การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 604 พัฒนา (2)

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 604 พัฒนา (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 604 พัฒนา (2)

บทที่ 604 พัฒนา (2)

“หัวหน้าไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะบอกกับผู้เฒ่าฉีให้ครบถ้วน แต่ยังไงซะถึงผมไม่บอก ผู้เฒ่าฉีก็กินข้าวและกินยาตรงเวลาอยู่แล้วล่ะครับ”

ก่อนหน้านี้ผู้เฒ่าฉีเคยถูกวางยาพิษ หากไม่ใช่เพราะถังซวง เขาคงจะตายไปนานแล้ว เดิมทีพวกเขาคิดว่าร่างกายของผู้เฒ่าฉีคงจะย่ำแย่ลงทุกวัน แต่ไม่คิดเลยว่าหลังจากได้ทานยาของถังซวงแล้ว ร่างกายของเขาก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ และยังดูดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่ายาที่ถังซวงมอบให้มันยอดเยี่ยมมากขนาดไหน

ถังซวงเองก็ไม่ลืมเปาลี่ผิงกับคนอื่น ๆ เหมือนกัน เธอหยิบขวดหยกออกมาอีกหลายขวดแล้วยื่นให้อีกฝ่าย

“ขวดเหล่านี้เป็นของคุณ คุณเฟ่ย และคุณจินด้วย ส่วนขวดนี้เป็นของพี่เฉิน สำหรับส่วนของฉีเสียนกับคนอื่น ๆ มันเป็นยาสามัญที่พกติดตัวได้” ในตอนท้ายถังซวงหยิบบางส่วนออกมาเพิ่ม “คุณอ่านฉลากข้าง ๆ ขวดได้”

เปาลี่ผิงรับขวดเหล่านั้นเอาไว้อย่างระมัดระวัง “ครับหัวหน้า ผมจะแจกจ่ายตามที่คุณบอก”

ถังซวงพยักหน้า หลังจากพูดคุยกันต่ออีกสองสามคำแล้ว เธอก็กลับออกมา

สองวันถัดมา เปาลี่ผิงพาพี่น้องในโถงยี่ชี่และคนกลุ่มใหญ่ที่ฉีเสียนพามาก็ไปยังเมืองเผิง

ส่วนถังซวงก็กลับมาเรียนอีกครั้ง

หากอาจารย์ไม่ทราบว่าถังซวงมีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม พวกเขาคงไม่มีทางยอมให้ถังซวงหยุดเรียนนานขนาดนี้ แต่หลังจากถังซวงกลับมาเรียนอีกครั้ง อาจารย์ของแต่ละวิชาจึงขอให้เธอลุกขึ้นเพื่อตอบคำถามสักหน่อย และแน่นอนว่าถังซวงตอบได้ทั้งหมด

“อื้ม นั่งลงได้”

ในคาบเรียนเภสัชวิทยา ฝูเซียงหยางโบกมือให้ถังซวงนั่งลง ขณะเดียวกันเขาก็หันมองนักศึกษาคนอื่น ๆ โดยรอบ “ดูสิ ถังซวงหยุดเรียนไปตั้งนาน แต่กลับรู้ทุกสิ่งแม้จะไม่ได้เข้าเรียน แต่พวกคุณทุกคนที่เข้าเรียนทุกวันตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง พวกคุณควรจะเอาถังซวงเป็นแบบอย่างนะ”

“อาจารย์… คุณเอาพวกเราไปเปรียบเทียบกับถังซวงได้ยังไง เธอเป็นสัตว์ประหลาด เข้าใจเนื้อหาในภาคเรียนนี้ทั้งหมดหลังจากเริ่มเรียนได้ไม่นานเลยนะ” เสวี่ยไคกล่าวอย่างไม่พอใจ และคนอื่น ๆ ก็พูดสนับสนุน “ใช่ ๆ ถังซวงเก่งเกินไป พวกเราเทียบกับเธอไม่ได้หรอก”

ฝูเซียงหยางจึงสั่งให้พวกเขาหยุดโอดครวญ ก่อนจะเริ่มสั่งการบ้าน

แม้นักศึกษาหลาย ๆ คนจะบ่นพึมพำ แต่ทุกคนก็เริ่มจดการบ้านที่ถูกมอบหมาย เพราะยังไงทุกคนต่างก็มีความขยันและแสวงหาความรู้ในแบบฉบับของตัวเอง

หลังเลิกเรียน ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านหันมองถังซวงก่อนจะเอ่ยปากชวน “ถังซวง พวกเราไปโรงอาหารกันเถอะ”

“อื้ม”

เหยาหงเดินเข้ามาทักทายถังซวง “ถังซวง ฉันไปด้วยนะ”

ถังซวงพยักหน้ารับ และทั้งสี่คนเดินไปโรงอาหารพร้อมกัน

เวลานี้สุขภาพของเหยาหงดีขึ้นมาก ดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะถังซวงหางานให้ฉีเสียนทำ “ถังซวง ขอบคุณมากนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอช่วย ครอบครัวของฉันคงจะไม่ดีขึ้นขนาดนี้”

ถังซวงส่ายศีรษะ “อย่าพูดแบบนั้นเลย พวกเราทุกคนทำงานหนักในแบบของตัวเองทั้งนั้น” หลังจากนั้นถังซวงถามถึงเสี่ยวซี “ช่วงนี้เสี่ยวซีเป็นยังไงบ้าง?”

ได้ยินว่าอีกฝ่ายถามถึงลูกชาย ใบหน้าของเหยาหงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เสี่ยวซีสบายดี พูดถึงเธอบ่อย ๆ” และเหยาหงเชิญชวนอย่างอดไม่ได้ “ถังซวง เฟิ่งหยิง หวานหว่าน วันเสาร์นี้ไปทานมื้อเที่ยงที่บ้านของฉันไหม ฉันอยากขอบคุณที่ทุกคนช่วยฉัน พวกเราซาบซึ้งมากจริง ๆ”

ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านหันมองถังซวงโดยไม่รู้ตัว

ถังซวงไม่ปฏิเสธ พยักหน้ารับ “ตกลง”

ได้ยินถังซวงเห็นด้วย คนอื่น ๆ ก็ไม่ปฏิเสธ

ในวันเสาร์ ถังซวง ต้วนเฟิ่งหยิง และเจียนหวานหว่านซื้อผลไม้ และเข้าไปที่บ้านของเหยาหง

พอเห็นว่าเส้นทางผิดแปลกไปจากเดิมเล็กน้อย ต้วนเฟิ่งหยิงถึงกับงุนงง “ถังซวง นี่… ใช่ทางที่จะไปบ้านของเหยาหงหรือ?”

“เหยาหงย้ายบ้านแล้ว”

“เหรอ แต่ย้ายก็ดีแล้วละ บ้านหลังก่อนมีสภาพแวดล้อมไม่ดีเลย แต่ว่านี่มันกะทันหันเกินไปหรือเปล่า?”

เจียนหวานหว่านหันมองแล้วพูดขึ้น “เธอไม่ควรพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเหยาหงนะ แค่คุยกับพวกเราน่ะไม่เป็นไรหรอก พวกเขาย้ายออกไปก็ดีแล้ว ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า ไม่ดีหรือไง?”

หลังจากทั้งสามมาถึง เหยาหงรีบออกมาต้อนรับ

แม้แต่เสี่ยวซีเองก็วิ่งมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับ น้าถัง น้าต้วน น้าเจียน”

“สวัสดีจ้ะเสี่ยวซี”

ทั้งสามมีความสุขมากที่ได้เจอเสี่ยวซี พวกเขาต่างยกยิ้มให้กัน

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เหยาหงจะดูแลลูกด้วยตัวเอง หลังจากถังซวงและคนอื่น ๆ มาถึง ทั้งสามก็นั่งเล่นกับเสี่ยวซี ส่วนเหยาหงออกไปทำอาหาร

ทักษะการทำอาหารของเหยาหงนับว่ายอดเยี่ยม พวกเธอทานอาหารด้วยกันอย่างสนุกสนาน พอจะแยกย้าย เหยาหงก็หยิบเงินที่ต้วนเฟิ่งหยิงให้เธอยืมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาคืน

“เหยาหง ไม่ต้องรีบคืนเงินหรอก พวกเราไม่ได้รีบ อีกอย่างเธอควรเก็บไว้ใช้ก่อน ถ้าหากเธอมีมากพอแล้วค่อยคืนเราวันนั้นก็ยังไม่สาย” แต่ต้วนเฟิ่งหยิงรีบปฏิเสธ

เจียนหวานหว่านเองก็คิดแบบเดียวกัน

เหยาหงยิ้ม “พวกเธอรับมันไว้เถอะ ฉันดีขึ้นมากแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่คืนเงินพวกเธอหรอก”

ถังซวงเอื้อมมือไปรับเงินไว้

“เอาละ พวกเธอรับมันไว้เถอะ” คราวก่อนที่ฉีเสียนไปทำงานที่เมืองเผิง แม้เขาจะไม่ได้เข้าร่วมภารกิจในเมืองก่างเฉิง แต่เขาก็เข้าร่วมภารกิจการส่งของจากเมืองเผิงไปเมืองหยาง และคราวนั้นเขาได้รับบาดเจ็บด้วย เพราะเหตุผลนี้บริษัทจึงจ่ายค่าจ้างบวกกับค่าชดเชยอาการบาดเจ็บ มันมากพอที่พวกเขาจะอยู่ได้อย่างสบาย

ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านหันมองถังซวงด้วยความประหลาดใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของถังซวงแล้ว ทั้งสองรีบรับเงินไว้ทันที

เหยาหงเห็นอย่างนั้นก็ดีใจมาก และชวนพวกเธอทานผลไม้

ผู้หญิงมักมีเรื่องพูดคุยกันไม่รู้จบ ในช่วงบ่าย ถังซวงและคนอื่น ๆ ขอตัวกลับ

ตอนนี้ใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง และการสอบปลายภาคก็เริ่มต้นขึ้น หลังจากสอบเสร็จ สถาบันศึกษาทั้งหมดก็ปิดภาคเรียน และทุกคนเฝ้ารอเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้เข้ามา

“ซวงเอ๋อร์ หลานวางแผนว่าจะกลับไปเยี่ยมตระกูลถังตอนไหนหรือจ๊ะ?”

วันนี้หัวเฟยเฟิ่งมาหา หลังจากไปเล่นกับฟักทองน้อยและฟักขาวน้อยสักพัก เธอเดินออกมาคุยกับถังซวงเป็นการส่วนตัว

“คุณยายคะ หนูว่าจะกลับไปที่ตระกูลถังในวันที่สองเดือนแรกค่ะ”

หัวเฟยเฟิ่งพยักหน้า “อื้ม เดิมทีอาหลานต้องกลับไปที่บ้านในวันนั้นด้วยเหมือนกัน แต่ปีนี้พวกเราจะใช้เวลาช่วงตรุษจีนกับหลานแล้วกลับไปที่บ้านพร้อมกับหลานในวันที่สอง”

ถังซวงยกยิ้ม “ค่ะคุณยาย แล้วคุณตาจะมาไหมคะ?”

หัวเฟยเฟิ่งพยักหน้า “เขาก็จะมาด้วย แต่ว่าเขาจะรอจนกว่าจะถึงคืนส่งท้ายปีเก่า จะได้ถือโอกาสมารับพวกเรากลับด้วย”

“แบบนั้นก็ดีเหมือนกันค่ะ”

ยิ่งเข้าใกล้เทศกาลปีใหม่มากเท่าไหร่ บรรยากาศปีใหม่ภายในเมืองหลวงก็ยิ่งคึกคักมากขึ้น และในวันที่ยี่สิบแปด เดือนสิบสอง จูรุ่ยก็มาถึงเมืองหลวงแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด