การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 343 วางแผน

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 343 วางแผน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 343 วางแผน

บทที่ 343 วางแผน

ถังซวงกินปิ้งย่างของโม่เจ๋อหยวนและอดไม่ได้ที่จะชม “พี่โม่ ทำอาหารเก่งจังเลยค่ะ มันอร่อยจริง ๆ”

เห็นว่าถังซวงกินไปหลายไม้ โมเจ๋อหยวนก็ย่างต่อไป “เธอชอบก็ดีแล้ว ค่อย ๆ กินล่ะ แล้วฉันจะย่างให้อีก”

ถังซวงกินไปสักพัก เมื่อเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนยังไม่ได้กินสักไม้ เธอจึงยื่นเนื้อย่างใส่ปากของเขาแล้วพูดว่า “พี่โม่ก็กินด้วยสิ”

เมื่อมองไปที่เนื้อย่างตรงหน้าเขา ดวงตาของโม่เจ๋อหยวนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นอ้าปากและกัดเข้าไปเต็มคำ “ขอบคุณนะ ซวงเอ๋อร์”

“พี่โม่ กินเยอะ ๆ สิคะ”

ถังซวงรอจนโม่เจ๋อหยวนกินให้หมด จากนั้นเธอจึงหยิบของตัวเองขึ้นมากินต่อ

แต่ถังซวงจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่โม่ มีเหล้าหรือเปล่า? พี่รู้ไหม ปิ้งย่างควรกินพร้อมเหล้านะ”

โม่เจ๋อหยวนผงะเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แต่เขายังคงพยักหน้าและพูดว่า “มีสิ ฉันซื้อเบียร์มาสองสามขวดน่ะ”

“ใช่ ๆ ต้องมีเบียร์สิ”

“ซวงเอ๋อร์ เธอดื่มได้หรือ” โม่เจ๋อหยวนลังเล ถ้าถังซวงเมาเขาจะทำยังไง ถังซวงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเธอเองดื่มได้มากแค่ไหน แต่ถึงยังไงเธอก็เป็นคนคอแข็งจึงเอ่ยตอบ “ฉันดื่มได้ แต่ต้องเป็นเบียร์มีแอลกอฮอล์ไม่สูง”

เมื่อเห็นว่าถังซวงพูดอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนก็นำเบียร์ที่เขาซื้อมามาให้ “ถ้าอย่างนั้นก็ดื่มแค่นิดเดียวนะ”

“ค่า”

ถังซวงรินเบียร์ใส่แก้วใบใหญ่ให้ตัวเองจิบ และช่วยโม่เจ๋อหยวนย่างเนื้อ เพราะทั้งสองช่วยกันความเร็วจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่ออาหารใกล้เสร็จ ก็นั่งลง ดื่มกิน และพูดคุยกัน

“ซวงเอ๋อร์ ฉันได้ยินมาว่าทางการอาจจะกลับมาใช้การสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกครั้ง และฉันก็วางแผนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงหัวเราะและพูดว่า “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ถึงตอนนั้นเราอาจจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันก็ได้”

โม่เจ๋อหยวนมองไปที่ถังซวงด้วยความประหลาดใจและถามว่า “จริงหรือซวงเอ๋อร์ ถ้ามีสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ เธอจะไปเข้าสอบใช่ไหม?” ตอนนี้ถังซวงอยู่เพียงชั้นปีแรกของมัธยมปลาย แต่เขาได้ยินมาว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะกลับมาใช้ในเร็ว ๆ นี้ ไม่รู้ว่าซวงเอ๋อร์จะเข้าร่วมได้ไหม

“แน่นอนสิ ความจริงแล้วฉันก็ได้ยินข่าวนี้มาเหมือนกัน เห็นว่ามันจะนำกลับมาใช้ในเร็ว ๆ นี้ และเมื่อถึงเวลาฉันจะเข้าร่วมแน่”

เมื่อเห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นและมั่นใจของถังซวง โม่เจ๋อหยวนก็อดมีความสุขไม่ได้

“ซวงเอ๋อร์ คงจะดีหากเราได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันจริง ๆ พวกเรามาพยายามไปด้วยกันเถอะ ฉันหวังว่าเราจะได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันนะ”

เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขของโม่เจ๋อหยวน ถังซวงก็ยิ้มและพยักหน้า “ตกลงค่ะ”

แต่สุดท้ายแล้วถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่โม ถ้าพี่สอบผ่านเข้ามหาวิทยาลัยได้ พี่อยากไปเรียนมหาวิทยาลัยไหนหรือ”

“ฉันอยากเข้าชิงต้า แล้วเธอล่ะ?”

“ฉันด้วย ฉันหวังว่าเราสองคนจะได้เข้าเรียนที่นั้นด้วยกันนะคะ” ถังซวงยกเบียร์ขึ้นดื่มพร้อมกับโม่เจ๋อหยวน ทั้งสองดื่มหมดในรวดเดียวและรู้สึกสดชื่นอย่างมาก

ทั้งสองดื่มด้วยกันไปหลายขวด เมื่อโม่เจ๋อหยวนเห็นว่าถังซวงต้องการจะดื่มต่อ เขาจึงรีบหยุดเธอทันที

“ซวงเอ๋อร์ พอเถอะ ถ้าดื่มมากกว่านี้ เธอจะเมานะ”

ในตอนนี้ถังซวงยังมีสติมาก เธอคว้าขวดเบียร์และพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันไม่เมาหรอกค่ะ แอลกอฮอล์ต่ำขนาดนี้ ฉันจะเมาได้ยังไง” ขณะที่พูด เธอเปิดอีกขวดแล้วจิบอีก เพราะวันนี้เธอมีความสุขมากยังไงล่ะ

เมื่อเห็นถังซวงดื่มอย่างอารมณ์ดี โม่เจ๋อหยวนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไห่เฉิง เขาก็ลังเลจะบอกกับถังซวง

“ซวงเอ๋อร์ จริง ๆ แล้ว… ครั้งนี้ที่ฉันไปเมืองไห่เฉิง ฉันได้เจอบางอย่าง แต่เฟิงเยี่ยหานเป็นคนช่วยฉันไว้”

เมื่อได้ยิน ถังซวงจึงรีบถามอย่างกระวนกระวายว่า “พี่โม่ พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม”

ถังซวงที่ได้ยินเป็นกังวลมาก แต่ทว่าโม่เจ๋อหยวนรีบส่ายหน้าและพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร เฟิงเยี่ยหานบังเอิญช่วยฉันไว้ได้ทัน ฉันจึงติดหนี้บุญคุณเขาครั้งใหญ่ และเหตุผลที่เขาช่วยฉันน่าจะเป็น… เพราะเสี่ยวเซวี่ย”

เมื่อเขาและเฟิงเยี่ยหานได้พบกันครั้งแรก พวกเขาไม่สนใจอะไรมากนัก แม้ว่าจะพบกันอีกสองสามครั้งหลังจากนั้น แต่ก็ไม่เคยพูดคุยอะไรกันเลย แม้แต่เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าเฟิงเยี่ยหานจะมาเสี่ยงอันตรายช่วยเขาในครั้งนี้

ได้ยินเช่นนี้ ถังซวงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดว่า “น่าจะเป็นครั้งนั้นที่เฟิงเยี่ยหานมาที่บ้านเพื่อขอบคุณ ฉันรู้สึกว่าท่าทางของเขาที่มีต่อเสี่ยวเซวี่ยนั้นผิดแปลกไป แต่เพราะครอบครัวของเฟิงเยี่ยหานนั้นไม่น่าไว้ใจ ฉันจึงอยากให้เสี่ยวเซวี่ยอยู่ห่างจากเขา แต่ฉันไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะช่วยพี่”

ขณะที่พูด ถังซวงก็คว้าข้อมือของโม่เจ๋อหยวนและจับชีพจรของเขา เมื่อครู่เขาบอกว่ามันเป็นหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ ดังนั้นมันน่าจะต้องอันตรายมาก แม้ว่าโม่เจ๋อหยวนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ถังซวงก็ยังกังวลและต้องการยืนยันด้วยตัวเอง

เมื่อเห็นถังซวงวัดชีพจรของตัวเอง โม่เจ๋อหยวนก็รู้สึกตะลึงไม่น้อย

แต่เขายอมทำตาม และให้ถังซวงจับชีพจรของตนเอง

ถังซวงจับชีพจรอย่างละเอียด เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “พี่โม่ ในเมื่อพี่ได้รับบาดเจ็บ ทำไมถึงไม่บอกฉัน”

“ฉัน…”

โม่เจ๋อหยวนพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะรู้ว่าถังซวงมีฝีมือเรื่องการรักษา แต่เขาไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้ เธอสามารถรู้แม้กระทั่งอาการบาดเจ็บของเขาที่หายดีแล้ว “ซวงเอ๋อร์ ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ อาการบาดเจ็บในตอนนั้นก็หายเป็นปกติแล้ว มีแค่แผลภายนอกนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น”

“แผลภายนอกแบบไหน ในตอนนั้นได้รับบาดเจ็บภายในต่างหาก”

“ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่บาดเจ็บนิดหน่อย”

แต่ถังซวงจริงจังกับมันมาก “พี่โม่ พี่ลืมไปแล้วหรือว่าก่อนหน้านี้พี่เคยถูกวางยาพิษและบาดเจ็บสาหัส ถึงจะเป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กน้อย หากไม่ได้รับการรักษาที่ดีก็จะส่งผลกระทบต่อพี่ ถึงครั้งนี้จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ต้องพักฟื้น ตั้งแต่พรุ่งนี้พี่มาที่บ้าน เราจะเรียนหนังสือด้วยกัน แล้วฉันจะดูแลพี่เอง”

ถังซวงพูดถึงขนาดนั้น โม่เจ๋อหยวนก็ไม่คัดค้านและพยักหน้า “ตกลงซวงเอ๋อร์”

หลังจากนั้น ถังซวงคว้าขวดเบียร์จากมือของโม่เจ๋อหยวนและพูดว่า “พี่ดื่มไม่ได้ ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้ ฉันจะไม่ให้พี่แตะมันด้วยซ้ำ”

โม่เจ๋อหยวนมองไปที่ถังซวงอย่างตกตะลึง “ตกลง ตกลง ฉันไม่ดื่มแล้ว” เขาคิดว่าตัวเองไม่เป็นไรจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไร แต่คราวนี้เพราะเฟิงเยี่ยหานช่วยไว้ เขาจึงคิดว่าตัวเองบอกถังซวงไปจะดีกว่า

ในท้ายที่สุด ถังซวงดื่มเบียร์และกินปิ้งย่างจนอิ่ม ในขณะที่โม่เจ๋อหยวนเฝ้ามองจากด้านข้างและกินปิ้งย่างไปอย่างเงียบ ๆ

เมื่อเริ่มมืด โม่เจ๋อหยวนเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว เขามองไปที่ถังซวงและพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ให้ฉันไปส่งเธอกลับบ้านเถอะ”

“ตกลงค่ะ”

ถังซวงที่อิ่มแล้วกำลังจะกลับบ้านนอน

โม่เจ๋อหยวนจึงอาสาไปส่งเธอกลับบ้าน จากนั้นเขาจึงกลับบ้านของตัวเอง

และตั้งแต่วันนั้น โม่เจ๋อหยวนมาเรียนกับถังซวงที่บ้านตระกูลจิงทุกวัน ถังซวงต้มยาเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้เขาทุกวัน และเขาก็ทานมันพร้อมกับอาหารที่มีส่วนผสมเป็นสมุนไพร จนร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก โม่เจ๋อหยวนเองก็รู้สึกว่าช่วงนี้ร่างกายของเขารู้สึกกระฉับกระเฉงและพลังงานเปี่ยมล้น

—————————————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด