การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 9 หย่ากันเถอะ

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 9 หย่ากันเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 9 หย่ากันเถอะ

บทที่ 9 หย่ากันเถอะ

เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ม่ายหลิว ถังเจี้ยนกั๋วก็ตกตะลึง “อะไร… อะไรนะ…”

แม่ม่ายหลิวกัดริมฝีปาก มองไปยังถังซวงที่เพิ่งออกมา ร่างกายสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว และพูดทันทีว่า “เจี้ยนกั๋ว ฉันกำลังท้องลูกชายของคุณ” เดิมทีเธอไม่ได้วางแผนที่จะพูดเร็วนัก แต่แผนการนั้นไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นตอนนี้จึงต้องกัดฟัน

ถังซวงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของแม่ม่ายหลิว ผู้หญิงคนนี้แสร้งทำแบบนั้น และทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าวันนี้เธอจะทำสำเร็จหรือไม่

เฮ่อหลานยืนอยู่ข้างถังซวงมองฉากตรงหน้าอย่างว่างเปล่า ตอนแรกเธอคิดว่าตนเองจะรู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่ในตอนนี้กลับนิ่งสงบ ดูเรื่องตลกอย่างเฉยเมย และในที่สุด เธอมองไปที่ถังเจี้ยนกั๋วแล้วพูดว่า “หย่ากันเถอะ”

ก่อนที่ถังเจี้ยนกั๋วจะพูดอะไร แม่เฒ่าถังก็หยุดเธอแล้วพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ ฉันจะไม่มีวันเห็นด้วยกับการหย่าของแก” ขณะที่พูด แม่เฒ่าถังก็มองไปที่แม่ม่ายหลิวด้วยความเกลียดชังและพูดว่า “นังแพศยา ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไอ้สารเลวคนไหนเป็นคนเสกเด็กในท้องของแก มาบอกว่าเป็นเจี้ยนกั๋วของเรางั้นเหรอ? อย่าคิดว่าจะเอาเปรียบกันได้ง่าย ๆ”

นัยน์ตาของแม่ม่ายหลิวเต็มไปด้วยความโกรธ แต่เธอไม่พูดอะไร เพียงแค่มองไปที่ถังเจี้ยนกั๋ว

“เจี้ยนกั๋ว คุณไม่เชื่อฉันเหรอ? คุณไม่ต้องการลูกชายเหรอ? ฉันหาคนมาดูแล้ว และพวกเขาบอกว่าเด็กในท้องฉันเป็นผู้ชาย”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ในที่สุดถังเจี้ยนกั๋วก็ได้สติ ดวงตาของเขาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่าลูกชาย บางทีเขาอาจจะมีลูกชายจริง ๆ และเขาจะไม่เสียใจที่ไม่มีลูกชายอีกต่อไป

“หลิวเอ๋อร์ จริงเหรอ?”

“แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง”

แม่ม่ายหลิวพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ฉันได้ตรวจสอบกับแม่เฒ่าจางในหมู่บ้านแล้ว และเธอรับรองว่าฉันกำลังตั้งท้องลูกชาย”

“ยอดเยี่ยมจริง ๆ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังเจี้ยนกั๋วรีบไปข้างหน้าและคว้ามือของแม่ม่ายหลิว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

แม่เฒ่าจางเป็นหมอตำแยที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้านหลู่ฮวา ใครก็ตามที่ต้องการมีลูกจะต้องไปหาหาเธอ เธอสามารถตรวจดูครรภ์ได้แม่นยำมาก ตราบใดที่เธอพูด มันต้องถูกแปดหรือเก้าในสิบส่วนแล้ว

ในเวลานี้ ครอบครัวของบ้านใหญ่ก็ออกมาเช่นกัน พวกเขาตกใจเมื่อเห็นเรื่องตลกตรงหน้า และคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้

ถังอี้กั๋วอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “น้องรอง นาย…นายมีลูกกับแม่ม่ายหลิวจริง ๆ เหรอ?”

ถังเจี้ยนกั๋วกำลังรู้สึกอึ้งกับข่าวการมีลูกชาย ดังนั้นจึงพยักหน้าและยอมรับว่า “ใช่ หลิวเอ๋อร์กับฉัน เรามีลูกด้วยกัน และเป็นลูกชาย มันเยี่ยมมาก ฉันจะมีลูกชายในอนาคต และฉันก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครมาเผาผีแม้จะผ่านไปร้อยปีก็ตาม”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังอี้กั๋วก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปสักพัก

จ้าวเหม่ยฉินมองไปที่แม่ม่ายหลิวด้วยความดูถูกบนใบหน้า และดูถูกเธอหนึ่งหมื่นครั้งในใจ หญิงม่ายคนนี้ก็เป็นพวกสำส่อน ไม่คาดคิดว่าถังเจี้ยนกั๋วจะมีความสัมพันธ์กับเธอได้ ถ้าเธอแต่งงานกับถังเจี้ยนกั๋วจริง ๆ หญิงม่ายก็จะกลายเป็นน้องสะใภ้ของเธอไม่ใช่เหรอ?

เมื่อคิดแบบนี้ จ้าวเหม่ยฉินก็ไม่ค่อยสบายใจ เพราะยังไงแม่ม่ายหลิวก็ไม่ดีเท่าเฮ่อหลาน

เฮ่อหลานได้ยินเสียงที่ตื่นเต้นของถังเจี้ยนกั๋ว และพูดอีกครั้งว่า “ถังเจี้ยนกั๋ว หย่ากันเถอะ ประทับตราแล้วไปที่อำเภอเพื่อหย่าซะ”

ในที่สุด ถังเจี้ยนกั๋วก็สงบลงเล็กน้อย เขาต้องการลูกชายก็จริง แต่ก็ไม่ต้องการปล่อยเฮ่อหลานไป ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือช่วงนี้ เธอไม่ได้รู้เสียหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอต้องการหย่าตลอดเวลา แรงจูงใจที่จะหย่ามันเพิ่งจะปรากฏออกมาเองไม่ใช่เหรอ?

เมื่อเห็นความลังเลใจของถังเจี้ยนกั๋ว แม่เฒ่าถังรีบพูดว่า “เจี้ยนกั๋ว แกจะหย่าไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะปล่อยถังซวงกับถังเซวี่ยไปเลย ถึงแม่ม่ายหลิวจะตั้งท้องลูกชายของแก แกก็รอให้เธอคลอดซะก่อน จะไม่มีการหย่าร้างอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นในตอนนี้”

ในตอนท้าย แม่เฒ่าถังให้ขยิบตาให้ถังเจี้ยนกั๋ว

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังเจี้ยนกั๋วก็ตอบสนองทันที

ถูกต้อง ตอนนี้จะยังหย่าไม่ได้ นับประสาอะไรกับการให้ถังซวงและถังเซวี่ยจากไปกับเฮ่อหลาน พวกเขาได้ทำข้อตกลงกับพ่อม่ายหลี่คนนั้นแล้ว ถังซวงจะต้องแต่งงานกับเขาเมื่อถึงเวลา

เฮ่อหลานที่ไม่รู้ตัวในตอนแรก แต่เมื่อเห็นสัญญาณบางอย่างระหว่างแม่เฒ่าถังและถังเจี้ยนกั๋ว เธอก็นึกถึงสิ่งที่ลูกสาวคนโตพูดไว้ก่อนหน้านี้ทันทีพร้อมกับความรู้สึกเย็นยะเยือกในหัวใจ ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะหย่าในวันนี้ก็มากขึ้น เมื่อคิดดังนั้น เธอจึงรีบเร่งไปข้างหน้าโดยไม่แม้แต่จะคิด

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังซวงก็คว้าตัวเฮ่อหลาน

“แม่ ไม่ต้องรีบร้อน ยังไงก็ต้องหย่าในวันนี้” ในตอนท้าย ถังซวงเหลือบมองแม่ม่ายหลิว และความหมายในดวงตาของเธอก็ชัดเจน

แม่ม่ายหลิวสังเกตเห็นคำใบ้ของถังซวงโดยธรรมชาติ เธอกัดฟันและรีบไปหาถังเจี้ยนกั๋ว

“เจี้ยนกั๋ว คุณใจร้ายมาก คุณต้องการให้ฉันให้กำเนิดลูกของคุณโดยที่ฉันไม่มีตัวตนเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้น แสดงว่าคุณไม่ต้องการเด็กคนนี้แล้วสินะ” ในตอนท้ายของคำพูด แววตาที่เหี้ยมโหดฉายแววในดวงของเธอ

ถังเจี้ยนกั๋วตกใจเมื่อเห็นแม่ม่ายหลิวเช่นนี้และรีบปลอบโยน “หลิวเอ๋อร์ ฉันจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีแน่ เธอจะทำอะไรเด็กคนนี้ไม่ได้นะ”

“คุณก็พูดจาแบบนี้ตลอด ตอนนี้คุณยังไม่ยอมหย่าเลย จะดูแลฉันอย่างดีเหรอ? ฉันไม่เชื่อ” แม่ม่ายหลิวยังมีความสงสัยในสายตาของเธอ ถังเจี้ยนกั๋วคนนี้มักจะพูดจาไพเราะและใจดีกับเธอ เพราะงั้นเขาอาจโกหกก็ได้

ขณะที่ถังเจี้ยนกั๋วกำลังจะพูดอะไร แม่เฒ่าถังก็พูดจากด้านข้างว่า “ถ้าอย่างนั้นแกก็ทุบมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยไป ยังไงฉันก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเด็กในท้องเป็นลูกใคร” ด้วยความที่ถังไห่โปเป็นหลานชายคนโต เพราะงั้นแล้วเธอจะไม่สนใจหลานชายที่ยังไม่เกิดมากนัก ไม่ต้องพูดถึงว่าแม่เฒ่าถังสงสัยว่าแม่ม่ายหลิวเพียงต้องการใช้โอกาสนี้แต่งเรื่องขึ้นมาเองก็เท่านั้น

เมื่อแม่ม่ายหลิวได้ยินสิ่งนี้ เธอไม่ได้โต้เถียงกับแม่เฒ่าถัง แต่มองไปที่ถังเจี้ยนกั๋วอย่างเศร้าใจและพูดว่า “เจี้ยนกั๋ว คุณสงสัยฉันเหรอ? เพราะอย่างนั้นใช่มั้ยคุณถึงไม่ต้องการหย่าหรือคุณไม่อยากแต่งงานกับฉันใช่ไหม?”

“หลิวเอ๋อร์ ฉัน…ฉันไม่ ยังไม่อยากรีบหย่า และฉันจะแต่งงานกับเธอแน่เมื่อถึงเวลา”

เมื่อได้ยินคำพูดของถังเจี้ยนกั๋ว แม่ม่ายหลิวรู้สึกว่าเธอมองผิดไป

ถังเจี้ยนกั๋วมักจะโกหกเกี่ยวกับความรู้สึกของเขา เขารู้ว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกชาย แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะหย่า หากเป็นกรณีนี้ก็อย่าว่าว่าเธอโหดร้ายก็แล้วกัน

“เจี้ยนกั๋ว ถ้าคุณไม่หย่า ฉันจะป่าวประกาศให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้เรื่องของพวกเราสองคน ไม่ต้องมีใครมีความสุขทั้งนั้น ฉันตัวคนเดียวไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว แต่ทุกคนในตระกูลถังล่ะ? ลองคิดดูนะ”

“เป็นแค่นังแพศยา แต่กล้าขู่พวกเราเหรอ? แกมันนังตัวหายนะ!” แม่เฒ่าถังรีบวิ่งไปข้างหน้าในขณะที่เธอพูด ตั้งใจจะฉีกแม่ม่ายหลิวเป็นชิ้น ๆ

ใช่ว่าแม่ม่ายหลิวไจะยอมยืนอยู่เฉย ๆ เธอตะโกนออกไป

“ทุกคนมาดูสิ! ตระกูลถังจะฆ่าคนเพื่อปิดปาก…!”

ตามเสียงตะโกนของแม่ม่ายหลิว ทำให้ผู้คนต่างออกมาดู

หญิงชราไม่คาดคิดว่าแม่ม่ายหลิวจะกล้าทำถึงขนาดนี้ หากข่าวนี้แพร่ออกไป มันจะเป็นเหมือนรองเท้าที่ขาด แม้แต่ตนก็จะแย่ไปด้วย นังหญิงคนนี้มันบ้าไปแล้ว หญิงชราที่เห็นดังนั้นจึงรู้สึกตกตะลึงไม่น้อยและไม่รู่จะทำอะไรต่อไปดี

เมื่อมองไปที่เรื่องตลกข้างหน้า พ่อเฒ่าถังรู้สึกว่ามันยุ่งเหยิงเกินไปมาก แต่เขารู้ว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ให้คนอื่นรู้เด็ดขาด

“เอาละ ให้เธอเข้ามา เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างละเอียด”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *