การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 562 หัวเทียนอวี้

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 562 หัวเทียนอวี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 562 หัวเทียนอวี้

บทที่ 562 หัวเทียนอวี้

เมื่อเห็นว่าคนตระกูลหัวมาถึงเกือบหมดแล้ว หัวเทียนจางพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะโบกมือให้ถังหลาน “อาหลาน มานี่เร็ว”

ถังหลานและจิงเจ้อหรงเดินนำหน้า ขณะที่ถังซวง ถังเซวี่ย โม่เจ๋อหยวน และเฟิงเยี่ยหานเดินตามหลัง

จากนั้นหัวทียนจางเริ่มแนะนำพวกเขาแล้ว

“นี่คือลูกสาวที่เฟยเฟิ่งกับคุนหาวตามหาอย่างยากลำบาก ถังหลาน ส่วนนี่คือสามีของถังหลาน ชื่อว่าจิงเจ้อหรงสาวสวยทั้งสองคนด้านหลังคือลูกสาวสองคนของอาหลาน ชื่อว่าถังซวงกับถังเซวี่ย และชายหนุ่มทั้งสองคนนั้นเป็นคู่หมั้นของซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ย” แม้ถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานยังไม่ได้หมั้นหมาย แต่เมื่อมองจากความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้วก็คงจะอีกไม่นานนัก ดังนั้นหัวเทียนจางจึงกล่าวออกไปอย่างเรียบง่ายว่าทั้งสองเป็นคู่หมั้นกัน

ทุกคนในตระกูลหัวอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อได้พบเจอกับครอบครัวของถังหลาน บางคนถึงกับลอบกระซิบกระซาบ

“โอ้สวรรค์! นั่นลูกสาวของเฟยเฟิ่งงั้นหรือ? ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอน่าจะอายุสักสามสิบเกือบสี่สิบแล้วหรือเปล่า? ทั้งที่เติบโตที่ด้านนอกแต่กลับมีชีวิตที่ดี ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูคล้ายกับเด็กสาวอายุยี่สิบอย่างไรอย่างนั้น”

บางคนกล่าวออกมาอย่างริษยา “เธอสวยจัง ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น แต่สามีก็ยังดูหนุ่มและหล่อมาก และไม่ต้องพูดถึงลูกสาวสองคนนั้นเลย แถมเขยของครอบครัวก็ดูดี พวกเขาเหมาะสมกันจริง ๆ”

“ใช่ พวกเขาหน้าตาดีมาก แต่เฟยเฟิ่งกับสามีก็หน้าตาดีไม่แพ้กัน ไม่แปลกที่พวกเขาจะดูดีได้ขนาดนี้”

ขณะที่ทุกคนกำลังกล่าวกระซิบกระซาบ ชายวัยกลางคนที่คล้ายคลึงกับหัวเทียนจางเดินเข้ามาพร้อมกับหัวเราะ “พี่ใหญ่ นับว่าเป็นงานเลี้ยงที่ยอดเยี่ยม” ขณะพูดอย่างนั้นเขาหันกลับมามองหัวเฟยเฟิ่ง “หลานสาวคนโต ยินดีด้วยจริง ๆ ที่เธอได้พบเจอกับลูกสาวของตนเองเสียที”

“ขอบคุณค่ะอารอง”

หัวเฟยเฟิ่งตอบกลับคำเบา ก่อนจะหันมองถังหลานแล้วกล่าวแนะนำ “อาหลาน อาเจ้อ นี่คือคุณตารองของพวกลูก หัวเทียนอวี้”

“สวัสดีค่ะคุณตารอง”

ถังหลานและจิงเจ้อหรงกล่าวออกมาพร้อมกันด้วยท่าทีสุภาพ และถังซวง ถังเซวี่ย โม่เจ๋อหยวน เฟิงเยี่ยหานที่อยู่ด้านหลังก็กล่าวทักทายด้วยเช่นกัน

“อ่า เฟยเฟิ่ง… หลานสาวสองคนของเธอสวยมาก แต่ทำไมพวกเธอถึงหมั้นหมายรวดเร็วขนาดนี้ล่ะ ถึงจะเติบโตที่โลกภายนอก แต่มีรูปร่างหน้าตาที่ยอดเยี่ยม น่าจะหาคู่ครองได้ดีกว่านี้อีกนะ”

ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของหัวเฟยเฟิ่งเปลี่ยนเป็นเย็นชา

ใบหน้าของผู้คนในครอบครัวถังหลานเองก็บูดบึ้งเช่นกัน ส่วนโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานหันมองหัวเทียนอวี้ตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์

แต่หัวเทียนอวี้กลับไม่คิดว่าตนพูดอะไรผิดไป ขณะที่เขากำลังจะอ้าปากกล่าวต่อ หัวเฟยหลงกลับหยุดเขาเอาไว้ก่อน “อารองครับ ทุกคนรอกินข้าวอยู่ การพูดคุยกับพี่หญิงใหญ่และคนอื่น ๆ ตอนนี้มีแต่จะทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปหมดนะครับ”

หัวเทียนอวี้หันมองหัวเฟยหลงด้วยแววตาคาดเดายาก “อืม ไปกินข้าวกันเถอะ” หลังพูดจบเขาเรียกคนในครอบครัวของเขาแล้วเดินไปด้านหน้า

ยังไงก็ตาม หญิงวัยกลางคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ หัวเทียนอวี้มองหัวเฟยหลงด้วยความอ่อนโยน ในแววตานั้นเปี่ยมด้วยความรักอย่างลึกซึ้งยากจะอธิบาย

ถังซวงที่เห็นอย่างนั้น เธออดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วสูง และรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคุณตารองกับหัวเทียนอวี้นี้ค่อนข้างไม่ธรรมดา

ไม่นานนัก ถังซวงก็ได้รู้บางอย่าง

หัวเฟยหลงเป็นลูกชายในสายเลือดของหัวเทียนอวี้ และผู้หญิงที่มองหัวเฟยหลงคือแม่ผู้ให้กำเนิดเขา แต่เพราะหัวเทียนจางมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือหัวเฟยเฟิ่ง เมื่อครั้งที่หัวเฟยเฟิ่งยังเด็ก หัวเทียนอวี้จึงยกบุตรชายของเขาให้กับหัวเทียนจาง ดังนั้นหัวเฟยหลงจึงกลายเป็นบุตรชายของผู้นำตระกูล

เมื่อได้ทราบอย่างนั้น ถังซวงก็หันมองหัวเฟยหลง

พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทั้งสองคนอยู่ตรงหน้า แม้หัวเฟยหลงจะถูกเลี้ยงดูจากหัวเทียนจางตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็ยังเป็นบุตรชายในครอบครัวรอง แล้วอย่างนั้นหัวเฟยหลงจะผูกพันกับครอบครัวไหนกันแน่?

หัวเทียนจางรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่น้องชายของตนพูดกับถังซวงและถังเซวี่ยมาก

“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย สำหรับตาทวดรองของเหลน…” เขาไม่รู้เลยว่าควรจะพูดมันออกไปยังไงดี เพราะเขาเองก็ไม่ชอบหัวเทียนอวี้มากนัก “ในอนาคตอย่าไปพูดคุยกับพวกเขาให้มากนัก”

ได้ยินอย่างนั้นหัวเฟยเฟิ่งรีบตอบกลับทันทีว่า “เราจะไม่โต้ตอบกับเขาค่ะ แต่ที่อารองกล่าวออกมานั้นไม่ถูกต้อง เจ๋อหยวนกับเสี่ยวเยี่ยอดทนเก่งมากที่ไม่ทุบตีใครสักคน”

โม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานเห็นด้วยกับคำเหล่านี้มาก พวกเขาเกือบห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่ แต่ทั้งสองเพิ่งเข้าสู่ตระกูลหัวมา หากทำอะไรบุ่มบ่ามมันอาจจะส่งผลกระทบต่อถังหลานและคนอื่น ๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ทำอะไรหัวเทียนอวี้

หัวเทียนจางได้ฟังคำพูดที่ตรงไปตรงมาของลูกสาว ก็กล่าวคำอย่างอดไม่ได้ “เฟยเฟิ่ง เบาเสียงลงหน่อยเถอะ อย่าให้เฟยหลงได้ยิน”

หัวเฟยเฟิ่งฟึดฟัดอยู่ในใจ

แต่หัวเฟยหลงเป็นคนดีจริง ๆ เธอจึงไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยังไงเธอก็ไม่ค่อยชอบครอบครัวของอารองเท่าไหร่นัก แต่ว่าหัวเฟยหลงเป็นน้องชายของเธอ ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน และเธอก็ยินดีที่จะอยู่ข้างเขา “ค่ะ หนูจะไม่พูดแล้ว”

ขณะนั้นเองหัวเฟยหลงเดินเข้ามาพอดี

“พ่อครับ ทุกคนมากันพร้อมแล้ว เราพาอาหลานกับคนอื่น ๆ ไปทำความรู้จักพวกเขาดีกว่า”

หัวเทียนจางยกยิ้มและพยักหน้ารับ “อื้ม ฉันจะพาอาหลานกับคนอื่น ๆ ไปฉลองด้วยกันทีหลัง”

เมื่อถึงเวลาทานอาหาร หัวเทียนจางก็พาครอบครัวของอาหลานไปดื่มอวยพรที่โต๊ะอาหาร และแนะนำให้ตระกูลหัวรู้จักกับถังหลานและคนอื่น ๆ

เมื่อมาถึงโต๊ะของหัวเทียนอวี้ หัวเทียนจางกล่าวอย่างกระชับ “อาหลาน หลานเคยพบกับคุณตารองของหลานแล้ว ส่วนคนที่นั่งถัดจากเขาคือคุณยายรองของหลาน เฟิงย่าอิง ส่วนนั่นคือลูกชายคนโตและลูกสะใภ้ของพวกเขา หัวโย่วเฉิง อันเปาอิง และลูกสาวชื่อ หัวอวี้เหวิน”

ถังซวงเองไม่มีความประทับใจอะไรต่อหัวเทียนอวี้อยู่แล้ว เธอจึงกล่าวทักทายด้วยสีหน้าเรียบเฉย

แม้แต่จิงเจ้อหรงเองก็ยังเย็นชา ไม่ต้องกล่าวถึงถังซวง ถังเซวี่ย โม่เจ๋อหยวน และเฟิงเยี่ยหานเลย

ใบหน้าของหัวเทียนอวี้เคร่งขรึมเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นชาของครอบครัวถังหลาน “พี่ใหญ่ ทำไมพี่ถึงไม่สั่งสอนพวกเขาให้ดีก่อนจะมาที่นี่ล่ะ ดูท่าทางของพวกนี้เสียสิ ไร้มารยาทสิ้นดี”

หัวเทียนจางเองก็รู้สึกหงุดหงิดเช่นกัน แม้จะอดทนเพื่อเห็นแก่ใบหน้าของหัวเฟยหลงก็ตาม แต่ก่อนที่หัวเทียนจางจะกล่าวอะไรต่อ ถังซวงกลับก้าวไปด้านหน้า ยกยิ้มเย้ยหยัน “คุณตาทวดคิดว่าตัวเองเป็นใครกันคะถึงกล้าพูดแบบนี้ออกมา ความจริงแล้วฉันไม่อยากจะใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ถ้าคุณคิดจะสร้างปัญหาให้กับพวกเรา ฉันก็จะไม่ยอมเหมือนกัน”

ทันทีที่กล่าวจบ ร่างที่น่าสะพรึงหลายร่างก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเธอ

“ผู้นำตระกูล โปรดออกคำสั่งด้วยครับ”

ทั้งหมดนี้คือผู้คุ้มกันลับที่มากด้วยทักษะ พวกเขาซ่อนตัวในความมืดและมาที่ตระกูลหัวเพื่อปกป้องถังซวง และไม่คิดเลยว่าจะได้ปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่มาถึง…

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด