การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 453 ตรวจสอบ

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 453 ตรวจสอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 453 ตรวจสอบ

บทที่ 453 ตรวจสอบ

ผู้เฒ่าเฮ่อพยักหน้าเมื่อได้ยินชื่อของเด็กทั้งสองคนก่อนจะพูดว่า “เป็นชื่อที่ดีมาก แต่พวกเขายังเด็ก อย่างนั้นฉันจะเรียกพวกเขาด้วยชื่อเล่นไปก่อนแล้วกัน” ว่าจบเขากล่าวหยอกล้อกับฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยอย่างเอ็นดู

เป็นเรื่องหายากที่เด็กสองคนจะได้พบเจอกับผู้คนมากมายเช่นนี้ เวลานี้ทั้งสองลืมตาขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น หลังจากดื่มนมเสร็จแล้ว สายตากลมโตก็จับจ้องไปที่ผู้เฒ่าเฮ่อราวกับเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังร้องเรียกตนอยู่

“อ่า… ดูเหมือนว่าเด็กสองคนนี้จะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดนะ”

ผู้เฒ่าเฮ่อประหลาดใจมากรีบเรียกคนอื่น ๆ มาดูทันที

คนอื่นเห็นอย่างนั้น พวกเขาเผยความประหลาดใจออกมา “ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมองลุงของตัวเองอยู่จริง ๆ เลย” ขณะพูดอย่างนั้นคนอื่น ๆ ก็พยายามเรียกฟักทองน้อย ฟักขาวน้อยอย่างไม่น้อยหน้า

แต่เด็กน้อยตื่นมาสักพักใหญ่แล้ว พวกเขาหาวปากกว้างสักครู่ก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุด

พอเห็นว่าเด็กทั้งสองหลับแล้ว เฮ่อหลานและจิงเจ้อหรงรีบอุ้มเด็กน้อยสองคนกลับห้องทันที

เมื่อเด็กน้อยทั้งสองคนจากไป ความสดใสก่อนหน้าพลันหายไปครึ่งหนึ่ง ครอบครัวของจิงไค่หรงและจิงซิวหรงเดินเข้ามาคุยด้วยสักครู่หนึ่ง จากนั้นหลี่จงอี้ ซูเหนียนอวิ๋น และเกอชิงเหม่ยก็แยกย้ายกลับไป

หลังจากที่ผู้เฒ่าจิงและคุณนายจิงพูดคุยกับผู้อาวุโสตระกูลเฮ่อทั้งสอง พวกเขาก็กลับไปพักผ่อนที่ห้อง

ตอนนี้ถังชุนหยานหันมองโม่เจ๋อหยวน ถังเซวี่ย เฟิงเยี่ยหานก่อนจะลุกขึ้น “พี่สาวซวง อย่างนั้นฉันกลับไปทำงานก่อนนะคะ พวกคุณนั่งคุยกันไปนะ” เธอพูดจบพร้อมเดินออกไปทันที

หลังเธอออกไป บรรยากาศในห้องเงียบลงทันตาเห็น ถังเซวี่ยเหลือบมองเฟิงเยี่ยหานก่อนจะถามว่า “คุณจะกลับเมืองไห่เฉิงวันมะรืนนี้จริงหรือคะ?”

เฟิงเยี่ยหานพยักหน้ารับ “ครับ ผมออกมาจากที่นั่นนานเกินไปแล้วน่ะครับ ต้องกลับไปสะสางเรื่องต่าง ๆ ด้วย”

“อ้อ…”

ถังเซวี่ยบอกไม่ถูกว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร แต่เธอรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นัก

ถังซวงเลิกคิ้วขณะมองถังเซวี่ย และสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเด็กสาวที่มีต่อเฟิงเยี่ยหานได้เปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์ เพราะหลังจากรู้ว่าเฟิงเยี่ยหานกำลังจะกลับ สีหน้าของน้องสาวก็เปลี่ยนแปลงทันที

โม่เจ๋อหยวนยืนขึ้นก่อนแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอหน่อย ไปที่ลานของเธอกันเถอะ”

ถังซวงมองโม่เจ๋อหยวนแต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร เธอพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ค่ะ”

หลังจากถังซวงและโม่เจ๋อหยวนจากไป เฟิงเยี่ยหานก็เดินเข้าหาถังเซวี่ยพร้อมรอยยิ้มกว้าง “คุณไม่อยากให้ผมกลับไปหรือ?” คืนนี้สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำเขาประหลาดใจไม่น้อย เขาไม่คิดว่าถังเซวี่ยจะเสียใจเมื่อได้ยินว่าเขากำลังจะกลับแบบนี้

“ฉัน…”

ถังเซวี่ยเพียงขยับปากอ้ำอึ้งแต่ไม่พูดอะไร จนกระทั่งเอ่ยปากออกมาว่า “ฉันได้ยินว่าคุณกำลังจะกลับเมืองไห่เฉิง เลยรู้สึกไม่ค่อยดีนักน่ะค่ะ”

เห็นสาวน้อยตรงหน้าไม่มีความสุข เฟิงเยี่ยหานก็รู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาจับมือของถังเซวี่ยพร้อมกระชับมันแน่นขึ้น “หลังจากน้องชายและน้องสาวของคุณครบเดือน ผมจะกลับมาอีกครั้ง ไม่นานเราก็จะได้พบกันแล้วครับ”

“ฉัน… ฉันไม่ได้อยากเจอคุณสักหน่อย”

ถังเซวี่ยพยายามสะบัดมือของเฟิงเยี่ยหานออก

หากแต่เฟิงเยี่ยหานกระชับมือแน่นขึ้นก่อนจะเข้าไปใกล้ถังเซวี่ยทีละนิด “ไม่เป็นไร เป็นผมเองที่อยากเจอคุณ และหลังจากเราแยกกันแล้ว ผมจะเป็นฝ่ายคิดถึงคุณเสมอเองครับ”

“คุณ… คุณ… คุณ…”

ถังเซวี่ยเขินจนใบหน้าแดงก่ำ เธอหันมองหน้าเฟิงเยี่ยหานแต่พูดอะไรไม่ออก

เฟิงเยี่ยหานเห็นใบหน้าแดงเรื่อของถังเซวี่ย ก็ไม่ได้คิดหยอกเย้าอีกฝ่ายอีก เพียงจ้องมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึกก่อนเอ่ยปาก “เสี่ยวเซวี่ย ผมจะพูดอีกครั้ง… ผมชอบคุณ ทุกอย่างที่ผมพูดเป็นความจริง และผมไม่เต็มใจที่จะกลับไป แต่เมืองไห่เฉิงกำลังรอผมอยู่ หลังจากผมจัดการเรื่องราวเสร็จแล้วจะรีบมาหาคุณทันทีครับ”

เฟิงเยี่ยหานสารภาพออกมาอีกครั้ง ทำให้หัวใจของถังเซวี่ยวูบไหวอย่างช่วยไม่ได้ เธอรู้สึกว่าหัวใจกำลังพองโตขึ้น

“เข้าใจแล้ว ฉันจะรอคุณกลับมาเหมือนกันค่ะ แต่ยังไงคุณก็ยังไม่ได้กลับพรุ่งนี้หนิ งั้นพรุ่งนี้เราไปเดินเล่นกันนะ”

แม้ถังเซวี่ยจะไม่ได้ตอบกลับว่าชอบเขาหรือไม่ แต่เพียงเท่านี้เฟิงเยี่ยหานก็มีความสุขมากแล้ว เขาสัมผัสได้ว่าถังเซวี่ยปฏิบัติต่อเขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ เพียงสาวน้อยตรงหน้าเริ่มสนใจในตัวเขา เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะยังไงอีกไม่นานสาวน้อยตรงหน้าจะต้องตกหลุมรักเขา ตอนนี้ทำได้แค่ปล่อยให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินต่อไปตามโชคชะตา

“อื้ม พรุ่งนี้เราออกไปเดินเล่นกันครับ”

วันรุ่งขึ้น เมื่อถังเซวี่ยจัดการตัวเองเรียบร้อยและเดินออกจากลาน เธอเห็นเฟิงเยี่ยหานกำลังเดินเข้ามาพอดี

“เดี๋ยวเราออกไปหลังจากมื้อเช้านะครับ”

“อื้ม”

ถังเซวี่ยไม่คัดค้านเพียงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

ส่วนจิงเจ้อหรงที่รู้ว่าทั้งสองกำลังจะออกไปข้างนอกด้วยกัน คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “เธอสองคนจะไปไหน เสี่ยวเซวี่ยไม่คุ้นเคยกับเมืองหลวงเท่ากับเจ๋อหยวนหรอกนะ ให้ซวงเอ๋อร์กับเจ๋อหยวนไปด้วยสิ”

เฟิงเยี่ยหานถึงกับพูดไม่ออก เขาอยากจะออกไปเดินเล่นกับถังเซวี่ยตามลำพังเท่านั้น! ชายหนุ่มหันขวับไปขยิบตาให้โม่เจ๋อหยวนเป็นการส่งสัญญาณ

โม่เจ๋อหยวนเองเห็นสายตาของเฟิงเยี่ยหานแล้ว แต่เขาไม่ได้มองเฟิงเยี่ยหานแต่อย่างใด สีหน้าของเขายังเรียบเฉยและตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ “ลุงจิงครับ ผมกับซวงเอ๋อร์มีเรื่องต้องทำ ไปด้วยไม่ได้หรอกครับ”

ถังซวงพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นว่า “ค่ะ วันนี้หนูกับอาหยวนจะไปโรงเรียนเพื่อดูผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยน่ะค่ะ” เพราะในยุคนี้ยังไม่มีการตรวจสอบคะแนนผ่านช่องทางอื่น ทั้งสองจึงต้องไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถาม

“วันนี้วันเสาร์นี่ มีคนอยู่ที่โรงเรียนด้วยหรือ?”

“พอจะมีครับ”

โม่เจ๋อหยวนถามเรื่องเหล่านี้ไว้แล้ว นอกจากผู้สมัครสอบ พวกอาจารย์ก็กังวลเกี่ยวกับผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมีคนมาที่โรงเรียนทุกวัน

จิงเจ้อหรงรีบตอบกลับ “อย่างนั้นวันนี้ไปจัดการธุระของพวกลูกเถอะ เรื่องนี้มันสำคัญมากจริง ๆ”

เฟิงเยี่ยหานถึงกับลอบถอนหายใจยาวเหยียด ในที่สุดเขาก็ได้อยู่กับถังเซวี่ยตามลำพัง

แต่เมื่อถังเซวี่ยได้ยินว่าพี่สาวกับคนอื่น ๆ กำลังจะไปดูผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอจึงกล่าวให้กำลังใจทั้งสอง “พี่สาว พี่เขย พวกคุณสองคนต้องผ่านแน่นอนค่ะ”

“ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะจ๊ะ”

ถังซวงยิ้มก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับโม่เจ๋อหยวน ทั้งสองเลือกมหาวิทยาลัยชิงหวาเอาไว้ และคาดหวังว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยตามที่ต้องการ

หลังจากถังซวงและโม่เจ๋อหยวนออกไปแล้ว เฟิงเยี่ยหานก็พาถังเซวี่ยออกไปบ้าง

จิงเจ้อหรงมองตามหลังถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานที่เดินออกไปด้วยกัน ก็ส่ายศีรษะน้อย ๆ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิดไม่มีผิด ดูจากท่าทีของถังเซวี่ยตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะประทับใจในตัวเฟิงเยี่ยหานไปซะแล้ว

เฮ่อหลานที่เห็นสามีดูจะหงุดหงิด ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เอาละค่ะ เด็ก ๆ ออกไปหมดแล้ว เราก็ไปกันเถอะ” แม้เธอจะเคยอคติกับเฟิงเยี่ยหานมาก่อน แต่หลังจากได้รู้จักกันจริง ๆ เธอก็สัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนดี จึงไม่คิดจะคัดค้านเขาอีกต่อไป

จิงเจ้อหรงได้ยินภรรยาพูดอย่างนั้น ก็ทำได้เพียงหันหลังเดินกลับไปที่ลานบ้านของตัวเอง

“ผมจะไปหาฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยก่อนออกจากบ้านนะครับ”

เฮ่อหลานยิ้มก่อนจะเดินตามสามีไป

อีกฟากหนึ่ง หลังจากถังซวงและโม่เจ๋อหยวนมาถึงโรงเรียน มีอาจารย์หลายคนกำลังนั่งอยู่ในห้องสำนักงานและกำลังตื่นเต้นกับบางอย่าง

ถังซวงเห็นเหมาจื้อหลางอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น จึงกล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์เหมาก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือคะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด