การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 586 เสียใจเมื่อสายไป

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 586 เสียใจเมื่อสายไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 586 เสียใจเมื่อสายไป

บทที่ 586 เสียใจเมื่อสายไป

เยี่ยฉงกังวลมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพานลี่ฮวา เธอก้มศีรษะลงยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินที่ถังซวงกล่าว เธออดไม่ได้ที่จะอารมณ์ขึ้น

“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ฉันต้องออกไปจากที่นี่เพียงเพราะคุณบอกว่าไล่ออกงั้นหรือ? นี่มันเป็นเรื่องภายในร้านของพวกเรา เราจะจัดการมันเอง พวกคุณสองคนน่ะรีบออกไปซะ!”

ก่อนหน้านี้พานลี่ฮวายังคงลังเลใจ แต่เมื่อได้ยินถ้อยคำที่เยี่ยฉงพูดออกมา เธอก็ตัดสินใจได้ทันที

“ซวงเอ๋อร์พูดถูกแล้ว พนักงานต้อนรับอย่างนี้ควรจะไล่ออกไปดีกว่า”

พานลี่ฮวามองเยี่ยฉงด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “และแน่นอนว่าถังซวงมีคุณสมบัติที่จะไล่เธอออก เพราะเธอคือเจ้าของบริษัทเครื่องสำอางซวงฮวานี้ไงล่ะ หึ… เธอนี่เก่งจริง ๆ ข่มเหงคนอื่น แล้วยังสามารถข่มเหงเจ้านายของตัวเองได้ด้วย จำไว้ให้ดีแล้วก็รีบเก็บข้าวของกลับบ้านไปได้แล้ว”

“อะ… อะไรนะ… เป็นไปได้ยังไง?”

เยี่ยฉงประหลาดใจ “คุณพานเป็นเจ้าของบริษัทไม่ใช่หรือคะ? แล้วทำไมคุณถึงบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเจ้าของบริษัทที่สามารถไล่ฉันออกได้”

พานลี่ฮวาได้ยินก็ยิ่งโกรธจัด

“เธอเข้ามาทำงานที่นี่คงจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยสินะ ไม่รู้หรือว่าบริษัทซวงฮวามีเจ้าของสองคน? ฉันเป็นหนึ่งในนั้น และอีกหนึ่งคนคือถังซวงซึ่งเป็นหลานสาวของฉัน เธอไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องพื้นฐานที่สุด งั้นไม่ต้องกล่าวถึงการต้อนรับลูกค้าเลย ดูจากน้ำเสียงของเธอตอนนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเธอคุยกับลูกค้ายังไง ถ้าหากเธอทำแบบนี้ต่อไป เราก็จะเสียลูกค้าจำนวนมาก”

พนักงานต้อนรับที่ไม่กล้าพูดในคราวแรก เมื่อเห็นว่าเยี่ยฉงถูกไล่ออก ทั้งหมดก็เริ่มบอกพฤติกรรมของเยี่ยฉงทันที

“เจ้าของร้านคะ เยี่ยฉงชอบเหยียดหยามคนต่ำต้อยและชอบประจบประแจงคนรวย ถ้าหากเป็นเหล่าคนรวยเดินเข้ามา เธอจะกระตือรือร้นไปขาย แต่ถ้าหากใครแต่งตัวธรรมดา เธอก็จะเหยียดหยามพวกเขาและไล่ออกไป นอกจากนี้เธอยังชอบรังแกน้องใหม่ในร้านด้วยค่ะ ซุนเฉียนซีถูกเธอไล่ออกทุกวัน และยังบอกอีกว่าทุกอย่างในร้านแห่งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอ เธอสามารถไล่ใครออกก็ได้”

ซุนเฉียนซีเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟัง และกล่าวเสริมว่า “เพราะฉันขายเครื่องสำอางได้มาก เยี่ยฉงเลยหันมารังแกฉัน ข่มขู่ฉันทุกวัน เธอต้องการไล่ฉันออกและวันนี้เธอยังขับไล่ฉันต่อหน้าคุณถังด้วยค่ะ”

ถังชุนหยานพยักหน้า “เยี่ยฉงคนนี้เป็นคนใช้ไม่ได้ ทัศนคติก็บิดเบี้ยว เรียกว่าไร้มารยาทเลยละ”

พานลี่ฮวาสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความโกรธ “อยู่ต่อหน้าฉันเธอเป็นอีกอย่าง อยู่ต่อหน้าคนอื่นเธอเป็นอีกอย่าง เธอปิดบังมันไว้ได้ดีจริง ๆ ฉันเสียใจที่ใจอ่อนให้ยอมรับคำขอของพี่สะใภ้ให้เธอเข้ามาทำงานในร้านของฉัน โชคดีที่วันนี้ฉันได้รู้ เอาละ ออกไปซะ พวกเราไม่ต้องการพนักงานแบบเธอ!”

เยี่ยฉงรีบปกป้องตัวเองทันที “เจ้าของร้านคะ พวกเขาแค่อิจฉาฉันค่ะ ความจริงแล้วฉันไม่ใช่คนอย่างนั้นนะคะ พวกเขาใส่ร้ายฉัน ทั้งหมดนี้ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ นะคะ”

พานลี่ฮวาหัวเราะ “เธอคิดว่าฉันจะเชื่อหรือ?”

จากนั้นเธอสั่งให้คนมาพาตัวเยี่ยฉงออกไป

“เจ้าของร้าน เจ้าของร้านคะ ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว อย่าไล่ฉันออกเลยนะ…” เยี่ยฉงตะโกนเสียงดัง แต่ไม่มีใครคิดสนใจเธอเลย

ในบรรดาพนักงานต้อนรับที่เหลือ มีหลายคนที่เพิ่งช่วยเยี่ยฉงในการขับไล่ลูกค้า เวลานี้คนเหล่านั้นเงียบกริบ พร้อมหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกไล่ออก แน่นอนว่าคนเหล่านี้เกลียดชังเยี่ยฉงมาก หล่อนไม่ใช่หลานสาวของเจ้าของร้านด้วยซ้ำ แต่หล่อนก็ยังกล้าวางก้าม ไปเอาความกล้าอย่างนี้มาจากไหนกัน

หลังจากเยี่ยฉงถูกไล่ออกไปแล้ว ถังซวงหันมองพนักงานต้อนรับที่สนับสนุนเยี่ยฉงก่อนหน้านี้

แต่เธอไม่คิดจะพูดอะไร ปกติแล้วร้านแห่งนี้เป็นพานลี่ฮวาที่บริหารจัดการ และคงจะไม่ดีนักหากเธอเข้าไปยุ่งวุ่นวาย ยิ่งไปกว่านั้นเธอควรเชื่อใจการบริหารของพานลี่ฮวาด้วย

ถังซวงหยุดคิดเรื่องนี้ก่อนจะหันมองซุนเฉียนซี “แนะนำฉันหน่อยสิ”

ซุนเฉียนซีถึงกับตกตะลึง หลังเธอเข้ามาทำงานในนี้ เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับบริษัท แม้เจ้านายถังซวงตรงหน้าจะเด็กมาก แต่เธอก็รู้ว่าทุกอย่างที่นี่ขึ้นอยู่กับหญิงสาวตรงหน้า หากไม่มีถังซวง ก็คงไม่มีเครื่องสำอางที่ยอดเยี่ยมและน่ามหัศจรรย์ และเป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทจะเติบโตมาได้ไกลอย่างทุกวันนี้

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดล้วนแต่ทำขึ้นโดยถังซวง เธอจึงทราบถึงข้อมูลของพวกมันเป็นอย่างดี ทำไมยังขอให้แนะนำด้วยล่ะ?

แม้ว่าจะแปลกใจสักหน่อย แต่ซุนเฉียนซีก็ไม่เปิดเผยผ่านสีหน้าแต่อย่างใด เธออธิบายให้ถังซวงเข้าใจถึงกระบวนการดูแลของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และผิวที่ควรใช้อย่างละเอียด ทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเขาควรซื้อผลิตภัณฑ์ตัวไหน

หลังจากซุนเฉียนซีกล่าวจบ ถังซวงพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “อื้ม แนะนำได้ดีนี่”

ซุนเฉียนซีดีใจเพราะได้รับคำชมจากถังซวง เวลานี้เธอพยายามอย่างหนักเพื่อเก็บอารมณ์ แต่มันก็ไม่อาจปกปิดได้หมด

พานลี่ฮวาเหลือบมองซุนเฉียนซีด้วยความประหลาดใจ เธอรู้ว่ามีพนักงานใหม่สาวสวยอยู่ในร้าน แต่เธอไม่คิดสังเกตเห็นมาก่อนและไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีความเป็นมืออาชีพกว่าพนักงานเก่า ๆ หลายคน เธออดไม่ได้ที่จะกล่าวชมเชย “ทำได้ดี รักษาความดีนี้เอาไว้นะ”

“ค่ะ ขอบคุณเจ้าของร้าน ฉันจะตั้งใจทำงานค่ะ”

สายตาของพนักงานต้อนรับคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความอิจฉา ซุนเฉียนซีไม่เพียงแต่ไม่ถูกไล่ออก แต่ยังได้รับคำชมจากเจ้าของร้านทั้งสองคนด้วย

แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะเจ้าของร้านทั้งสองมาถึงที่ร้าน ส่วนพวกเขารู้จักกับพานลี่ฮวาคนเดียว เพิ่งเคยพบเจอกับถังซวงเป็นครั้งแรก เลยไม่รู้ว่าถังซวงเป็นคนแบบไหน แต่สิ่งที่พวกเขาทราบแน่ชัดก็คือ… ถ้าหากหล่อนก้าวขาเข้ามาในนี้แล้วสามารถไล่เยี่ยฉงออกได้อย่างง่ายดาย หล่อนย่อมไม่ใช่คนใจอ่อนแน่นอน

ถังซวงหันกลับไปหาพานลี่ฮวา“คุณป้าคะ พนักงานในร้านจะต้องผ่านการฝึกฝนด้วย พวกเขาไม่สามารถเริ่มงานได้โดยไม่รู้อะไรเลย จะได้ไม่กลายเป็นตัวตลกของลูกค้า”

พานลี่ฮวาพยักหน้ารับทันที “จ้ะ ป้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง และจะไม่ให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก”

ถังซวงไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่หันหลังเดินออกไป “คุณป้าคะ เราไปร้านอื่นกันเถอะค่ะ”

“จ้ะ”

พานลี่ฮวาพยักหน้ารับ ก่อนจะหันกลับมาพูดสองสามคำ “ดูแลร้านให้ดีล่ะ หากมีลูกค้าเข้ามาอย่าทำผิดพลาดแบบนั้นอีก” หลังจากนั้นเธอหันมาพูดกับซุนเฉียนซี “ตั้งใจทำงานนะ แล้วถ้ามีปัญหาอะไรให้ติดต่อฉันโดยตรง”

ซุนเฉียนซีพยักหน้ารับ “ค่ะเจ้าของร้าน!”

เห็นความใจดีของพานลี่ฮวาที่มีต่อซุนเฉียนซีแล้ว สายตาของคนอื่นยิ่งเผยความอิจฉาริษยาออกมา ทำไมพวกเขาจึงไม่ก้าวออกไปต้อนรับถังซวงและถังชุนหยานด้วยตัวเองนะ บางทีหากพวกเขาทำแบบนั้น คำชมเชยและความไว้วางใจนี้อาจจะเป็นของตนเอง…

น่าเสียดายที่กว่าจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด