิ่งเฉยได้ อีกอย่างถ้าทิ้งถังซวงอยู่ที่นี่คนเดียว เขาอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล

ขณะที่โม่ถิงฮวากำลังลังเล หลินเหม่ยเจินเดินเข้ามา

“ถิงฮวา ลูกเราเป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อเห็นว่าภรรยาของเขาวิ่งมาด้วยความตื่นตระหนก โม่ถิงฮวารีบคว้าร่างนั้นไว้แล้วพูดว่า “ชู่… เขาสบายดี ไม่เป็นไร เขาหลับอยู่ ปล่อยให้เขาพักผ่อนก่อนเถอะ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลินเหม่ยเจินโล่งอกลงทันที เธอค่อย ๆ ทำใจให้เย็นลงและลดเสียง “อย่างนั้นหรือคะ ค่ะ ตกลงค่ะ”

“เหม่ยเจิน เธออยู่ที่นี่กับซวงเอ๋อร์นะ ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการ” ในตอนท้ายของถ้อยคำ น้ำเสียงของเขาเผยความเย็นชาชัดเจน หลินเหม่ยเจินพยักหน้าก่อนจะพูดตอบกลับว่า “ค่ะ คุณไปเถอะ ฉันกับซวงเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ไม่ต้องกังวลนะคะ”

“อืม”

หลังจากนั้นโม่ถิงฮวาและจิงเจ้อหรงก็ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกัน

เมื่อโม่เจ๋อหยวนตื่นขึ้น เขาเห็นถังซวงเป็นคนแรก “ซวงเอ๋อร์…”

“พี่ตื่นแล้วหรือ พี่รู้สึกเจ็บตรงไหนไหม?”

เมื่อเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนตื่นแล้ว แววตาและใบหน้าของถังซวงกลายเป็นยิ้มแย้ม

เมื่อหลินเหม่ยเจินเห็นว่าลูกชายตื่นแล้ว เธอรีบก้าวไปด้านหน้าก่อนจะถาม “เจ๋อหยวนเป็นยังไงบ้าง? เดี๋ยวฉันจะเรียกหมอ” จากนั้นเธอรีบวิ่งไปเรียกหมอ

แต่โม่เจ๋อหยวนไม่สนใจ เขาหันมองถังซวงแล้วถามสิ่งที่อยู่ในใจออกไปตามตรงว่า “ซวงเอ๋อร์ เธอ… เธอจำสิ่งที่พูดกับฉันก่อนหน้านี้ได้ไหม?”

“อะไรหรือคะ?”

“ที่… ที่บอกว่าชอบฉันเหมือนกัน”

ถังซวงไม่คิดว่าโม่เจ๋อหยวนจะพูดเรื่องนี้ทันทีที่ลืมตาขึ้น แต่เมื่อเขาถึงกับพูดออกมาแล้ว เธอก็ไม่ปฏิเสธพร้อมพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันจำได้”

“งั้น… ถ้าฉันบอกว่าจะจีบเธอก็เพราะอยากแต่งงานกับเธอ เธอจะว่ายังไง?”

ถังซวงตกตะลึงเมื่อได้ยินอย่างนั้น

เมื่อเห็นว่าถังซวงไม่ตอบ โม่เจ๋อหยวนก็กังวลขึ้นมา “ซวงเอ๋อร์… หรือว่า… เธอไม่อยาก?”

“ไม่ ตกลงค่ะ ฉันจะคบกับพี่”

ถังซวงรู้สึกตกใจเล็กน้อย “พี่โม่ ฉันไม่ได้คิดว่าหลังจากพี่ตื่นขึ้นมาแล้วพี่จะไม่สนใจร่างกายตัวเองอย่างนี้ แต่กลับสนใจเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องแรกซะได้ ฉันเลยคิดไม่ทันน่ะ”

“อืม ฉันกังวลเรื่องนี้มากที่สุดเลย”

โม่เจ๋อหยวนพูดเสียงอ่อนโดยที่รอยยิ้มยังไม่จางหาย เขาพยายามที่จะเอื้อมมือไปจับมือของถังซวงแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ งั้น… หลังจากนี้เราเป็นคนรักกันนะ”

“อื้ม”

ถังซวงรีบหยุดโม่เจ๋อหยวนที่กำลังตื่นเต้น “พี่โม่ พี่เพิ่งตื่นนะ นอนพักก่อนเถอะ แล้วก็หยุดพูดได้แล้ว ป้าหลินกำลังไปเรียกหมอ เดี๋ยวคงมาแล้วค่ะ”

ทันทีที่พูดจบ หลินเหม่ยเจินเดินเข้ามาพร้อมกับหมอ

หมอตรวจโม่เจ๋อหยวนแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรผิดปกติแล้ว ยังไงซะรอแค่ให้เขาฟื้นตัวแค่นั้นเองครับ”

“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะหมอ”

หลินเหม่ยเจินรีบกล่าวขอบคุณ หลังจากที่หมอออกไปแล้ว เธอจึงรู้ตัวว่านี่เลยเวลามามากแล้ว “ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรกินก่อนนะ เธออยู่ที่นี่กับเจ๋อหยวนสักพักนะจ๊ะ”

“ป้าหลินไปเถอะค่ะ”

เมื่อเห็นว่าลูกชายสบายดี และถังซวงเองก็อยู่ที่นี่ด้วย หลินเหม่ยเจินเผยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอจึงจะไปที่โรงอาหารเพื่อรับประทานมื้อเย็น แต่ก่อนที่จะได้ออกไป เฮ่อหลานเข้ามาพร้อมกับถังเซวี่ย

“เหม่ยเจิน เจ๋อหยวน ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันเอาอาหารมาให้แล้ว รีบกินกันเถอะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด