การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 506 หัวเฟยเฟิ่ง

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 506 หัวเฟยเฟิ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 506 หัวเฟยเฟิ่ง

บทที่ 506 หัวเฟยเฟิ่ง

ถังซวงเห็นการเคลื่อนไหวของถังคุนเฉิน ก็กระชับข้อมือแน่น จนใบหน้าของถังอวี้สือกลายเป็นสีม่วงเข้มเพราะขาดอากาศหายใจ

“อือ… อื้อ…”

ถังอวี้สือที่หายใจไม่ออกยิ่งตื่นตระหนก เธอเชื่อว่าถังซวงจะฆ่าเธอจริง ๆ

เหวินเจ๋อหลิ่วที่เห็นใบหน้าของถังอวี้สือเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม ก็ยิ่งกังวล หันมองถังคุนเฉินก่อนจะร้องตะโกน “นายท่านรอง…”

ถังคุนเฉินเห็นสภาพน่าสังเวชของหลานสาว ก็บีบลำคอของโม่เจ๋อหยวนเอาไว้แล้วพูดว่า “สาวน้อย ดูเธอจะเหี้ยมโหดไม่เบา แต่อย่างที่บอกฉันเร็วกว่า ตอนนี้ฉันแนะนำให้เธอปล่อยอวี้สือไปดีกว่า ไม่อย่างนั้นฉันจะฉีกลำคอของเขาทิ้งซะ” หลังพูดจบ เขากระชับข้อมืออีกครั้ง

“อึ้ก…”

โม่เจ๋อหยวนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เมื่อถูกถังคุนเฉินบีบคอ เขายิ่งหอบหายใจหนัก แต่เขาไม่ต้องการเป็นจุดอ่อนของถังซวงจึงพยายามกัดฟันเปล่งเสียง “ซวงเอ๋อร์… อย่า… แค่ก ๆ”

ก่อนโม่เจ๋อหยวนจะพูดจบ ถังซวงพูดขึ้นว่า “อาหยวน ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

หลังจากนั้นถังซวงมองถังคุนเฉินก่อนจะพูดว่า “ฉันจะปล่อยถังอวี้สือ ส่วนคุณก็ปล่อยโม่เจ๋อหยวนด้วย”

ถังคุนเฉินเลิกคิ้วหลังได้ยิน “ฉันบอกเธอแล้วไงว่าอย่าบีบบังคับให้ฉันทำอย่างนี้ คนส่วนใหญ่ที่นี่คือคนของเธอ มันง่ายมากถ้าฉันจะจับใครสักคนมาไว้ในมือ”

ถังซวงค่อย ๆ ปล่อยถังอวี้สือช้า ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายพอหายใจได้

ส่วนถังคุนเฉินไม่คิดจะทำอะไรมากเกินความจำเป็นอยู่แล้ว เขาค่อย ๆ ปล่อยโม่เจ๋อหยวนก่อนจะหันมองถังซวง “ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม แล้วปล่อยพวกเขาพร้อมกัน”

“…”

ถังซวงพาถังอวี้สือเดินเข้าหาถังคุนเฉินช้า ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เอาละ ปล่อยพวกเขาพร้อมกัน”

“อืม”

ถังคุนเฉิงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าถังซวงระมัดระวังตัวมาก ก่อนจะเริ่มนับ “หนึ่ง… สอง… สาม…”

ถังซวงผลักถังอวี้สือเข้าหาถังคุนเฉิน และดึงโม่เจ๋อหยวนกลับมา

ถังคุนเฉินคว้าถังอวี้สือเอาไว้ และไม่คิดจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้อีกต่อไป

ถังอวี้สือหันมองถังคุนเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความละอายใจ “คุณตา หนูขอโทษที่หนูไร้ประโยชน์” เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะมีคนมากมายคอยคุ้มกันถังซวง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้คนจำนวนมาก เธอไม่เพียงแต่จะต่อสู้ไม่ได้ แต่กลับถูกจับอีก

ใบหน้าของถังคุนเฉินเย็นชาลงหลังเห็นรอยช้ำบนลำคอของถังอวี้สือ เขาลูบมือของอีกฝ่ายเบา ๆ “เอาละ ไม่เป็นไร พวกเราประเมินหล่อนต่ำเกินไป ตอนนี้หลบไปก่อน”

ถังอวี้สือหลบไปยืนด้านหลังอย่างเชื่อฟัง

ส่วนถังคุนเฉินมองถังซวงด้วยแววตาเย็นชาก่อนจะพูดขึ้นว่า “เก่งมากสาวน้อย เธอกล้าที่จะต่อรองกับฉัน แต่วันนี้จะไม่มีใครออกจากที่นี่ไปได้” ถังคุนเฉินพุ่งเข้าหาถังซวงอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าเจตนาของเขาคือ…

โม่เจ๋อหยวนได้รับบาดเจ็บ เหลิ่งตงและคนอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ตอนนี้มีเพียงถังซวงที่ยังยืนหยัดอยู่ได้

“ซวงเอ๋อร์…”

เห็นถังซวงและถังคุนเฉินต่อสู้กัน ในใจของโม่เจ๋อหยวนยิ่งเต้นอย่างบ้าคลั่ง เขาเคยสู้กับถังคุนเฉินมาก่อนและเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายน่ากลัวมากแค่ไหน ตอนนี้ถังซวงต้องรับมืออีกฝ่ายเพียงคนเดียว เธออาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วยซ้ำ

ถังอวี้สือราวกับได้สติกลับมาอีกครั้ง หันมองถังซวงที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและโต้ตอบกับถังคุนเฉินตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดมาก่อนว่าถังซวงจะเก่งกาจและมีทักษะยอดเยี่ยมเช่นนี้ ตาเธอนับว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ แต่ถังซวงก็ยังสามารถรับมือเขาได้ ไม่ควรเก็บหล่อนไว้จริง ๆ

ถังซวงรู้ถึงสถานการณ์ของตัวเองเป็นอย่างดี เธอรับมือกระบวนท่าของถังคุนเฉินไปมากมาย ยิ่งแรงกดดันประหลาดเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป เธอแพ้แน่

ส่วนถังคุนเฉินยิ่งโกรธจัดขึ้นทุกวินาที

นี่มันผ่านมาสักพักใหญ่แล้วแต่เขายังไม่สามารถจัดการถังซวงได้ ยิ่งคิดเรื่องนี้เขายิ่งออกแรงมากขึ้น และในที่สุดก็สบโอกาสโจมตีหัวไหล่ของถังซวง

“ซวงเอ๋อร์…”

โม่เจ๋อหยวนเห็นถังซวงกระเด็นออกมา รีบก้าวไปด้านหน้าเพื่อพยุงเธอไว้

ถังซวงฝืนกลับมายืนได้อีกครั้ง

“ซวงเอ๋อร์ เป็นยังไงบ้าง?”

โม๋เจ๋อหยวนหันมองถังซวงด้วยความกังวล ในแววตาของเขามีเพียงความตึงเครียด

ถังซวงเช็ดเลือดที่มุมปากก่อนจะตอบกลับไปว่า “ฉันไม่เป็นไร”

เธอรู้ดีว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ และอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าฝ่ายตนได้รับความเสียหาย แต่กลับไม่มีใครมาเพิ่ม สถานการณ์มันค่อนข้างน่ากังวล

ขณะถังซวงกำลังครุ่นคิด ถังคุนเฉินยังคงโจมตีต่อไป แววตาของเขาราวกับผู้ได้รับชัยชนะแล้ว

“วันนี้จะไม่มีใครหน้าไหนออกไปได้ทั้งนั้น!”

ทันทีที่โม่เจ๋อหยวนได้ยิน เขาก็รีบไปยืนขวางหน้าถังซวงทันที

แต่ถังซวงผลักโม่เจ๋อหยวนออกไป และคิดจะต่อสู้กับถังคุนเฉินด้วยตัวเอง เธอไม่ยอมรับความพ่ายแพ้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย

“ประเมินความสามารถของตัวเองสูงไปไหม?”

เห็นว่าถังซวงยังคงต้องการต่อสู้ แววตาของถังคุนเฉินก็เผยความรังเกียจและเหยียดหยาม “ในเมื่อรนหาที่ตาย ฉันก็จะส่งเธอไปตายให้สาแก่ใจ!” เขาเหลือบมองถังซวงก่อนจะเปลี่ยนการเคลื่อนไหว

เพราะถังซวงได้รับบาดเจ็บแล้ว การเคลื่อนไหวของเธอจึงช้าลง ทำได้เพียงหลบซ้ายขวาเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของถังคุนเฉิน ทำให้ถังคุนเฉินมองเห็นโอกาสในการโจมตี

ทันทีที่ถังคุนเฉินทุบเข้าที่หน้าอกของถังซวง กลับมีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมปัดหมัดของถังคุนเฉินทิ้งในทันที

ปั่ก…

ทันทีที่ปะทะ ถังคุนเฉินและผู้มาใหม่ถอยออกไปเพื่อตั้งหลัก

เมื่อเขาหยุดมือ ถังคุนเฉินก็เห็นผู้มาเยือนชัดเจน จนความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนสีหน้าของเขา “คุณ…”

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาใหม่ไม่คิดสนใจถังคุนเฉิน เธอหันมองถังซวงด้วยแววตาถวิลหา น้ำตาเอ่อล้น ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะอย่างยินดี “สาวน้อย เธอ… เธอ… ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันรู้แล้ว… ลูกสาวของฉันยังไม่ตาย”

ถังซวงตกตะลึงเมื่อเห็นว่าบุคคลนั้นเดินเข้าหา เธอเป็นผู้หญิงผมยาว ทว่าใบหน้ากลับดูอ่อนเยาว์ราวอายุเพียงสามสิบเท่านั้น “คุณเป็นใครคะ?”

หัวเฟยเฟิ่งได้ยินคำถามของถังซวง ก็พูดตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ลูกของฉัน… ฉัน… น่าจะเป็นคุณยายของเธอ” ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าคล้ายกับถังซวงมาก แต่อายุไม่น่าจะถูกต้องเท่าไหร่นัก เธอเลยคาดเดาว่าถังซวงคือลูกของลูกสาวเธอก่อนหน้านี้

“คุณยาย…”

ถังซวงพึมพำก่อนจะมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม้เส้นผมจะขาวโพลน แต่ใบหน้าของหล่อนกลับดูอ่อนเยาว์

“ใช่… ฉันเป็นคุณยายแล้ว”

หัวเฟยเฟิ่งไม่อาจอดกลั้นน้ำตาได้ เธอร้องไห้ออกมาด้วยความยินดี หันมองถังซวงและอดไม่ได้ที่จะใช้มือสัมผัสแก้มของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา

ถังซวงที่ไม่คุ้นเคยกับการถูกคนอื่นสัมผัส แต่ไม่กล้าปฏิเสธหัวเฟยเฟิ่งตรงหน้า เพราะแววตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความสุขมากล้นเกินไป

ถังคุนเฉินมองภาพตรงหน้า ใบหน้าของเขามืดมน

ไม่นาน เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ลงได้ ก็กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะครับ? แปลกใจจริง ๆ ปกติแล้วพี่ไม่เคยออกจากบ้านด้วยซ้ำ แต่กลับออกมาเดินที่โลกภายนอกอย่างนี้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด