การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 439 ดูแล

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 439 ดูแล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 439 ดูแล

บทที่ 439 ดูแล

คนอื่น ๆ ไม่โต้แย้งอะไรต่อเมื่อได้ยินที่คุณนายจิงพูด

ส่วนจิงเจ้อหรงกล่าวขึ้นจากด้านข้าง “แม่ครับ นี่มันก็ดึกแล้ว ไม่ต้องเตรียมอะไรมาให้ผมหรอก กลับไปพักผ่อนเถอะครับ”

แต่คุณนายจิงกลับไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย

เธอเพิ่งมีหลานชายและหลานสาวพร้อมกัน เวลานี้เธอยิ่งตื่นเต้นและเต็มไปด้วยพลัง

พอได้ยินจิงเจ้อหรงพูด เธอกลับจ้องมองเขาก่อนจะพูดรัว ๆ “แกรู้อะไรบ้าง? อาหลานเพิ่งคลอดลูก เธอต้องใช้พลังมากแค่ไหน อีกอย่างถ้าตอนนี้พวกเราไม่กลับไปทำอาหาร แล้วอาหลานเกิดหิวกลางดึกจะทำอย่างไร? แกคิดไว้หรือยัง? ภรรยาของแกทำงานอย่างหนักไม่คิดว่าหล่อนจะหิวหรือไง”

จิงเจ้อหรงได้ยินอย่างนั้นถึงกับพูดไม่ออก เพราะเขาไม่เคยมีประสบการณ์ และไม่เคยดูแลแม่และลูกน้อยมาก่อน “แม่ครับ แล้วนอกจากเรื่องกินแล้ว มีอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษอีกไหม?”

เห็นท่าทางไม่ประสีประสาของจิงเจ้อหรง คุณนายจิงยิ่งเหนื่อยหน่าย

“แกอยู่กับอาหลานที่นี่ก่อน เดี๋ยวฉันจะไปหาอะไรมาให้กิน หลังจากนั้นฉันจะมาดูแลอาหลานเอง แกนี่พึ่งพาไม่ได้เลยจริง ๆ”

เวลานี้เฮ่อหลานยังคงมองดูฝาแฝดแรกเกิดข้างกาย เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายจิง เธอรีบพูดตอบกลับ “คุณแม่คะ อาเจ้อกับซวงเอ๋อร์ก็อยู่ที่นี่ คุณแม่ไปพักผ่อนเถอะค่ะ ”

“แล้วจะให้ฉันวางใจได้ยังไง อาเจ้อทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ซวงเอ๋อร์ก็ยังเด็ก ไม่รู้วิธีการดูแลเธอแน่นอน”

เมื่อเห็นความจริงจังของคุณนายจิง อวี๋มินกับเมิ่งผิงถึงกับกล่าวขึ้นจากด้านข้าง “คุณแม่คะ พวกเราจะมาอยู่ดูแลอาหลานเองค่ะ คุณแม่ไม่ต้องกังวล”

คุณนายจิงชำเลืองมองอวี๋มินกับเมิ่งผิง “พวกเธอจะมาหรือ?”

“ใช่ค่ะ พวกเราจะมาให้เอง”

เฮ่อหลานไม่ยอมให้สะใภ้ใหญ่และสะใภ้รองต้องมาดูแลตนเองแน่นอน แต่ขณะที่เธอกำลังจะพูด อวี๋มินกลับส่ายศีรษะบอกเป็นนัย ๆ ว่าอย่าเพิ่งพูดอะไร

ส่วนเมิ่งผิงหันไปพูดกับคุณนายจิงพร้อมยิ้มกว้าง “คุณแม่คะ เรารีบกลับกันเถอะ อาหลานคงจะหิวมากแล้ว จะได้รีบไปรีบมานะคะ”

คุณนายจิงพยักหน้าอย่างร้อนรน แต่เธอก็ยังกังวลไม่หาย จึงหันไปพูดบอกสิ่งที่จิงเจ้อหรงต้องระมัดระวังนับพันข้อ

“อาเจ้อ ดูแลเด็กสองคนให้ดี และอย่าทำพลาดเด็ดขาดเข้าใจไหม”

“ผมเข้าใจแล้วครับแม่”

จิงเจ้อหรงพยักหน้า แต่เขาสัมผัสได้ว่าแม่ไม่เชื่อใจเขาเลย และดูเหมือนจะไม่ชอบหน้าเขาเอามาก ๆ เสียด้วย

หลังจากที่คุณนายจิงและคนอื่น ๆ ออกไปแล้ว จิงเจ้อหรงถอนหายใจออกมาอย่างหดหู่

เฮ่อหลานที่เห็นจิงเจ้อหรง ก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “อาเจ้อ ดูเหมือนคุณแม่จะไม่ไว้ใจคุณเลยนะคะ”

จิงเจ้อหรงกล่าวออกมาอย่างตัดพ้อ “ครับ ตอนนี้แม่ไม่เชื่ออะไรผมเลย แต่ก็ดีแล้วละครับที่เธอใส่ใจ คุณจะได้มีคนดูแล”

เฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงพูดคุยกัน ส่วนถังซวงและถังเซวี่ยมองทารกน้อยทั้งสองคน เด็กน้อยหน้าคล้ายกันมาก จนเธอต้องพยายามมองหาความแตกต่างระหว่างทั้งสองคน

แต่เป็นถังเซวี่ยที่มีสายตายอดเยี่ยมเช่นเคย เธอชี้ไปที่ใบหูของทารกหญิงแล้วพูดว่า “พี่คะ ดูสิ ที่หูของน้องสาวมีไฝด้วยค่ะ แต่น้องชายไม่มี”

ถังซวงรีบมอง และพบว่าเป็นเรื่องจริง

แม้แต่จิงเจ้อหรงและเฮ่อหลานเองก็ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน พวกเขาเฝ้ามองเด็กน้อยอยู่สักครู่ก่อนที่เฮ่อหลานจะบอกให้ทั้งสองคนพักผ่อน

“แม่คะ ไปนอนเถอะค่ะ พวกเราไม่เหนื่อย แล้วถ้าน้องสาวกับน้องชายตื่น เราจะชงนมให้พวกเขาเองค่ะ” เมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้ จิงเจ้อหรงและเฮ่อหลานเตรียมของสำหรับเด็กไว้มากมาย ถังเซวี่ยและถังซวงเองก็เตรียมของสำหรับเด็กมาแล้วในวันนี้

จิงเจ้อหรงพูดขึ้น “อาหลาน พักผ่อนเถอะครับ คุณเหนื่อยมากแล้ว ไม่ต้องห่วงนะผมจะดูแลลูกทั้งสองคนอย่างดีเลย”

หลังจากคลอดบุตร เฮ่อหลานเองก็รู้สึกเหนื่อย เธอพยักหน้ารับก่อนจะหันมองเด็กทารกสองคนก่อนจะผล็อยหลับไป

ถังซวงรอจนกระทั่งเฮ่อหลานหลับ เธอจึงตรวจสอบชีพจรของเฮ่อหลานและเด็กน้อยทั้งสองคน

จิงเจ้อหรงหันมองถังซวงด้วยความกระตือรือร้น “ซวงเอ๋อร์ แม่กับน้องเป็นยังไงบ้าง?”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ทุกอย่างราบรื่นดี”

จิงเจ้อหรงถอนหายใจอย่างโล่งอก และบอกให้ถังซวงและถังเซวี่ยไปพักผ่อน “เดี๋ยวพ่อจะชงนมผงเอง พวกลูกสองคนพักผ่อนได้แล้วละ”

แต่ถังซวงและถังเซวี่ยไม่เหนื่อยแม้แต่น้อย ทั้งสองส่ายศีรษะก่อนจะหันกลับมามองทารกน้อยทั้งสองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นเคย

จิงเจ้อหรงเห็นอย่างนั้นก็หยุดที่จะพูด ส่วนตัวเขาเองก็ยังไม่อยากนอนเช่นกัน เขาจึงนั่งมองเด็กทารกทั้งสองด้วย

ไม่รู้ว่าเฝ้ามองทารกน้อยนานเพียงใด หลังจากเด็กน้อยทั้งสองลืมตาขึ้นมาแล้ว ถังซวงและถังเซวี่ยรีบชงนมทันที แต่ว่าถังซวงกับถังเซวี่ยช้าเกินไป เด็กน้อยที่ลืมตาขึ้นมาและไม่มีนมให้กิน ก็อ้าปากพร้อมร้องลั่นทันที

“เสี่ยวเปาเปา อย่าร้องเลยนะ พี่สาวกำลังชงนมให้อยู่”

จิงเจ้อหรงเห็นเด็กสองคนร้องไห้จ้า ก็รีบเข้ามากล่อมทั้งสองคนทันที แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ในขณะที่กำลังพยายามให้เด็กทั้งสองหยุดร้องไห้ เขายิ่งกังวลและหนักใจว่าควรจะปลุกเฮ่อหลานดีไหม

โชคดีที่ถังซวงและถังเซวี่ยชงนมให้กับเด็กทั้งสองเสร็จทันเวลา พวกเขาจึงหยุดร้องไห้

ทารกสองคนดื่มนมอย่างหิวโหย จิงเจ้อหรงมองภาพนั้นก่อนถอนหายใจด้วยความโล่งอก จ้องมองเด็กน้อยทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดและรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยมาก

ทารกน้อยทั้งสองหลับปุ๋ยทันทีที่ดื่มนมเสร็จ ถังซวงและคนอื่น ๆ จึงทำได้เพียงเฝ้ามองพวกเขาต่อไป

หลังจากเสร็จเรื่องตรงนี้แล้ว อวี๋มินเดินเข้ามาภายในห้อง เห็นว่าเฮ่อหลานกับเด็กน้อยทั้งสองคนกำลังหลับอยู่ เธอวางกระติกน้ำร้อนก่อนจะขยับเข้าใกล้เด็กน้อยทั้งสองคน

ใบหน้าของอวี๋มินเต็มไปด้วยความเอ็นดู

“อาเจ้อ ยินดีกับคุณด้วยจริง ๆ มีลูกชายและลูกสาวในคราวเดียว นับว่าเป็นพรจากสวรรค์แล้ว ทุกคนต่างอิจฉาคุณกันหมด”

จิงเจ้อหรงหัวเราะออกมา “ขอบคุณครับพี่สะใภ้”

เดิมทีอวี๋มินต้องการจะช่วยดูแลเฮ่อหลาน แต่จิงเจ้อหรงและถังซวงหยุดเธอเอาไว้

“พี่สะใภ้ แม่ก็พูดไปอย่างนั้นแหละครับ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ ทางฝั่งของอาหลานให้พวกเราดูแลเองดีกว่าครับ”

อวี๋มินเห็นว่าไม่มีที่ว่างสำหรับตนแล้ว เธอพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “จ้ะ”

หลังจากอวี๋มินออกไปแล้ว จิงเจ้อหรงกับคนอื่น ๆ เริ่มพักผ่อน

ในวันถัดมา ถังซวงตื่นแต่เช้า เธอเห็นว่าแม่กำลังหยอกล้อกับทารกสองคนอยู่ ซึ่งทารกน้อยก็หันมองมาที่เธอแล้วในขณะนี้

ถังซวงกำลังจะพูดบางอย่าง แต่หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นเดินเข้ามาในห้องซะก่อน “อาหลานจ๊ะ เราได้ยินข่าวว่าเธอคลอดแล้ว พวกเราเลยรีบมาเยี่ยมน่ะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด