การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 366 ปิดบังอะไร?

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 366 ปิดบังอะไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 366 ปิดบังอะไร?

บทที่ 366 ปิดบังอะไร?

ถังซวงพยักหน้าหลังได้ยินคำพูดของจิงเจ้อหรง “ใช่ค่ะ เป้าหมายสูงสุดของคนที่อยู่เบื้องหลังน่าจะเป็นหนู แต่ให้หนูนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร หนูเองไม่มีศัตรูอะไรที่ไหน”

“ซวงเอ๋อร์ เป็นไปได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะรู้เรื่องสูตรยาที่เธอมอบให้กองทัพ ถ้าพวกมันต้องการกำจัดเธอ มันก็น่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ไล่ล่าฉันคราวก่อน” โม่เจ๋อหยวนนึกถึงเรื่องคราวนั้น และเขาคิดว่าถังซวงอาจกำลังเผชิญแบบเหตการณ์เดียวกัน

ซึ่งจิงเจ้อหรงเองก็นึกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน

“อืม ฉันคิดว่าเป็นไปได้มากเลยทีเดียว”

ถังซวงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“แต่คราวนี้ไม่เกี่ยวกับพวกฝูซาง และคนที่อยู่เบื้องหลังก็รู้ดีว่ามีอะไรเกิดขึ้นในเมืองหลวงบ้าง พวกมันถึงควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ ถ้าเป็นอย่างที่พี่โม่คิด นี่นับว่าน่ากลัวมาก เราไม่รู้เลยว่าคน ๆ นั้นซุ่มอยู่ในเมืองหลวงมานานเท่าไหร่แล้ว”

ได้ยินคำพูดของถังซวง สีหน้าของจิงเจ้อหรงและโม่เจ๋อหยวนเย็นชาลงทันที

“อืม พ่อกับเจ๋อหยวนอาจจะเดาผิดก็ได้ สองเหตุการณ์นั้นเองก็แตกต่างกัน แต่พ่อจะตรวจสอบโดยละเอียดว่าในเมืองหลวงมีอะไรผิดแปลกไปในเร็ว ๆ นี้ไหม”

“พ่อคะ หนูสร้างปัญหาให้พ่ออีกแล้ว”

จิงเจ้อหรงส่ายศีรษะเมื่อได้ยินว่าเธอพูดอย่างนั้น “พ่อสิควรต้องโทษตัวเองที่ดูแลลูกสองคนไม่ดีพอ ทั้งลูกและเสี่ยวเซวี่ยต้องมาตกอยู่ในอันตราย”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุย เฮ่อหลานตะโกนเสียงดัง “อาเจ้อ คุณชวนซวงเอ๋อร์กับเจ๋อหยวนคุยอะไรอยู่คะ? รีบมากินข้าวเร็วเข้า”

“ครับ มาแล้ว ๆ”

จิงเจ้อหรงตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะพาถังซวงและโม่เจ๋อหยวนไปที่ห้องอาหาร

พอเห็นพวกเขาเข้ามา เฮ่อหลานอดไม่ได้ที่จะบ่น “พวกคุณพูดคุยอะไรกันนานนัก? รู้ไหมว่าออกไปนานมากแล้วน่ะ?”

จิงเจ้อหรงเข้าไปใกล้เฮ่อหลานจากด้านข้างก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก ซวงเอ๋อร์ปรึกษาผมเรื่องการขนส่งน่ะ”

เพราะเขารู้ว่าถังซวงกำลังวางแผนที่จะเปิดกิจการขนส่งกับเปาลี่ผิงและคนอื่น ๆ เขาจึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง

เฮ่อหลานไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่ให้พวกเขารีบกินข้าว

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว จิงเจ้อหรงเข้ามาหาถังซวงและเล่าเรื่องเหลิ่งตงกับคนอื่น ๆ ให้เธอฟัง

“ซวงเอ๋อร์ เหลิ่งตงและคนอื่น ๆ จะกลับมาคุ้มกันลูกในวันพรุ่งนี้ แต่จะมีคนมาเพิ่มอีกสองคนนะ คิดว่าดีแล้วล่ะ ถึงพ่อจะรู้ว่าลูกเก่ง แต่ถ้าอีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า ลูกก็เสียเปรียบได้ง่าย ๆ ลูกอย่าปฏิเสธแล้วกัน ทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของผู้บังคับบัญชาจูเลยนะ”

คราวนี้ถังซวงไม่คิดปฏิเสธ เธอพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวหนูจะเข้าไปขอบคุณผู้บังคับบัญชาจูด้วยตัวเองค่ะ”

โม่เจ๋อหยวนเองก็เห็นด้วย

ในวันรุ่งขึ้น ถังซวงจึงได้พบผู้มาใหม่ทั้งสองคน

“สหายถังซวง นี่คือหยินอี้และหยินเอ้อร์ พวกเขาจะมาช่วยผมคุ้มกันคุณครับ”

แต่หลังพูดจบแล้ว เหลิ่งตงกลับรู้สึกอับอายเพราะความจริงแล้วเขาไม่เคยได้ปกป้องถังซวงได้ดีเลย

เวลานี้ถังซวงตอบรับด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของทุกคนนะคะ”

“ยินดีครับ”

เหลิ่งตงรีบพูดบางอย่างกับทุกคน และเข้าไปหลบในความมืด ก่อนจะบอกกล่าวถังซวงเรื่องของชายหัวโล้นกลุ่มที่สาม

“ผู้บังคับบัญชาจูตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว คนพวกนั้นแข็งแกร่งและมีฝีมือมาก พวกมันจะรับงานตราบใดที่มีเงินมากพอ และทุกครั้งงานล้วนสำเร็จด้วยดี คนที่รู้จักคนกลุ่มนี้ยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้จ้างวานพวกมันไปทำเรื่องชั่ว ๆ แต่ผมไม่คิดมาก่อนว่าคราวนี้จะมีคนทุ่มเงินขนาดนั้นเพื่อจับกุมคุณ”

ถังซวงพยักหน้ารับก่อนจะตอบว่า “คนพวกนั้นชั่วช้าเกินไป คุณก็น่าจะรู้จากวิธีที่พวกเขาใช้ต่อสู้”

เหลิ่งตงรู้ชะตากรรมของคนพวกนั้น และรู้ว่าถังซวงเป็นคนจัดการพวกมัน ตอนนี้เขายิ่งรู้สึกชื่นชมหญิงสาวตรงหน้ามาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะละอายใจ “น่าเสียดายที่ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนว่าจ้าง ตอนนี้ผู้บังคับบัญชาจูกำลังสืบสวนอย่างละเอียดอยู่ครับ”

“อีกฝ่ายวางแผนมาอย่างดี และพวกมันคงจะปกปิดข้อมูลของตัวเอง เราทำได้เพียงตรวจสอบอย่างละเอียดเท่านั้น”

ถังซวงไม่รีบร้อน เธอจะค่อย ๆ สืบหาคนที่อยู่เบื้องหลังให้ได้

หลังจากเหลิ่งตงและถังซวงพูดคุยเรื่องนี้แล้ว เหลิ่งตงก็หายลับไปในความมืด

ทันใดนั้นโม่เจ๋อหยวนเดินเข้ามา พร้อมกับถามถังซวงว่า “ซวงเอ๋อร์ เหลิ่งตงกับคนอื่น ๆ มาแล้วหรือ?”

“ค่ะ พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว”

โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าพร้อมกับถามว่าถังซวงวางแผนจะทำอย่างไรต่อ

“พี่โม่คะ ตอนนี้เราไม่ต้องรีบร้อนอะไรหรอก เราไปอ่านหนังสือกันสักหน่อยดีกว่า”

“ได้สิ”

แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มทบทวนหนังสือ เปาลี่ผิงและเฟ่ยไห่ชางพาซ่างสยงเยี่ยเข้ามา

แต่เมื่อเห็นว่าซ่างสยงเยี่ยมาด้วย ถังซวงยิ่งประหลาดใจ

“คุณชายซ่าง คุณเพิ่งกลับไปเมืองก่างเฉิงไม่ใช่หรือคะ?”

แต่ซ่างสยงเยี่ยกระวนกระวายมากจนลิ้นพัน “คุณถัง ผมได้ยินว่าคุณกับสหายเกอถูกทำร้าย เธอปลอดภัยแล้วหรือครับ? แล้วสหายเกอเป็นยังไงบ้าง?”

เขาเกือบจะถึงเมืองก่างเฉิงแล้ว แต่หลังจากที่ได้พบเฟ่ยไห่ชางและได้ทราบเรื่องนี้ เขารีบตามเฟ่ยไห่ชางกลับมาที่เมืองหลวงทันที

ถังซวงที่ได้ยินอย่างนั้น เธอหันมองซ่างสยงเยี่ยอย่างประหลาดใจ ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “คุณชายซ่างไม่ต้องห่วงนะคะ ป้าเกอสบายดีค่ะ”

“เฮ้อ อย่างนั้นหรือครับ อย่างนั้นก็ดีแล้ว”

ซ่างสยงเยี่ยโล่งใจมาก แต่เขายังกังวลไม่หายเพราะไม่ได้เจอเกอชิงเหม่ยด้วยตัวเอง

แต่เพราะเสียงดัง เกอชิงเหม่ยได้ยินมันจากด้านนอกจึงเดินออกมาดู และเมื่อเธอเห็นซ่างสยงเยี่ย เธอยิ่งประหลาดใจ “คุณชายซ่าง คุณไม่ได้กลับเมืองก่างเฉิงไปแล้วหรือคะ?”

“ผม… ผมได้ยินว่าคุณถูกทำร้าย ผมเลยรีบกลับมาน่ะ”

จู่ ๆ ซ่างสยงเยี่ยที่เห็นเกอชิงเหม่ยมาอยู่ตรงหน้ากลับมีอาการเขินอายขึ้นมา ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากได้ยินว่าเกอชิงเหม่ยและถังซวงถูกลักพาตัวไป เขากลับตีตั๋วรถไฟกลับมาที่นี่โดยไม่หยุดคิดสักนิด

ถังซวงเลิกคิ้วขึ้นมองซ่างสยงเยี่ย ก่อนจะยิ้มให้เกอชิงเหม่ยแล้วพูดว่า “ป้าเกอคะ คุณชายซ่างเป็นห่วงป้ามากเลย… เขาเลยกลับมาที่นี่”

เปาลี่ผิงและเฟ่ยไห่ชางที่เห็นว่าถังซวงปลอดภัย ทั้งสองต่างโล่งใจ หัวเราะอย่างผ่อนคลาย “ใช่ครับ คุณชายซ่างกำลังจะกลับเมืองก่างเฉิง แต่หลังจากพวกเราเล่าสถานการณ์ให้ฟัง เขาก็กลับมาพร้อมกับพวกเราเลยครับ”

คราวแรกเกอชิงเหม่ยไม่ค่อยสบายใจนัก แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้ากังวลของซ่างสยงเยี่ยและรอยยิ้มของถังซวง เธอกลับเข้าใจในบางอย่าง แก้มทั้งสองข้างแดงเรื่ออย่างไม่อาจควบคุม

ส่วนโม่เจ๋อหยวนพูดขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ เชิญคุณชายซ่างและคนอื่น ๆ เข้าไปด้านในก่อนเถอะ”

“ใช่ค่ะ รีบเข้าไปด้านในกันเถอะค่ะ”

แต่พอพวกเขาหันศีรษะกลับมา เฮ่อหลานกลับยืนอยู่ตรงนั้น

เฮ่อหลานขมวดคิ้วมองถังซวงแล้วถามขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ คุณชายซ่าง นี่มันอะไรกันคะ? แล้วที่พูดเมื่อกี้คือเรื่องอะไร? ทำไมเขาต้องเป็นห่วงพี่สาวกับลูกของเธอด้วย?”

“แม่ไม่ได้พักผ่อนอยู่หรือ? ออกมาด้านนอกทำไมเนี่ย?”

เฮ่อหลานไม่ตอบ แต่จ้องมองถังซวงแล้วถามว่า “ซวงเอ๋อร์ ลูกกำลังปิดบังอะไรแม่อยู่?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด