การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 484 ความลับของติงไหลตี้

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 484 ความลับของติงไหลตี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 484 ความลับของติงไหลตี้

บทที่ 484 ความลับของติงไหลตี้

เล่อหยาฉงหันมองถังซวงด้วยใบหน้าละอายใจ “เพื่อนร่วมชั้นถังซวง ก่อนหน้านี้ติงไหลตี้พูดจาซุบซิบเกี่ยวกับเธอให้ฉันฟัง แต่ฉันกลับไม่หยุดหล่อน และยังพูดคุยกับหล่อนด้วย คราวหน้าฉันจะไม่นินทาใครอีกและจะตั้งใจเรียนนับจากวันนี้ไป”

เล่อหยาฉงพูดอย่างรวดเร็ว “แต่ว่าหลังจากติงไหลตี้บอกกับฉัน ฉันก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใครเลย แต่นึกคิดย้อนไปแล้วฉันก็อดละอายใจไม่ได้ เพราะตอนนั้นฉันเองก็เชื่อคำพูดของติงไหลตี้ และเข้าใจเธอผิดไป พูดถึงเธอลับหลังในทางที่ไม่ดี”

เล่อหยาฉงเพียงละอายใจและรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อกล่าวขอโทษถังซวง

ถังซวงที่ได้ยินอย่างนั้น ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนร่วมชั้นเล่อหยาฉง ตราบใดที่เธอไม่คิดนินทาคนอื่นและตั้งใจเรียนมันก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว”

“อื้ม ฉันจะตั้งใจเรียน”

เล่อหยาฉงเห็นว่าถังซวงไม่ได้ตำหนิและสนับสนุนให้เธอตั้งใจเรียน เธอก็รู้สึกโล่งใจมาก เมื่อคาบเรียนที่สองเริ่มขึ้น เธอกลับไปนั่งที่ของตัวเองอย่างมีความสุข

ติงไหลตี้เห็นว่าเล่อหยาฉงกลับมาแล้ว แววตาของเธอยิ่งหดหู่มากขึ้น

“เล่อหยาฉง เธอทำอะไร?”

เห็นความเศร้าหมองของติงไหลตี้ เล่อหยาฉงก็ขมวดคิ้วก่อนจะตอบกลับ “ฉันเคยคุยเรื่องเพื่อนร่วมชั้นถังซวงกับเธอมาก่อน ฉันเลยไปขอโทษถังซวงมา”

“นี่เธอ…”

ติงไหลตี้รู้สึกราวกับหายใจไม่ออก ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความขุ่นเคือง

เวลานี้อาจารย์ประจำคาบเรียนที่สองมาถึงแล้ว ติงไหลตี้ทำได้เพียงระงับความโกรธ

หลังจากชั้นเรียนช่วงเช้าจบลง ถังซวงเก็บข้าวของเตรียมจะกลับบ้าน ขณะที่เธอเดินออกมาถึงประตู เธอเห็นว่าติงไหลตี้ขวางทางอยู่

ถังซวงเผยสีหน้าเย็นชาออกมา

“ขวางทางฉันทำไม”

“ถังซวง เธอพอใจแล้วหรือยัง? ทั้งอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นต่างรู้ว่าฉันอิจฉาเธอและปล่อยข่าวลือเพื่อใส่ร้ายเธอ วันนี้ฉันขอโทษเธอต่อหน้าทุกคนแล้ว รู้สึกมีความสุขขึ้นบ้างไหม?”

ถังซวงถึงกับหัวเราะออกมา

“แล้วทำไมฉันต้องมีความสุขด้วย? เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? นอกจากคนที่สร้างปัญหาให้ฉัน เธอไม่มีความสำคัญอื่นเลย อีกอย่างเธอไม่มีผลอะไรกับอารมณ์ของฉันด้วย” ถังซวงจ้องมองติงไหลตี้อย่างไม่แยแส “คนอย่างเธอไม่ได้อยู่ในสายตาของฉันสักนิด”

“นี่เธอ…”

ติงไหลตี้เห็นความเยือกเย็นและเฉยชาของถังซวง เธอก็สั่นสะท้านอยู่ในใจ

ผู้หญิงตรงหน้าแตกต่างไปจากถังซวงที่เธอเคยรู้จักโดยสมบูรณ์ ถังซวงตรงหน้านี้ทำให้เธอหวาดกลัว

ถังซวงเดินเข้าหาติงไหลตี้ก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบข้างหูอีกฝ่าย “ติงไหลตี้ ถ้าเธอไม่สร้างปัญหาให้กับฉัน ฉันก็ไม่เคยคิดสนใจเธออยู่แล้ว แต่ในเมื่อเธอหาเรื่องฉันก่อน อย่างนั้นจะมาโทษว่าฉันหยาบคายไม่ได้ คิดว่าแค่ยืนต่อหน้าอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมดแล้วจะจบหรือ? ขอโทษฉันแค่นี้น่ะหรือ? ฉันจะบอกอะไรให้นะ… เรื่องนี้ยังไม่จบหรอก”

“อะ… อะไรนะ…”

ติงไหลตี้มองถังซวงอย่างไม่เชื่อสายตา “ทำไมมันถึงยังไม่จบ? ฉันก็ขอโทษไปแล้วเธอจะเอาอะไรอีก?”

“ฮ่า ๆ… เดี๋ยวเธอก็รู้เอง”

พูดจบ ถังซวงเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง เธอยังมีสิ่งต้องทำมากมาย และการพูดคุยกับติงไหลตี้ถือว่าเป็นเรื่องเสียเวลา

ติงไหลตี้หันมองถังซวงที่จากไป ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา

ทำไมเธอถึงต้องอิจฉาถังซวง ทำไมเธอถึงพูดจาไร้สาระพวกนั้น และต่อจากนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถังซวงจะทำอะไรกับเธอ

ติงไหลตี้นึกคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ถังซวงพูดเอาไว้และกระวนกระวายไม่หาย ทว่าผ่านไปหลายวัน ติงไหลตี้ยังไม่เห็นอีกฝ่ายจะทำอะไรเลย เธอจึงค่อย ๆ โล่งอกและคิดว่าถังซวงเพียงข่มขู่ให้เธอกลัวเท่านั้น

ขณะที่ติงไหลตี้กำลังนึกผ่อนคลายในใจ ข่าวของเธอพลันแพร่สะพัดไปทั่วมหาวิทยาลัย

“พระเจ้า ติงไหลตี้งั้นหรือ? ยังมีคนเลวแบบนี้อยู่บนโลกนี้ด้วยงั้นหรือเนี่ย?”

“คนเรานี่ไม่สามารถตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกได้จริง ๆ ติงไหลตี้ดูเหมือนจะเป็นคนซื่อ ๆ ไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะใจร้ายได้ขนาดนี้”

“นั่นคือน้องสาวแท้ ๆ ของหล่อนเชียวนะ แต่เธอกลับผลักน้องสาวไปในกองไฟได้อย่างไม่ลังเล โหดเหี้ยมตั้งแต่อายุยังน้อย คนแบบนี้น่ะหรือถูกคัดเลือกให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชิงหวา”

“ฉันไม่อยากคุยกับหล่อนอีกแล้ว น่ากลัวเป็นบ้า”

หลายคนชี้นิ้วไปที่ติงไหลตี้ ทว่าเมื่อติงไหลตี้หันมองคนเหล่านั้น พวกเขาก็รีบแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว

ติงไหลตี้เห็นว่าคนอื่น ๆ เริ่มหลบหน้าเธอ ก็คิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมคนพวกนี้จึงมองเธอด้วยสายตาประหลาด? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะซุบซิบอะไรเกี่ยวกับเธออยู่ด้วย

ติงไหลตี้เห็นว่าผู้คนโดยรอบทำตัวแปลกประหลาด ก็เห็นว่าเล่อหยาฉงกำลังรีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว

ก่อนติงไหลตี้จะถาม เล่อหยาฉงกล่าวขึ้นก่อน “ติงไหลตี้ ข่าวลือพวกนั้นจริงหรือเปล่า? นี่เธอให้น้องสาวของตัวเองแต่งงานกับชายชราที่ร่ำรวยเพื่อเข้ามาเรียนที่นี่? เพื่อต้องการเงินทอง นี่เธอถึงกับยอมขายน้องสาวตัวเองเลยหรือ? ทำไมเธอถึงใจร้ายได้ขนาดนี้?”

“เธอ… เธอ…”

ติงไหลตี้ตกตะลึง ก่อนจะเอื้อมมือจับเล่อหยาฉงแต่กลับพูดไม่ออก เธอไม่เข้าใจว่าเล่อหยาฉงรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร

เล่อหยาฉงเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของติงไหลตี้ ก็ยิ้มเหยียดหยาม “ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริงสินะ เธอมันเลวเกินมนุษย์จริง ๆ”

คนอื่น ๆ เห็นท่าทีของติงไหลตี้ พวกเขายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น

“พระเจ้า ติงไหลตี้น่ากลัวจริง ๆ พวกเราต้องอยู่ให้ห่างจากหล่อนซะแล้ว ไม่งั้นในอนาคตหล่อนอาจคิดทำร้ายพวกเราด้วยก็ได้”

“ใช่ อยู่ให้ห่างจากหล่อนเอาไว้ คนอย่างติงไหลตี้นี่น่ากลัวจริง ๆ”

ผู้คนรอบตัวต่างพูดคุยกันก่อนจะเหลือบมองติงไหลตี้ด้วยความหวาดกลัวและเหยียดหยาม

ติงไหลตี้ที่ฟื้นคืนสติกลับมา ตอบโต้ทันที “ไม่ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ขอให้น้องสาวแต่งงานกับชายแก่ พวกเธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”

ติงไหลตี้หันมองเล่อหยาฉงด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด “เล่อหยาฉง เธอคิดจะทำอะไร? ทำไมถึงมากล่าวโทษเรื่องที่ฉันไม่ได้ทำด้วย?”

“ฮึ่ม… ตัวเธอเองรู้ดีอยู่แก่ใจ ทุกคนรู้หมดแล้ว อย่าคิดปฏิเสธเลย”

“เธอ… พวกเธอ…”

ติงไหลตี้ยิ่งคิดยิ่งสับสน พอได้ยินคำพูดของเล่อหยาฉง เธอถึงกับตอบโต้ไม่ออกไปชั่วขณะ

ความลับของเธอถูกเปิดเผยเสียแล้ว อีกอย่างเรื่องนี้เธอทำผิดจริง ๆ

ต้วนเฟิ่งหยิงที่นั่งอยู่ด้านหลังได้ยินข่าวของติงไหลตี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “พระเจ้า ก่อนหน้านี้ฉันก็คิดแล้วนะว่าที่ติงไหลตี้ทำไปนั้นเลวร้ายมาก คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะทำเรื่องที่มันเลวร้ายกว่านั้นได้อีก”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด