การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 349 ปกป้อง

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 349 ปกป้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 349 ปกป้อง

บทที่ 349 ปกป้อง

เกอชิงเหม่ยมองหลิวก่วงซิ่วที่อยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนจนแทบไม่ไหว “หลิวก่วงซิ่ว รีบไปให้พ้น ๆ ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรให้ต้องคุยกันอีก และไม่มีอะไรที่จะต้องให้หรือไม่ให้อภัยด้วย”

เมื่อเห็นความรังเกียจในดวงตาของเกอชิงเหม่ย ใบหน้าของหลิวก่วงซิ่วก็ฉายแววกราดเกรี้ยวออกมา

ผู้หญิงคนนี้ เขาพยายามไว้หน้าเธอแล้วแต่เธอกลับไม่สนใจ เขาถึงขนาดยอมลงทุนพูดขนาดนี้ เธอกลับไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนลงเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เกอชิงเหม่ยไม่ได้เป็นคนแบบนี้แท้ ๆ หรือเพราะถูกเขาทิ้ง ผู้หญิงคนนี้ถึงกลายเป็นคนไร้เหตุผลไปได้?

ทว่าเมื่อเห็นดวงหน้าที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงของเกอชิงเหม่ย รวมถึงความอ่อนโยนสง่างามของเธอ หลิวก่วงซิ่วก็รีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ชิงเหม่ย ในเมื่อคุณมาปักกิ่งแล้ว งั้นผมจะพาคุณไปเดินเที่ยวเอง พวกเราไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ” เขาทำท่าจะจูงมือเกอชิงเหม่ยไป

ถังซวงที่เห็นเช่นนั้น รีบเข้าไปห้ามอย่างทนไม่ไหว

แต่ก่อนที่เธอจะขยับ กลับมีคนก้าวไปขวางหลิวก่วงซิ่วซะก่อน

ซ่างสยงเยี่ยคว้าข้อมือของหลิวก่วงซิ่วไว้ ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “คุณหูหนวกหรือไง เธอไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ คุณยังจะมาทำให้เธอลำบากใจอีก ช่างเป็นคนน่าเกลียดที่ขยันทำให้คนอื่นอับอายจริง ๆ หน้าตาขี้เหร่แล้วยังจะมัวมาเล่นละครอยู่อีก ทำไมคุณไม่ไปเป็นนักแสดงซะล่ะ ต้องให้ผมแนะนำไหมว่าแสดงยังไงถึงจะสมบทบาท”

เมื่อเห็นคนมาขวาง ความโกรธของหลิวก่วงซิ่วพลุ่งพล่าน “แกเป็นใคร ออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้ มีสิทธิ์อะไรมาแส่เรื่องของคนอื่น”

เกอชิงเหม่ยมองซ่างสยงเยี่ยด้วยความแปลกใจ และตกใจมากที่เขาอยู่ที่นี่ “คุณซ่าง คุณมาอยู่นี่ได้ยังไงคะ คุณควรจะมาถึงพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือ?”

ซ่างสยงเยี่ยมองไปที่เกอชิงเหม่ยด้วยรอยยิ้ม “ผมมาก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันน่ะ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเห็นคนอื่นมากวนคุณแบบนี้ คนประเภทนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ นี่เป็นที่สาธารณะแท้ ๆ แต่เขายังกล้ามาหาเรื่องผู้หญิงอีก”

หลิวก่วงซิ่วเห็นว่าเกอชิงเหม่ยรู้จักซ่างสยงเยี่ย ก็จ้องมองทั้งสองสลับไปมาด้วยความสงสัย และพูดออกมาด้วยสีหน้าโกรธกริ้ว “เกอชิงเหม่ย หมอนี่เป็นใคร? เมื่อก่อนคุณออกจะหวงเนื้อหวงตัวแท้ ๆ ไม่คิดเลยนะว่าจะหาผู้ชายใหม่ได้แล้ว นี่คุณนอกใจผมหรือ”

ได้ยินประโยคดังกล่าว เกอชิงเหม่ยก็หัวเราะด้วยความโกรธ

“หลิวก่วงซิ่ว คุณมันหน้าด้าน ถ้างั้นฉันก็จะไม่ปิดบังอะไรแล้ว เมื่อยี่สิบปีก่อน คุณโลภมากอยากได้อำนาจเงินทองมาตลอด ตอนที่คุณทิ้งคู่หมั้นอย่างฉันไปไล่ตามจีบคุณหนูผู้ดี เราสองคนได้ตัดขาดกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ระหว่างเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ดังนั้นอย่ามาพูดคำน่าสะอิดสะเอียนเหล่านั้นกับฉัน ฟังแล้วอยากจะอ้วก”

“นี่คุณ…”

หลิวก่วงซิ่วไม่เคยคิดเลยว่าเกอชิงเหม่ยจะพูดจาขวานผ่าซากเช่นนี้ได้ ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งถูกทอดทิ้ง นี่ควรเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเธอสิ ทำไมเกอชิงเหม่ยถึงพูดออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย เธอไม่กลัวถูกคนอื่นหัวเราะเยาะหรือไง

เกอชิงเหม่ยไม่กลัวอยู่แล้ว เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ที่ผิดคือคนสารเลวน่าขยะแขยงนี่ต่างหาก

เมื่อคนรอบข้างได้ยินคำพูดของเกอชิงเหม่ย สายตาที่ใช้มองหลิวก่วงซิ่วก็ไม่เหมือนเดิม

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ในเมื่อชายคนนี้ทอดทิ้งอดีตคู่หมั้นตัวเองไปแล้ว ตอนนี้กลับมาอ้อนวอนเธอ เขาคิดได้ยังไง?”

“นั่นสิ คงไม่กินในชาม มองในหม้อหรอกใช่ไหม[1]* ในเมื่อแต่งงานกับคุณหนูสูงส่งไปแล้ว ยังคิดจะแอบกลับมาหาคนเดิมอีกหรือ”

“อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้นะ”

ได้ยินผู้คนรอบข้างกระซิบกระซาบกัน สีหน้าของหลิวก่วงซิ่วถมึงทึงขึ้นมาทันที เขาชี้หน้าเกอชิงเหม่ยอย่างเดือดดาล และเดินจากไปด้วยความโกรธ เพราะขืนอยู่ตรงนี้ต่อไป ผู้คนคงจะซุบซิบ ชี้ไม้ชี้มือด่าเขาไม่เลิก

ซ่างสยงเยี่ยไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เกอชิงเหม่ยเจอจะเลวร้ายขนาดนี้ ทำให้เขาไม่พอใจหลิวก่วงซิ่วมากขึ้นไปอีก เมื่อกำลังจะพูดออกไปว่า จับอีกฝ่ายมากระทืบสักยกดีหรือไม่ เกอชิงเหม่ยก็เอ่ยออกมาก่อน “คุณซ่าง ยินดีที่ได้เจอนะคะ เราไปด้วยกันเถอะค่ะ ฉันรอซวงเอ๋อร์มารับอยู่ เราจะได้ไปพร้อมกันเลย”

“ได้ครับ”

ซ่างสยงเยี่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

ส่วนถังซวงที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง หันศีรษะไปมองหลิวก่วงซิ่วที่จากไปด้วยแววตาเย็นชา เธอจะจดจำหน้าตาของผู้ชายคนนี้เอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเกอชิงเหม่ยกับซ่างสยงเยี่ย

เกอชิงเหม่ยที่เห็นถังซวง ถังเซวี่ย และโม่เจ๋อหยวนมาถึงแล้ว รีบโบกมือให้พวกเด็ก ๆ ด้วยรอยยิ้มดีใจทันที “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย เจ๋อหยวน พวกเราอยู่ตรงนี้”

พอพวกถังซวงเดินไปหา ซ่างสยงเยี่ยทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

“คุณซ่าง ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”

“ไม่เจอกันนานเลย”

ซ่างสยงเยี่ยทักทายถังซวงกับคนอื่น ๆ จากนั้นจึงอดเอ่ยไม่ได้ “คราวนี้ผมเป็นหนี้สหายเกอแล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงต้องไปหาที่พักคนเดียว”

“คุณซ่างคะ ในเมื่อมาปักกิ่งทั้งที คุณไปพักที่บ้านเราดีกว่า ไม่ต้องไปพักที่โรงแรมให้เปลืองเงินหรอกค่ะ”

เกอชิงเหม่ยที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยสมทบ “ใช่ค่ะคุณซ่าง เราจะได้สามารถหารือแผนต่อไปกับอาหลานด้วย” เธอพูดอย่างดีใจ “อาหลานกำลังท้อง ครั้งนี้เราจะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมเธอด้วยเลย”

ซ่างสยงเยี่ยได้ยินว่าเฮ่อหลานกำลังท้องอดรู้สึกประหลาดใจเป็นไม่ได้ และยกยิ้มยินดี

“จริงหรือครับ คุณเฮ่อหลานท้องอยู่งั้นหรือ งั้นก็ได้ เรารีบไปกันเถอะ ผมอยากไปเยี่ยมเธอด้วย”

“ค่ะ พวกเราไปกันเถอะ”

ถังซวงเดินนำหน้าไป

เมื่อมาถึงบ้านตระกูลจิง ถังซวงพาพวกเขาเข้าไปข้างใน

เฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงนั้นรออยู่ที่ห้องโถงก่อนแล้ว พอเห็นว่าซ่างสยงเยี่ยมาด้วย เฮ่อหลานรู้สึกแปลกใจ “คุณซ่าง ไม่คิดเลยว่าคุณจะมาที่นี่ได้”

จิงเจ้อหรงที่เห็นซ่างสยงเยี่ย ก็ก้าวเข้ามาทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับคุณซ่าง”

“สวัสดีครับ คุณจิง”

ซ่างสยงเยี่ยทักทายเจ้าของบ้านอย่างสุภาพเช่นกัน

ส่วนเกอชิงเหม่ยที่อยู่ด้านข้างนั้นจับมือเฮ่อหลานเอาไว้ “อาหลาน ยินดีด้วย พอพวกเรารู้ว่าเธอท้อง พวกเรามีความสุขมากเลย รู้ไหม มา มา มา รีบนั่งลงเร็ว อย่ามัวแต่ยืนอยู่เลย”

เฮ่อหลานรีบเอ่ย “พี่คะ ฉันไม่เป็นไรหรอก พวกคุณก็นั่งลงก่อนเถอะ”

หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว เฮ่อหลานดึงเกอชิงเหม่ยมาถามข่าวคราวของซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้

เกอชิงเหม่ยโน้มตัวกระซิบเข้าที่ข้างหูเฮ่อหลาน “อาหลาน พวกเรามีความสุขดี อีกอย่างฉันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลุงหลี่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคนแก่สองคนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันคงไม่เลวเลย ว่าไหม?”

ในตอนแรกเฮ่อหลานยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อได้ฟังคำพูดตอนท้ายของเกอชิงเหม่ย เธอก็เข้าใจในทันที แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“นี่… เรื่องจริงหรือ?”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า… ฉันคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่อาจารย์กับลุงหลี่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรให้ชัดเจน แต่ทั้งสองคงใจตรงกันล่ะมั้ง”

เกอชิงเหม่ยพูดทีเล่นทีจริง มันทำให้เฮ่อหลานยิ้มตามไปด้วย

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ดีนะคะ”

“ใช่ ฉันก็คิดว่าดีเหมือนกัน” เกอชิงเหม่ยยกยิ้ม จากนั้นรัวคำถามใส่คนกำลังท้องมากมาย ส่วนเฮ่อหลานทยอยตอบไปทีละข้อ ทั้งสองจับมือกันอยู่อย่างนั้นราวกับว่ายังมีหลายอย่างให้พูดไม่รู้จบ

[1] กินในชาม มองในหม้อ บ่งบอกถึงความโลภ ความไม่พอใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด