ข้ามมิติมาทั้งที ก็กลายเป็นตัวร้ายลูกเศรษฐีผู้ร่ำรวยไปซะแล้ว 69
[ติ๊ง โฮสต์ช่วงชิงหนึ่งในนางเอกฟางซวน ได้แต้มตัวร้าย 500 ออร่าตัวเอกฟางเฮิง -25, ออร่านางเอกฟางซวน-25, ออร่าตัวร้าย +50!]
หวังฮ่าวหลานยอมรับรางวัลอย่างพอใจ
รางวัลที่ได้รับสามารถทําซ้ำได้ แต่รางวัลที่ได้น้อยกว่าตอนแรกมาก
อย่างไรก็ตามรางวัลแต้มตัวร้าย 500 และ ออร่าตัวร้าย 50 ก็เป็นรางวัลที่น่าพึงพอใจ
ยังมีเวลาอีก 15 นาทีก่อนที่การประชุมผู้ปกครอง-ครูจะเริ่มขึ้น
หวังฮ่าวหลานและฟางซวนเดินออกจากห้อง
เดินไปไม่กี่ก้าวก็พบกับซงเจิ้นอวี่
หวังฮ่าวหลานตกใจ แต่ด้วยคุณสมบัติทางจิตวิทยาที่ดีของตนเอง เขาก็สงบลงสักครู่และยิ้มทักทาย
“พี่สาวเจิ้นอวี่”
“ไม่ใช่พี่สาวให้เรียกว่าครูซ่ง!” ซ่งเจินอวี่เห็นคนอื่นยืนอยู่ข้างๆ เธอจึงปฏิเสธด้วยใบหน้าที่ตรงไปตรงมา
“นี่คือพี่สาวของผม ไม่ใช่คนนอกอะไรหรอก พอดีเธอก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เพราะงั้นผมเลยพาเธอไปพักผ่อนสักครูหนึ่งมา” หวังฮ่าวหลานหัวเราะ
“พี่สาวเธอเหรอ” ซ่งเจินอวี่พยักหน้ายิ้มอย่างสุภาพให้ฟางซวนทันทีและจับมือขาวของเธอไว้
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซ่งเจินอวี่ และฉันเป็นครูประจําชั้นของหวังฮ่าวหลาน”
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ… หวังซวน” ฟางซวนเกือบจะเผลอหลุดปาก แต่โชคดีที่แก้ไขได้ทัน
ทั้งสองจับมือกันอย่างสุภาพแล้วปล่อยวาง
ซ่งเจินอวี่ขมวดคิ้วเพราะรู้สึกเหนียวเล็กน้อยหลังจากจับมือกับฟางซวน
“ฉันขอโทษ ฉันแค่ถูครีมทามือนิดหน่อยและไม่ได้ถูกมันให้ดี” ฟางซวนกล่าวขอโทษและหยิบกระดาษเช็ดมือเปียกออกจากกระเป๋าและมอบให้กับซ่งเจินอวี่
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” หลังจากที่ซ่งเจินอวี่เช็ดมือด้วยกระดาษทิชชู่แล้ว เธอก็มองดูเวลานั้นและพูดว่า
“การประชุมผู้ปกครอง-ครูกําลังจะเริ่มแล้ว ไปที่ห้องประชุมกันเถอะ”
“ตกลง”
ฟางซวนกลัวที่จะพูดคุยกันต่อไปและหลังจากได้ยินซ่งเจินอวี่ว่าเช่นนั้นเธอก็พยักหน้าทันทีและเดินมุ่งหน้าไป
“คุณหวัง… ถุงน่องดูเหมือนจะฉีกขาดนะ” ซ่งเจินอวี่เตือนอย่างเป็นมิตร
“อ๊า?!” ฟางซวนตกใจมองย้อนกลับไปอย่างรวดเร็วและพบว่าถุงน่องในตําแหน่งต้นขาเป็นรู
เธอเหลือบมองหวังฮ่าวหลานโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วอธิบายให้ซ่งเจินอวี่ด้วยความเขินอายอย่างยิ่ง:
“มันคงไปข่วยอะไรโดยไม่ได้ตั้งใจ”
เธอสวมกระโปงมืออาชีพที่มีความยาวเท่าเข่าแต่มีรูตรงถุงน่องนี่ย่อมดูไม่เหมาะสมเล็กน้อย
“คุณหวัง รูปร่างคุณดูจะคล้ายกับฉัน พอดีฉันก็มีถุงน้องอยู่ในห้องถ้าไม่รังเกียจสวมของฉันได้นะ”
“ครูมีใส่ถุงน่องด้วยเหรอ” หวังฮ่าวหลานมองซ่งเจินอวี่ด้วยความประหลาดใจ
เพราะเขาไม่เคยเห็นซ่งเจินอวี่ใส่มันมาก่อน
“ฉันเองก็เป็นผู้หญิง ทําไมฉันจะใส่มันไม่ได้บ้างล่ะ” ซ่งเจินอวี่เหลือบมองเขา
เนื่องจากเป็นเพราะอาชีพเธอมักจะไม่สะดวกที่จะสวมใส่ แต่สิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเธอที่จะมีมัน
หลังจากพูดแล้วซ่งเจินอวี่ก็พาฟางซวนไปที่ห้องทำงานของเธอ
ใช้เวลาสักพักก่อนที่ทั้งสองจะออกมา
ถุงน่องสีดําดั้งเดิมของฟางซวนถูกแทนที่ด้วยสีม่วงเข้ม
ถุงน่องสีม่วงเข้มนี้เป็นของซ่งเจินอวี่อย่างไม่ต้องสงสัย
ในเรื่องนี้ หวังฮ่าวหลาน ไม่แปลกใจเลยเพราะเขาเป็นคนที่ความสามารถมองทะลุ
ซ่งเจินอวี่คนนี้ดูเหมือนจะมีจุดอ่อนต่อสีม่วง
ว่ากันว่าผู้หญิงที่ชอบสีม่วงจะมีความโรแมนติกมากกว่า
ไม่รู้ว่าซ่งเจินอวี่เป็นแบบนี้ด้วยเปล่า
หวังฮ่าวหลานอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามคําถามนี้แน่นอนเขาไม่สามารถถามซ่งเจินอวี่ด้วยตนเองได้
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้
ทั้งสามคนมารวมกันที่ห้องประชุมใหญ่
มีผู้ปกครองจํานวนมากมารวมตัวกันที่นี่และการสนทนาในห้องประชุมก็มีเสียงดังเป็นพิเศษ
ครูประจําชั้นเกือบทั้งหมดของแต่ละชั้นเรียนมาถึงแล้ว
ห้องประชุมแบ่งออกเป็นพื้นที่ แต่ละพื้นที่มีเก้าอี้สี่สิบถึงห้าสิบตัวซึ่งแต่เก้าอี้แต่ละตัวมีชื่อของนักเรียนติดอยู่
ผู้ปกครองที่มาที่ห้องประชุมสามารถนั่งได้
มีทางเดินอยู่ถัดจากที่นั่งเหล่านี้
ทางเดินเหล่านั้นมีไว้ให้นักเรียนยืน
เมื่อจัดประชุมผู้ปกครอง-ครู นักเรียนจะต้องยืนข้างผู้ปกครอง
นักเรียนก็จะยืนรอฟังคำชมจากครู บ้างก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์จากครู…
ในฐานะผู้ปกครองถ้าเห็นลูกของตนเองได้การชื่นชมแน่นอนว่ต้องมีความสุขมากจนหน้าบาน
และถ้าลูกๆ ตนเองถูกวิพากษ์วิจารณ์ พวกเขาก็จะอับอายจนไม่มีที่จะยืน
สําหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่มีฐานะยากจนสถานที่แห่งนี้นับได้ว่าไม่ต่างไปจากศาลพิพากษาคดี
แน่นอนว่าหวังฮ่าวหลานไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้เลย
“ฮ่าวหลาน?”
หวังฮ่าวหลานพยายามไปยังตําแหน่งของตัวเองกับฟางซวน แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกออกมาจากด้านหลังมาแต่ไกล
เขามองย้อนกลับไปและเห็นสาวงามเดินมาทางด้านนี้ด้วยฝีเท้าที่รวดเร็ว
“สวัสดีครับ ผู้อำนวยการถัง”
“สวัสดีค่ะ ผู้อำนวยการถัง”
……
ระหว่างทางเหล่าครูและเจ้าหน้าที่บางคนที่รู้จักเธอทักทายเธอด้วยความเคารพ
อย่างไรก็ตามถังปิงหยุนไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกเขาเลย แต่เพียงแค่เดินตรงไปยังหวังฮ่าวหลาน
“น้าถัง สวัสดีครับ” หวังฮ่าวหลานทักทายอย่างสุภาพมาก
เมื่อได้ยินวิธีเรียกขานนี้ปากเล็กๆ สีดอกกุหลาบของถังปิงหยุนที่ฉาบด้วยลิปสติกก็กระตุกอย่างเห็นได้ชัด
แต่เธอกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว มองไปที่ฟางซวน และถามหวังฮ่าวหลานว่า
“นี่คือผู้ปกครองเธอ…”
“พี่สาวผมเอง”
“พี่สาว? เท่าที่ฉันรู้ พี่เจิ้นหลี่ดูเหมือนจะมีลูกแค่เธอคนเดียวใช่ไหม? ”
“เป็นพี่สาวบุญธรรมน่ะ”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง” ถังปิงหยุนตกตะลึงแล้วมองฟางซวนอย่างสุภาพมากขึ้น:
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อถังปิงยุน”
“น้า… คุณถัง สวัสดีค่ะ”ฟางซวนยังต้องการเรียกน้าเหมือนกับที่หวังฮ่าวหลานทำแต่อายุของเธอดูเหมือนจะแก่กว่าตัวเธอเองหนึ่งหรือสองปีและมันไม่เหมาะสมที่จะน้ากับอีกฝ่ายดังนั้นเธอจึงหยุดทัน
ฟางซวนระงับการสร้างความเกลียดชังได้ทันเวลาซึ่งเพิ่มความรู้สึกที่ดีของถังปิงหยุนเป็นอย่างมาก
“นี่ คุณหวัง ลิปสติกของคุณดูดีจังใช้สีอะไรเหรอ” ถังปิงยุนพูดอย่างกระทันหัน
เธอและฟางซวนมีอายุใกล้เคียงกันและฟางซวนเป็นพี่สาวของหวังอ่าวหลายซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะลดความอาวุโสของเธอลดได้
ถังปิงยุนจะไม่พลาดอย่างแน่นอน
“เป็นสีแดงเมเปิ้ล”ฟางซวนตอบ
“สีนี้เข้ากันได้ดีกับคุณมาก คุณหวังไม่เพียงแต่จะสวย แต่ยังรู้วิธีแต่งหน้าและแต่งตัวด้วย” ถังปิงหยุนไม่ลังเลที่จะชื่นชม
“ไม่หรอกค่ะ ฉันแค่แต่งง่ายๆ และการแต่งตัวก็หยาบมากค่ะ คุณถัง คุณสวยจริงๆ และพอแต่งหน้าแล้วก็สวยขึ้นไปอีก” ฟางซวนค่อนข้างระมัดระวังเล้กน้อย
เธอน่าจะได้ยินไปแล้วที่ครูเหล่านั้นเรียกว่าถังปิงหยุนว่าผู้อํานวยการโรงเรียน
เห็นได้ชัดว่าสถานะของถังปิงหยุนนี้สูงมาก
ฟางซวนคิดว่าเธอเป็นเพียงเลขาตัวเล็ก ๆ และไม่กล้าที่จะพูดคุยกับคนตำแหน่งสูงเช่นนี้เลย
“คุณหวัง คุณไม่รู้เหรอว่าคุณสวยแค่ไหน ฉันอยากจะถามอย่างจริงใจว่าจะแต่งตัวยังไง แต่คุณคงไม่เต็มใจที่จะบอกเพราะงั้นคุณเลยแกล้งทําเป็นถ่อมตัวใช่ไหม?” ถังปิงยุนกล่าวอย่างเคร่งขรึม
รูปลักษณ์ของเธอดูเป็นท่าทางตำหนิ แต่รู้สึกสบายใจเป็นพิเศษเมื่อได้ยิน
ผู้หญิงชอบให้คนชื่นชมในความสวยของตนโดยเฉพาะผู้หญิงสวย
เมื่อฟางซวนได้ยินสิ่งนี้หัวใจของเธอก็ผ่อนคลายขึ้นทันทีและก็รีบพูดว่า:
“ได้ยังไงกันคะ คุณอยากรู้อะไรฉันจะตอบให้ทุกอย่างเลย”
……
ผู้หญิงสองคนพูดคุยกันอย่างร้อนแรงทันที
ความสามารถในการสื่อสารของถังปิงหยุนนั้นไม่เลวนักและเธอตั้งใจจะเข้าหาฟางซวนมากขึ้น เพียงไม่กี่คําเธอก็ได้ลดระยะห่างกับฟางซวนให้แคบลง
สําหรับสิ่งที่ผู้หญิงกําลังพูดถึงหวังฮ่าวหลานไม่กล้าที่จะสนใจและหันศีรษะเหลือบมองออกไปโดยไม่ตั้งใจ
เขาเห็นคนที่ไม่ควรปรากฏตัวที่นี่โดยบังเอิญ
“เสี่ยวอี้เฟิง?!”
Comments