การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 435 สอบเข้ามหาวิทยาลัย
บทที่ 435 สอบเข้ามหาวิทยาลัย
บทที่ 435 สอบเข้ามหาวิทยาลัย
หลังจากที่ตู้จ้งเหว่ยออกจากเมืองหลวงไปแล้ว โม่เจ๋อหยวนเองก็ได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว แต่สีหน้าของเขายังคงเย็นชา เขาพยักหน้าให้กับผู้มารายงานแล้วตอบว่า “ขอบคุณครับ”
หลังจากนั้นโม่เจ๋อหยวนตรงกลับไปที่บ้านตระกูลจิง
ถังซวงเห็นโม่เจ๋อหยวนกลับมาแล้วก็รีบถาม “คุยกับตู้จ้งเหว่ยเป็นยังไงบ้างคะ?”
“ซวงเอ๋อร์ เธอไม่ควรถือว่าตู้จ้งเหว่ยเป็นเพื่อนอีกต่อไปแล้วละ”
โม่เจ๋อหยวนเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนจะพูดต่อว่า “ตู้จ้งเหว่ยเกลียดพวกเราไปแล้ว ไม่ว่าเราจะทำอะไรให้เขา เขาก็มองว่าเราเสแสร้ง ตอนนี้เขาออกจากเมืองหลวงไปแล้วก็ปล่อยเขาไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องติดต่ออะไรกันอีก”
ถังซวงขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ไม่คิดมาก่อนว่าตู้จ้งเหว่ยจะคิดแบบนี้ ถึงตู้หรงหมิงจะเป็นพ่อของเขา แต่เขาก็ยังคิดว่าพวกเราเป็นฝ่ายทำผิด ถ้าเขาคิดอย่างนั้นก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วละ”
ขณะทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ถังเซวี่ยก็เดินเข้ามา
เธอได้ยินว่าทั้งสองคนกำลังพูดถึงเรื่องตู้จ้งเหว่ยจึงถามเล็กน้อย หลังจากฟังที่โม่เจ๋อหยวนเล่า เธอกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง “ฉันคิดว่าตู้จ้งเหว่ยน่าจะเป็นคนดีที่สุดในตระกูลตู้ แต่กลับไม่ต่างกันเลย ฉันมองคนผิดไปจริง ๆ ตู้จ้งเหว่ยไม่ได้ดีขนาดนั้นสักนิด”
ถังซวงเห็นว่าถังเซวี่ยโกรธมาก ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ไม่ต้องโกรธหรอกเสี่ยวเซวี่ย ตู้จ้งเหว่ยออกจากเมืองหลวงไปแล้ว ในอนาคตพวกเราไม่ได้ติดต่อกับเขาแล้วละ”
“ฉันโกรธแทนพี่ชุนหยานต่างหากค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าพี่ชุนหยานจะมีคนรักที่ดี แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้พี่สาวชุนหยานต้องเศร้าอีกครั้ง” ถังเซวี่ยลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไป “ไม่ได้การ ฉันจะไปบอกพี่สาวชุนหยานก่อน”
ถังซวงไตร่ตรองสักครู่ก่อนจะรู้สึกว่ามันเป็นการดีหากจะคุยเรื่องนี้กับถังชุนหยาน
เมื่อถังเซวี่ยมาถึงลานบ้านของถังชุนหยานแล้ว เธอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังปรุงยาอยู่
ถังชุนหยานเห็นแล้วว่าถังเซวี่ยมาหา เธอจึงโบกมือให้อีกฝ่าย “เสี่ยวเซวี่ย มีอะไรหรือ? เข้ามานั่งก่อนสิ”
“พี่ชุนหยาน…”
ถังเซวี่ยเห็นอย่างนั้น เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงต่อ
ถังชุนหยานเห็นถังเซวี่ยลังเลจะพูด เธอยกยิ้ม “เสี่ยวเซวี่ย มีอะไรจะบอกฉันหรือ? พูดมาได้เลย”
ได้ยินอย่างนั้น ถังเซวี่ยจึงเล่าเรื่องโม่เจ๋อหยวนกับตู้จ้งเหว่ยให้เธอฟัง “พี่ชุนหยาน ตู้จ้งเหว่ยเกลียดพวกเราและออกจากเมืองหลวงไปแล้ว เขาคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่ว่า… พี่ไม่ต้องเสียใจนะคะ เราต้องสู้ต่อไปเพื่ออนาคตของเราค่ะ”
เห็นถังเซวี่ยห่วงใยตนขนาดนี้ ถังชุนหยานตบบ่าของเธอก่อนจะพูดว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกเสี่ยวเซวี่ย ฉันไม่เป็นไร ความจริงแล้ว… ตั้งแต่ที่ตู้จ้งเหว่ยไม่สนใจฉัน พี่สาวซวงและคนอื่น ๆ วันนั้นความสัมพันธ์ของพวกเราก็จบลงแล้วละ ต่อให้เขาไม่ออกจากเมืองหลวง เรื่องของเราสองคนก็ไม่มีวันเป็นไปได้”
“พี่ชุนหยาน แล้ว… พี่เป็นอะไรหรือเปล่า? เสียใจมากไหม?”
“สองสามวันก่อนน่ะฉันยอมรับว่าเสียใจมาก แต่ตอนนี้ฉันไม่เศร้าแล้ว ฉันมีหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่ใช่แค่ศึกษาอย่างหนัก แต่ฉันต้องพัฒนาทักษะการปรุงยาและทำเครื่องสำอางด้วย ตอนนี้ไม่มีเวลาให้นั่งคิดมากหรอก อีกอย่างฉันรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวมันก็ดี มีอิสระ และมีเวลาทำงานมากขึ้นด้วย”
ถังเซวี่ยยังไม่เชื่อ แต่เมื่อเห็นแววตาของถังชุนหยานที่เปี่ยมไปด้วยแรงฮึด เธอจึงยอมเชื่อแต่โดยดี
เธอกล่าวชื่นชม
“พี่ชุนหยาน ถ้าพี่คิดได้อย่างนั้นก็ดีแล้วละค่ะ”
“อื้ม เธอไม่ต้องห่วงนะ”
ถังชุนหยานมองถังเซวี่ยก่อนจะยิ้มกว้าง ทั้งสองพูดคุยกันสักพักก่อนที่ถังชุนหยานจะบอกให้เธอกลับไป “เสี่ยวเซวี่ย ฉันไม่เป็นไร เธอกลับไปได้แล้วละ”
“อย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะ”
เห็นถังชุนหยานไม่เป็นไรแล้ว ถังเซวี่ยจึงกลับไปที่ลานของตัวเอง
อีกฟากหนึ่ง หลังจากโม่เจ๋อหยวนและถังซวงอ่านหนังสือด้วยกันสักพักใหญ่ เขาจึงตัดสินใจที่จะกลับก่อน
“จะกลับบ้านแล้วหรือคะ?”
โม่เจ๋อหยวนเห็นสีหน้าประหลาดใจของถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ทำไม… ไม่อยากให้ฉันกลับหรือ?”
“ฉันนึกว่าพี่อยู่ที่นี่แล้วซะอีกน่ะค่ะ”
โม่เจ๋อหยวนถอนหายใจก่อนจะตอบว่า “ก่อนหน้านี้เฟิงเยี่ยหานก็อยู่ที่นี่ ฉันเลยมีข้ออ้างจะอยู่ด้วยน่ะ แต่ตอนนี้เฟิงเยี่ยหานกลับไปแล้ว ถ้าฉันอยู่ต่อไปมันคงไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าอยู่ที่นี่คนเดียวค่อนข้างน่าอายนะ”
เห็นสีหน้าหดหู่ของโม่เจ๋อหยวน ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “พี่เลยไม่อยากจะให้เฟิงเยี่ยหานกลับไปใช่ไหม? เพราะเหตุผลนี้เองหรือ”
“อื้ม ถ้าเขาอยู่ที่นี่ ฉันก็จะได้อยู่ที่นี่กับเขาด้วยไงล่ะ”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะกลับออกไป
วันรุ่งขึ้น โม่เจ๋อหยวนมาตั้งแต่เช้า ทันทีที่เขาเดินเข้าประตูมา เขาก็เห็นถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานกำลังออกกำลังกาย “ซวงเอ๋อร์ เพิ่งเริ่มหรือเปล่า? ฉันขอวิ่งด้วยนะ” ขณะพูดอย่างนั้น เขาก็เริ่มวิ่งไปด้วย
ถังซวงเห็นโม่เจ๋อหยวนมาแต่เช้าอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง
ถังเซวี่ยและถังชุนหยานวิ่งไปด้วยกัน ทั้งสองวิ่งตามหลังถังซวงและโม่เจ๋อหยวนไป และรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นส่วนเกินอย่างน่าประหลาด
หลังออกกำลังกายเสร็จแล้ว ทั้งหมดกลับไปอาบน้ำก่อนจะมานั่งรวมกันที่ห้องอาหาร
เห็นทั้งหมดกำลังเดินเข้ามา เฮ่อหลานโบกมือเชิญชวนพวกเขา “ทานมื้อเช้ากันจ้ะ” ขณะพูดอย่างนั้นเธอหันมองถังชุนหยานก่อนจะเอ่ยปากถาม “ชุนหยาน สองวันก่อนคงจะอารมณ์ไม่ดีใช่ไหมจ๊ะ วันนี้ดูดีขึ้นมากเชียวนะ”
ถังชุนหยานรีบพูดตอบกลับ “ค่ะป้าเฮ่อ ขอโทษที่ฉันทำให้เป็นห่วงนะคะ ฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
เฮ่อหลานยกยิ้มก่อนจะตอบว่า “อย่างนั้นก็ดีแล้วจ้ะ”
หลังจากทุกคนทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ถังเซวี่ยไปโรงเรียน ถังชุนหยานกลับไปที่ลานเพื่อทำงานต่อ ส่วนถังซวงและโม่เจ๋อหยวนอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ ในห้อง
หลังจากถังซวงอ่านส่วนของตนจบแล้ว เธอเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนก็ปิดหนังสือแล้วเช่นกัน เธออดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “อาหยวน อีกไม่นานก็จะถึงวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ เรามาพยายามด้วยกันนะคะ”
โม่เจ๋อหยวนได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้นก็ยกยิ้มพร้อมพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “แน่นอน เราจะได้อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันไง” ทั้งเขาและถังซวงกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน และทั้งสองคนค่อนข้างมั่นใจว่าจะสอบผ่าน
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนอ่านหนังสือจบแล้ว และเตรียมตัวมาอย่างดี
ก่อนวันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถังซวงไม่ประหม่าแม้แต่น้อย แต่กลับกลายเป็นเฮ่อหลานกับถังเซวี่ยที่รู้สึกประหม่าแทนซะอย่างนั้น เฮ่อหลานตรวจสอบกระเป๋าของถังซวงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะกลัวจะขาดเหลืออะไร
เมื่อเห็นว่าแม่ของตนกังวลมาก ถังซวงรีบพูดขึ้นว่า “แม่คะ แม่กำลังจะคลอด เพราะงั้นอย่าเพิ่งกังวลเรื่องอื่นเลย หนูเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว ไม่ลืมอะไรแน่นอนค่ะ”
เห็นท่าทีสบายใจของถังซวง เฮ่อหลานจึงค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
“จ้ะ อย่างนั้นก็ดีแล้ว”
ถังซวงมองท้องที่ใหญ่โตของเฮ่อหลาน ก็แสดงความกังวลออกมาชัดเจน การตั้งครรภ์แฝดมีความเป็นไปได้สูงว่าจะคลอดก่อนกำหนด เธอกลัวว่าเฮ่อหลานจะคลอดก่อนกำหนดหลายวัน เธอจึงหันมองจิงเจ้อหรงก่อนจะรีบพูดว่า “พ่อคะ พาแม่ไปพักผ่อนเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงหนูหรอก”
“จ้ะ ตั้งใจทำข้อสอบนะ”
วันต่อมา ขณะที่ถังซวงกำลังจะออกจากบ้าน เธอเห็นโม่เจ๋อหยวนกำลังเดินเข้ามาหา
“ซวงเอ๋อร์ ไปกันเถอะ”
Comments