ข้าคือหงส์พันปี 459 มาแล้วก็จัดให้อย่างสาสม

Now you are reading ข้าคือหงส์พันปี Chapter 459 มาแล้วก็จัดให้อย่างสาสม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉินเสียนกล่าว "เด็ก ๆ แกล้งเล่นกันไม่มีอะไร ไม่ต้องกังวลใจไป อีกอย่างเมื่อก่อนองค์ชายห้าก็เล่นกับเจ้าน่องน้องอยู่บ่อยครั้ง"

นางยิ้มและกล่าวว่า "ข้าเตือนพระสนมฉีอีกครั้ง เจ้าน่องน้อย ไม่ใช่เจ้าน่อง"

พระสนมฉีรู้สึกขนลุกเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มและสายตาคู่นั้นของนาง

เฉินเสียนกล่าว "อวี้เยี่ยน ไปเตรียมน้ำชามาใหม่ เอ้อร์เหนียงและเสี่ยวเฮอไปคอยดูแลรับใช้ที่ห้องโถง หากพระสนมฉีไม่พูดอะไร ใครก็ห้ามมาที่ห้องตำรา"

สุดท้าย ภายในห้องตำรามีเพียงแค่เจ้าน่องน้อยและองค์ชายห้าเท่านั้น ไม่มีแม้แต่นางกำนัลภายนอก

องค์ชายห้าได้เผยตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมา เขาพยายามรื้อค้นของทุกอย่างในห้องลงมาให้เละเทะยุ่งเหยิงกระจัดกระจายไปทั่ว

ฉีกตำราหนังสือลงบนพื้น ราดหมึกไปตามที่ต่าง ๆ ทุกหนแห่ง องค์ชายห้ายังหยิบตำราหนังสือไปนั่งที่พรม มองไปที่เจ้าน่องน้องและค่อย ๆ ฉีกทีละหน้า ๆ และกล่าวว่า "เจ้าชอบอ่านตำราใช่ไหม ข้าจะฉีกทิ้งทั้งหมด ดูว่าเจ้าจะเอาที่ไหนไปอ่าน"

เจ้าน่องน้อยไม่ได้สนใจ องค์ชายห้าอยากจะฉีกทำลายก็ปล่อยให้เขาทำต่อไป ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าน่องน้อยก็ยังไม่ค่อยรู้จักตัวอักษรมากนัก แล้วจะอ่านหนังสือพวกนี้ได้อย่างไร

องค์ชายห้าฉีกหนังสือจนเริ่มเหนื่อย และเริ่มเขวี้ยงปาข้าวของ เขารู้สึกหงุดหงิด จึงโยนหนังสือตำราไปโดนที่ศีรษะของเจ้าน่องน้อย

องค์ชายห้าพูดอย่างโกรธเคือง "ร้องสิ ทำไมเจ้าไม่ร้อง! ถ้าเจ้าร้องไห้ขอร้องข้า ไม่แน่ข้าอาจจะปล่อยเจ้าก็ได้!"

องค์ชายห้าเดินเข้ามาตรงหน้าของเจ้าน่องน้อย จับเจ้าน่องน้อยแน่นแล้วหยิกเข้าไปที่แก้มของเขา ใช้หนังสือตีไปที่ศีรษะของเขา และกล่าวด้วยความโมโห "ทำไมเจ้าไม่กลัวจระเข้ ข้าไม่ได้ขี้ขลาด เจ้าต่างหากที่ขี้ขลาด! แม่ของเจ้าเป็นคนเสียสติ พ่อของเจ้าเป็นคนไร้ประโยชน์ ส่วนเจ้ามันไอ้คนชั้นต่ำ!"

องค์ชายห้าหมกมุ่นอยู่กับความสุขของตัวเองที่ได้รังแกคนอื่น แม่ของเขาพูดถูก มีเพียงแค่การได้รังแกผู้อื่นเท่านั้นจึงจะสามารถเอาชนะความกลัวได้ ตอนนี้เขาไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้ว

คำพูดที่ออกมาจากปากขององค์ชายห้านั้น เป็นคำพูดที่พระสนมฉีคอยพูดให้เขาฟังก่อนหน้านี้ มีความดุร้ายในน้ำเสียงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขา

แววตาของเจ้าน่องน้อยไม่ได้แสดงออกว่ามีความสุขหรือกำลังโศกเศร้าเสียใจ ถึงแม้เขาจะถูกองค์ชายห้าหยิกที่แก้มจนเป็นรอยนิ้วมือแดง

ในโลกของเจ้าน่องน้อย ถึงแม้เขาจะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ดีพอ แต่เขาก็รู้ว่าอย่างไรเสียพ่อและแม่ของเขาดีที่สุด

เฉินเสียนกล่าว "เด็ก ๆ แกล้งเล่นกันไม่มีอะไร ไม่ต้องกังวลใจไป อีกอย่างเมื่อก่อนองค์ชายห้าก็เล่นกับเจ้าน่องน้องอยู่บ่อยครั้ง"

นางยิ้มและกล่าวว่า "ข้าเตือนพระสนมฉีอีกครั้ง เจ้าน่องน้อย ไม่ใช่เจ้าน่อง"

พระสนมฉีรู้สึกขนลุกเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มและสายตาคู่นั้นของนาง

เฉินเสียนกล่าว "อวี้เยี่ยน ไปเตรียมน้ำชามาใหม่ เอ้อร์เหนียงและเสี่ยวเฮอไปคอยดูแลรับใช้ที่ห้องโถง หากพระสนมฉีไม่พูดอะไร ใครก็ห้ามมาที่ห้องตำรา"

สุดท้าย ภายในห้องตำรามีเพียงแค่เจ้าน่องน้อยและองค์ชายห้าเท่านั้น ไม่มีแม้แต่นางกำนัลภายนอก

องค์ชายห้าได้เผยตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมา เขาพยายามรื้อค้นของทุกอย่างในห้องลงมาให้เละเทะยุ่งเหยิงกระจัดกระจายไปทั่ว

ฉีกตำราหนังสือลงบนพื้น ราดหมึกไปตามที่ต่าง ๆ ทุกหนแห่ง องค์ชายห้ายังหยิบตำราหนังสือไปนั่งที่พรม มองไปที่เจ้าน่องน้องและค่อย ๆ ฉีกทีละหน้า ๆ และกล่าวว่า "เจ้าชอบอ่านตำราใช่ไหม ข้าจะฉีกทิ้งทั้งหมด ดูว่าเจ้าจะเอาที่ไหนไปอ่าน"

เจ้าน่องน้อยไม่ได้สนใจ องค์ชายห้าอยากจะฉีกทำลายก็ปล่อยให้เขาทำต่อไป ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าน่องน้อยก็ยังไม่ค่อยรู้จักตัวอักษรมากนัก แล้วจะอ่านหนังสือพวกนี้ได้อย่างไร

องค์ชายห้าฉีกหนังสือจนเริ่มเหนื่อย และเริ่มเขวี้ยงปาข้าวของ เขารู้สึกหงุดหงิด จึงโยนหนังสือตำราไปโดนที่ศีรษะของเจ้าน่องน้อย

องค์ชายห้าพูดอย่างโกรธเคือง "ร้องสิ ทำไมเจ้าไม่ร้อง! ถ้าเจ้าร้องไห้ขอร้องข้า ไม่แน่ข้าอาจจะปล่อยเจ้าก็ได้!"

องค์ชายห้าเดินเข้ามาตรงหน้าของเจ้าน่องน้อย จับเจ้าน่องน้อยแน่นแล้วหยิกเข้าไปที่แก้มของเขา ใช้หนังสือตีไปที่ศีรษะของเขา และกล่าวด้วยความโมโห "ทำไมเจ้าไม่กลัวจระเข้ ข้าไม่ได้ขี้ขลาด เจ้าต่างหากที่ขี้ขลาด! แม่ของเจ้าเป็นคนเสียสติ พ่อของเจ้าเป็นคนไร้ประโยชน์ ส่วนเจ้ามันไอ้คนชั้นต่ำ!"

องค์ชายห้าหมกมุ่นอยู่กับความสุขของตัวเองที่ได้รังแกคนอื่น แม่ของเขาพูดถูก มีเพียงแค่การได้รังแกผู้อื่นเท่านั้นจึงจะสามารถเอาชนะความกลัวได้ ตอนนี้เขาไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้ว

คำพูดที่ออกมาจากปากขององค์ชายห้านั้น เป็นคำพูดที่พระสนมฉีคอยพูดให้เขาฟังก่อนหน้านี้ มีความดุร้ายในน้ำเสียงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขา

แววตาของเจ้าน่องน้อยไม่ได้แสดงออกว่ามีความสุขหรือกำลังโศกเศร้าเสียใจ ถึงแม้เขาจะถูกองค์ชายห้าหยิกที่แก้มจนเป็นรอยนิ้วมือแดง

ในโลกของเจ้าน่องน้อย ถึงแม้เขาจะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ดีพอ แต่เขาก็รู้ว่าอย่างไรเสียพ่อและแม่ของเขาดีที่สุด

ในเวลานี้ มีเสียงกรุบกรับดังขึ้นในห้องตำรา เสียงค่อยๆ ดังมาจากด้านหลังของเจ้าน่องน้อย ในที่สุดองค์ชายห้าก็รู้สึกตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัวและเริ่มก้าวถอยหลัง

องค์ชายห้าจ้องมองด้วยความสยดสยอง และมองเห็นจระเข้คลานออกมาจากมุมด้านหลังของเจ้าน่องน้อย เสียงกรุบกรับนั้นเกิดจากลำตัวที่หยาบกร้านของมันกระทบเสียดสีเข้ากับตำราหนังสือ!

เดิมที่เจ้าจระเข้กำลังนอนหลับอยู่ที่มุมของชั้นวางตำราหนังสือ แต่เสียงดังโวยวายขององค์ชายห้ากลับทำให้มันตื่นขึ้น

มันคลานมาที่ด้านข้างของเจ้าน่องน้อย และมองดูองค์ชายห้าอย่างเคร่งขรึม

องค์ชายห้าตัวสั่นราวกับตะแกรง แต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียว

เขาต้องการจะหนีออกไป เจ้าน่องน้อยกล่าวออกมาด้วยเสียงเรียบ "เจ้าทำให้มันตื่น หากเจ้าขยับ มันจะเข้าไปกัดเจ้า"

และอีกครั้งที่องค์ชายห้าหวาดกลัวจนฉี่แตกใส่กางเกง เขาค่อย ๆ ถอยหลังไปที่ประตู และจระเข้ก็ค่อย ๆ คลานขยับไปข้างหน้า

และในที่สุดหากไม่ใช่เพราะเจ้าน่องน้อยดึงหางของมันเพื่อปลอบมันไว้ เกรงว่ามันจะพุ่งเข้าไปกัดองค์ชายห้า

องค์ชายห้าคิดว่าห้องตำราแห่งนี้ยังไงก็คงไม่มีจระเข้ แต่ไม่คาดคิดเลยว่า ภายในห้องตำรามี…

ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

เจ้าน่องน้อยเดินตามหลังจระเข้ไป และมองไปที่ประตูที่องค์ชายห้ากำลังออกจากห้องตำราไป ผลก็คือ เขาไม่เห็นขั้นบันไดหน้าประตู จึงทำให้เขากลิ้งลงไปและหน้าผากของเขากระแทกไปที่บันไดอีกครั้ง

องค์ชายห้าเงยหน้าขึ้นมองดูจระเข้ หน้าซีดเซียวและไม่กล้าร้องไห้ออกมา

เฉินเสียนกล่าว "เด็ก ๆ แกล้งเล่นกันไม่มีอะไร ไม่ต้องกังวลใจไป อีกอย่างเมื่อก่อนองค์ชายห้าก็เล่นกับเจ้าน่องน้องอยู่บ่อยครั้ง"

นางยิ้มและกล่าวว่า "ข้าเตือนพระสนมฉีอีกครั้ง เจ้าน่องน้อย ไม่ใช่เจ้าน่อง"

พระสนมฉีรู้สึกขนลุกเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มและสายตาคู่นั้นของนาง

เฉินเสียนกล่าว "อวี้เยี่ยน ไปเตรียมน้ำชามาใหม่ เอ้อร์เหนียงและเสี่ยวเฮอไปคอยดูแลรับใช้ที่ห้องโถง หากพระสนมฉีไม่พูดอะไร ใครก็ห้ามมาที่ห้องตำรา"

สุดท้าย ภายในห้องตำรามีเพียงแค่เจ้าน่องน้อยและองค์ชายห้าเท่านั้น ไม่มีแม้แต่นางกำนัลภายนอก

องค์ชายห้าได้เผยตัวตนที่แท้จริงของเขาออกมา เขาพยายามรื้อค้นของทุกอย่างในห้องลงมาให้เละเทะยุ่งเหยิงกระจัดกระจายไปทั่ว

ฉีกตำราหนังสือลงบนพื้น ราดหมึกไปตามที่ต่าง ๆ ทุกหนแห่ง องค์ชายห้ายังหยิบตำราหนังสือไปนั่งที่พรม มองไปที่เจ้าน่องน้องและค่อย ๆ ฉีกทีละหน้า ๆ และกล่าวว่า "เจ้าชอบอ่านตำราใช่ไหม ข้าจะฉีกทิ้งทั้งหมด ดูว่าเจ้าจะเอาที่ไหนไปอ่าน"

เจ้าน่องน้อยไม่ได้สนใจ องค์ชายห้าอยากจะฉีกทำลายก็ปล่อยให้เขาทำต่อไป ถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าน่องน้อยก็ยังไม่ค่อยรู้จักตัวอักษรมากนัก แล้วจะอ่านหนังสือพวกนี้ได้อย่างไร

องค์ชายห้าฉีกหนังสือจนเริ่มเหนื่อย และเริ่มเขวี้ยงปาข้าวของ เขารู้สึกหงุดหงิด จึงโยนหนังสือตำราไปโดนที่ศีรษะของเจ้าน่องน้อย

องค์ชายห้าพูดอย่างโกรธเคือง "ร้องสิ ทำไมเจ้าไม่ร้อง! ถ้าเจ้าร้องไห้ขอร้องข้า ไม่แน่ข้าอาจจะปล่อยเจ้าก็ได้!"

องค์ชายห้าเดินเข้ามาตรงหน้าของเจ้าน่องน้อย จับเจ้าน่องน้อยแน่นแล้วหยิกเข้าไปที่แก้มของเขา ใช้หนังสือตีไปที่ศีรษะของเขา และกล่าวด้วยความโมโห "ทำไมเจ้าไม่กลัวจระเข้ ข้าไม่ได้ขี้ขลาด เจ้าต่างหากที่ขี้ขลาด! แม่ของเจ้าเป็นคนเสียสติ พ่อของเจ้าเป็นคนไร้ประโยชน์ ส่วนเจ้ามันไอ้คนชั้นต่ำ!"

องค์ชายห้าหมกมุ่นอยู่กับความสุขของตัวเองที่ได้รังแกคนอื่น แม่ของเขาพูดถูก มีเพียงแค่การได้รังแกผู้อื่นเท่านั้นจึงจะสามารถเอาชนะความกลัวได้ ตอนนี้เขาไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้ว

คำพูดที่ออกมาจากปากขององค์ชายห้านั้น เป็นคำพูดที่พระสนมฉีคอยพูดให้เขาฟังก่อนหน้านี้ มีความดุร้ายในน้ำเสียงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขา

แววตาของเจ้าน่องน้อยไม่ได้แสดงออกว่ามีความสุขหรือกำลังโศกเศร้าเสียใจ ถึงแม้เขาจะถูกองค์ชายห้าหยิกที่แก้มจนเป็นรอยนิ้วมือแดง

ในโลกของเจ้าน่องน้อย ถึงแม้เขาจะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ดีพอ แต่เขาก็รู้ว่าอย่างไรเสียพ่อและแม่ของเขาดีที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด