การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 620 แม่เจ้า! มีคนซื้อจริง ๆ (1)

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 620 แม่เจ้า! มีคนซื้อจริง ๆ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 620 แม่เจ้า! มีคนซื้อจริง ๆ (1)

บทที่ 620 แม่เจ้า! มีคนซื้อจริง ๆ (1)

วันที่ยี่สิบเก้าเดือนสาม

ร้านเครื่องสำอางซวงฮวาที่ปักกิ่งเปิดกิจการอย่างเป็นทางการ

คุณนายจิงและลูกสะใภ้ทั้งสามคนต่างพากันมาให้กำลังใจ ทั้งถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานต่างก็ยุ่งอยู่กับงานต่าง ๆ มากมาย แม้แต่ซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ยก็เข้ามาร่วมด้วย

เมื่อถังหลานเห็นเกอชิงเหม่ยก็รีบเดินเข้าไปหาและกล่าวว่า “พี่คะ มานั่งตรงนี้ อย่าไปเบียดเลยค่ะ”

เกอชิงเหม่ยยิ้มพลางพยักหน้า เมื่อนั่งลงตรงมุมหนึ่งแล้ว เธอจึงพูดว่า “อาหลาน เธอรีบไปทำงานเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันหรอก”

ซูเหนียนอวิ๋นเองก็ตามมาด้วย เธอพูดกับถังหลานด้วยรอยยิ้มเช่นกันว่า “อาหลาน ฉันจะอยู่ตรงนี้กับชิงเหม่ยเอง เธอรีบไปทำงานของตัวเองเถอะ วันนี้เป็นวันเปิดร้านของซวงเอ๋อร์ ไปช่วยพวกเขาให้เต็มที่เถอะ”

ถังหลานได้ยินก็พยักหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ ถ้างั้นฉันไปทำงานก่อนนะคะ”

ปัง ๆๆๆๆๆๆ…

และเพราะเพิ่งเปิดร้านวันนี้วันแรกจึงมีการจัดโปรโมชัน แต่ถึงอย่างนั้นหลาย ๆ คนก็ยังคงคิดว่าเครื่องสำอางพวกนี้ราคาสูงกว่าปกติ

“อะไรนะ… นี่จะปล้นกันหรือไง ของแบบนี้ยังกล้าขายตั้งแปดร้อยหยวน”

เมื่อคุณนายจิงได้ยินจึงเดินเข้าไปทันที เธอมองหญิงวัยกลางคนด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถ้าเทียบกับราคาที่ก่างเฉิงแล้ว ราคานี้ถือว่าถูกกว่ามากแล้ว รู้ไหมว่าที่ก่างเฉิงของชุดนี้ราคาเท่าไหร่ อีกอย่างวันนี้มีการจัดโปรโมชันเลยเหลือราคาแค่หกร้อยกว่าหยวนเท่านั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องส่วนผสมที่ใช้ ทั้งหมดเป็นตัวยาล้ำค่า พวกเราขายถูกมากขนาดนี้ แทบจะไม่คืนทุนเลยด้วยซ้ำ”

“เหอะ… พวกคนทำธุรกิจก็ชอบพูดไปเรื่อย ขายตั้งหกร้อยกว่าหยวนยังไม่คืนทุน ใครจะเชื่อ”

คุณนายจิงมองคนคนนั้นอย่างใจเย็นแล้วถามว่า “เธอทายซิว่าฉันอายุเท่าไหร่?”

เมื่อหญิงวัยกลางคนได้ยินคำพูดที่ไม่เกี่ยวกันเลย ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึ้ง จากนั้นเธอก็มองไปที่หญิงมีอายุสูงสง่าที่อยู่เบื้องหน้า แล้วตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “ห้าสิบ?”

คุณนายจิงได้ยินก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

“ฉันไม่ได้อายุน้อยขนาดนั้นหรอก ฉันอายุเจ็ดสิบปีแล้วจ้ะ”

“เป็นไปไม่ได้…”

ผู้หญิงคนนั้นอุทานออกมาทันทีด้วยความไม่เชื่อ

ขณะนี้เอง ถังหลานเดินไปข้างหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอคือแม่สามีของฉัน อายุเจ็ดสิบแล้ว และฉันเองก็อายุสี่สิบแล้วด้วย”

“อะไรนะ…”

ใบหน้าของหญิงคนนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย เธอรู้สึกเหมือนว่าวันนี้ตนเจอพวกมิจฉาชีพเข้าแล้ว

ผู้หญิงตรงหน้าดูเหมือนคนอายุยี่สิบกว่า ๆ เท่านั้นแต่กลับบอกว่าตนเองอายุสี่สิบปี ไหนจะผู้หญิงสูงวัยคนนั้นก็ด้วย เธอบอกว่าตัวเองอายุเจ็ดสิบแม้ว่าเธอจะดูเหมือนอายุแค่ห้าสิบกว่า ๆ เท่านั้น

และขณะนี้เอง คนที่จำคุณนายจิงได้ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มกว้าง “คุณนาย คุณมาร่วมงานอะไรแบบนี้ด้วยหรือคะ บังเอิญจริง ๆ ที่ได้มาเจอคุณที่นี่”

ในขณะที่กล่าว เธอก็มองไปเห็นพวกถังหลาน เมิ่งผิง และอวี๋มินจึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวยิ้ม ๆ “ที่แท้ลูกสะใภ้ทั้งสามของคุณก็อยู่ด้วยนี่เอง”

เมื่อเห็นอีกฝ่าย คุณนายจิงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นร้านของหลานสาวคนโตของฉันเอง ฉันก็ต้องมาให้กำลังใจหลานน่ะสิ”

คนที่เข้ามาก็คือไต้ชุ่ยจือลูกสะใภ้ของผู้อาวุโสจู เมื่อเธอได้ยินก็รู้ทันทีว่าร้านนี้เป็นร้านของถังซวง อีกทั้งพ่อสามีของเธอก็เคยกล่าวชมถังซวงอยู่หลายครั้ง ท่านชมถังซวงว่าเก่งไม่มีใครเกิน

“เป็นร้านของหลานคนโตนี่เอง อย่างนั้นของต้องใช้ดีแน่ ๆ ค่ะ”

คุณนายจิงพูดด้วยความภาคภูมิใจ “มันก็ต้องดีอยู่แล้ว เธอดูผู้หญิงในบ้านเราสิ ไม่มีใครดูแก่เลยสักคนหลังจากใช้เครื่องสำอางของซวงเอ๋อร์ แม้แต่หญิงชราอย่างฉันก็ยังดูอ่อนเยาว์ลงมากเลย”

เรื่องนี้ไต้ชุ่ยจือเองก็ได้ยินมาเช่นกัน

ทั่วปักกิ่งต่างก็รู้ดีว่าตั้งแต่ภรรยาของจิงเจ้อหรงแต่งเข้าบ้านตระกูลจิง พวกผู้หญิงในตระกูลก็อ่อนเยาว์ลงเรื่อย ๆ จนหลายคนต่างพากันอิจฉา ไม่คาดคิดว่าเป็นเพราะพวกเธอใช้เครื่องสำอาง แต่ว่าเครื่องสำอางใช้ดีขนาดนั้นจริง ๆ หรือ?

เมื่อหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยินไต้ชุ่ยจือพูดเมื่อครู่ ในที่สุดเธอก็เชื่อว่าถังหลานเป็นลูกสะใภ้ของคุณนายจิง อายุของทั้งสองน่าจะเป็นอายุจริง ๆ และรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งขึ้นมา

“มันได้ผลดีขนาดนั้นเลยหรือ?”

ไต้ชุ่ยจือเองก็สงสัยเช่นกัน แต่ว่าเมื่อเธอเห็นราคา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไป

ราคานี้จริง ๆ หรือเนี่ย ขายแพงขนาดนี้จะมีคนซื้อหรือ?

หลาย ๆ คนที่เข้าร่วมพอรู้ราคาแล้วต่างพากันร้องว่าร้านนี้ขายของแพง

ซึ่งถังซวงคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

ที่นี่ไม่ใช่ก่างเฉิง ต่อให้ถูกกว่าสิบเท่าคนก็ยังคิดว่าแพงอยู่ดี เธอตั้งราคาตามที่นี่ จะขายถูกกว่านี้ไม่ได้ และที่ก่างเฉิงขายราคาสูงขนาดนั้น ก็เพราะเธอใช้ส่วนผสมที่มีราคาสูง เพื่อไม่ให้คนรู้สึกทีหลังว่าไม่คุ้ม

อย่างไรก็ตามเธอยังคงปล่อยเครื่องสำอางในร้านออกขายในราคาที่สูงกว่า และนำเสนอให้กับคนที่ต้องการ

“ทุกคนคะ ราคานี้ถือว่าไม่สูงจริง ๆ ค่ะ ถ้ารู้สึกว่าแพงก็ร่วมสนุกกันได้ แต่ถ้าพวกคุณเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าเราก็กัดฟันลองซื้อใช้สักชุด ฉันรับรองเลยค่ะว่าใช้แล้วพวกคุณจะต้องรู้สึกคุ้มค่าแน่นอน”

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเชื่อที่ถังซวงพูดเลย พวกเขาคิดว่าเธอโกหกเท่านั้น

ถังชุนหยานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เต็มไปด้วยความกังวล ตอนแรกเธอมั่นใจในร้านของพวกเธอมาก แต่หลังจากเห็นปฏิกิริยาของทุกคนในวันนี้แล้ว เธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ ว่าของจะขายไม่ได้

ในขณะนี้เองจูรุ่ยพร้อมกับพวกเพื่อนก็เดินเข้ามา สองคนในนั้นเป็นชาวต่างชาติ

“เสี่ยวรุ่ย มาได้ไงเนี่ย ไม่ใช่ว่าอีกสองวันเธอถึงจะกลับหรอกหรือจ๊ะ”

เมิ่งผิงมองจูรุ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง

“พอดีหนูได้ข่าวว่าถังซวงจะเปิดกิจการ ก็เลยตั้งใจมาก่อนล่วงหน้าค่ะ”

จากนั้นเธอก็แนะนำเพื่อนของเธอที่อยู่ข้าง ๆ สองคนเป็นเพื่อนของเธอจากก่างเฉิง และอีกสองคนเป็นเพื่อนชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจกับตระกูลจู

หญิงสาวสองคนจากก่างเฉิงต่างพากันมองดูอย่างสงสัย ขณะเดียวกันก็หันไปมองจูรุ่ยแล้วถามว่า “ที่นี่ขายเครื่องสำอางของซวงฮวาหรือ แต่ว่าฉันเห็นป้ายราคาถูกมากนะ ถูกกว่าก่างเฉิงตั้งสิบเท่าแน่ะ”

“ว้าว…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด