การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 79 วิจัยและพัฒนา(รีไรท์)

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 79 วิจัยและพัฒนา(รีไรท์) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 79 วิจัยและพัฒนา(รีไรท์)

บทที่ 79 วิจัยและพัฒนา(รีไรท์)

โม่เจ๋อหยวนรู้ว่าจิตใจของถังซวงยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงต้องการให้เธอยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น

ซึ่งเป็นอย่างที่คาด ดวงตาของถังซวงเป็นประกายเมื่อเธอได้ยินคำพูดของโม่เจ๋อหยวน

“พี่วาดมันเสร็จแล้วหรือ? เอาสิ ไปโรงงานเครื่องจักรกัน”

ในขณะเดียวกัน เฮ่อหลานมองพวกเขาสองคนอย่างตำหนิ “พวกเธอนี่จริง ๆ เลย เอะอะกันแต่เช้า รู้ไหมว่าแม่ตกใจนะ”

เมื่อถังซวงได้ยินแม่พูดอย่างนั้น เธอก็ยิ้ม “แม่คะ พี่โม่กับหนูแค่ออกกำลังกายกันน่ะ ไม่มีอะไรต้องตกใจหรอกค่ะ”

“เมื่อกี้ลูกเตะเสี่ยวโม่ แม่กลัวจริง ๆ นะ โชคดีที่เสี่ยวโม่ยอมแพ้ ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกลูกไล่เตะแน่”

“ป้าหลาน ทักษะของซวงเอ๋อร์ดีกว่าของผมมาก และเราแค่ออกกำลังกายกันจริง ๆ ครับ คุณป้าไม่ต้องกังวล”

เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ เฮ่อหลานก็รู้สึกโล่งใจและไล่ให้พวกเขาไปรับประทานอาหารเช้า “รีบไปล้างมือและกินข้าวเช้าเถอะ พวกเธอต้องหิวหลังจากออกกำลังกายมานานแน่”

“ค่ะ เราไปล้างมือกันเถอะ”

โม่เจ๋อหยวนซื้ออาหารเช้ามาหลากหลายอย่าง ทุกคนจึงกินกันเยอะจนอิ่มท้อง

หลังอาหารเช้า ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนก็ไปที่อำเภอด้วยกัน

“พี่โม่ เราควรไปที่โรงงานเครื่องจักรเลยไหม? พี่ต้องการคุยกับผู้จัดการหูก่อนหรือเปล่า? เขาน่าจะได้เห็นพิมพ์เขียวของเครื่องเก็บเกี่ยวแบบครบวงจรนี้นะ เขาจะได้ให้โรงงานเครื่องจักรผลิตออกมาแล้วร่วมมือกับพี่อย่างเต็มที่” เมื่อพูดจบถังซวงก็นึกถึงอีกสิ่งหนึ่งออก “จริงสิ ก่อนอื่นพี่ควรยื่นขอสิทธิบัตรก่อนนะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนก็มองไปที่ถังซวงด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ไว้ฉันจะยื่นขอสิทธิบัตรหลังจากผลิตเครื่องจักรเครื่องแรกก่อนนะ ส่วนผู้จัดการหู ฉันติดต่อเขาไปแล้ว เขาจะให้คนของเขาร่วมมือกับเราอย่างเต็มที่”

ถังซวงรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้

เธอคิดมานานแล้วว่าครอบครัวของโม่เจ๋อหยวนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน แม้ว่าในตอนนี้เขาจะอยู่ในตำบลเล็ก ๆ แต่เขาก็จะสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดายเช่นนี้…

เมื่อทั้งสองมาถึงโรงงานเครื่องจักร เหลียงจุนเฟิงก็รออยู่ที่ประตูแล้ว

“สหายเสี่ยวถัง สหายโม่ พวกเธอมาแล้ว ผู้จัดการกำลังรออยู่เลย รีบไปกันเถอะ” คราวนี้ผู้จัดการหูขอให้เขาปฏิบัติต่อโม่เจ๋อหยวนอย่างดี แต่เขาก็ยังคุ้นเคยกับถังซวง ดังนั้นเมื่อเขาเห็นทั้งสองคน จึงเผลอเรียกถังซวงก่อนโดยไม่รู้ตัว

เมื่อทั้งสองมาถึงสำนักงานของหูจื่อเฉียง โม่เจ๋อหยวนก็ทักทายเขาก่อน “ผู้จัดการหู ขอโทษที่ให้รอนะครับ”

“ไม่เป็นไร ๆ”

หูจื่อเฉียงได้ยินอย่างคลุมเครือเกี่ยวกับสิ่งที่โม่เจ๋อหยวนกำลังจะพัฒนา ถ้ามันประสบความสำเร็จจริง ๆ โรงงานเครื่องจักรของพวกเขาก็จะได้รับรางวัลด้วย ดังนั้น แน่นอนว่าเขาย่อมเต็มใจให้ความร่วมมือ

แต่เขาไม่คาดคิดจริง ๆ ว่า โม่เจ๋อหยวน ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับถังซวงจะมาจากตระกูลโม่ในเมืองหลวง จากข้อมูลที่เขารู้มา ผู้เฒ่าโม่กำลังจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นเขาจึงต้องตีสนิทโม่เจ๋อหยวนให้มาก

หลังจากนั้น หูจื่อเฉียงก็ทักทายถังซวงอีกครั้ง

“สหายเสี่ยวถัง น่าเสียดายที่เธอไม่ได้มาทำงานในโรงงานของเรา หากในอนาคตพอเธอเรียนจบแล้ว รบกวนเธอพิจารณาโรงงานเครื่องจักรของเราต่อด้วยนะ”

ถังซวงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันคงทำให้ผู้จัดการหูต้องผิดหวังแล้วค่ะ ในอนาคตฉันอยากจะเป็นหมอน่ะค่ะ” นี่เป็นสิ่งที่เธอมุ่งมั่นที่จะทำให้ดี ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้อีกแล้วสำหรับเธอในการทำงานที่โรงงานเครื่องจักร

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง โม่เจ๋อหยวนหันมามองหน้าเด็กสาวอย่างตกตะลึง ปรากฏว่าเธอคิดเกี่ยวกับเส้นทางในอนาคตของตัวเองไว้แล้ว ดูเหมือนผู้เฒ่าจวงจะมีอิทธิพลต่อเธออย่างมากจริง ๆ

ด้านหูจื่อเฉียงที่ไม่ได้คาดหวังว่าถังซวงจะพูดแบบนี้ “หมอ? เธอจะเรียนหมอหรือ?”

ถังซวงไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม เพียงแค่พยักหน้า “ใช่ค่ะ”

“นี่… มันเรื่องใหญ่มากเลยนะ”

หูจื่อเฉียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะถังซวงซ่อมเครื่องกลเก่งมาก ในเมื่อเธอมีพรสวรรค์ขนาดนี้ กลับเลือกที่จะเรียนแพทย์

เขาไม่ได้พูดอะไรมากเกี่ยวกับเป้าหมายของเด็กสาว แต่มองไปที่โม่เจ๋อหยวนแทน “เริ่มวันนี้เลยดีไหม?”

ในตอนนี้ เรื่องที่สำคัญเป็นอันดับแรกคือร่วมมือกับโม่เจ๋อหยวนเพื่อวิจัยเครื่องจักรนั้น

โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าให้เขาทันที “ครับ เราจะเริ่มวันนี้เลย”

“เอาล่ะ งั้นไปที่ห้องเครื่องกันก่อน”

หูจื่อเฉียงรู้ถึงความสำคัญของเครื่องจักรที่โม่เจ๋อหยวนคิดค้น ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้

โม่เจ๋อหยวนและถังซวงใช้เวลาทั้งวันในโรงงานเครื่องจักรเพื่อติดตามความคืบหน้า ถังซวงพูดคุยรายละเอียดบางอย่างกับโม่เจ๋อหยวน และทำการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ

หูจื่อเฉียงคิดเสมอว่าถังซวงมาที่นี่กับโม่เจ๋อหยวนเท่านั้น แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรมากขนาดนี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกเสียดายมากที่เธอเลือกเรียนแพทย์ พรสวรรค์ขนาดนี้ปล่อบให้หลุดมือไปมันน่าเสียดายจริง ๆ

เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น โม่เจ๋อหยวนมองไปที่หูจื่อเฉียง และพูดว่า “ผู้จัดการหู ไว้เราจะกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้นะครับ”

“ได้สิ ๆ แต่ไปกินข้าวเย็นด้วยกันที่โรงอาหารก่อนเถอะ”

“ไม่เป็นไรครับ เราต้องรีบกลับน่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หูจื่อเฉียงก็ไม่ได้รั้งต่อ “ไม่เป็นไร ๆ ระวังด้วยนะ”

เมื่อทั้งสองกลับมาที่ตำบล พวกเขาเห็นเฮ่อหลานรออยู่ที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมา เฮ่อหลานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวโม่ กลับมากันสักที”

“แม่คะ มารออะไรอยู่ข้างนอกน่ะ เมื่อเช้าก็บอกแล้วไงว่าอาจจะกลับช้าหน่อย”

เฮ่อหลานชำเลืองมองลูกสาวคนโตอย่างไม่พอใจ “แม่รู้ว่าลูกอาจจะกลับมาช้า แต่แม่ก็ยังเป็นห่วงลูกอยู่ดีนะ เอาล่ะ เข้ามาเร็ว ๆ กินอาหารเย็นมากันหรือยัง?”

“ยังค่ะ”

เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ยังไม่ได้ทานอาหารเย็น เฮ่อหลานก็ตรงไปที่ห้องครัว “แม่กลัวว่าพวกลูกจะยังไม่ได้กิน ก็เลยอุ่นอาหารไว้ให้”

หลังจากที่ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนนั่งลงแล้ว เฮ่อหลานก็นำอาหารมาวางไว้ตรงหน้า

“กินสิ”

แน่นอนว่าถังซวงและโม่เจ๋อหยวนหิวมาก ดังนั้นพวกเขาจึงกินข้าวกันคำใหญ่ สามชามติดต่อกันก่อนจะวางตะเกียบ

“พี่สาว พี่โม่ พวกพี่ไปทำอะไรที่โรงงานเครื่องจักรหรือ?”

“พี่จะบอกเธอเมื่อถึงเวลานะ”

ถังซวงไม่พูดอะไรต่อ

ส่วนโม่เจ๋อหยวนแค่ยกยิ้มและพูดว่า “มันยังไม่เสร็จน่ะ ถ้ามันถูกสร้างเสร็จแล้วจริง ๆ มันจะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก” เนื่องจากซวงเอ๋อร์ต้องการเก็บเป็นความลับ เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ

ถังเซวี่ยชำเลืองมองทั้งสองคนอย่างสงสัย “นี่พวกพี่ทำอะไรกันแล้วไม่บอกฉันสินะ ก็ได้ ช่างมันเถอะ แล้วฉันจะรอดูตอนที่มันสร้างเสร็จแล้ว ว่ามันเป็นอะไร”

ด้านเฮ่อหลานก็อดไม่ได้ที่จะถาม “พรุ่งนี้พวกลูกจะไปที่นั่นอีกไหม?”

“ค่ะ ช่วงนี้เราจะไปที่โรงงานเครื่องจักรทุกวันค่ะ”

วันรุ่งขึ้น ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนออกเดินทางอีกครั้ง แต่พวกเขาก็พบกับจิงเจ้อหรงทันทีที่มาถึงโรงงานเครื่องจักร

“สหายเสี่ยวถัง เสี่ยวโม่ อรุณสวัสดิ์”

“คุณจิง อรุณสวัสดิ์ค่ะ/ครับ”

ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนทักทายพร้อมกัน

“ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอสองคนกำลังทำเครื่องจักรเก็บเกี่ยว วันนี้ฉันเลยแวะมาดูหน่อย”

เมื่อได้ยิน ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

จิงเจ้อหรงยิ้มและอธิบายต่อว่า “ฉันโทรหาผู้จัดการหูเมื่อวานนี้เพื่อคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง และฉันก็ได้ยินโดยบังเอิญ เลยมาที่นี่เพื่อดูมัน เธอสองคนนี่ทำให้ฉันประหลาดใจไม่หยุดจริง ๆ”

“คุณจิงครับ มันเพิ่งเริ่มยังทำได้ไม่เท่าไหร่เลยครับ และเราก็ไม่รู้ว่ามันใช้งานได้จริงหรือเปล่าจนกว่าจะผลิตสำเร็จด้วย”

เมื่อได้ยินคำพูดของโม่เจ๋อหยวน จิงเจ้อหรงก็หัวเราะทันที “เอาน่า ฉันเชื่อใจเธอ เข้าไปกันเถอะ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *