การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 437 เจ็บท้อง

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 437 เจ็บท้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 437 เจ็บท้อง

บทที่ 437 เจ็บท้อง

หลังจากรับประทานอาหารแล้ว คุณนายจิงหันมองโม่เจ๋อหยวนด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจ๋อหยวน คืนนี้เธอพักที่นี่นะจ๊ะ”

โม่เจ๋อหยวนพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย “ครับคุณย่า” แต่จิงเจ้อหรงกลับมองโม่เจ๋อหยวนอย่างอดไม่ได้ ในสายตาของเขามีความไม่พอใจเล็กน้อย เด็กคนนี้อยู่ในบ้านของเขามานานแล้วนะ ทั้งที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จแล้ว เขายังไม่คิดจะกลับบ้านไป แล้วนี่แม่ยังจะชวนให้เด็กนี่อยู่ต่อ เขาจึงพูดอะไรไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้เฮ่อหลานควรเป็นคนที่เขาต้องเอาใจใส่มากที่สุด

“อาหลาน เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเราไปเดินเล่นกันนะครับ”

“ค่ะ”

เวลานี้ลูกสาวคนโตสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว ความกังวลของเธอเริ่มผ่อนคลายลงมาก สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความสบายใจ เธอลุกขึ้นยืนเพื่อจะออกไปเดินเล่นกับจิงเจ้อหรง แต่หลังจากก้าวขาได้เพียงเล็กน้อย สีหน้าของเฮ่อหลานแปรเปลี่ยนในทันที

“ซวง… ซวงเอ๋อร์…”

ถังซวงเห็นสีหน้าของเฮ่อหลานพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือ เธอจึงสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่กังวลมาตลอด เธอรีบพุ่งไปด้านหน้าคว้าข้อมือของเฮ่อหลานเพื่อตรวจสอบชีพจร

ส่วนจิงเจ้อหรงที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าวิตกออกมาชัดเจน

“อาหลาน… มีอะไรรึเปล่าครับ? คุณเป็นอะไร ไปโรงพยาบาลไหม”

แต่คุณนายจิงยังคงใจเย็น เธอผลักจิงเจ้อหรงออกห่างก่อนจะเข้าประคองเฮ่อหลานด้วยความห่วงใย “อาหลาน เธอจะคลอดใช่ไหม?”

“ฉัน… ฉันคิดว่าฉันกำลังจะคลอดค่ะ”

เฮ่อหลานเคยมีประสบการณ์มาก่อน เธอจึงทราบดีว่าตนกำลังจะคลอด แต่ว่ามันกลับไม่มีอาการใดบอกล่วงหน้า คล้ายการคลอดก่อนกำหนดไม่มีผิด

ถังซวงตรวจสอบชีพจรของเฮ่อหลานก่อนจะมองลงต่ำ เธอเห็นว่ากางเกงของเฮ่อหลานเปียกชุ่มเรียบร้อยแล้ว “แม่คะ… น้ำคร่ำแตกแล้ว รีบไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”

“นี่… ยังไม่ถึงกำหนดคลอดไม่ใช่หรือ ใช่… ใช่ ไปโรงพยาบาล ไปโรงพยาบาลกัน”

หัวจิงเจ้อหรงเต็มไปด้วยความกังวล เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดซ้ำถ้อยคำที่ถังซวงบอกกล่าววนไปมา ร่างกายของเขาแข็งทื่อราวกับเด็กน้อยเสียสติ

“อาเจ้อ จะยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหม รีบไปขับรถเร็วเข้า”

เห็นจิงเจ้อหรงเป็นอย่างนี้ คุณนายจิงและผู้เฒ่าจิงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาดูถูกลูกชายคนเล็กของตน

“ผม… ผมมือสั่น…”

แม้จิงเจ้อหรงจะอยากขับรถด้วยตัวเอง แต่เวลานี้ความกังวลที่มีมันมากเกินไปจนไม่สามารถทำอะไรได้

แต่เป็นโม่เจ๋อหยวนที่กล่าวขึ้นจากด้านข้าง “เดี๋ยวผมขับรถให้ครับ”

คุณนายจิงจ้องมองลูกชายคนเล็กด้วยแววตาสมเพช ก่อนจะหันไปหาโม่เจ๋อหยวน “เจ๋อหยวน ไปกันเถอะ” หลังจากนั้นคุณนายจิงหันมองถังเซวี่ยและถังชุนหยานที่กำลังกังวลแล้วออกคำสั่งว่า “พวกเธอสองคน ไปเก็บเสื้อผ้าของอาหลาน แล้วก็เตรียมเสื้อผ้าเด็กไว้ด้วย เสร็จแล้วตามมานะ”

“ค่ะ”

ถังเซวี่ยและถังชุนหยานได้ยินคุณนายจิงสั่งการ ทั้งสองก็ฟื้นคืนสติกลับมาก่อนจะเริ่มจัดการทุกอย่าง

ถังซวงยังคงอยู่ข้าง ๆ เฮ่อหลาน เธอหยิบยาออกมาสองเม็ดก่อนจะยื่นออกไป “แม่คะ ไม่ต้องกังวลนะคะ เดี๋ยวถึงโรงพยาบาลก็ได้คลอดแล้ว ตอนนี้เราไปที่รถก่อนเถอะค่ะ”

“จ้ะ”

แม้จิงเจ้อหรงจะกังวลมาก แต่เขาก็ยังประคองเฮ่อหลานไว้อย่างมั่นคงและพาเธอไปยังสวนหน้าบ้าน

หลังจากเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ ขึ้นรถแล้ว โม่เจ๋อหยวนขับรถไปโรงพยาบาลทันที

“อาหลาน คุณ… ไม่ต้องกลัวนะ อีกเดี๋ยวเราก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว ถึงเวลานั้นลูกก็จะปลอดภัยแล้ว”

จิงเจ้อหรงจับมือเฮ่อหลานเอาไว้ก่อนจะกล่าวอย่างเป็นกังวล

“อาเจ้อ ฉันไม่เป็นไรค่ะ”

จิงเจ้อหรงยังคงจับมือของเฮ่อหลานเอาไว้ก่อนจะกล่าวซ้ำ ๆ “อาหลาน ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ไม่ต้องเข้มแข็งก็ได้ครับ ไม่เป็นไรหรอกถ้าคุณจะกังวล พวกเราอยู่ด้วยกันที่นี่ตั้งเยอะ มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”

เมื่อเห็นจิงเจ้อหรงยังคงพูดซ้ำ ๆ อย่างนั้น เฮ่อหลานกล่าวออกมาอย่างอ่อนใจ “อาเจ้อ ฉันไม่ได้กังวลค่ะ คุณต่างหากที่กังวล กว่าฉันซะอีก คุณสูดหายใจลึก ๆ แล้วผ่อนคลายนะ”

จิงเจ้อหรงถึงกับชะงัก

เวลานี้เขาพบว่าตัวเองกังวลยิ่งกว่าใคร แม้แต่อีกสามคนในรถก็ยังไม่กังวลแม้แต่น้อย อีกทั้งเฮ่อหลานที่กำลังจะคลอดก็ยังใจเย็นกว่าเขาซะอีก “อาหลาน… คุณ… ไม่กังวลจริง ๆ หรือ”

“ค่ะ มีซวงเอ๋อร์อยู่ทั้งคน ฉันไม่ต้องกังวลอะไรหรอกค่ะ”

โม่เจ๋อหยวนที่กำลังขับรถอยู่ด้านหน้ากล่าวขึ้นว่า “ใช่ครับลุงจิง ซวงเอ๋อร์ก็อยู่ที่นี่ ป้าหลานกับเด็ก ๆ จะต้องปลอดภัยแน่นอน”

จิงเจ้อหรงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตอบกลับ “อื้ม ฉันจะพยายาม”

แต่จิงเจ้อหรงยังรู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะยังไงนี่ก็คือการมีลูกครั้งแรกของเขา

หลังจากถังเซวี่ยและถังชุนหยานเก็บข้าวของเสร็จ ทั้งสองเดินตามคุณนายจิงมาที่รถอีกคันเพื่อไปโรงพยาบาล

“ไม่รู้ว่าแม่กับคนอื่น ๆ ไปถึงโรงพยาบาลหรือยัง ได้ยินว่าน้ำคร่ำแตกแล้ว ถ้าแม่คลอดก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาลจะทำยังไงนะ” ถังเซวี่ยไม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้ แต่แม่ของเธอตั้งครรภ์ เธอเลยเริ่มศึกษามันและได้รู้เพียงผิวเผิน

ส่วนคุณนายจิงที่อยู่ด้านข้างเองก็กังวล “อื้ม ย่าหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น”

แต่ถังชุนหยานกลับเป็นคนที่สงบที่สุด

“คุณย่าจิง เสี่ยวเซวี่ย พี่สาวซวงก็อยู่ตรงนั้น ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”

คุณนายจิงกับถังเซวี่ยได้ยินก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย เพราะพวกเขาก็เชื่อมั่นในความสามารถของถังซวงมากที่สุด

อีกทั้งตอนนี้ถังซวงยังจดจ่ออยู่กับเฮ่อหลานตลอดเส้นทาง และเห็นว่าอีกฝ่ายยังมีกำลังใจที่ดี ชีพจรก็ยังคงที่ เธอจึงค่อนข้างผ่อนคลาย “แม่คะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทุกอย่างจะราบรื่นค่ะ ตอนนี้แม่เก็บแรงไว้นะ แล้วพอถึงเวลานั้นค่อยใช้แรงให้เต็มที่”

“จ้ะ แม่เชื่อลูก”

เฮ่อหลานฟังที่ถังซวงพูดและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เวลานี้เธอเจ็บท้องมากเพียงแต่ยังไม่ได้ร้องออกมาเท่านั้น ค่อยไปร้องหลังจากอยู่ในมือหมอก็ได้

“อาหลาน… ทำไมเหงื่อออกเยอะจังล่ะครับ เป็นอะไรหรือเปล่า?”

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเฮ่อหลานชุ่มด้วยเหงื่อ จิงเจ้อหรงที่ผ่อนคลายลงได้ในคราวแรกก็กลับมากังวลอีกครั้ง

ส่วนถังซวงรู้อาการของเฮ่อหลานดี เวลานี้เธอจึงตอบว่า “แม่ปวดท้องเพราะกำลังจะคลอดน่ะ”

“แล้ว… พ่อต้องทำยังไง”

“ลุงจิงครับ ถึงแล้วครับ ลงจากรถเร็ว” โม่เจ๋อหยวนขับรถมาเร็วและไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาล

แต่จิงเจ้อหรงถึงกับตกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น เพราะก่อนหน้านี้ความสนใจของเขาทั้งหมดหยุดอยู่ที่เฮ่อหลาน ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจว่ารถจะขับเร็วเพียงใด ความจริงแล้วมันควรจะยังไม่ถึงสิ

เมื่อเห็นว่ามาถึงโรงพยาบาลแล้ว เขาไม่สนใจเรื่องอื่น รีบพาเฮ่อหลานลงจากรถ

โม่เจ๋อหยวนที่ยังมีสติวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อเรียกหาหมอ

ทันทีที่หมอรู้ว่ามีหญิงตั้งครรภ์และกำลังจะคลอด ทุกคนภายในโรงพยาบาลเร่งรีบเข้าช่วยเหลือและส่งเธอเข้าห้องคลอดโดยเร็วที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด