การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 550 เปิดโปง

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 550 เปิดโปง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 550 เปิดโปง

บทที่ 550 เปิดโปง

เหวินเจ๋อหลิ่วสัมผัสได้ว่าลมหายใจของตนใกล้จะหมดเต็มที ดวงตาทองมองไปยังท้องฟ้า พยายามจดจำภาพตรงหน้าให้นานที่สุด

เธอเพิ่งอายุเพียงเท่านี้ แต่กลับต้องมาตายแบบนี้

เป็นไปได้ยังไง…

นับตั้งแต่ที่เธอติดตามถังอวี้สือ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ไม่ต้องพบเจออุปสรรคใด ๆ แล้วเมื่อไหร่กันที่เธอเริ่มเดินทางผิดพลาด ต้องพบเจอเรื่องเลวร้าย

ใช่ ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ได้พบเจอกับถังซวง และเวลาของเธอก็หมดลงแล้ว

เหวินเจ๋อหลิ่วสูดลมหายใจเฮือกสุดท้าย ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงไปตลอดกาล

“ไม่… เจ๋อหลิว…”

ถังอวี้สือตะโกนออกมาสุดเสียง ร่างกายของเธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะถูกจับเอาไว้ แต่ถึงแม้จะไม่ได้ไปสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย เธอก็รู้ว่าเหวินเจ๋อหลิ่วจากไปแล้ว เพราะดวงตาที่ปิดสนิท และร่างกายที่แน่นิ่ง

หลังฟื้นคืนสติกลับมา ถังอวี้สือหันมองถังซวงด้วยความแค้น

“ถังซวง เธอกล้าลงมือฆ่าเจ๋อหลิ่วได้ยังไง ฉันจะฆ่าเธอ ได้ยินไหม ฉันจะฆ่าเธอ!”

ถังซวงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน เป็นเพราะหล่อนต้องการฆ่าฉันก่อน ฉันแค่ปกป้องตัวเอง และฉันไม่ได้ตั้งใจ”

ถังหลานเห็นฉากตรงหน้าก็ตื่นตระหนกไม่น้อย

แต่จิงเจ้อหรงกลับจับมือถังหลานเอาไว้ “อาหลาน เหวินเจ๋อหลิ่วเป็นคนเริ่มก่อน หล่อนหยิบกริชออกมา ต้องการฆ่าซวงเอ๋อร์ของเรา แต่ซวงเอ๋อร์ของเราเก่งกาจ ไม่อย่างนั้นอาจจจะเป็นซวงเอ๋อร์ก็ได้ที่ต้องตาย อีกอย่างเหวินเจ๋อหลิ่วไม่ระวังเอง ทั้งที่ซวงเอ๋อร์ไม่ได้สัมผัสกับกริชเล่มนั้นเลย และกริชนั่นยังอยู่ในมือของเหวินเจ๋อหลิ่วตลอดด้วย”

ผู้คนโดยรอบล้วนได้ยินสิ่งที่จิงเจ้อหรงกล่าวออกมาชัดเจน

คนส่วนใหญ่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ตรงหน้า ผู้ที่ไม่เห็นจึงคิดว่าเหวินเจ๋อหลิ่วถูกสังหาร

เมื่อถังหลานได้ยิน เธอก็พยักหน้ารับ “ใช่ค่ะ มันเป็นเพราะเหวินเจ๋อหลิวคิดจะทำร้ายซวงเอ๋อร์ก่อน”

ถังเซวี่ยและคนอื่น ๆ พยักหน้ารับ

ถังอวี้สือยิ่งตกตะลึง “พวกคุณ… พวกคุณเป็นพวกเดียวกัน ก็เลยหลับหูหลับตาเข้าข้างกัน”

ถังอวี้สือยังไม่ยอมแพ้ มันทำให้ถังซวงเย้ยหยัน เดินเข้าไปหาแล้วคว้าลำคอของอีกฝ่ายขึ้นมา “ดูเหมือนเธอจะมีแรงพูดมากไม่หยุดเลยนะ ฉันล่ะรำคาญจริง ๆ” เธอกระชับลำคอของถังอวี้สือ

“ถังซวง หยุด”

ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังที่ทำอะไรไม่ถูกตั้งแต่ที่ถังซวงจัดการกับเหวินเจ๋อหลิ่ว เมื่อรู้สึกตัวก็เห็นถังซวงกำลังเข้าไปหาถังอวี้สือแล้ว แต่น่าเสียดายที่ถังซวงไม่คิดจะเชื่อฟังคำของพวกเขาเลย

ด้านเว่ยชื่อเหอที่ถูกเว่ยเหิงจับกุมเอาไว้พยายามดิ้นรนอย่างหนัก “อวี้สือ… อวี้สือ…”

เมื่อเห็นปู่ของตัวเองยังคงจับตนไว้แน่น เขารีบหันไปบอกด้วยความกังวล “ปู่ครับ ปล่อยผมเถอะ อวี้สือกำลังจะถูกฆ่าแล้ว”

เว่ยเหิงยังไม่ปล่อย ถังซวงกล้าที่จะลงมือกับเหวินเจ๋อหลิ่ว แต่หล่อนจะไม่กล้าลงมือกับถังอวี้สือแน่

อีกด้านหนึ่ง แม้ถังคุนเฉินจะพัวพันอยู่กับการต่อสู้ แต่สายตาของเขาก็ยังสนใจถังอวี้สืออยู่ เขาเห็นแล้วว่าถังซวงฆ่าเหวินเจ๋อหลิว และตอนนี้ลามมาถึงหลานสาวแล้ว เขาอยากจะละทิ้งทุกสิ่งตรงหน้าและพุ่งเข้าไปช่วยหลานสาว พยายามเร่งความเร็ว แต่อย่างไรก็ตามทักษะของผู้เฒ่าตระกูลที่แปดได้รับการพัฒนาไปมากจากยาระเบิดพลัง เขาจึงไม่สามารถหลบหนีออกไปได้ในตอนนี้

หลานอี้ไป๋ที่กำลังต่อสู้กับหัวเฟยเฟิ่ง ไม่สนใจถังอวี้สือแม้แต่น้อย เพราะในสายตาของเธอมีเพียงหัวเฟยเฟิ่งเท่านั้น

เมื่อเห็นความเย็นชาของอีกฝ่าย หัวเฟยเฟิ่งกล่าวถากถาง “ทุกคนมักจะบอกว่าเธอรักหลานสาวคนนี้มาก จนฉันก็ไม่คิดเลยว่าเธอจะไม่แยแสอย่างนี้ ตอนนี้หลานของเธอตกอยู่ในอันตรายแต่เธอกลับไม่คิดชายตามองเลยสินะ”

หลานอี้ไป๋ไม่สนใจคำยั่วยุของหัวเฟยเฟิ่ง ความต้องการของเธอในเวลานี้คือการสังหารหัวเฟยเฟิ่งให้ได้ ทั้งสองต่อสู้กันดุเดือดมากยิ่งขึ้น การเคลื่อนไหวของหลานอี้ไป๋ยิ่งรุนแรง

หัวเฟยเฟิ่งเห็นอีกฝ่ายลงมือจึงหยุดพูด

เธอรู้เสมอมาว่าหลานอี้ไป๋เห็นแก่ตัว และไม่คิดสนใจครอบครัวของตัวเอง ต่อให้ยั่วยุไปก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำคือการโค่นล้มอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด

ถังหวยรุ่ยที่อยู่ใกล้ ๆ เห็นว่าลูกสาวตกอยู่ในอันตราย เธอกังวลและหวาดกลัวยิ่งขึ้น แต่กลับไม่กล้าเคลื่อนไหว เพียงซุกตัวอยู่ด้านหลังพร้อมร่างกายสั่นเทาเพื่อปกป้องตัวเอง

ส่วนเนี่ยหลางลุกขึ้น มองถังซวงด้วยแววตาแน่วแน่ก่อนจะพูดว่า “ถังซวง ฟังก่อน… ถ้าเธอปล่อยอวี้สือไป ฉันจะบอกเล่าเรื่องที่ครอบครัวรองทำช่วงหลายปีมานี้ ฉันจะบอกทุกอย่าง และฉันมีหลักฐานด้วย”

ถังซวงเลิกคิ้วมองชายที่วิ่งเข้ามาหาด้วยความประหลาดใจ

“คุณมีหลักฐานเอาผิดถังคุนเฉินงั้นเหรอ?”

เนี่ยหลางพยักหน้า “ใช่ ฉันมี ขอแค่เธอปล่อยถังอวี้สือก็พอ”

ถังซวงยังไม่ปล่อยอีกฝ่ายไปทันที เพียงคลายมือออก ก่อนจะกล่าวถามอย่างไม่แยแส “บอกมาสิว่ามีหลักฐานอะไรบ้าง?”

“ถังคุนเฉินควบคุมเหมืองของตระกูลถัง เท่าที่ฉันรู้มันคือเหมืองแพลเลเดียม มูลค่าของมันไม่น้อยเลย”

“เนี่ยหลาง… หุบปากเดี๋ยวนี้”

ถังหวยรุ่ยไม่คิดมาก่อนว่าสามีของตนจะกล่าวทุกสิ่งออกมา นี่มันไม่ใช่เวลามากล่าวเรื่องแบบนี้นะ? นี่เขาไม่ได้คิดที่จะช่วยชีวิตลูกสาว แต่คิดที่จะเปิดโปงความชั่วร้ายของทุกคนต่างหาก

อย่างไรก็ตาม นอกจากถังหวยรุ่ย ก็ไม่มีใครสนใจเนี่ยหลางเลย เพราะพวกเขากำลังพัวพันกับการต่อสู้

ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังได้ยินสิ่งที่เนี่ยหลางพูดชัดเจน และถึงกับเอ่ยปาก “เนี่ยหลาง ทั้งหมดเป็นความจริงเหรอ?”

เนี่ยหลางหันมองผู้เฒ่าถังด้วยแววตาที่คาดเดาได้ยาก ก่อนจะกล่าวตอบเสียงเรียบ “ครับ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ผมมีหลักฐาน ถังคุนเฉินกำลังดูแลเหมืองทองคำในภูเขาหนานไม่ใช่เหรอครับ? แล้วพวกเขาก็พบว่ามีเหมืองแพลเลเดียมอยู่ใกล้ ๆ ที่นั่น แต่เขาไม่ได้บอกกล่าวให้ตระกูลถังทราบ และยึดมันไว้เป็นการส่วนตัว”

ได้ยินอย่างนั้น ตระกูลถังถึงกับหน้าเปลี่ยนสี หันกลับไปจับจ้องถังคุนเฉินด้วยแววตาเคียดแค้น

“ทำเกินไปแล้ว! ภูเขาหนานเป็นของตระกูลถัง และสิ่งต่าง ๆ บนนั้นถือว่าเป็นสมบัติของเรา แต่ถังคุนเฉินเก็บมันไว้เพียงคนเดียว”

“ใช่ นี่มันยักยอกทรัพย์ของพวกเราชัด ๆ”

ถังซวงไม่คิดว่าเนี่ยหลางจะพูดมันออกมา จนเธอเริ่มสนใจ และยอมคลายมือออกจากลำคอของถังอวี้สือ “คุณมีหลักฐานจริง ๆ ไหม? ถ้ามี ฉันจะยอมปล่อยถังอวี้สือไป”

ถ้าเนี่ยหลางมีหลักฐานที่สามารถจัดการกับครอบครัวรองได้ นี่นับว่าเป็นการทำลายครอบครัวรองอย่างสมบูรณ์ แค่ปล่อยถังอวี้สือไปก็ไม่มีผลกระทบใด

ก่อนเนี่ยหลางจะได้ตอบ ถังอวี้สือกลับตะโกนขึ้นมา “พ่อ… พ่อกำลังพูดเรื่องอะไร? หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว คุณตาไปยึดเหมืองนั้นมาแต่เมื่อไหร่!”

เนี่ยหลางเหลือบมองถังอวี้สือด้วยสีหน้าว่างเปล่า “อวี้สือ… ทำไมลูกถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ ตาของลูกทำผิดตั้งแต่แรก นอกเหนือจากการยักยอกทรัพย์ของตระกูล เขายังฆ่าคนไปมากมาย มือของเขาเปื้อนเลือดจนล้างไม่ออกแล้ว!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด