ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 15 บทที่ 436 ชาติกำเนิดที่แท้จริง

Now you are reading ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ Chapter เล่มที่ 15 บทที่ 436 ชาติกำเนิดที่แท้จริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลง​เทียน​อวี้​จ้องมอง​ชิวอวี้​ไม่วางตา​ ราวกับว่า​กำลัง​พิจารณา​หา​ความจริง​

ตรา​หย​กลาย​มังกร​อันนั้น​เป็น​ของ​คนใน​ราชวงศ์​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​ไม่ผิด​แน่​ แต่​เขา​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​มารดา​ของ​หลิน​เมิ้งหย​าจะมีชาติกำเนิด​สูงศักดิ์​ถึงเพียงนี้​

“ข้า​คือ​น้องชาย​ร่วม​สายเลือด​ของ​ฮ่องเต้​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​นาม​ว่า​จั่ว​ชิวอ​วี้​ มารดา​ของ​เมิ้งห​ยา​เคย​เป็น​องค์​หญิง​องค์​โต​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​นาม​ว่า​องค์​หญิง​หย่ง​หนิง​จั่ว​ซูชิง แต่​ต่อมา​เสด็จ​ป้าทะเลาะ​กับ​เสด็จ​พ่อ​ของ​ข้า​ ดังนั้น​จึงสละ​ฐานันดร​ ตลอด​หลาย​ปีที่ผ่านมา​เสด็จ​พ่อ​สั่งพวก​ข้า​เอาไว้​ว่า​จะต้อง​ตามหา​เสด็จ​ป้าให้​เจอ​และ​เชิญเสด็จ​กลับมา​ให้จงได้​”

หลง​เทียน​อวี้​เคย​ได้ยิน​พระนาม​ของ​องค์​หญิง​หย่ง​หนิง​มาก่อน​ เสด็จ​พ่อ​เคย​เล่า​ให้​ฟังว่า​องค์​หญิง​หย่ง​หนิง​มีรูปโฉม​งดงาม​ล่ม​เมือง​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​มีพรสวรรค์​มาแต่กำเนิด​และ​เปรียบเสมือน​สมบัติ​ของ​เมือง​หลิน​เทียน​

ตอนนั้น​นาง​เป็นที่​หมายปอง​ของ​เหล่า​องค์​ชาย​ทั้งหลาย​ แต่​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​สุดท้าย​แล้​วจะ​แต่งงาน​กับ​หลิน​มู่จือ​

“ข้า​จะยอม​เชื่อ​เจ้า”

ตรึกตรอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ หลง​เทียน​อวี้​เลือก​ที่จะ​เชื่อ​คำพูด​จั่ว​ชิวอวี้​

หาก​จั่ว​ชิวอ​วี้​คิดร้าย​กับ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ เช่นนั้น​เขา​คง​ไม่ปกป้อง​นาง​ด้วย​ชีวิต​ แม้เขา​จะไม่เข้าใจ​วิชา​การแพทย์​ แต่​เขา​รู้ดี​ว่า​ความสามารถ​ทางการแพทย์​ของ​ชิวอ​วี้​สูงกว่า​แพทย์​ทหาร​เหล่านี้​มาก​ ตอนนี้​หลิน​เมิ้งห​ยา​ยังคง​มีอาการ​น่าเป็นห่วง​ ใน​เมื่อ​มีเส้นด้าย​แห่ง​ความหวัง​โผล่​ขึ้น​มา เช่นนั้น​เขา​ไม่ควรจะ​มองข้าม​ไป

รถม้า​ตระเตรียม​เสร็จ​อย่าง​รวดเร็ว​ คาด​ว่า​หลู่​ตี๋​รู้จัก​ตัวตน​ของ​จั่ว​ชิวอ​วี้​อยู่​นาน​แล้ว​ ฉะนั้น​ไม่ว่า​จั่ว​ชิวอ​วี้​จะร้องขอ​สิ่งใด​ เขา​จึงทำให้​โดย​มิขัด​

หลง​เทียน​อวี้​อุ้ม​หลิน​เมิ้งห​ยา​ด้วย​ตนเอง​ ภายใน​รถม้า​มีพรม​ขนสัตว์​ผืน​หนา​วาง​รอง​เอาไว้​แล้ว​ ฉะนั้น​หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ชิวอวี้​ไม่มีทาง​ได้รับ​การ​กระทบกระเทือน​อย่าง​แน่นอน​

แม่ทัพ​ด้านหน้า​แถบ​ชายแดน​หลู่​ตี๋​ยืนกราน​ที่จะ​ไปส่งพวกเขา​ด้วย​ตนเอง​ เมื่อ​มีกองกำลัง​ของ​ทหาร​หลวง​คอย​คุ้มกัน​ ดังนั้น​พวกเขา​ย่อม​เดินทาง​ถึงที่หมาย​ได้​อย่าง​ปลอดภัย​

รถม้า​เคลื่อนตัว​ออกจาก​ค่ายทหาร​ เหตุ​เพราะ​จั่ว​ชิวอ​วี้​ได้รับบาดเจ็บ​ที่​แผ่น​หลัง​ ดังนั้น​เขา​จึงเข้าสู่​ห้วง​นิทรา​อีกครั้ง​

ไม่มีอะไร​ตก​ถึงท้อง​หลง​เทียน​อวี้​มาทั้งวัน​แล้ว​ ริมฝีปาก​ของ​เขา​แห้ง​กรัง​ เส้นเลือดฝอย​ใน​ดวงตา​แตก​จน​กลายเป็น​สีแดงก่ำ​

ไม่ว่า​ใคร​จะโน้มน้าว​เขา​สัก​เท่าไร​ เขา​ก็​ไม่ยอม​ขยับตัว​ออกห่าง​จาก​หลิน​เมิ้งห​ยา​เลย​แม้แต่น้อย​

รถม้า​แล่น​โคลงเคลง​ รัตติกาล​ผัน​ผ่าน​ แสงแห่ง​อรุณรุ่ง​ส่อง​ประกาย​ หลง​เทียน​อวี้​ที่​ดูแล​หลิน​เมิ้งห​ยา​ตลอด​ทั้งคืน​จึงหลับตา​ลง​

ทุก​สอง​ชั่ว​ยาม​จะมีคน​มาทำแผล​และ​นำ​ยามา​ให้​ หลง​เทียน​อวี้​ยังคง​ป้อน​หลิน​เมิ้งห​ยา​ด้วย​วิธีการ​เดิม​

นอกจาก​ริมฝีปาก​บาง​สีเชอรี่​ที่​ขยับ​ขึ้น​ลง​น้อย​ๆ นาง​ก็​มิได้​ขยับตัว​เคลื่อนไหว​อีก​

หลง​เทียน​อวี้​ตกใจ​สะดุ้งตื่น​จาก​ความฝัน​

สิ่งแรก​ที่​เขา​ทำ​คือ​มองดู​หญิงสาว​ใน​วงแขน​ว่า​ยัง​สบายดี​หรือไม่​

เหงื่อ​ผุด​พราย​ขึ้น​ตาม​แนว​หน้าผาก​ สายตา​จับจ้อง​หลิน​เมิ้งห​ยา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ เมื่อ​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​ไม่มีสิ่งใด​ผิดปกติ​เขา​จึงวางใจ​

ยก​มือซ้าย​ของ​นาง​ขึ้น​วาง​บน​ใบหน้า​ของ​ตน​เพื่อ​ส่งผ่าน​ความอบอุ่น​ไปยัง​หัวใจ​

โชคดี​ที่​เป็น​เพียง​ความฝัน​ หลิน​เมิ้งห​ยา​ยังคง​มีชีวิต​อยู่​ นาง​ยัง​คงอยู่​ข้าง​กาย​เขา​ แม้หัวใจ​ของ​เขา​ในเวลานี้​จะหวาดกลัว​เพียงใด​ก็ตาม​

ทั้งที่​เวลา​ผ่าน​ไปเพียง​สอง​วัน​เท่านั้น​ ทว่า​หัวใจ​ของ​เขา​ทรมาน​จน​ยาก​จะทาน​ทน​

ช่วง​ย่ำรุ่ง​วัน​ถัดมา​ จั่ว​ชิวอวี้​ไข้​ขึ้น​สูง เขา​ยังคง​หลับใหล​และ​ตื่นขึ้น​มาบ้าง​บางครั้ง​ ทว่า​อารมณ์​ของ​หลง​เทียน​อวี้​ใกล้​จะระเบิด​เต็มที​ เหตุ​เพราะ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ยังคง​แน่นิ่ง​ไร้​ซึ่งปฏิกิริยา​ใดๆ​

แพทย์​ทหาร​กล่าวว่า​บาดแผล​ค่อนข้าง​ลึก​ หลิน​เมิ้งห​ยา​อาจ​มีไข้​เพราะ​อาการ​บาดเจ็บ​

แต่​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​นอกจาก​นาง​จะไม่มีไข้​หรือ​ติดเชื้อ​แล้ว​ บาดแผล​ของ​นาง​ยัง​ตกสะเก็ด​ภายใน​ระยะเวลา​เพียง​คืน​เดียว​

แพทย์​ทหาร​กล่าว​อี​กว่า​แม้บาดแผล​ภายนอก​จะไม่มีปัญหา​ แต่​ภายใน​ยัง​บาดเจ็บ​อยู่​ ดังนั้น​หาก​ต้อง​การรักษา​อาการ​บาดเจ็บ​ที่​ไหล่​ขวา​ เช่นนั้น​จะต้อง​เฉือน​บาดแผล​เพื่อ​ใส่ยา​

หลง​เทียน​อวี้​ยิ้ม​ไม่ได้​หัวเราะ​ไม่ออก​ นาง​แตกต่าง​จาก​คนอื่น​อย่าง​สิ้นเชิง​ เพียงแต่​นาง​ต้อง​ทุกข์ทรมาน​แล้ว​

นาง​ไม่ควร​เป็น​ผู้​แบกรับ​ความ​ทรมาน​คราวนี้​เลย​

เดิมที​วัง​จักรพรรดิ​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​อยู่​เหนือ​สุด​ของ​แคว้น​ โดย​มีอาณาเขต​ติดกับ​ทะเล​ แต่​หลังจาก​ฮ่องเต้​องค์​ใหม่​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​ เมืองหลวง​ใหม่​ชื่อว่า​ว่าง​เทียน​ถูก​ย้าย​ไปอยู่​ปลาย​สุด​ทิศตะวันตก​

แม้จะไม่เคย​พบ​เจอกัน​มาก่อน​ แต่​หลง​เทียน​อวี้​ก็​ได้ยิน​ข่าวคราว​ของ​ฮ่องเต้​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​มาไม่น้อย​

หาก​กล่าวว่า​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​มีหัวใจ​กล้าแกร่ง​ เช่นนั้น​ฮ่องเต้​องค์​ปัจจุบัน​ก็​เป็นยอด​ฝีมือ​ใน​การ​เล่น​กับ​ใจผู้คน​

ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​สิ้นพระชนม์​กะทันหัน​ บ้านเมือง​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ เขา​ที่​ยัง​เป็น​เพียง​องค์​รัชทายาท​มีเพียง​ขุนนาง​อ่อนแอ​สนับสนุน​ แต่​องค์​รัชทายาท​ผู้​นี้​รู้​วิธี​ซื้อใจ​คน​ ดังนั้น​ราษฎร​ใน​เมือง​หลิน​เทียน​จึงสนับสนุน​ใน​การ​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​ของ​เขา​

องค์​รัชทายาท​ผู้​เป็น​ขวัญใจ​ของ​ราษฎร​ใช้กำลัง​ทหาร​อันน้อย​นิด​ของ​ตนเอง​ปก​ปักษ์​คุ้มครอง​บ้านเมือง​และ​สืบทอด​ราชบัลลังก์​ต่อไป​

ฮ่องเต้​องค์​ใหม่​มิแยแส​ต่อ​คำ​คัดค้าน​ของ​ขุน​นางใน​ราชสำนัก​ใน​การ​ย้าย​เมืองหลวง​

บางคน​อาจ​คิด​ว่า​ฮ่องเต้​พระองค์​นี้​เหลิง​ใน​อำนาจ​จน​ลืมตัว​ แต่​หลง​เทียน​อวี้​กลับ​เข้าใจ​ว่า​ฮ่องเต้​องค์​นี้​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​เพราะ​ราษฎร​ ดังนั้น​เขา​จึงต้องการ​ย้าย​เมืองหลวง​เพื่อ​ที่​ตนเอง​จะได้​เข้าไป​อยู่​จุด​เสี่ยงอันตราย​ที่สุด​ หาก​วันหนึ่ง​บ้านเมือง​ถูก​รุกราน​ เช่นนั้น​ศัตรู​จะต้อง​บุก​โจมตี​เมืองหลวง​ว่าง​เทียน​ก่อน​ ดังนั้น​เมื่อ​มีเมืองหลวง​สกัดกั้น​เอาไว้​ ราษฎร​เมือง​หลิน​เทียน​จึงมีเวลา​ลงเรือ​หนี​ออก​นอก​แคว้น​ได้​ทันท่วงที​

คง​ไม่พูด​ไม่ได้​ว่า​ความคิด​เช่นนี้​ทำให้​ราษฎร​ล้วน​มีหัวใจ​จงรักภักดี​ต่อ​ฮ่องเต้​ของ​พวกเขา​

ยิ่งไปกว่านั้น​แม้เมือง​ว่าง​เทียน​จะอยู่​ใกล้​กับ​แนว​ชายแดน​ แต่​หาก​มอง​จาก​สภาพ​ภูมิศาสตร์​ เมืองหลวง​ว่าง​เทียน​นับว่า​เป็นที่ตั้ง​ที่​แข็งแกร่ง​แห่ง​หนึ่ง​เลย​ทีเดียว​

หาก​มิได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​ราษฎร​ เช่นนั้น​คง​เป็นไปไม่ได้​เลย​ที่จะ​ย้าย​เมืองหลวง​ไปเช่นนี้​

เพราะเหตุนี้​เสด็จ​พ่อ​มัก​พูด​เสมอ​ว่า​ห้าม​ดูแคลน​คนรุ่นหลัง​เป็นอันขาด​ เพียง​ดู​จาก​วิธีการ​ที่​ฮ่องเต้​องค์​ใหม่​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​พระองค์​นี้​ใช้ก็​รู้​ได้​ทันที​ว่า​เขา​มีความทะเยอทะยาน​ไม่น้อย​

รถม้า​แล่น​ทะยาน​ตลอด​ทั้งวันทั้งคืน​ ไม่นาน​ก็​มาถึงกำแพง​เมืองหลวง​ว่าง​เทียน​

ทั้งที่​เพิ่ง​ย้าย​เมืองหลวง​มาได้​ไม่นาน​ แต่​หลง​เทียน​อวี้​มั่นใจ​ว่า​ฮ่องเต้​องค์​ใหม่​นี้​มีแผนการ​อยู่​ใน​ใจนาน​แล้ว​

ไม่ว่า​กำแพงเมือง​หรือ​สิ่งปลูกสร้าง​ภายใน​ล้วน​ถูก​ก่อสร้าง​ขึ้น​เป็น​อย่าง​ดี​ ฉะนั้น​แม้จะย้าย​เมืองหลวง​มาแล้ว​ แต่​เมือง​หลิน​เทียน​กลับ​ไม่เกิด​ความโกลาหล​

วิสัยทัศน์​ของ​ฮ่องเต้​พระองค์​นี้​ลึกล้ำ​ยิ่งนัก​ เพราะเหตุนี้​เขา​จึงได้​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​

“รีบ​เปิด​ประตูเมือง​! เซิ่นจวิ้น​อ๋อง​เสด็จ​กลับมา​แล้ว​!”

หลู่​ตี๋​นำ​ตรา​หย​กลาย​มังกร​ของ​จั่ว​ชิวอ​วี้​ออก​ไปเป็น​ใบเบิกทาง​ ประตูเมือง​ที่​ปิด​สนิท​ถูก​เปิด​ออก​กว้าง​

เหล่า​ทหารคุ้มกัน​เมืองหลวง​ล้วน​เข้าแถว​เรียงหน้ากระดาน​เพื่อ​ต้อนรับ​พวกเขา​เข้าสู่​เมืองหลวง​

หลง​เทียน​อวี้​นั่ง​อยู่​ภายใน​รถม้า​ มือ​หนา​กำมือ​เล็ก​แน่น​โดย​ไม่สนใจ​สิ่งรอบข้าง​

รถม้า​แล่น​เข้าไป​ยัง​ถนนสายหลัก​ของ​เมืองหลวง​ ไม่นาน​ก็​หยุด​อยู่​ที่​หน้า​คฤหาสน์​หลัง​หนึ่ง​

“เร็ว​ รีบ​เชิญจวิ้น​อ๋อง​เสด็จ​”

เสียง​เอะอะ​ทาง​ด้านนอก​ดัง​ขึ้น​ ครู่​ต่อมา​ผ้าม่าน​ประตู​รถม้า​พลัน​ถูก​แหวก​ออก​

คนรับใช้​สอง​คน​ช่วยกัน​คนละไม้คนละมือ​ยก​ร่าง​จั่ว​ชิวอ​วี้​ออก​ไป

“ใต้เท้า​ มอบ​ฮูหยิน​ให้​พวกเรา​อุ้ม​ไปเถิด​”

แม้จะไม่รู้​ว่า​คน​ที่มา​พร้อมกับ​จวิ้น​อ๋อง​เป็น​ใคร​ แต่​คนรับใช้​ของ​เซิ่นจวิ้น​อ๋อง​ยังคง​เอ่ย​ด้วย​ความเคารพ​

“ไม่เป็นไร​ ข้า​อุ้ม​นาง​ลง​ไปเอง​”

หลง​เทียน​อวี้​ปฏิเสธความหวังดี​ของ​คนรับใช้​เหล่านั้น​ เขา​แน่วแน่​ที่จะ​อุ้ม​หลิน​เมิ้งห​ยา​เหยียบ​ประตู​จวน​เซิ่นจวิ้น​อ๋อง​เข้าไป​

เดินผ่าน​เส้นทาง​ขรุขระ​ ในที่สุด​ก็​มาถึงสถานที่​เงียบสงบ​เหมาะ​แก่​การพักผ่อน​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​จั่ว​ชิวอ​วี้​

หมอ​หลวง​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​ย่ำเท้า​เข้ามา​ใน​จวน​เซิ่นจวิ้น​อ๋อง​ไม่ขาดสาย​ ทว่า​พวกเขา​ล้วน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ของ​เซิ่นจวิ้น​อ๋อง​ก่อน​และ​ทิ้ง​ให้​หลง​เทียน​อวี้​และ​หลิน​เมิ้งห​ยา​อยู่​อีก​ห้อง​หนึ่ง​

หัว​คิ้ว​ขมวด​มุ่น​ หลง​เทียน​อวี้​ลุกขึ้น​ยืน​เพราะ​คิด​อยาก​เข้าไป​จับตัว​คน​เหล่านั้น​มารักษา​ให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​

แต่​เขา​กลับ​ได้​เห็น​ร่าง​สูงโปร่ง​ใน​ชุด​สีเหลือง​ทอง​ย่ำเท้า​เข้ามา​ภายใน​ด้วย​ท่าทาง​เร่งรีบ​เสีย​ก่อน​

“หา​ตัว​ญาติ​ผู้​น้อง​เจอ​แล้ว​หรือ​? นาง​เล่า​? งี่เง่า! พวก​เจ้าไปช่วย​อา​อวี้​ทำไม​กัน​! หาก​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​เจิ้น​เป็น​อะไร​ไปขึ้น​มา เจิ้น​จะสังหาร​พวก​เจ้าทิ้ง​ให้​หมด​!”

พวก​หมอ​หลวง​รีบ​ผงกหัว​หงึกหงัก​ ดูท่า​พวกเขา​เพิ่งจะ​นึกได้​ว่า​ยังมี​คน​นอนเจ็บ​อยู่​ห้อง​ด้าน​ข้าง​

พวก​หมอ​หลวง​วิ่ง​เข้ามา​ภายใน​ห้อง​ราวกับ​สายน้ำ​เชี่ยวกราก​ โดย​ทิ้ง​ไว้​เพียง​หมอ​หลวง​สอง​คน​สำหรับ​รักษา​จั่ว​ชิวอ​วี้​ เมื่อ​เข้ามา​ภายใน​แล้วจึง​ห้อมล้อม​เตียง​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​

แพทย์​ทหาร​ที่​เดินทาง​มาพร้อมกัน​ช่วย​อธิบาย​สถานการณ์​ สาวใช้​ท่าทาง​คล่องแคล่ว​สอง​คน​เข้ามา​คอย​รับใช้​หลิน​เมิ้งห​ยา​

หลง​เทียน​อวี้​ยืน​นิ่ง​อยู่กับที่​ เหตุ​เพราะ​ไม่มีที่ว่าง​ให้​เขา​เข้าไป​ยืน​ข้าง​กาย​หลิน​เมิ้งห​ยา​

“เจ้าคือ​หลง​เทียน​อวี้?​ องค์​ชาย​สามแห่ง​ต้า​จิ้น​?”

เสียงทุ้ม​ต่ำ​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้าน​ข้าง​

หลง​เทียน​อวี้​เบือนหน้า​ไปมอง​ ก่อน​จะได้​เห็น​ใบหน้า​ของ​บุรุษ​ใน​ชุด​สีเหลือง​ทอง​อย่าง​ชัดเจน​

จั่ว​ชิวอ​วี้​มีใบหน้า​งดงาม​โดดเด่น​ แต่​บุรุษ​ตรงหน้า​สุขุม​เยือกเย็น​กว่า​เขา​มาก​

แม้อายุ​จะมากกว่า​เขา​เพียง​ไม่กี่​ปี แต่เพียง​มอง​ปราด​เดียว​ก็​รู้สึก​ถึงความสง่างาม​และ​ใจเย็น​

ทว่า​ดวงตา​สุขุม​คู่​นั้น​กลับ​คมกริบ​จน​สามารถ​สังหาร​ศัตรู​ได้​

รูปร่าง​สูงโปร่ง​เหยียด​ตรง​ เขา​สวม​ชุด​สีเหลือง​อร่าม​ เส้น​ผม​ดำขลับ​ถูกรวบ​ไว้​ทาง​ด้านหลัง​ เครื่องประดับ​เพียง​ชิ้น​เดียว​คือ​ปิ่น​หยก​สีเลือด​

ท่าทาง​น่าเกรงขาม​ยิ่งนัก​ เมื่อ​สบตา​กับ​เขา​ สายตา​สงบนิ่ง​คู่​นั้น​เสมือน​มอง​ลึก​เข้าไป​ถึงก้นบึ้ง​ของ​จิตใจ​

ไม่ต้อง​ถามเขา​ก็​รู้​ว่า​บุรุษ​ผู้​นี้​คือ​ฮ่องเต้​แห่ง​เมือง​หลิน​เทียน​…จั่ว​ชิวเฉิน​

หลง​เทียน​อวี้​มอง​อีก​ฝ่าย​ด้วย​สายตา​เคร่งขรึม​ คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ฮ่องเต้​ผู้​มัก​เล่น​กับ​หัวใจ​คน​ผู้​นั้น​จะส่งยิ้ม​เป็นธรรมชาติ​ให้​เช่นนี้​

อีก​ทั้ง​ดวงตา​ยัง​เผย​แวว​สนิท​ชิด​เชื้อ​

ขณะเดียวกัน​ใบ​หน้าที่​ดู​น่า​หวั่น​คร้าม​กลับ​ทำให้​เขา​รู้สึก​สนิทสนม​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ แม้แต่​คน​ที่​มีความระแวดระวัง​เสมอ​มายัง​อด​ที่จะ​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ยาม​ได้​พบ​เขา​ไม่ได้​

คน​ผู้​นี้​ไม่ธรรมดา​!

“ถึงอย่างไร​ตอนนี้​พวกเรา​ก็​เป็น​ญาติ​กัน​แล้ว​ ข้า​นาม​ว่า​จั่ว​ชิวเฉิน​ มีศักดิ์​เป็น​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ หาก​เจ้าไม่รังเกียจ​ เช่นนั้น​เจ้าจะเรียก​ข้า​ว่า​เปี่ยว​เก​อ​ [1] ก็ได้​”

————————-

หมายเหตุ​
เปี่ยว​เก​อ​ [1] หมายถึง​ ญาติ​ผู้​พี่​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด