การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 94 มีชื่อเสียง(รีไรท์)

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 94 มีชื่อเสียง(รีไรท์) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 94 มีชื่อเสียง(รีไรท์)

บทที่ 94 มีชื่อเสียง(รีไรท์)

เมื่อได้ยินคำพูดของพนักงานขาย ถังซวงก็ชะงักงัน

แม้แต่การแสดงออกของโม่เจ๋อหยวนก็ยังดูแข็งทื่อไปเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าพนักงานขายจะพูดแบบนั้น แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้อธิบายอะไร มองไปที่พนักงานขายแล้วพูดขึ้นว่า “ชุดนี้ราคาเท่าไหร่ครับ? เราจะซื้อเลย”

ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าปลายหูของโม่เจ๋อหยวนขึ้นสีแดงเล็กน้อย ซึ่งถังซวงไม่ได้สังเกต แต่พนักงานขายสังเกตเห็นชัดเจน ทำให้เธออดยิ้มไม่ได้ แล้วพูดว่า “ชุดนี้ราคาสามสิบห้าหยวน จะให้สาวน้อยคนใส่เลย หรือจะให้ฉันห่อดีคะ?”

“ใส่ไปเลยแล้วกันครับ”

โม่เจ๋อหยวนจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว จากนั้นหยิบเสื้อผ้าตัวเก่าของถังซวง และพาเธอออกจากร้านขายเสื้อผ้าด้วยกัน

“พี่โม่ พี่คนนั้นเข้าใจผิดแล้ว พวกเรา…”

แต่ก่อนที่ถังซวงจะพูดจบ โม่เจ๋อหยวนก็ขัดจังหวะ “ใช่ เธอเข้าใจผิด แต่ถ้าจะให้เราอธิบาย คนก็อาจไม่เชื่อ ยิ่งอธิบายก็เหมือนยิ่งปกปิด เป็นการดีกว่าที่จะไม่พูดอะไรเลยนะ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังซวงรู้สึกว่ามันอาจเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้ จึงไม่พูดอะไรต่อ

หลังจากนั้น โม่เจ๋อหยวนก็พาถังซวงไปเดินเล่น และก็ซื้อของขวัญให้หลี่จงอี้ด้วย “เราซื้อทุกอย่างครบแล้ว รีบกลับกันเถอะ”

เมื่อถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกลับมาที่ตำบลก็ดึกมากแล้ว

เมื่อเห็นพวกเขากลับมา หลี่จงอี้พูดทักท้วงว่า “ทำไมพวกเธอกลับมาช้าจัง” จากนั้นเขามองไปข้างหลังทั้งสองคนอย่างอยากรู้อยากเห็น และพบว่ามีคนกำลังซ่อนบางอย่างอยู่

“คุณปู่คะ เราซื้อจักรเย็บผ้าในอำเภอมาน่ะค่ะ เลยกลับมาดึกไปหน่อย”

ครั้งนี้พวกเขาจ้างคนขนจักรเย็บผ้ามาส่งที่บ้านด้วย และหลังจากวางของทุกอย่างแล้ว ถังซวงก็จ่ายเงินให้คนเหล่านั้น และก็กลับไป

“พี่สาว พี่ซื้อจักรเย็บผ้ามาแล้วหรือ? เร็วจัง แม่ต้องชอบมากแน่ถ้าแม่กลับมาเห็นมัน”

หลี่จงอี้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “ใช่ ยัยหนูซวงซื้อมันมาด้วยเงินรางวัลที่เธอได้มานี่ อาหลานต้องมีความสุขมากแน่ ว่าแต่เธอสองคนกินอาหารเย็นแล้วหรือยัง?”

“ยังเลยค่ะ”

ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนรีบกลับมาหลังจากซื้อของเสร็จทันทีโดยยังไม่ทันได้กินอะไร

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังเซวี่ยพูดอย่างเร่งรีบว่า “พี่สาว พี่ชายโม่ นั่งลงเร็ว อาหารเย็นทำเสร็จแล้ว ฉันจะไปเอามาให้นะ”

หลังจากถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนทานอาหารเสร็จก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว ทุกคนจึงแยกย้ายกลับบ้านของตน และพักผ่อนทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ

วันรุ่งขึ้น ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนอย่างเคย

แต่ทันทีที่พวกเธอเดินเข้าโรงเรียน ถังซวงสังเกตเห็นว่าหลายคนกำลังมองมาที่พวกเขา คนเหล่านี้ชี้มาที่เธอและพูดอะไรบางอย่างอย่างตื่นเต้น และบางคนก็มองไปที่โม่เจ๋อหยวนด้วยสีหน้าตื่นเต้นเหมือนกับที่มองเธอ

ถังซวงไม่ได้สนใจมันมากนัก และเดินตรงไปข้างหน้าต่อ

โม่เจ๋อหยวนไปส่งสองพี่น้องไปที่ประตูห้องเรียนแล้วไปที่ห้องเรียนของเขาเอง

“ถังซวง… ถังซวง…”

ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องเรียน ถังซวงก็ได้ยินใครหลายคนในชั้นเรียนเรียกเธอ

“ว้าว… ถังซวง เราทุกคนได้ยินมาว่าเธอชนะที่หนึ่งในการแข่งขันคณิตศาสตร์ด้วยคะแนนเต็ม เธอคือความภาคภูมิใจของชั้นเรียนของเราจริง ๆ เธอเก่งมากเลย รู้ไหมว่าตอนนี้เธอดังมากเลยนะ ทุกคนต่างก็รู้ว่ามีนักเรียนชื่อถังซวงอยู่ในชั้นเรียนของเรา”

จงเฟยเฟยหันกลับมาพูดด้วยความตื่นเต้นและกรีดร้องกับความสำเร็จขอถังซวง

แม้แต่ใบหน้าของซิงเสี่ยวเฟยก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน “ถังซวง เธอน่าทึ่งจริง ๆ เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้พวกรุ่นพี่กำลังพูดถึงเธอด้วย เธอทำได้ดีกว่ารุ่นพี่สองคนที่เข้าร่วมการแข่งขันซะอีก ทุกคนคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก”

แม้ว่านักเรียนในชั้นเรียนจะตื่นเต้นมาก แต่การแสดงออกของถังซวงก็ยังคงเฉยเมยเช่นเคย

“อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ฉันเคยทำข้อสอบมาเยอะน่ะ”

ในเวลานี้ อาจารย์ประจำชั้นฮั่วไห่เหล่ยเดินเข้ามา และเมื่อเห็นบรรยากาศในห้องเรียน เขาก็อดยิ้มไม่ได้ “ดูเหมือนว่าทุกคนในชั้นเรียนของเราจะรู้ว่าถังซวงได้รับรางวัลแล้วสินะ ก่อนอื่นเลย เราขอแสดงความยินดีกับเธอด้วยนะ”

ทั้งชั้นปรบมือพร้อมกัน

“เอาล่ะ เรายังมีเรียนต่อไป ดังนั้นพวกเธอรีบนั่งลงได้แล้ว” หลังจากที่ฮั่วไห่เหล่ยหยิบหนังสือเรียนและแผนการสอนออกมา เขาก็เขียนหัวข้อที่จะสอนในวันนี้บนกระดานดำ แล้วพูดว่า “นักเรียนถัง คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ของเธอดีมาก เป็นผลมาจากความพยายามด้วย ดังนั้นทุกคนควรเรียนรู้จากเธอและพยายามทำคะแนนให้สูงขึ้นนะ”

“ครับ/ค่ะ”

เนื่องจากพวกเขารู้ข่าวเกี่ยวกับรางวัลของถังซวง และข่าวเกี่ยวกับรางวัลในการแข่งขันระดับอำเภอ ความกระตือรือร้นของนักเรียนในชั้นเรียนจึงสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจากชั้นเรียนคณิตศาสตร์จบลง ถังซวงก็เดินตามฮั่วไห่เหล่ยออกจากห้องเรียนและขอลาในวันพรุ่งนี้

“อาจารย์คะ พรุ่งนี้ฉันมีเรื่องต้องทำ จึงจะขอลาหนึ่งวันค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮั่วไห่เหล่ยก็ตกลงโดยไม่ต้องคิด “ได้สิ เธอมาที่สำนักงานกับฉันเพื่อเขียนบันทึกก่อนก็ได้”

ถังซวงพยักหน้าเมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้น และกลับไปที่ห้องเรียนหลังจากที่เธอเขียนบันทึกการลาเรียนเสร็จแล้ว

เหลี่ยวไช่เฉียที่นั่งถัดจากฮั่วไห่เหล่ย หลังจากรู้ว่าถังซวงขอลา เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พอได้รางวัลในการแข่งขันมาก็อยากพักผ่อนซะแล้ว อวดดีเกินไปหรือเปล่า?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮั่วไห่เหล่ยก็ขมวดคิ้วทันที

“คุณเหลี่ยว ถังซวงบอกว่าเธอมีธุระที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้ เธอมาขอลาเพราะติดธุระ ทำไมคุณถึงบอกว่าเธออยากพักผ่อนล่ะ? คุณสงสัยนักเรียนโดยที่ไม่รู้อะไรเลย นี่ไม่ใช่ทัศนคติที่อาจารย์อย่างเราควรมีนะ”

“ฉัน…”

เหลี่ยวไช่เฉียไม่คาดคิดว่าฮั่วไห่เหล่ยจะตอกกลับเธออย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้ เธอรู้สึกโกรธขึ้นมา แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ กริ่งชั้นเรียนก็ดังขึ้น

“คุณเหลี่ยว ชั้นเรียนต่อไปเป็นชั้นเรียนภาษาจีนของคุณ ทำไมไม่รีบไปที่ห้องเรียนล่ะ?”

“หึ… ฉันจะไปแล้ว”

เหลี่ยวไช่เฉียพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จากนั้นตรงไปที่ห้องเรียนพร้อมหนังสือเรียนและแผนการสอน

ในชั้นเรียนภาษาจีน ถังซวงเป็นคนที่ถูกมุ่งเป้าเป็นพิเศษ เธอมักถูกเรียกให้ตอบคำถามเสมอ แต่ถึงยังไง คำถามเหล่านี้ก็ง่ายมาก ดังนั้นเธอจึงตอบได้อย่างง่ายดาย

แต่ด้วยเหตุนี้ สีหน้าของเหลี่ยวไช่เฉียกลับบูดบึ้งจนน่าเกลียด

นักเรียนคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าอาจารย์สอนภาษาจีนคนนี้ไม่ชอบถังซวง แต่อาจารย์ก็คืออาจารย์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถามอะไรมาก

เมื่อชั้นเรียนภาษาจีนจบลง ทุกคนต่างโล่งใจ แต่เหลี่ยวไช่เฉียที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้นค่อนข้างดูจะไม่พอใจมาก

ด้านถังซวงเองก็ไม่รู้สึกอะไร เธอพาถังเซวี่ยกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียน

“พี่สาว อาจารย์เหลี่ยวคนนั้นไม่ชอบพี่หรือเปล่า? ทำไมเขาชอบถามคำถามพี่ตลอดเลย”

เมื่อได้ยินดังนั้น ถังซวงจึงพูดตรง ๆ ว่า “อาจารย์คงมีเหตุผลที่ทำแบบนั้นแหละ อย่าพูดถึงเรื่องไร้สาระเลย”

“อื้ม ฉันเข้าใจแล้ว”

ถังเซวี่ยมักจะฟังคำพูดของถังซวงเสมอ ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรอีก แต่พูดด้วยความเสียใจว่า “พรุ่งนี้ฉันก็อยากไปหมู่บ้านหลู่ฮวากับพี่ด้วย แต่น่าเสียดายที่ฉันต้องไปโรงเรียน เฮ้อ…” พี่สาวเธอผลคะแนนดีมาก เรียนรู้ทุกอย่างในตำราเรียนหมดแล้ว แต่เธอไม่ใช่ เธอเลยไม่ได้ขอลาด้วย เพราะยังไงซะ พี่สาวก็ไม่ยอมให้เธอไปด้วยแน่

“พรุ่งนี้ฉันจะกลับมาเร็ว ๆ นะ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *