ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 15 บทที่ 427 ค่ำคืนในทิวเขา

Now you are reading ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ Chapter เล่มที่ 15 บทที่ 427 ค่ำคืนในทิวเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท่าทาง​ผ่อนคลาย​เมื่อ​ครู่​ของ​ชิวอ​วี้​แปร​เปลี่ยนเป็น​ความกังวล​

ยิ่ง​เข้าใกล้​ก็​ยิ่ง​อันตราย​ หาก​เป็นเวลา​ปกติ​พวกเขา​ยัง​พอ​มีความมั่นใจ​ว่า​แม้หนทาง​จะลำบาก​ แต่​ขอ​เพียง​ระมัดระวัง​ให้​ดี​ก็​เพียงพอ​

แต่​ตอนนี้​มีคน​จับจ้อง​พวกเขา​อยู่​ ถ้าหาก​อีก​ฝ่าย​ไม่ต้องการ​ให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​หา​ยา​กลับ​ไปได้​สำเร็จ​แล้ว​ล่ะ​ก็​ เช่นนั้น​สงคราม​อัน​เลวร้าย​จะต้อง​เกิดขึ้น​อย่าง​แน่นอน​

“เช่นนั้น​อีก​เดี๋ยว​ข้า​จะไปบอก​กับ​ท่าน​กัว​ว่า​พวกเรา​จะขอ​ล่วงหน้า​ไปก่อน​ ข้า​ไม่อยาก​ทำให้​คนใน​ขบวน​พ่อค้า​ต้อง​เสี่ยงอันตราย​ไปด้วย​ หาก​เป้าหมาย​ของ​พวกเขา​คือ​ข้า​ ขอ​เพียง​ข้า​ออกจาก​ขบวน​พ่อค้า​ไป เท่านี้​พวกเขา​ก็​จะไม่เข้ามา​ยุ่ง​วุ่นวาย​ที่นี่​แล้ว​”

ยาม​พลบค่ำ​บน​ทิว​ต้น​ซิ่งสามารถ​เห็น​เส้นทาง​หฤโหด​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ เส้นทาง​นี้​คับแคบ​เสีย​จน​รถม้า​สามารถ​แล่น​ผ่าน​ได้​เพียง​ทีละ​คัน​

เบื้องล่าง​คือ​หน้าผา​สูงชัน​ แต่​สิ่งที่​อันตราย​ที่สุด​คือ​สายลม​ที่​มักจะ​พัด​กระทบ​เข้ามา​ที่​ริม​ผา​อย่าง​ไม่ทัน​ตั้งตัว​

อย่า​ว่าแต่​คน​เลย​ แม้แต่​ม้ายัง​เดิน​ตุปัดตุเป๋​

เพราะเหตุนี้​จึงไม่มีใคร​เลือก​มาเส้นทาง​นี้​มาก​นัก​

ม้าเหล่านั้น​โชคดี​ที่​มีห้อง​โดยสาร​และ​โซ่ล่าม​ถ่วง​น้ำหนัก​เอาไว้​ ดังนั้น​จึงผ่าน​ไปได้​อย่าง​ปลอดภัย​ แต่​พวกเขา​ที่​ขี่ม้า​คนละ​ตัว​ย่อม​เสี่ยง​อยู่​บ้าง​

“อืม​ ข้า​จะไปบอก​เขา​เอง​ ข้า​คิด​ว่า​เขา​ต้อง​เข้าใจ​”

ชิวอ​วี้​พยักหน้า​ลง​ เหตุ​เพราะ​คนใน​ขบวน​พ่อค้า​ล้วน​เป็น​เพียง​คนธรรมดา​ ฉะนั้น​พวกเขา​จึงไม่อยาก​ดึง​คนบริสุทธิ์​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​

มอง​ตามหลัง​ชิวอ​วี้​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ถอนหายใจ​เบา​ๆ

“กังวล​หรือ​? ข้า​จะปกป้อง​เจ้าเอง​”

หลง​เทียน​อวี้​เอ่ย​เสียง​อ่อนโยน​ทว่า​แน่วแน่​ มือ​หนา​ยื่น​เข้าไป​กุมมือ​เล็ก​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ ความรู้สึก​ที่​ส่งมาทำให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​รับรู้​ได้​ถึงความปลอดภัย​

พยักหน้า​ลง​ ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​นาง​จึงเชื่อ​เสมอ​ว่า​เมื่อ​หลง​เทียน​อวี้​ลั่นวาจา​แล้ว​ เขา​ย่อม​สามารถ​ทำได้​

ชิวอ​วี้​กลับมา​อย่าง​รวดเร็ว​หลังจาก​ปรึกษา​กับ​ท่าน​กัว​เรียบร้อย​แล้ว​

ท่าน​กัว​เป็น​คน​ฉลาดเฉลียว​ ดังนั้น​เขา​ย่อม​รู้​ว่า​พวกเขา​มีฐานะ​ไม่ธรรมดา​ ฉะนั้น​ปัญหา​ที่​ตามมา​ย่อม​ไม่ธรรมดา​เช่นเดียวกัน​

“ท่าน​กัว​อนุญาต​แล้ว​ แต่​เขา​บอ​กว่า​ช่วง​กลางคืน​ลม​ค่อนข้าง​แรง​ ฉะนั้น​เขา​จะพา​คนใน​ขบวน​พ่อค้า​ไปค้างแรม​ที่​ทิว​ป่าต้น​ซิ่ง จากนั้น​พวกเรา​ค่อย​ออกเดินทาง​วันรุ่งขึ้น​”

นี่​เป็น​การประนีประนอม​ให้​มาก​ที่สุด​สำหรับ​ท่าน​กัว​แล้ว​

หลิน​เมิ้งห​ยา​หัน​ไปหา​เขา​พร้อมทั้ง​พยักหน้า​น้อย​ๆ เพื่อ​เป็นการ​ขอบคุณ​

ไม่นาน​ขบวน​การค้า​ก็​เดินทาง​มาถึงป่าต้น​ซิ่งที่​ชิวอ​วี้​เล่า​ ยัง​ไม่ทัน​เดินทาง​เข้าไป​ใกล้​ กลิ่นหอม​เย็น​พลัน​โชย​เข้ามา​เตะจมูก​

เมื่อ​เทียบ​กับ​กลิ่นหอม​เย็น​ของ​ดอก​เหมย​แล้ว​ กลิ่นหอม​สะอาด​ของ​ต้น​ซิ่งทำให้​คุณหนู​สกุล​หลิน​รู้สึก​น่ารัก​และ​เป็นมิตร​

เกรง​ว่า​แม้แต่​จิตรกร​ขึ้นชื่อ​ใน​เมืองหลวง​ก็​ยัง​มิอาจ​แต่ง​แต้ม​เติม​สีสัน​ลง​บน​ผืน​ภาพ​ให้​ออกมา​งดงาม​ดั่ง​ทัศนียภาพ​แห่ง​นี้​

กลีบดอก​สีขาว​อม​ชมพู​บานสะพรั่ง​ละลานตา​อย่าง​ไม่มีที่​สิ้นสุด​ คง​ไม่มีใคร​คิด​ถึงว่า​กว่า​จะได้​เห็นภาพ​ความสวยงาม​ของ​ต้น​ซิ่งนี้​จะต้อง​ผ่าน​หน้าผา​ที่​อันตราย​ถึงชีวิต​

“ทุกคน​ค้างแรม​ที่​ป่าต้น​ซิ่งเพื่อ​พักผ่อน​”

เห​วิน​สือ​ร้อง​ประกาศ​ ทุกคน​จึงส่งเสียง​รับคำ​

อาศัย​จังหวะ​ที่​ท้องฟ้า​ยัง​ไม่มืด​ดี​เดินทาง​รุดหน้า​ขึ้นไป​ยัง​ป่าต้น​ซิ่งเพื่อ​หา​ฟืน​มาก่อ​กองไฟ​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ขี่ม้า​ตาม​หลง​เทียน​อวี้​ไปสำรวจ​พื้นที่​ด้านหน้า​

เส้นทาง​มิได้​ลำบาก​เหมือน​ตอนแรก​ แต่​เมื่อ​ชะโงก​หน้า​ลง​มอง​หุบเหว​สูงชัน​สุดลูกหูลูกตา​ หลิน​เมิ้งห​ยา​อด​ที่จะ​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​ไม่ได้​

“เพราะเหตุนี้​แม้พลัง​อำนาจ​ของ​เมือง​หลิน​เทียน​จะสู้เมือง​อื่น​ไม่ได้​ แต่​ตลอด​หลาย​ปีที่ผ่านมา​ก็​มิเคย​ถูก​บุก​เลย​อย่างนั้น​สินะ​”

เมื่อ​ได้​เห็น​กับ​ตา​ตัวเอง​แล้ว​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ทำได้​เพียง​ถอนหายใจ​ให้​กับ​การ​รังสรรค์​ของ​พระเจ้า​

“แน่นอน​อยู่แล้ว​ เมือง​หลิน​เทียน​ล้อมรอบ​ไปด้วย​น้ำ​ทั้ง​สามด้าน​ มีเพียง​ด้าน​เดียว​ที่​ติดกับ​แผ่นดินใหญ่​ แต่​ถึงกระนั้น​หุบเขา​แห่ง​นี้​ก็​เป็น​ทางเข้าออก​ทาง​หนึ่ง​”

แม้จะพยายาม​กด​เสียงต่ำ​ แต่​ถึงกระนั้น​ชิวอ​วี้​ก็​ยัง​อด​ที่จะ​รู้สึก​ภูมิใจไม่ได้​

หลิน​เมิ้งห​ยา​คร้าน​จะเค้น​ถามเขา​ เรื่องราว​มาถึงขั้น​นี้​แล้ว​ หาก​นาง​ยัง​เดา​ไม่ออ​กว่า​ชิวอ​วี้​เป็น​คนเมือง​หลิน​เทียน​แล้ว​ล่ะ​ก็​ คาด​ว่า​สมอง​ของ​นาง​คง​มีแต่​ขี้เลื่อย​

ทว่า​ไม่ว่า​จะเป็น​คนเมือง​หลิน​เทียน​หรือ​ต้า​จิ้น​ ขอ​เพียง​เป็น​มิตรสหาย​ที่​คอย​ช่วยเหลือ​เกื้อกูล​กัน​ แค่นี้​ก็​ไม่มีปัญหา​อัน​ใด​แล้ว​

“แม้จะมีการป้องกัน​แน่นหนา​ยาก​ต่อ​การ​โจมตี​ แต่​ถ้าหาก​เส้นทาง​ถูก​บุก​ฝ่าเข้าไป​ เช่นนั้น​เมือง​หลิน​เทียน​ก็​ไร้​ทาง​หนี​มิใช่หรือ​?”

หลง​เทียน​อวี้​มิอาจ​ทน​ดูท่าทาง​ภูมิใจของ​ชิวอวี้​อีกต่อไป​ได้​ หาก​ตอนนี้​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ ป่านนี้​เขา​คง​สั่งคุมตัว​หมอ​หลวง​คน​นี้​ไปนั่งแท่น​สอบสวน​แล้ว​

ทว่า​ชิวอ​วี้​กลับ​ไร้​ซึ่งโทสะ​ เขา​ส่ายหน้า​น้อย​ๆ

“เจ้าคิด​ว่า​เพราะเหตุใด​เมือง​นี้​จึงยัง​ไม่สูญเสีย​แผ่นดิน​ไปเล่า​? นั่น​ก็​เพราะ​เมือง​หลิน​เทียน​มีชายแดน​ติดกับ​มหาสมุทร​ทั้ง​สามด้าน​ แต่ละ​ครัวเรือน​ล้วน​มีเรือ​เป็น​ของ​ตนเอง​ หาก​เส้นทาง​ทั้งสอง​ด้าน​ถูก​บุก​ฝ่าเข้ามา​จริง​ เช่นนั้น​คนเมือง​หลิน​เทียน​คง​หนีรอด​ปลอดภัย​ไปนาน​แล้ว​ ต่อให้​พวก​เจ้าแข็งแกร่ง​ แต่​ก็​คง​ไม่มีความสามารถ​ที่จะ​ต่อเรือ​ไล่ตาม​ได้​ทันท่วงที​หรอก​กระมัง​”

คำพูด​ของ​ชิวอวี้​ทำให้​หลง​เทียน​อวี้​ชะงัก​ ทั้งสอง​ยังคง​จ้องหน้า​กัน​อย่าง​ไม่มีใคร​ยอม​ใคร​

เริ่มต้น​จาก​สงคราม​แย่ง​ดินแดน​ไปสู่ข้อพิพาท​ทางเศรษฐกิจ​และ​ชีวิต​ราษฎร​

หลิน​เมิ้งหยาม​อง​ทั้งสอง​ด้วย​ท่าทาง​เอือมระอา​ นาง​ส่ายหน้า​น้อย​ๆ

โต​เป็นผู้ใหญ่​กัน​แล้ว​แท้ๆ​ เหตุใด​จึงยัง​ทะเลาะ​กัน​เหมือน​เด็ก​

หรี่ตา​ลง​จ้องมอง​หุบเหว​เบื้องล่าง​

แม้นี่​จะเป็นครั้งแรก​ที่​นาง​เดินทาง​มายัง​เมือง​หลิน​เทียน​ แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​นาง​จึงรู้สึก​คิดถึง​ทิวทัศน์​เช่นนี้​ขึ้น​มา

หยิบ​ตราประทับ​ลาย​ดอก​เหมย​ออกมา​จับ​ หาก​นาง​เดา​ไม่ผิด​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ของ​ชิ้น​นี้​ต้อง​เกี่ยวข้อง​กับ​ชาติตระกูล​ของ​ท่าน​แม่อย่าง​แน่นอน​

ชิวอ​วี้​เคย​เล่า​ว่า​สกุล​ของ​ชนชั้นสูง​ใน​เมือง​หลิน​เทียน​ล้วน​ใช้ตรา​สัญลักษณ์​ดอก​เหมย​

หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ นั่น​เท่ากับ​ว่า​ที่นี่​คือ​บ้านเกิดเมืองนอน​ของ​ท่าน​แม่

ฉะนั้น​ร่างกาย​ของ​นาง​จึงมีสายเลือด​ของ​เมือง​หลิน​เทียน​อยู่​ครึ่งหนึ่ง​ ดังนั้น​แม้จะเป็นการ​มาเยือน​ครั้งแรก​ แต่​นาง​กลับ​ไม่รู้สึก​แปลกที่​แปลก​ทาง​ กลับกัน​นาง​รู้สึก​ตื่นเต้น​เป็นส่วนใหญ่​

ราวกับ​ความกังวล​ใน​หัวใจ​มลาย​หาย​ไปชั่วคราว​

ไม่รู้​ว่าการ​เดินทาง​มายัง​เมือง​หลิน​เทียน​ใน​คราวนี้​จะสร้าง​ความเปลี่ยนแปลง​อัน​ใด​ให้​กับ​ชีวิต​ของ​นาง​

เพราะเหตุนี้​หัวใจ​ของ​นาง​จึงมีความหวัง​เล็ก​ๆ เกิดขึ้น​

“ไปกัน​เถิด​ ลม​มาแล้ว​ เดี๋ยว​จะเป็นหวัด​เอา​”

การฟาดฟัน​กัน​จบ​ลง​ หลง​เทียน​อวี้​พยายาม​ปกปิด​ความภาคภูมิใจ​ใน​แววตา​

ปล่อย​ให้​หลง​เทียน​อวี้​กุม​สายบังเหียน​อย่าง​อิสระ​ ทิ้ง​ชิวอวี้​ซึ่งกำลัง​เผชิญหน้า​กับ​สาย​ลมกระโชก​บ่น​อุบอิบ​อยู่​ทาง​ด้านหลัง​

ใบหน้า​หล่อเหลา​ฉาย​ชัด​ให้​เห็น​ว่า​ “ข้า​ไม่รู้สึก​ยินดี​เลย​แม้แต่น้อย​”

“พวก​เจ้านี่​จริงๆ​ เลย​ โต​ขนาด​นี้​แล้ว​แท้ๆ​ เลิก​โวยวาย​เป็น​เด็ก​ได้​หรือไม่​?”

หลิน​เมิ้งห​ยา​มิอาจ​ทน​มอง​ได้​อีกต่อไป​ เมื่อก่อน​ตอน​อยู่​ใน​เมืองหลวง​พวกเขา​ยังมี​ความสัมพันธ์​อัน​ดี​ต่อกัน​อยู่เลย​ เหตุใด​ทันทีที่​ออกจาก​เมือง​มาสติปัญญา​จึงลดลง​เหลือ​เท่า​เด็กน้อย​แล้ว​เล่า​

“เขา​เป็น​ฝ่าย​ยั่วยุ​ข้า​ก่อน​ แม้ตัว​ข้า​จะสามารถ​อดทน​อย่าง​ใจกว้าง​ได้​ แต่​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​บ้านเมือง​ ข้า​ที่​เป็น​องค์​ชาย​สามแห่ง​ต้า​จิ้น​ อ๋อ​งอ​วี้​ผู้​นี้​มิอาจ​ยอม​อ่อนข้อ​ให้​แก่​ใคร​หน้า​ไหน​ได้​!”

ใบหน้า​หลง​เทียน​อวี้​เคร่งขรึม​ ท่าทาง​น่าเกรงขาม​

ชิ! หลิน​เมิ้งห​ยา​แอบ​ถ่มน้ำลาย​ใน​ใจ

ทั้งที่​เป็น​เพียง​เด็กน้อย​เท่านั้น​ เหตุใด​ต้อง​ชัก​เหตุผล​ทาง​สายเลือด​ของ​ราชวงศ์​มาแอบอ้าง​

คนใน​ขบวน​พ่อค้า​มีมากมาย​ ดังนั้น​ความสามารถ​จึงมาก​ตาม​ ไม่นาน​กลิ่น​หอมหวน​ชวน​น้ำลายสอ​ก็​ฟุ้งกระจาย​ไปทั่ว​ทั้ง​ป่าต้น​ซิ่ง

ผู้คน​นั่ง​ล้อม​กองไฟ​ ทิวทัศน์​งดงาม​ตระการตา​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ซึมซับ​ความงดงาม​ตรงหน้า​

ลง​จาก​หลัง​ม้าเพื่อ​หา​กลีบดอกไม้​มากอง​รวมกัน​ กลิ่น​ดอก​ซิ่งอาบ​ชโลม​ตัว​จน​หอม​ฟุ้ง ท่าทาง​เหมือน​เด็ก​ของ​นาง​ทำให้​คน​ทั้ง​ขบวน​การค้า​ยิ้ม​เอ็นดู​

“น้อง​เสี่ยว​หยวน​ เจ้าออกเรือน​แล้ว​แท้ๆ​ เหตุใด​จึงมีท่าทาง​เหมือน​เด็ก​เช่นนี้​เล่า​?”

ตลอด​หลาย​วัน​ที่ผ่านมา​ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ว่า​ชายหนุ่ม​คน​นี้​มีฝีมือ​โหดเหี้ยม​ แต่​เขา​มัก​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​ของ​ตน​อย่าง​เป็นมิตร​ อีก​ทั้ง​อายุ​ยัง​น้อย​ ดังนั้น​พวก​พ่อค้า​จึงชอบ​หยอกล้อ​เขา​เป็นประจำ​

เขา​ไม่เคย​โมโห​ ซ้ำยัง​แย้มยิ้ม​อย่าง​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ที่​กำลัง​เล่น​กับ​ดอก​ซิ่งหยัก​ยิ้ม​ซุกซน​ จากนั้น​นาง​จึงเข้าไป​แย่ง​ไห​เหล้า​จาก​ชาย​คน​นั้น​

“เป็น​อะไร​ไป? โมโห​เลย​อยาก​เท​เหล้า​ข้า​หรือ​? อย่า​ทำ​เช่นนั้น​เลย​ ข้า​เหลือ​เหล้า​เพียงเท่านี้​แล้ว​ ไอ​ห​ยา​ ไอ​ห​ยา​ ไอ​ห​ยา​ นี่​เจ้าทำ​อะไร​กัน​แน่​?”

ชาย​คน​นั้น​วิ่ง​ไล่ตาม​หลิน​เมิ้งห​ยา​ แต่​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​นาง​จะเอื้อมมือ​เข้าไป​หยิบ​ดอก​ซิ่งมาหนึ่ง​กำมือ​แล้ว​โปรย​ลง​ไปใน​ไห​

เมื่อ​เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​กำลัง​ร้อนใจ​ นาง​จึงเขย่า​ไห​เหล้า​เล็กน้อย​ จากนั้น​ก็​ฉีก​ยิ้ม​ตาหยี​พลาง​ยื่น​ไห​เหล้า​ไปชิด​ริมฝีปาก​ของ​เขา​

“ชิมดู​”

ชาย​คน​นั้น​ไม่เกรงใจ​ มือ​ยก​ไห​เหล้า​ขึ้น​จิบ​

คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​เหล้า​ขม​ฝาด​บาดคอ​จะถูก​กลบ​ด้วย​กลิ่นหอม​หวาน​ของ​ดอก​ซิ่ง

รสชาติ​ล้ำเลิศ​ยิ่งนัก​ กลิ่น​ของ​ดอก​ซิ่งเข้ากันได้ดี​กับ​เหล้า​ไห​นี้​

“อืม​ ไม่เลว​! น้อง​หยวน​ ขอบใจ​เจ้ามาก​”

ชาย​คน​นั้น​วิ่ง​ไปหา​ผู้อื่น​ด้วย​ความพึงพอใจ​ ทิ้ง​หลิน​เมิ้งห​ยา​ที่​ยังคง​เก็บ​ดอก​ซิ่งไม่หยุด​เอาไว้​ทาง​ด้านหลัง​

“เจ้าเก็บ​พวก​มัน​ไปทำไม​?”

หลง​เทียน​อวี้​ไม่รู้​ว่า​นาง​คิด​จะทำ​อะไร​ กลับกัน​เขา​ถูก​หลิน​เมิ้งห​ยา​ดึง​ตัว​ไว้​ ก่อนที่​นาง​จะวาง​กลีบดอก​ซิ่งลง​บน​ชายผ้า​ของ​ชุด​เขา​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ใส่เกือบจะ​ไม่หมด​แล้ว​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงพา​หลง​เทียน​อวี้​มายัง​กอง​ฟืน​ทำอาหาร​

ลงมือ​ล้าง​ข้าว​ใส่หม้อ​ด้วย​ตนเอง​ จากนั้น​นำ​กลีบดอก​ซิ่งที่​ล้าง​สะอาด​ดีแล้ว​ใส่ลง​ไป

“น้อง​เสี่ยว​หยวน​ พวกเรา​แบก​ข้าว​ขึ้น​มาอย่าง​ยากลำบาก​ เจ้าทำ​เช่นนี้​จะมิเป็นการ​เสีย​ของ​หรือ​?”

เห​วิน​สือ​ไม่เข้าใจ​ความคิด​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ ดังนั้น​เขา​จึงรีบ​เข้ามา​ร้อง​ห้าม​ หัว​คิ้ว​ขมวด​มุ่น​

ทว่า​หลิน​เมิ้งห​ยา​กลับ​ใช้ช้อน​คน​โจ๊ก​ใน​หม้อ​พลาง​เอ่ย​อธิบาย​

“ดอก​ซิ่งเป็น​ยาสมุนไพร​อย่างหนึ่ง​ มีสรรพคุณ​ใน​การ​บำรุง​ลมปราณ​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​บำรุง​ผิวพรรณ​ได้​อีกด้วย​ ข้า​ทำ​เตรียม​เอาไว้​ให้​พวก​สาว​ๆ ผู้ชาย​ตัว​โต​เช่น​พวก​เจ้าไปทาง​ด้าน​นู้น​ไป”

นอกจาก​ชิวอ​วี้​แล้ว​ ทุกคน​ล้วน​ไม่รู้​ว่า​ดอก​ซิ่งไร้ประโยชน์​เช่นนี้​จะเป็น​ยาสมุนไพร​

ฉะนั้น​พวกเขา​จึงทำ​เพียง​ยืน​มอง​อยู่​ข้างๆ​

เมื่อ​พระอาทิตย์​ลาลับ​ขอบฟ้า​ อาหาร​ของ​ทุกคน​ถูก​ตัก​ออกจาก​หม้อ​เรียบร้อย​แล้ว​

ทุกคน​นั่งลง​ประจำ​ที่​ เหตุ​เพราะ​ล่วงรู้​สรรพคุณ​ของ​ดอก​ซิ่ง ดังนั้น​ไม่ว่า​ข้าว​หรือ​กับข้าว​ล้วน​เต็มไปด้วย​ดอก​ซิ่ง

แม้ว่า​ผู้ชาย​ใน​ขบวน​การค้า​จะเป็น​พวก​หยาบกระด้าง​ แต่​ถึงกระนั้น​พวกเขา​ก็​ยัง​อด​ที่จะ​รู้สึก​ประหลาดใจ​ไม่ได้​

หลิน​เมิ้งห​ยา​นั่ง​พิง​หลัง​อยู่​ที่​มุมหนึ่ง​ แน่นอน​ว่า​ตำแหน่ง​นั้น​สามารถ​นั่ง​กิน​โจ๊ก​ดอก​ซิ่งของ​นาง​ได้​โดย​มิถูก​รบกวน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด