การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 461 อิจฉา

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 461 อิจฉา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 461 อิจฉา

บทที่ 461 อิจฉา

ถังซวงยกยิ้มให้เฮ่อหลานก่อนจะพูดขึ้นว่า “แม่คะ เดี๋ยวพวกเราช่วยดีกว่าค่ะ”

“ไม่ต้องช่วยหรอกลูกรีบเข้าไปได้แล้ว พวกเราจัดการได้จ้ะ”

ถังซวงหันไปมองโม่เจ๋อหยวนก่อนจะพูดว่า “อาหยวน เสี่ยวเซวี่ยกับฉันจะเข้าไปพร้อมกับฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยก่อน พี่อยู่รับแขกด้านนอกนะคะ”

โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “ครับ”

เฟิงเยี่ยหานเองก็อยู่เป็นเพื่อนโม่เจ๋อหยวนด้วยเช่นกัน

จิงเจ้อหรงมองโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานสองคนที่ช่วยเขาต้อนรับแขก ก็ไม่ได้พูดอะไร

เวลานี้ผู้เฒ่าโม่กับครอบครัวมาแสดงความยินดีกับจิงเจ้อหรงและเฮ่อหลาน

หลินเหม่ยเจินดึงเฮ่อหลานมาใกล้ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อาหลาน ฉันยินดีกับเธอด้วยจริง ๆ นะ ฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยน่ารักจริง ๆ ฉันละอยากจะอุ้มพวกเขากลับบ้านไปจริง ๆ เลย”

โม่ถิงฮวาเคยพบกับเด็กสองคนนี้มาก่อน และเขาเองก็ต้องยอมรับว่าเด็กสองคนน่ารักจริง ๆ

เมื่อลูกได้รับคำชม จิงเจ้อหรงและเฮ่อหลานก็ยิ้มกว้าง พวกเขาดีใจมากที่ลูก ๆ ทั้งสองได้รับคำชมไม่หยุดหย่อน

“ขอบคุณที่เอ็นดูฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยของเรานะครับ อย่างนั้นวันนี้ต้องกินเยอะ ๆ นะครับ”

โม่เจ๋อหยวนเดินไปด้านหน้าแล้วนำทางพวกเขา “คุณปู่ เดี๋ยวผมพาไปนั่งที่โต๊ะนะครับ”

“อืม”

ผู้เฒ่าโม่พยักหน้าพร้อมยิ้มรับแล้วพูดว่า “เจ๋อหยวน วันนี้ช่วยแนะนำปู่ด้วยล่ะ”

“ครับ”

โม่เจ๋อหยวนพาผู้เฒ่าโม่และคนอื่น ๆ เข้าไปด้านใน

ส่วนเฟิงเยี่ยหานที่อยู่อีกด้านหนึ่งคอยต้อนรับหลี่จงอี้กับคนอื่น ๆ “คุณปู่ครับ ที่นั่งของคุณปู่อยู่ทางนี้ครับ”

พอได้ยินเฟิงเยี่ยหานเรียกขานตนว่าปู่ หลี่จงอี้ก็เผยสีหน้าประหลาดใจ แต่ซูเหนียนอวิ๋นกลับกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเยี่ย คราวนี้จะอยู่ในเมืองหลวงนานไหมจ๊ะ? แล้วช่วงตรุษจีนจะมาอีกไหม?” เป็นเพราะเธอประทับใจในตัวเฟิงเยี่ยหานมาก ไม่เพียงแต่เขาจะหล่อเหลา แต่เขายังจริงใจต่อเสี่ยวเซวี่ย ซึ่งสำหรับเธอเพียงเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นเฟิงเยี่ยหานจะไม่ยอมให้เสี่ยวเซวี่ยต้องพบเจออันตรายใด ๆ แน่

เกอชิงเหม่ยยกยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “จริงด้วย ใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ถ้าหากว่าเธอมาที่นี่ พวกเราคงจะดีใจกันมาก”

เฟิงเยี่ยหานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะตอบว่า “ครับ ผมจะกลับมาอีกครั้งช่วงตรุษจีนนะ”

เกอชิงเหม่ยถึงกับหัวเราะออกมา

“ดีเลย ๆ งั้นมาทานมื้อเย็นส่งท้ายปีเก่าด้วยกันนะจ๊ะ”

เฟิงเยี่ยหานพยักหน้ารับ และพาทุกคนนั่งลงก่อนจะเดินออกไปต้อนรับแขกต่อ

หลังจากเห็นเฟิงเยี่ยหานเดินออกไป เกอชิงเหม่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเยี่ยนี่เป็นผู้ชายที่ดีจริง ๆ เลยนะ ปฏิบัติต่อเสี่ยวเซวี่ยแตกต่างจากคนอื่น ในหัวใจและสายตาของเขาคงมีเพียงเสี่ยวเซวี่ยคนเดียวแล้วละมั้ง”

ซ่างสยงเยี่ยที่เงียบมานานได้ยินเกอชิงเหม่ยกล่าวชื่นชมเฟิงเยี่ยหาน ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “เขาดูดี แต่เย็นชาไปหน่อย”

“เสี่ยวเยี่ยแค่เย็นชากับคนอื่น แต่เขาอ่อนโยนกับเสี่ยวเซวี่ยมากนะคะ ฉันเคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นฉันตกใจมากเลยนะคะที่คนอย่างเขาก็มีมุมที่อ่อนโยนด้วยเหมือนกัน”

ได้ยินอย่างนั้น ซูเหนียนอวิ๋นพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นแหละสำคัญที่สุด ขอแค่เสี่ยวเยี่ยปฏิบัติต่อเสี่ยวเซวี่ยอย่างดีก็พอแล้ว”

อีกด้านหนึ่ง เฟิงเยี่ยหานและโม่เจ๋อหยวนกำลังช่วยกันต้อนรับแขก

ส่วนคนอื่น ๆ ที่เห็นเฟิงเยี่ยหานกับโม่เจ๋อหยวนยืนอยู่ด้านหลังจิงเจ้อหรง ก็หันมองจิงเจ้อหรงอย่างกะลิ้มกะเหลี่ยก่อนจะกล่าวว่า “ยินดีด้วยนะ”

หนิงฮ่าวและหลิวเชาที่สนิทกับจิงเจ้อหรงมากที่สุดยังลอบยกนิ้วให้

“เจ้อหรง นายนี่มันยอดไปเลย ไม่ใช่แค่มีลูกฝาแฝด แต่ยังได้ลูกเขยหล่อไม่แพ้ใครด้วยหรือเนี่ย ฮ่า ๆ”

จิงเจ้อหรงเหลือบมองทั้งสองคนก่อนจะพูดว่า “เลิกพูดมากได้แล้ว รีบเข้าไปด้านในเลย”

หนิงฮ่าวและหลิวเชาหัวเราะร่าก่อนจะเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับครอบครัว

นอกจากญาติและเพื่อน ๆ แล้ว คนที่สนิทกับถังซวงก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วย แน่นอนว่าผู้คนจากโถงยี่ชีก็เช่นกัน อย่างเจียงหงเหลียงและคนอื่น ๆ ส่วนผู้บังคับบัญชาจูส่งของขวัญมาเพื่อแสดงความยินดี

หลังจากแขกทุกคนเข้ามาภายในงานแล้ว จิงเจ้อหรงและเฮ่อหลานอุ้มลูกของตัวเองพร้อมกับประกาศว่างานเลี้ยงครบเดือนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

มีหลายคนที่อยากเห็นหน้าของเด็กแฝดตระกูลจิงมาก และเมื่อได้เห็นหน้าตาน่ารักน่าชังของฟักทองน้อยและฟักขาวน้อย หัวใจของทุกคนก็แทบจะละลายอยู่ตรงนั้น

“ไอ้หยา… เด็กสองคนนี้น่ารักน่าชังจังเลย ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้นะ”

“ดูคนพี่สิ สดใสมากเลย”

ผู้หญิงหลายคนมุงดูเด็กแฝดด้วยความหลงใหล และจู่ ๆ ก็มีคนถามชื่อของเด็กทั้งสองคนขึ้นมา

“พี่ชายชื่อจิงเหวินตี้ น้องสาวชื่อจิงเยว่ลู่ค่ะ”

เฮ่อหลานตอบกลับ “ว้าว ชื่อน่ารักจังเลย”

เด็กทั้งสองที่เห็นภาพของงานรื่นเริงก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย แต่ไม่นานเด็กน้อยทั้งสองก็หลับอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เด็กวัยนี้ไม่มีอะไรนอกจากกินและนอนเท่านั้น

เมื่อเห็นเด็กทั้งสองคนหลับไป เฮ่อหลานเลยกะจะวางลูกน้อยลงในเปล

“ซวงเอ๋อร์ ขอบคุณนะจ๊ะที่เอาเปลมาด้วย ไม่อย่างนั้นฟักขาวน้อยกับฟักทองน้อยไม่มีที่นอนแน่เลย”

ถังซวงหัวเราะ “น้อง ๆ นอนเยอะมากเลยค่ะ หนูคิดว่าอีกเดี๋ยวน้อง ๆ ก็คงจะหลับเลยหยิบมาด้วยน่ะค่ะ ได้ใช้จริง ๆ ก็ดีแล้วค่ะ” ขณะพูดอย่างนั้น ถังซวงอุ้มฟักขาวน้อยออกจากอ้อมแขนของเฮ่อหลานก่อนจะพูดว่า “แม่คะ รีบไปทานข้าวเถอะค่ะ หนูกินอิ่มแล้ว”

โม่เจ๋อหยวนที่อยู่อีกฝั่งอุ้มฟักทองน้อยออกจากแขนของจิงเจ้อหรงเพื่อให้เขาไปกินข้าวด้วยเช่นกัน

หลังคุณนายจิงรับประทานอาหารเสร็จแล้ว รีบมาขออุ้มเด็กไปจากมือของถังซวงทันที

หลังจากนั้นเหล่าหญิงชรามากมายเดินเข้ามาแสดงความยินดีกับคุณนายจิง และพวกเธอทุกคนล้วนแต่มองคุณนายจิงด้วยความอิจฉา “ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าลูกสะใภ้คนเล็กของเธอจะมีลูกฝาแฝด ตอนนี้ลูกชายคนเล็กของเธอมีทั้งลูกชายและลูกสาวพร้อมกัน แล้วเธอก็มีหลานชายและหลานสาวในคราวเดียว คงจะมีความสุขมากเลยสิท่า โชคดีจังเลยนะ”

“จ้ะ ฉันมีความสุขมาก ฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยน่ารักมาก เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะมีเสียงหวาน ๆ เรียกฉันว่าคุณย่า คุณย่า แค่คิดก็มีความสุขมากแล้วละ”

เมื่อเห็นคุณนายจิงดูมีความสุขมากขนาดนั้น หญิงชราคนอื่นก็ไม่อยากพูดขัด พวกเธอมองเด็กน้อยอีกครั้งก่อนจะเริ่มกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง

หลังจากกินเลี้ยงกันเกือบจะเสร็จแล้ว งานเลี้ยงครบเดือนก็กำลังจะสิ้นสุดลง

จิงเจ้อหรงพาโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานออกไปส่งแขก ส่วนถังซวงและถังเซวี่ยอยู่กับเฮ่อหลาน ขึ้นรถกลับไปพร้อมกับเด็ก ๆ เพราะเฮ่อหลานเป็นห่วงลูก ๆ มากจึงอยากจะพากลับไปนอนให้สบาย

“แม่คะ เดี๋ยวเราก็จะกลับถึงบ้านแล้ว ให้น้อง ๆ ไปนอนเลยนะคะ”

ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เฮ่อหลานพาเด็กน้อยสองคนเข้านอน จากนั้นหันมาพูดกับถังซวงและถังเซวี่ย “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย กลับไปพักผ่อนได้แล้วจ้ะ”

“ค่า”

หลังจากจิงเจ้อหรงกลับมาพร้อมกับโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหาน ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็พักผ่อนกันไปครู่ใหญ่แล้ว โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ แยกย้ายกลับห้องของตัวเองทันที

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด