กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ 94 บรรยากาศคลุมเครือในสระน้ำพุร้อน (3)

Now you are reading กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ Chapter 94 บรรยากาศคลุมเครือในสระน้ำพุร้อน (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ท่านอ๋อง…” เสียงสั่นๆ ของนางดังอยู่ข้างหูเบาๆ เบาจนแทบไม่ได้ยิน นิ้วมือขาวผ่องลูบไล้แผงอกกว้างของเขาเบาๆ

เมื่อมือที่นิ่มนวลจนเหมือนไร้กระดูกถูกผิวกายเขา สัมผัสร้อนรุ่มดั่งเปลวเพลิงพลันบังเกิด แผดเผาสติปัญญาที่เหลืออยู่ของตงฟางเจ๋อ ความปรารถนาพุ่งทะยานจนเขาทั้งตกใจและนึกโมโห แขนกำยำโบกสะบัด ผลักสตรีตรงหน้าออกอย่างแรง เงาร่างอรชรที่มีกลิ่นหอมรอบกายพลันเอนล้มไปข้างหลังดั่งใบหลิวที่กำลังร่วงโรย

ซูชิ่นร้องด้วยความตกใจ ยกมือขึ้นคว้าตามสัญชาตญาณ กลับคว้าโดนสายคาดเอวของเขา จากนั้นก็ล้มลงไปข้างหลัง สายคาดเอวหลุดออกทันที น้ำในสระลวกศีรษะและใบหน้านาง ซูชิ่นตกใจตีมือตีเท้าให้วุ่น จนกระทั่งยืนมั่นคงในที่สุด ในมือยังคงกำสายคาดเอวนั้นไว้แน่น อับอายจนแทบเอ่ยวาจาไม่ออก

“เจ้า…สมควรตายยิ่งนัก!” ตงฟางเจ๋อได้สติกลับมาหนึ่งส่วน กัดฟันคำรามเดือดดาล ความปรารถนาพลุ่งพล่านจากส่วนลึกของร่างกายอย่างต่อเนื่อง เขาแทบไม่กล้ามองสตรีตรงหน้าอีกแม้เพียงน้อยนิด

หัวใจของซูชิ่นแทบจะกระดอนออกจากอก ความร้อนรุ่มป่วนพล่านทั่วท้องน้อยจนไม่อาจทานทน นางสาวเท้าตรงไปหาเขาอีกครั้ง พุ่งตัวเข้าไปในอ้อมอกของเขา พึมพำด้วยน้ำเสียงลุ่มหลง “ท่านอ๋อง ใจชิ่นเอ๋อร์มีเพียงท่าน ขอเพียงท่านอ๋องยินยอม ให้ชิ่นเอ๋อร์ทำสิ่งใดก็ยอม…”

ตงฟางเจ๋อกัดฟันแน่น มองดูใบหน้าที่อยู่ห่างเพียงคืบ สติพลันพร่าเลือน ราวกับใบหน้านี้คือใบหน้าที่คอยวนเวียนอยู่ในความฝันและความคิดของเขาอยู่ทุกคืนวัน! เขาอดไม่ได้ที่จะกอดนางไว้แน่น ความปรารถนาแทบจะถาโถม ในตอนนี้เอง เสียงหนึ่งพลันดังมาจากป่าด้านนอก!

มีคนมา! ตงฟางเจ๋อพลันได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว นิ้วมือของเขาพลันขยับ จี้สกัดจุดให้นางหลับใหล สตรีในอ้อมอกพลันตัวอ่อน เปลือกตาค่อยๆ ปิดลง เขารีบส่งเสียงเรียกอย่างเย็นเยียบ “เซิ่งเซียว ส่งนางกลับไป อย่าให้ผู้ใดเห็น”

บุรุษที่แต่งกายคล้ายกับเซิ่งจินและเซิ่งฉินปรากฏตัวพร้อมรับคำ ครั้นเห็นท่าทางของตงฟางเจ๋อผิดปกติ ก็กล่าวอย่างเป็นห่วง “นายท่าน แล้วท่าน…”

ตงฟางเจ๋อเอ่ยเสียงเฉียบขาด “วางใจ หากเรื่องแค่นี้ยังอดทนไม่ได้ ข้าก็ไม่ใช่ตงฟางเจ๋อแล้ว!”

จริงๆ แล้วเขาประเมินแรงปรารถนาที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างกายต่ำเกินไป ทว่าเขาไม่เสียใจเลยที่ส่งซูชิ่นกลับไป หากในครั้งนี้เขาจำเป็นต้องมีสตรีนางหนึ่งอยู่ข้างกาย อย่างไรก็ไม่มีทางเป็นสตรีนางนั้นแน่!

ด้านหลัง มีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นอีกครั้ง มีคนขึ้นเขามาอีกแล้ว

“ท่านอ๋องอยู่ข้างใน เชิญท่านหญิงขอรับ” หลังจากเสียงของเซิ่งฉินเงียบหายไป ตัวคนก็หายไปด้วย

ซูหลีมองดูป่าอันเงียบสงบเบื้องหน้า และมองดูผ้าไหมสีขาวในมืออีกครั้ง ในใจบังเกิดความตึงเครียดสองส่วน ความสงสัยอีกสองส่วน

ผ้าไหมผืนนี้ตงฟางเจ๋อสั่งคนนำไปส่งให้นาง สัญลักษณ์ที่ดูคุ้นเคยแต่ก็แปลกตาบนผ้าไหมเป็นสัญลักษณ์ที่มีเฉพาะในเฉินเหมิน! มือสังหารทุกคนในเฉินเหมินล้วนมีผ้าไหมเช่นนี้คนละผืน สัญลักษณ์บนผ้าไหมบ่งบอกถึงภารกิจที่มือสังหารผู้นั้นเคยทำมาทั้งหมด ทุกตัวล้วนไม่เหมือนกัน ดูจากความซับซ้อนของสัญลักษณ์เหล่านั้นสามารถตัดสินความยากง่ายของภารกิจได้ และผ้าไหมผืนนี้ก็มีสัญลักษณ์เช่นนั้นอยู่ถึงยี่สิบสี่ตัว ความซับซ้อนของมันไม่ต่างจากของหวั่นซินมากนัก เห็นได้ชัดว่าเจ้าของผ้าไหมผืนนี้มีฐานะไม่ธรรมดาในเฉินเหมิน

ซูหลีไม่กล้าคิดว่าเหตุใดสิ่งของที่เป็นหลักฐานยืนยันตัวตนเช่นนี้ถึงได้ไปตกอยู่ในมือของตงฟางเจ๋อได้? และการที่ตงฟางเจ๋อให้คนนำสิ่งนี้ไปให้นาง พร้อมนัดหมายนางมาที่หลังเขา หมายความว่าอย่างไรกันแน่?

ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องไปพบเขา นางสูดหายใจลึกๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปในป่า ทว่า… ถึงแม้นางจะเตรียมใจมารับมือทุกสถานการณ์แล้ว แต่เรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้กลับยังคงอยู่นอกเหนือความคาดหมาย จนนางไม่อาจรับมือได้ถูก…

ตงฟางเจ๋อปล่อยเส้นผมสยายกลางหลัง นั่งหันหลังให้นางอยู่ในสระน้ำพุร้อน มีกลิ่นอายคลุมเครือระคนอันตรายแผ่กำจายอยู่รอบกายเขาอย่างบอกไม่ถูก ซูหลีชะงักเล็กน้อย ขานเรียกเขาหลายครั้ง ทว่ากลับไร้เสียงตอบรับ

รอบกายเงียบสงัดจนผิดปกติ

ซูหลีมองบุรุษที่นั่งนิ่งดั่งประติมากรรมทวยเทพ นางขมวดคิ้วอย่างสงสัย รู้สึกได้รางๆ ว่ามีบางสิ่งไม่ปกติ

รีบสาวเท้าไปข้างหน้า เมื่อเดินมาถึงขอบสระ นางหมายจะเอ่ยเรียกเขาอีกครั้ง ยามนี้เอง บุรุษที่อยู่ในสระพลันเอื้อมแขนดึงนางลงไปในสระทันที

หยาดน้ำอุ่นร้อนพลันสาดกระเซ็นใส่ใบหน้า นางไม่ได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย ทำได้เพียงหวีดร้องด้วยความตกใจ จากนั้นก็ถูกเขารั้งเข้าไปกอดในอ้อมอกกำยำ

หยดน้ำใสๆ ไหลลู่ตามแนวเส้นผม และบดบังสายตาจนพร่าเลือน ชั่วขณะหนึ่งนางมองเห็นใบหน้าของตงฟางเจ๋อไม่ชัด มีเพียงนัยน์ตาเปล่งประกายเจิดจ้าบีบคั้นผู้คนคู่นั้นที่แฝงแววอ่อนโยนและมีเสน่ห์ชวนหลงใหล ต่างจากยามปกติที่ทั้งเย็นชาและยากแท้หยั่งถึง เขามองดูม่านตาอันลึกล้ำของนางที่เป็นประกายสดใส มีแรงดึงดูดมหาศาล คล้ายต้องการส่งผ่านความร้อนรุ่มนั้นไปถึงใจนาง

อึ้งงันไปครู่หนึ่ง

แสงจันทร์ดั่งม่านหมอกสาดส่องทะลุชั้นเมฆที่ลอยอยู่บนฟ้าลงมาปกคลุมพื้นที่เล็กๆ จุดหนึ่งอย่างเงียบงัน

ในสระน้ำพุร้อน ชุดกระโปรงอันแสนบางในหน้าร้อนไม่สามารถกั้นขวางใดๆ ได้ ผิวกายของทั้งสองแนบชิด หัวใจพลันเต้นเร็วอย่างบ้าคลั่ง

มือของเขาเอื้อมไปลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ

ซูหลีได้สติ ผลักเขาออกด้วยความตกใจระคนโกรธขึ้ง เค้นเสียงต่ำถาม “ท่านจะทำอะไร?” เอวบางถูกแขนกำยำสองข้างเกี่ยวรัดไว้แน่นจนไม่อาจขยับเขยื้อน เขาหอบหายใจรุนแรง ทั้งกระชั้นชิดและไม่เป็นจังหวะ ลมหายใจอันหนักหน่วงที่พ่นออกมาจากปากเขากระทบถูกใบหูนางครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้นางตัวสั่นสะท้านเบาๆ เป็นระยะ

ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า นางเปียกปอนไปทั้งตัว ชุดกระโปรงอันโปร่งบางลอยวนไปตามกระแสน้ำอยู่รอบกายทั้งสองเบาๆ เสียดสีผิวกายซึ่งเดิมก็เป็นส่วนที่อ่อนไหวที่สุดอยู่แล้ว

เส้นผมดำขลับของซูหลีลอยสยายอยู่บนผิวน้ำ กระเพื่อมตามคลื่นน้ำเบาๆ ดั่งบุปผาที่กำลังเบ่งบาน ชุดกระโปรงที่แทบจะมองเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่งแนบติดกายนาง ขับเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์แบบของสตรีให้เด่นชัดยิ่งขึ้น เนินอกที่วับแวม และกลิ่นหอมอันเย้ายวน แทบจะทำให้เลือดในกายผู้คนเดือดพล่าน ยากที่จะควบคุม

ตงฟางเจ๋อนัยน์ตาร้อนรุ่ม หายใจกระชั้นชิด พลันก้มหน้าประชิดนางทันที

ซูหลีตะลึง รีบเบี่ยงศีรษะหลบไปด้านหลังโดยเร็ว ยกมือดันร่างเขาออก ทว่ากลับไม่เป็นผล ฝ่ามือพลันรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิอันร้อนจัด นางระแวดระวังทันใด ตงฟางเจ๋อเป็นคนเก็บซ่อนอารมณ์ และคาดเดาความคิดไม่ได้เสมอมา แม้เคยมีพฤติกรรมใกล้ชิดกันหลายครั้ง แต่ก็ล้วนอยู่ในขอบเขต ไม่เคยเกินเลยเหมือนครั้งนี้

การปฏิเสธอันชัดเจนจากนาง ทำให้เขาบังเกิดความร้อนรนจากก้นบึ้งหัวใจ ฝ่ามือใหญ่โอบต้นคอนางไว้แน่น ก่อนจะออกแรงบังคับรั้งนางเข้าหาตนเอง เขาไม่ลังเลสักนิด ก้มหน้าประกบจูบนางทันที

อุณภูมิบนริมฝีปากของเขาร้อนรุ่มแผดเผาไม่ต่างจากร่างกายเขาแม้แต่น้อย ทักษะการจูบอันช่ำชอง รุนแรง และเผด็จการ ตงฟางเจ๋อในยามนี้เปรียบเสมือนเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่ต้องการแผดเผานางในพริบตา

ซูหลีทั้งร้อนใจทั้งโมโห ขัดขืนสุดชีวิต ทว่ากลับไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าได้ นางหายใจหอบกระชั้น พยายามสงบความคิดอันยุ่งเหยิง ทว่ากลับค้นพบอย่างตื่นตะลึงว่า อุณหภูมิร่างกายที่มักจะเย็นเสมอมาของนาง กลับถูกจูบอันร้อนแรงบ้าคลั่งของเขาทำให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางกัดฟัน อยากรวบรวมกำลังภายในเพื่อต่อต้านเขา ทว่ากลับไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้

ต้องมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องแน่ๆ!

ซูหลีอดสะท้านวาบไปทั้งใจไม่ได้ ฉวยโอกาสยามเขาหอบหายใจ เบี่ยงศีรษะหลบอย่างสุดกำลัง ก่อนจะตะโกนอย่างโกรธกรุ่น “ตงฟางเจ๋อ…ท่านช่างต่ำช้านัก! ท่านทำอะไรกับข้ากันแน่?”

ตงฟางเจ๋อพลันชะงักไปเล็กน้อย ทว่ากลับตัวสั่นจนเอ่ยวาจาใดไม่ออก ใบหน้าเขาแดงก่ำไปทั้งดวง ความปรารถนาไหลวนในส่วนลึกของดวงตา ชะงักหยุดไปเพียงชั่วครู่ ใบหน้าหล่อเหลาก็กดทับลงมาอีกครั้ง

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด