กำพร้า ณ ต่างโลก 21.1 อนาคตเด็กสามคน
มันเป็นช่วงหลังปีใหม่กก่อนวารีอายุ 14
วีกับวิวนั่งดูพี่ร่วมสาบานเก็บเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายไว้ในกระเป๋า
สมองของพวกเธอขุ่นมัวที่จะต้องจากพี่ร่วมสาบานของตัวเอง วีและวิวมองหน้ากัน
วีคิดในใจ ‘ฉันไม่ปล่อยคนให้ชื่อฉันไปให้คนอื่นหรอกน่า’
ส่วนสมองวิวคิดว่า ‘แล้วเราต้องอยู่กันแค่พี่น้องโดยไม่มีคนสอนจริงๆหรือ?
“ให้เราช่วยจัดมั้ย? พี่วารี” วีถามวารีด้วยความสงสัย
อีกไม่กี่วันวารีก็จะออกเดินทางแล้ว
“อย่าเลย พวกเธอนั่งให้สบายๆเถอะ พี่ทำได้” วารีตอบขึ้นมาในทันที
เขาไม่ได้ไม่อยากให้พวกเธอช่วย แต่เขาคิดว่าในเมื่ออายุเขาเท่านี้เขาต้องดูแลตัวเองได้แล้ว
“เพราะเราไม่สวยเหรอ? พี่วารี ใช่เพราะที่คนนึงมีหูกับสองหางและอีกคนมีขาแป็นแมงมุมใช่มั้ย” คราวนี้เป็นวิวบ้างที่ถามคำถามนี้ขึ้นมา
แม้แต่พี่สาวของเธอที่ได้ยินแบบนั้นยังรู้สึกสลดใจ เพราะมันอาจเป็นแบบนั้นจริงๆ
วารีหยุดเก็บของใส่กระเป๋าก่อนคู่หนึ่งแล้วหันไปจับไหล่แฝดพี่น้องคนละเผ่าพันธุ์
“นี่ น้องวี น้องวิว อย่าได้มีวันคิดอย่างนั้นกับตัวเองนะ มันแน่นอนว่าพวกเธอสวยในแบบของเธอ แต่เราเด็กเกินไปที่จะยุ่งเรื่องแบบนั้น” วารีมองตาพวกเธอแล้วพูดจากความรู้สึกข้างใน
วีปัดมืวารีออกแล้วกางเล็บจี้คอวารี
วารียิ้มแล้วชูสองมือแสดงการศิโรราบไม่ตอบสนองกับน้องตัวเอง
“พี่จะไปซ่อง” วีคิ้วขมวดแยกเขี้ยวขู่วารีให้เขากลัว
แต่วารีไม่กลัววี เพราะความเชื่อใจที่มีให้กันหลังจากอยู่กันมานาน
“ใช่ มันเป็นซ่อง แต่พี่จะเจรจายังไม่เข้า พี่จะหางานของซ่องทำข้างนอกไปก่อน พี่ลองติดต่อท่านหญิงเสือดำแล้ว และเธอก็บอกว่าเธอมีงานแบบนั้นอยู่ตั้งหลายชนิด” วารีอธิบายให้วีเข้าใจ
วารีแค่อยากให้น้องไม่แท้เข้าใจเขาบ้างว่ามันเป็นงานไม่ได้ไปเที่ยว
วีเอาเล็บจิ้มคอวารีนิดหน่อยจนเลือดไหลเป็นทาง “ตรงนั้นแหละเส้นเลือดพี่”
“พี่วี อย่าทำอะไรพี่วารีเลย” วิวอยากให้พี่สาวตัวเองเพลาความหึงรุนแรงของเธอลงบ้าง
วีดึงเล็บออกแต่จับหัววารีไว้
วารีสงสัยว่าวีจะทำอะไรของเธออีกครั้ง
“ทำอะไรโอ้ะ อย่าทำวี!” วารีรีบดึงหัวตัวเองออกเพราะวีเอื้อมหน้าเข้ามา
แม้หัวเขาต้องเป็นแผลเล็บแมวสิบนิ้วทั้งสองด้านเขาก็ยอมบาดเจ็บ
แต่วีไม่ได้เอาหน้าเข้าไปจูบและเลื่อนหัวไปดูดเลือดที่คอวารี
วารีหน้าแดงแต่ยังวิตกกังวลอยู่ว่าวีจะจูบ
“เลือดพี่หอม” เมื่อวีถอนหน้าเธอลูบเอาเลือดวารีที่หนังหัวมาใส่มือ
วารีคิดอะไรไม่ออกเพราะไม่รู้จะรับมือกับน้องตัวเองอย่างไรที่เป็นเสียแบบนี้
“วิวลองชิมสิ” วียื่นมือให้วิวบ้าง
“อืม อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ อั้ม” วิวพูดเกรงใจแต่ก็กินเลือดเข้าไปเหมือนกัน
วิวเลียเลือดที่มือจนหมด และเมื่อหมดวิวเลียปากเหมือนมันอร่อย
“ถ้า! พี่ไปมีคนอื่น เราจะรุมพี่และกินพี่” วีเก็บเล็บเท้าเอวแล้วข่มขู่่วารี
“แต่มันเป็นซ่องนะ ถ้าพี่ไม่ได้เป็นคนเริ่มล่ะ” วารีก็พูดโอกาสที่เป็นไปได้ขึ้นมา
“พี่ก็ต่อยปั้งเข้าเบ้าหน้าครึ่งปากครึ่งจมูกไปเลยไง!” คราวนี้เป็นวิวบ้างที่ออกความเห็นสุดโต่งแบบที่วารีไม่คิดว่าอย่างวิวจะทำ
“มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้น่า ท่านหญิงเสือดำจะเอาวิชาต่อสู้พี่ไม่ใช่ร่างกายของพี่” วารีพูดถึงคนที่จะเป็นเจ้านายเขาในเร็ววันนี้
““เราไม่เชื่อใจเธอ”” วีกับวิวพูดพร้อมกันและมองหน้ากัน
วารีส่ายหัวและจัดของต่อ อาการพวกเธอหึงหนักอยู่และเขาทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง
เขาจะสั่งสอนหรือบอกให้พวกเธอหยุดก็ได้เพราะเขาโตกว่า แต่เขาไม่อยากควบคุมไม่ให้น้องตัวเองไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ
เพราะเขาไว้ใจและเชื่อว่าน้องไม่ได้จะฆ่าเขาหรอก เธอแค่ทำเพราะหึงหวง
“ขอถามอะไรหน่อยสิ พี่วารี” วีพูดขึ้นมาโดยความสงสัยของแมวดำของเธอ
“ถามมาเถอะ พี่พร้อมตอบน้องเสมอแหละ” วารีบอกกับน้องตัวเองไปตรงๆ
“ทำไมต้องเป็นซ่อง” วีมองหน้าวารีด้วยสายตามุ่งมั่นบวกจิตสังหารเล็กน้อยไว้ให้วารีตอบตามตรง
“เรื่องนี้หนูก็อยากรู้” วิวที่มองสองคนคุยกันก็อยากรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน
“อืม พี่ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก มันก็แค่งาน และสถานที่ที่หนึ่งเท่านั้นเอง” วารีตอบไปตามภาษาเขา
“โกหก บอกความจริงมา” แต่วีรู้ไส้รู้พุงวารีและรู้ว่าวารีกำลังตอแหลเพราะอยากเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“เฮ้อ พวกเธอนี่่จริงๆเลย” วารีตัดพ้อที่ต้องตอบแบบตรงๆแล้วถ้าวีมาแบบนี้
เขาเรียบเรียงความคิดในใจและหาคำตอบที่นุ่มนวลที่สุดเพราะเขาก็กลัวโดนแฝดพี่น้องผิวน้ำตาลรุมเละเหมือนกัน
“พวกน้องรู้ใช่มั้ยล่ะว่าพี่มาจากต่างโลก” วารีพูดเรื่องสิ่งที่เขาเป็น
“ใช่่” วีตอบและวิวมองอย่างเดียวเพราะเธอคิดว่าปล่อยให้พี่ตัวเองพูดน่าจะดีกว่า
“พี่เคย 22 แต่มาชีวิตนี้ พี่อยากกลับเป็นเด็กใหม่ พี่เลยอยู่อย่างเด็กๆไปก่อน” วารีพูดโดยมีหน้าซึมนิดๆ
แต่เขามีเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดให้วีกับวิวเข้าใจ
“พี่ไม่เคยประสบความสำเร็จเรื่องผู้หญิงและชีวิตเก่ามันเป็นแบบนั้น พี่คิดในใจว่าถ้าพี่ทำงานข้างนอกจน 18 แล้วเข้าไปพี่อาจได้เห็นเรือนร่างผู้หญิงบ้างแม่ไม่ได้เป็นแฟนเพราะมันเป็นซ่อง” วารีสาภาพความจริงและเก็บกระเป๋าต่อ
“ขอพวกเราก็ได้นี่” วิวดันเสนอสิ่งที่อันตรายสุดๆและไม่ถูกต้องอย่างแรงเข้ามา
“โว่ว เลือกคิดแบบนั้นให้เด็ดขาดเลยนะ ถ้าเธอยังไม่ 20 ไม่ต้องไปให้ใครเห็นแม้ว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกัน พวกเธอยังเด็กไป” วารีสอนสองพี่น้องในโลกใบใหม่ของเขาให้พวกเธอเข้าใจ
“เรื่องเล็กน้อยแบบนั้นมันจำเป็นด้วยเหรอพี่วารี” วีจอมสงสัยเอ่ยขึ้นมาบ้างเพราะแนวคิดเธอก็ไม่ปรกติเหมือนกัน
“เพราะเธอเป็นผู้หญิง วี วิว พี่รู้ว่าพี่ไม่มีสิทธิ์ห้ามหรอก เพราะมันเป็นร่างกายพวกเธอ แต่พี่ต้องพูด เพราะพี่ไม่อยากให้พวกเธอรู้สึกว่าร่างกายสตรีของเธอมีค่าน้อยหรือไม่มีค่าเลย” วารีจับไหล่วีและวิว มองตาพวกเธอตอนพูดให้ดูตั้งใจที่สุด
“เราไม่ใช่เอล์ฟซักหน่อย หนู่เผ่าแง้วตัวดำ วิวก็เผ่าแมงมุมแถมตัวดำอีก” วีเถียงไปถึงเรื่องสีผิว
“ใช่ๆ เราดำปี๋ ไม่เห็นสวยเลย” วิวพูดเสริมพี่สาวตัวเองบ้าง
“อย่าได้ติดอย่างนั้นเด็ดขาดเลยนะ สวยไม่สวยมันยอู่ที่หัวใจเธอ สีผิวมันแค่เรื่องผิวเผิน ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญในการเลือกผู้หญิง” วารีพูดให้กำลังใจสองแฝดพี่น้อง
วีกับวิวมองหน้ากันและส่องกระจกเล็กๆของวิวที่ไว้ดูตัวเอง เมื่อส่องได้ซักพักวีก็พูด “อย่างนั้นเหรอ?”
วิวจับไหล่พี่สาวตัวเองแล้วพูดขึ้นมาว่า “วารีเขาชอบแบบนี้ล่ะมั้งพี่วี แสดงว่าดีแล้วแหละที่เราสีนี้ ถ้าเป็นผิวขาวผ่องเขาอาจไม่ชอบก็ได้”
“นี่ อย่านินทาฉันต่อหน้าอย่างนั้นซี่ มันทำให้ฉันทำหน้าลำบากอยู่นา” วารีพูดขึ้นมา
วีจับคางเหมือนคิดอะไรซักอย่าง เมื่อวิวเห็นพี่ตัวเองทำก็จับคางเหมือนอยากคิดบ้างแม้เธอยังไม่รู้เรื่องเลยว่าวีคิดอะไรอยู่
“พี่จะทำงานที่ซ่องไปตลอดเหรอ?” วีถามเรื่องอนาคตบ้าง
“ก็คงเป็นแบบนั้นถ้าไม่มีโอกาสไปที่อื่นที่น่าสนใจกว่า” วารีพูดถึงอนาคตตัวเอง
“ที่แบบไหนล่ะที่พี่อยากไป พี่วารี” คราวนี้น้องแมงมุมพูดขึ้นมาบ้าง
นาเดินมาเพราะเห็นเพื่อนสองคนของเธอคุยกับวารีอยู่นานแล้ว
“พูดเรื่องไรกัน?” นาถามขึ้นมาห้วนๆ แบบไม่ได้คิดอะไรมาก
““ที่อยู่ของพวกเรา”” วีกับวิวพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“นั่นสิ เธอจะไปอยู่ซ่องตลอดเหรอ? วารี” นาไม่เหมือนพี่น้องแฝดเพราะเธอไม่ได้คิดว่าเธอเป็นน้องของวารี
เธอเป็นผู้จัดการ
“ฉันกำลังจะพูดอยู่เนี่ยแหละ ที่อยู่สุดท้ายที่ฉันอยากไปอยู่ถาวรคือวัง” วารีพูดเรื่องที่อยู่ที่เขาอยากอยู่
“เราจะเอาอะไรไปอยู่วัง เราแค่เด็กกำพร้าสี่คน” นาพูดถึงความน่าจะเป็น
“นั่นดิ เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าไปอยู่วังต้องไปเป็นราชานู้นนี้นั้นเยอะเลย เราจะยิ่งไม่มีเวลาให้กัน” วิวพูดความเห็นของเธอบ้าง
แต่วีกลับไม่เหมือนคนอื่นและกระดิกสองหางส่ายไปมาและกระดิกหูนิดๆ จ้องอย่างตั้งใจ
วีมีความเชื่อมั่นในตัววารีสูงว่าเขาจะทำได้ และเชื่อในสัญชาตญาณตัวเองและวารี
“ไม่รู้สินะ ถ้าดวงดีๆ มันต้องไปสร้างบ้านอยู่ติดวังได้ และเปิดร้านใกล้ๆกันได้แหละ” วารียิ้มและพูด ให้กำลังใจทั้งน้องและตัวเอง
“อะไรๆมันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ วารี ฉันไม่ได้อะไรนะ แต่ถ้าให้ฉันออกความเห็นฉันว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก” นาพูดความเห็นเธอออกมา
“ฉันก็เข้าใจความคิดเธอแหละนา แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นความหวังที่เหมือนแสงไฟไว้นำทาง ถ้าเราตั้งใจทำแต่เรื่องดีๆ มันก็อาจเป็นไปได้ซักวันหนึ่ง” วารีพูดให้ความหวังตัวเองกับน้องและเพื่อน
“ทำไมต้องวัง เงินพี่ก็มี ทำไมไม่สร้างบ้านอยู่กันแค่เรา พี่อยากเป็นราชาเหรอ?” วีพูดความสงสัยของเธอออกมาแบบไม่คัดกรองอะไรทั้งสิ้น
“ไม่ใช่เลย พี่ไม่อยากรับหน้าที่ราชาหรอก แต่พี่ว่าวังมันเป็นที่ที่น่าอยู่กว่าบ้านทั่วไป มันทั้งใหญ่และหลายห้อง แถมมีบุคลากรมากมายที่พร้อมทำงานในนั้น” วารีตอบวีอย่างตรงไปตรงมา
วียิ้มและไม่คิดถามอะไรเพิ่ม “วังงั้นเหรอ? ก็คงจะดีเหมือนพี่ว่าล่ะมั้ง”
“วังมันก็จะมีที่เยอะแยะไว้ฝึกร่างกายแหงเลย” วิวพูดเรื่องข้อดีของวังบ้าง
“วังมันก็น่าจะมีหนังสือเยอะอยู่นะ กับที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ด้วย ไว้ขายให้ได้เงินเพิ่มเยอะๆไปเลย” นาออกความเห็นแบบผู้จัดการบ้าง
วารีเก็บของจุกจิกทุกอย่างที่เตียงและเอาพวกมันใส่ถุงหิ้วสัมภาระแล้วดึงสายมัด
“ฉันเก็บเสร็จแล้วแยกย้ายกันไปนอนเถอะ ทุกคนนอนกันหมดแล้ว” วารีบอกให้น้องตัวเองนอนพักผ่อน
วีนอนด้านซ้ายวารี
วิวนอนด้านขวาวารี
และนานอนต่อจากวิว
เมื่อพวกเขาและเธอนอนได้ซักพักแต่ยังไม่มีใครหลับ
“นี่ พี่วารี แม้พี่ไปอยู่วัง พี่จะให้พวกเราไปอยู่ด้วยมั้ย
วีถามคำถามที่มันทำให้เธอนอนไม่หลับ
วารีเข้าใจว่าวีต้องการอะไรก็ได้ที่ทำให้เธออุ่นใจและนอนหลับได้
“หนูก็อยากรู้ พี่วารี” คราวนี้เป็นวิวที่พูดขึ้นมาบ้าง
“และฉันก็เป็นผู้จัดการเธอนะ เธอจะมาพาฉันไปที่นั่นที่นี่ แล้วไม่รับผิดชอบมาเลิกจ้างฉันไม่ได้นะ” นาพูดขึ้นมาบ้าง
วารีเข้าใจหมดทุกคนที่นอนไม่หลับแม้เด็กแทบทั้งหมดหลับไปหมดแล้ว
“เรื่องนั้นน่ะมันแน่นอนอยู่แล้ว พวกเธอไม่ต้องกังวลไป แม้ฉันจะไปที่ไหน ฉันจะพาพวกเธอไปด้วยแน่นอน อย่ามาเลิกตามฉันเอากลางคันแล้วกัน” วารีพูดให้สามสาวเพื่อนของเขามั่นใจ
วีลุกขึ้นมาอีกแล้วเดินไปเตียงนา “นี่นา ถ้าเธอไปอยู่วังเธอจะทำอะไรบ้าง?”
นาลุกมานั่ง และเมื่อวิวเห็นวิวลุกมานั่งบ้าง
ห้องยังสว่างอยู่เพราะไฟลิชดับไม่ได้
“ฉันจะอ่านหนังสือในวังให้หมดและหาความรู้เพิ่มเพื่อเป็นผู้จัดการวารีให้เก่งขึ้น วันหนึ่ง ฉันจะให้เขาขาดฉันไม่ได้” นาพูดถึงอนาคตที่ตัวเองอยากได้
“ส่วนหนูจะลองปีนวังเล่น” วิวพูดอนาคตสิ่งแปลกๆที่เธออยากทำบ้าง
“อย่าไปทำแบบนั้นว่า วิว มันดูไม่ดี” วารีพูดกับวิวให้วิวเข้าใจ
พี่อลิสเข้ามา “ใครยังไม่นอนไปนอนให้หมดเลยจ้าดึกแล้วๆ นอนที่เตียงตัวเอง วี วิว นา ไปนอนเตียงตัวเองเลยนะ”
“““ค่า””” สามสาวเข้านอนเตียงตัวเองอย่างเร็ว
พี่อลิสตรวจแต่ละเตียงอีกครั้งและออกไป
สามสาวเงียบไปแล้วและไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้น
มันทำให้วารีสบายใจและเขาหลับตาลงแล้วนอน
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
*แนะนำ plotteller เพราะมาชวนนิยายเล็กๆอย่างผม
Plotteller (แนะนำ มีแอพ มีโหมดกลางคืน มีชี้แจงเรื่องเงื่อนไขการใช้งานที่ไม่มีเหลี่ยม)
https://www.plotteller.com/book_reading_novel/01J6K59JBZFBKF5WR1DS8Y86Q2
และ
DekD (เล่ม 4+ ไม่มีภาพ)
https://writer.dek-d.com/wayuwayu9/writer/view.php?id=2536726
ตอนนี้เปิดให้อ่านฟรี 90 วัน ถูกใจเชิญโดเนทได้ที่เว็บไซต์ tipme
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ:
https://bsky.app/profile/wayuwayutl.bsky.social
https://facebook.com/100087843892571/
https://discord.gg/cP8yT4J8
line: @326jilhj (wayuwayu) (ไม่เด้งเตือน)
*nekopost โดเนท 10 บาทเผยแพร่ตอน 7 วัน โดเนท 100 เขียนตอนใหม่ เผยแพร่ฟรี 90 วัน
Comments