การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 595 ตอบรับ
บทที่ 595 ตอบรับ
บทที่ 595 ตอบรับ
พอได้ยินว่าฉีเสียนยอมรับแล้ว ถังซวงจึงนัดวันเวลา
“พรุ่งนี้เช้าฉันจะมารับ แล้วเราจะไปดูสถานที่ทำงานพร้อมกัน ถ้าพี่คิดว่ามันเหมาะสม พรุ่งนี้พี่ก็เริ่มงานได้เลย”
ใบหน้าของฉีเสียนเผยความประหลาดใจออกมา
“พรุ่งนี้เราจะไปที่นั่นหรือ?”
“ใช่”
ถังซวงไม่ชอบที่จะผัดวันประกันพรุ่ง หากสามารถจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้ทันที เธอจะรีบจัดการมันให้เสร็จ
เดิมทีฉีเสียนไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง เขาจึงรู้สึกว่าเธอจริงจังและเขาอาจจะได้ทำงานประจำสักที
เหยาหงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
“ถังซวง พรุ่งนี้เธอจะพาเขาไปหางานจริงหรือ? จะรบกวนเธอหรือเปล่า?”
ถังซวงส่ายศีรษะ “ไม่รบกวนอะไรเลย ฉันจะมีความสุขมากถ้าหากว่าพี่เขยสามารถทำงานที่นั่นได้”
เหยาหงรู้ว่าถังซวงไม่โกหกและงานที่อีกฝ่ายแนะนำจะต้องดีมากแน่นอน แต่เธอจะไม่ตัดสินใจแทนสามี และปล่อยให้สามีไปดูงานนั้นด้วยตัวเองก่อน
หลังกล่าวจบแล้ว ถังซวงตรวจสอบชีพจรของเสี่ยวซีอีกครั้ง
เหยาหงและฉีเสียนเป็นห่วงฉีซีมากที่สุด ทั้งสองกลั้นหายใจเพราะกังวล อยากรู้ว่าลูกชายของพวกตนเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากนั้น ถังซวงดึงมือกลับ เมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของเหยาหงและสามี เธอรีบกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลหรอก เสี่ยวซีสบายดี เดี๋ยวฉันจะเขียนใบสั่งยาให้เขาอีก” หลังพูดจบ ถังซวงก็เขียนใบสั่งยาแล้วยื่นให้เหยาหง “กินยาตามนี้ จัดยาให้เขากินสักเก้าวันนะ”
“ตกลง ๆ”
เหยาหงหยิบใบสั่งยามาอ่าน แล้วเก็บเข้าที่
เห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ถังซวงจึงลุกขึ้น คิดจะกลับออกไปก่อน
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านยืนขึ้นด้วยเช่นกัน “เหยาหง พวกเรากลับก่อนนะ”
เหยาหงลุกไปส่งพวกเธอที่ประตู
“ส่งแค่นี้พอแล้วเหยาหง แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมารับนะ”
เหยาหงพยักหน้ารับทันที
วันรุ่งขึ้น ถังซวงมาที่นี่อีกครั้ง
“ถังซวง เธอมาแล้ว”
ทันทีที่เหยาหงเห็นถังซวง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสี่ยวซีเองก็ดีใจมาก “น้าถัง ผมกินยาตามที่น้าบอก ตอนนี้ผมแข็งแรงแล้วครับ”
ถังซวงลูบศีรษะน้อย ๆ ของเสี่ยวซีแล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวซีของน้าเก่งที่สุด” ขณะพูด เธอยื่นผลไม้ที่ซื้อมาให้กับเหยาหงแล้วถามว่า “พี่เขยอยู่ไหนหรือ?”
เดิมทีเหยาหงคิดปฏิเสธผลไม้เหล่านี้ แต่เมื่อได้ยินคำถามของถังซวง เธอก็รีบเอ่ยปาก “อาเสียนไปออกกำลังกายน่ะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้วละ”
ขณะพูด ฉีเสียนก็กลับมาพอดี เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าถังซวงมาที่นี่แต่เช้า “จะไปตอนนี้เลยหรือ?”
ถังซวงพยักหน้ารับ “ใช่ ไปกันเลยค่ะ”
ร่างกายของฉีเสียนชุ่มไปด้วยเหงื่อ เห็นชัดว่าเขาเพิ่งออกกำลังกายมา พอได้ยินถังซวงตอบอย่างนั้นเขารีบเอ่ยปาก “อย่างนั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
“ค่ะ”
หลังจากฉีเสียนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ถังซวงพาเขาไปที่บ้านของเปาลี่ผิง
ทันทีที่เปาลี่ผิงเห็นถังซวงมาเยี่ยม เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “ท่านผู้นำโถง ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้ครับ?”
ฉีเสียนเดินตามถังซวงมาและได้ยินว่าเปาลี่ผิงพูดคุยกับถังซวงอย่างไร ร่างกายของเขาแข็งทื่อไปทันที ผู้นำโถง? ถังซวงเป็นผู้นำโถงหรือ? ถังซวงไม่ใช่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยหรอกหรือ? แล้วนี่เป็นโถงแบบไหนกัน?
เปาลี่ผิงเห็นฉีเสียนแล้ว เขามองดูฉีเสียน และเอ่ยปากถาม “ท่านผู้นำโถง แล้วนี่ใครหรือครับ?”
“เดี๋ยวไปคุยกันข้างใน”
“โอ้ ครับ ๆ มาคุยกันด้านในเถอะ” เปาลี่ผิงรีบเชิญพวกเขาเข้าไปด้านใน
หลังจากถังซวงนั่งลง เธอแนะนำให้ฉีเสียนรู้จักกับเปาลี่ผิง “ลี่ผิง นี่ฉีเสียน” ขณะพูดอย่างนั้น เธอหันมองฉีเสียนแล้วพูดขึ้นว่า “คนนี้คือเปาลี่ผิง และฉันอาจจะให้พี่มาอยู่กับเขาในอนาคต พวกคุณจะได้ร่วมงานกัน” หากฉีเสียนยอมอยู่ เขาจะต้องทำงานร่วมกับเปาลี่ผิง
จากนั้นถังซวงถามเข้าประเด็นทันที “ลี่ผิง คุณเฟ่ยบอกเรื่องที่เราตั้งบริษัทใหม่ให้ฟังหรือยัง?”
เปาลี่ผิงพยักหน้ารับ “บอกแล้วครับ เขาบอกว่าเรากำลังจะเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย แต่ว่า… เราไม่สามารถเปิดบริษัทนั้นโดยตรงได้ เลยต้องส่งคนไปที่เมืองก่างเฉิง” ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ทันทีในเมืองก่างเฉิง แต่ในเมืองหลวงกลับเต็มไปด้วยข้อจำกัด
ถังซวงส่ายศีรษะ “ไม่ ไม่ต้องไปที่เมืองก่างเฉิง เราแค่ไปที่เมืองเผิง”
“เมืองเผิง?”
เปาลี่ผิงไม่คิดมาก่อนว่าถังซวงจะตอบอย่างนั้น “แต่ว่า… ถึงจะเป็นเมืองเผิง…” เขานึกถึงข่าวบางอย่างที่ได้รับฟังมาก่อนหน้านี้ จึงหันมองถังซวงด้วยความประหลาดใจ “ท่านผู้นำโถงหมายถึง…”
แต่เมื่อเห็นว่าฉีเสียนอยู่ด้วย เปาลี่ผิงจึงหยุดพูด
แต่ถังซวงไม่ได้กังวลอะไรและพูดออกมาโดยตรง “ใช่ ฉันได้ยินข่าวลือมา ดังนั้นเราไม่ต้องไปที่เมืองก่างเฉิงเพื่อตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยหรอก เดี๋ยวหลังจากนี้เราจะไปตั้งบริษัทที่เมืองเผิง”
“ครับ”
เห็นว่าถังซวงคิดไว้หมดแล้ว เปาลี่ผิงจึงกล่าวตอบรับ ก่อนหน้านี้เฟ่ยไห่ชางติดต่อเขาแล้ว และเขารู้สึกว่ามันเป็นธุรกิจที่ควรทำ เพราะพวกเขาก็ต้องขนส่งสินค้า และมันจะมีความแตกต่างสำหรับสินค้าที่ได้รับการคุ้มครอง และไม่คุ้มครอง ถ้าสามารถให้ลูกค้าเลือก พวกเขาอาจจะเลือกให้มีคนคุ้มครองมากกว่า
เวลานี้ถังซวงหันไปหาฉีเสียนก่อนจะบอกกล่าวเขาสั้น ๆ เกี่ยวกับบริษัทรักษาความปลอดภัย “พี่เขย ฉันคิดว่าทักษะของพี่ค่อนข้างเหมาะสมกับงานรักษาความปลอดภัยในบริษัทของเรา และถ้าพี่รู้จักคนที่ปลดเกษียณหรือได้รับบาดเจ็บแบบพี่ ก็สามารถชวนพวกเขามาทำงานที่นี่ได้เลยนะ”
ดวงตาของฉีเสียนเปล่งประกายทันที
“จะรับพวกเขาจริงหรือ? ฉันรู้จักคนแบบนี้มากมาย จะพาพวกเขามาที่นี่ได้จริง ๆ หรือ?”
ถังซวงพยักหน้ารับ “แน่นอน เพราะพี่มีทักษะ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บแต่ว่าทักษะของพี่ก็ยอดเยี่ยมกว่าคนธรรมดาแน่นอน และบริษัทรักษาความปลอดภัยต้องการคนแบบพี่”
ได้ยินอย่างนั้น ฉีเสียนยิ่งตื่นเต้น
“อย่างนั้นฉันตกลงทำงานนี้!” แม้บริษัทรักษาความปลอดภัยของถังซวงยังไม่ก่อตั้ง แต่ตราบใดที่เธอจะจัดหางานให้กับเพื่อนที่เกษียณเหมือนกับเขาได้ เขาก็ดีใจมากแล้ว
ถังซวงหัวเราะ ก่อนจะตอบกลับ “อย่างนั้นก็ดีเลย และในเมื่อพี่ตัดสินใจจะทำงานนี้ งั้นเรามาพูดคุยเกี่ยวกับเงินที่พี่จะได้รับก่อน”
หลังจากฉีเสียนได้ยินว่าเขาจะได้รับเงินเดือนคงที่ในทุก ๆ เดือน และมีโอกาสได้รับโบนัส และเงินอุดหนุน เขาก็ตกตะลึง ก่อนอุทานว่า “นี่… มากขนาดนั้นเลยหรือ?”
เห็นความไม่เชื่อบนใบหน้าของฉีเสียนแล้ว เปาลี่ผิงกล่าวขึ้นจากด้านข้าง “ทำตามที่ท่านผู้นำโถงบอกกล่าวเถอะ แล้วทุกอย่างจะดีเอง”
Comments