ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 12 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 12 ตอนที่ 1
ละครเวทีเรื่องแรกที่มารุได้ดูนั้น เป็นเรื่องราวตลกขบขันของครอบครัวที่มีปัญหาครอบครัวหนึ่ง เขาซื้อตั๋วเข้าชมเมื่อตอนครั้งอยู่มหาวิทยาลัย และเข้าไปนั่งดูกับเพื่อน ๆ ในโรงละครเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
ตอนแรกที่เขาดู เนื้อเรื่องมันค่อนข้างจะซับซ้อนทีเดียว แต่พอลองมาคิดตามหลังจบ มันกลับช่างเรียบง่าย เรื่องราวของพ่อติดเหล้า ที่จริง ๆ แล้วไม่ได้ติด แม่ที่ชอบตะโกนเสียงดัง แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนขี้ขลาด ลูกชายพี่พูดจาสบถแทบตลอดเวลา กลับกลายเป็นคนจิตใจงาม และลูกสาวที่บอกว่าเกลียดชังครอบครัวของตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วรักครอบครัวมาก ละครเรื่องนั้นจบลงด้วยการที่ทุกคนในครอบครัวเข้าใจซึ่งกันและกันได้
การได้เห็นสีหน้า ท่าทาง จังหวะการหายใจ และเหงื่อที่ไหลลงมาบนหน้าของนักแสดง ทำให้มารุรู้สึกประทับใจมาก หลังจากวันนั้น มารุก็เริ่มดูละครเวทีบ่อยมาขึ้น เหตุผลที่เขาเลือกจะไปเป็นผู้จัดการทั่วไปหลังเรียนจบเอง ก็เพราะเขาชอบละครนี่ด้วย
“ละครเหรอ?” เขากล่าว พร้อมก้มลงมองโต๊ะตัวเอง
ครั้งหนึ่งเขาเคยอยากจะเป็นนักแสดงเสียเองด้วยซ้ำ ในช่วงหนึ่งมารุรู้สึกชื่นชมในตัวนักแสดงเอามาก ๆ เพราะพวกเขาช่างดูมีชีวิตชีวา สำหรับมารุที่ในหัวมีแต่เรื่องคิดหางานแล้ว พวกนั้นช่างดูสว่างไสว
แต่พอเขาได้รู้จักชีวิตนอกจอของเหล่านักแสดง ก็ทำให้เขายอมแพ้ในเรื่องนั้นไปทันที
“นี่” โดจินเรียก
ตอนนี้เป็นเวลาก่อนจะเริ่มคาบ 4 คาบเรียนก่อนจะพักเที่ยง
“วันนี้แกดูเหมือนเหม่อ ๆ นะ”
“ไม่ได้ดูเหมือนเหม่อ แต่เหม่ออยู่ ง่วงว่ะ”
“เอาล่ะ ๆ สารภาพมาดีกว่า แก…”
[ชักว่าวทั้งคืนเหรอ?]
กล่องคำพูดลอยขึ้นมาบนหัวโดจิน ทำให้มารุต้องอมยิ้มด้วยความประหลาดใจ
“หัวเราะอะไร?”
“ก็ชักไง จะถามเพื่อ?”
“ว่าไงนะ?”
โดจินทำหน้าย่นด้วยความสงสัย
“เออ จะว่าไป ได้ข้อความปะ?” มารุเปลี่ยนเรื่องอย่างทันควัน โชคดีที่โดจินเองก็ไม่ใช่พวกชอบตื๊ออะไร
“ที่เขาเรียกไปหลังเลิกเรียนเหรอ?”
“ใช่”
“ได้สิ แต่จะเรียกไปทำอะไรนะ?”
“ใครจะไปรู้”
มารุคิดเรื่องนี้ต่ออีกนิดหน่อย แต่ก็ไม่สามารถนึกหาคำตอบได้ ไม่นาน คาบ 4 ก็จบลง เสียงประชาสัมพันธ์ประกาศให้ปีหนึ่งไปที่โรงอาหารได้ ทำให้เหล่าปีหนึ่งรีบวิ่งลงไปราวกับกำลังหนีภัยธรรมชาติสักอย่าง
“แม่ง ดูพวกวิ่งกันสิ” โดจินพูดขณะมองเพื่อน ๆ วิ่งกรูกันออกห้องไป เหลือเพียงเขากับมารุไว้ในห้อง
การค่อย ๆ กินกลายเป็นนิสัยของพวกเขาไปแล้ว จริง ๆ ก็ยังมีอีกคนที่เหลือยู่ในห้อง เดมยังค่อย ๆ เดินเข้ามาสบทบกับเพื่อนทั้งสองคน
“อ่า กลัวจริง” จู่ ๆ เดมยังก็พูดขึ้นมาลอย ๆ
“กลัวอะไร?” โดจินถาม
“เรื่องที่พวกรุ่นพี่เรียกเราไปไง”
“จะขี้กังวลเกินไปแล้วแกน่ะ”
“แต่นายก็เห็นนี่ ท่อนั่น”
“อ่า อันนั้นน่ากลัวจริง”
“คิดว่าเขาจะใช้ตีเราจริง ๆ ไหม?”
“ไม่มีทางหรอกน่า”
แต่มารุกลับพูดขัดขึ้น
“ถ้าเป็นจุงฮยุกก็ไม่แน่หรอกนะ”
“ถ้าเป็นหมอนั่นล่ะก็ อืม คงไม่แปลกเท่าไหร่”
โดจินและเดมยังพยักหน้ารับแทบจะพร้อมกัน
“เออ แล้วฉันก็ไปไล่ถามพวกปีสามเรื่องชมรมการแสดงมาแล้วนะ” โดจินบอก เรียกให้อีกสองคนเข้ามาฟังใกล้ ๆ “ดูเหมือนว่า จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นช่วงฤดูหนาวปีก่อน เพราะแบบนั้นทั้งปีสามและก็ปีสองคนอื่น ถึงได้ออกไปกันหมด”
“จริงเหรอ? แล้วมันมีเรื่องแบบไหนกัน?”
“เรื่องนี้ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะพวกรุ่นพี่เองก็ไม่ค่อยรู้กันเท่าไหร่”
“มีเรื่อง เหรอ”
มารุคิดขึ้นมาหลายความเป็นไปได้ อย่างแรก อาจจะเป็นปัญหาที่เกิดจากนักเรียนสองคนที่กำลังคบกัน แต่โรงเรียนนี้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวนัก ขนาดครูเองยังบอกเลยว่ามีเด็กคบกันอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นการคบกันจึงไม่น่าใช่ปัญหา ตราบเท่าที่ไม่ทำให้การเรียนตก แม้แต่ยูนจังเองก็ไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น ถ้าทั้งคู่ไม่ก่อเรื่องให้กับชมรมล่ะก็ งั้น… ทะเลาะกันเหรอ? หรืออาจจะมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น
“ไปถามดูไหม?”
“ถ้าถึงเวลาน่ะนะ”
“ไม่ถามจะดีกว่ามั้ง…”
ทั้งสามคนพูดพร้อมหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง
Comments
ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 12 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 12 ตอนที่ 1
ละครเวทีเรื่องแรกที่มารุได้ดูนั้น เป็นเรื่องราวตลกขบขันของครอบครัวที่มีปัญหาครอบครัวหนึ่ง เขาซื้อตั๋วเข้าชมเมื่อตอนครั้งอยู่มหาวิทยาลัย และเข้าไปนั่งดูกับเพื่อน ๆ ในโรงละครเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
ตอนแรกที่เขาดู เนื้อเรื่องมันค่อนข้างจะซับซ้อนทีเดียว แต่พอลองมาคิดตามหลังจบ มันกลับช่างเรียบง่าย เรื่องราวของพ่อติดเหล้า ที่จริง ๆ แล้วไม่ได้ติด แม่ที่ชอบตะโกนเสียงดัง แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนขี้ขลาด ลูกชายพี่พูดจาสบถแทบตลอดเวลา กลับกลายเป็นคนจิตใจงาม และลูกสาวที่บอกว่าเกลียดชังครอบครัวของตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วรักครอบครัวมาก ละครเรื่องนั้นจบลงด้วยการที่ทุกคนในครอบครัวเข้าใจซึ่งกันและกันได้
การได้เห็นสีหน้า ท่าทาง จังหวะการหายใจ และเหงื่อที่ไหลลงมาบนหน้าของนักแสดง ทำให้มารุรู้สึกประทับใจมาก หลังจากวันนั้น มารุก็เริ่มดูละครเวทีบ่อยมาขึ้น เหตุผลที่เขาเลือกจะไปเป็นผู้จัดการทั่วไปหลังเรียนจบเอง ก็เพราะเขาชอบละครนี่ด้วย
“ละครเหรอ?” เขากล่าว พร้อมก้มลงมองโต๊ะตัวเอง
ครั้งหนึ่งเขาเคยอยากจะเป็นนักแสดงเสียเองด้วยซ้ำ ในช่วงหนึ่งมารุรู้สึกชื่นชมในตัวนักแสดงเอามาก ๆ เพราะพวกเขาช่างดูมีชีวิตชีวา สำหรับมารุที่ในหัวมีแต่เรื่องคิดหางานแล้ว พวกนั้นช่างดูสว่างไสว
แต่พอเขาได้รู้จักชีวิตนอกจอของเหล่านักแสดง ก็ทำให้เขายอมแพ้ในเรื่องนั้นไปทันที
“นี่” โดจินเรียก
ตอนนี้เป็นเวลาก่อนจะเริ่มคาบ 4 คาบเรียนก่อนจะพักเที่ยง
“วันนี้แกดูเหมือนเหม่อ ๆ นะ”
“ไม่ได้ดูเหมือนเหม่อ แต่เหม่ออยู่ ง่วงว่ะ”
“เอาล่ะ ๆ สารภาพมาดีกว่า แก…”
[ชักว่าวทั้งคืนเหรอ?]
กล่องคำพูดลอยขึ้นมาบนหัวโดจิน ทำให้มารุต้องอมยิ้มด้วยความประหลาดใจ
“หัวเราะอะไร?”
“ก็ชักไง จะถามเพื่อ?”
“ว่าไงนะ?”
โดจินทำหน้าย่นด้วยความสงสัย
“เออ จะว่าไป ได้ข้อความปะ?” มารุเปลี่ยนเรื่องอย่างทันควัน โชคดีที่โดจินเองก็ไม่ใช่พวกชอบตื๊ออะไร
“ที่เขาเรียกไปหลังเลิกเรียนเหรอ?”
“ใช่”
“ได้สิ แต่จะเรียกไปทำอะไรนะ?”
“ใครจะไปรู้”
มารุคิดเรื่องนี้ต่ออีกนิดหน่อย แต่ก็ไม่สามารถนึกหาคำตอบได้ ไม่นาน คาบ 4 ก็จบลง เสียงประชาสัมพันธ์ประกาศให้ปีหนึ่งไปที่โรงอาหารได้ ทำให้เหล่าปีหนึ่งรีบวิ่งลงไปราวกับกำลังหนีภัยธรรมชาติสักอย่าง
“แม่ง ดูพวกวิ่งกันสิ” โดจินพูดขณะมองเพื่อน ๆ วิ่งกรูกันออกห้องไป เหลือเพียงเขากับมารุไว้ในห้อง
การค่อย ๆ กินกลายเป็นนิสัยของพวกเขาไปแล้ว จริง ๆ ก็ยังมีอีกคนที่เหลือยู่ในห้อง เดมยังค่อย ๆ เดินเข้ามาสบทบกับเพื่อนทั้งสองคน
“อ่า กลัวจริง” จู่ ๆ เดมยังก็พูดขึ้นมาลอย ๆ
“กลัวอะไร?” โดจินถาม
“เรื่องที่พวกรุ่นพี่เรียกเราไปไง”
“จะขี้กังวลเกินไปแล้วแกน่ะ”
“แต่นายก็เห็นนี่ ท่อนั่น”
“อ่า อันนั้นน่ากลัวจริง”
“คิดว่าเขาจะใช้ตีเราจริง ๆ ไหม?”
“ไม่มีทางหรอกน่า”
แต่มารุกลับพูดขัดขึ้น
“ถ้าเป็นจุงฮยุกก็ไม่แน่หรอกนะ”
“ถ้าเป็นหมอนั่นล่ะก็ อืม คงไม่แปลกเท่าไหร่”
โดจินและเดมยังพยักหน้ารับแทบจะพร้อมกัน
“เออ แล้วฉันก็ไปไล่ถามพวกปีสามเรื่องชมรมการแสดงมาแล้วนะ” โดจินบอก เรียกให้อีกสองคนเข้ามาฟังใกล้ ๆ “ดูเหมือนว่า จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นช่วงฤดูหนาวปีก่อน เพราะแบบนั้นทั้งปีสามและก็ปีสองคนอื่น ถึงได้ออกไปกันหมด”
“จริงเหรอ? แล้วมันมีเรื่องแบบไหนกัน?”
“เรื่องนี้ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะพวกรุ่นพี่เองก็ไม่ค่อยรู้กันเท่าไหร่”
“มีเรื่อง เหรอ”
มารุคิดขึ้นมาหลายความเป็นไปได้ อย่างแรก อาจจะเป็นปัญหาที่เกิดจากนักเรียนสองคนที่กำลังคบกัน แต่โรงเรียนนี้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวนัก ขนาดครูเองยังบอกเลยว่ามีเด็กคบกันอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นการคบกันจึงไม่น่าใช่ปัญหา ตราบเท่าที่ไม่ทำให้การเรียนตก แม้แต่ยูนจังเองก็ไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น ถ้าทั้งคู่ไม่ก่อเรื่องให้กับชมรมล่ะก็ งั้น… ทะเลาะกันเหรอ? หรืออาจจะมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น
“ไปถามดูไหม?”
“ถ้าถึงเวลาน่ะนะ”
“ไม่ถามจะดีกว่ามั้ง…”
ทั้งสามคนพูดพร้อมหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง
Comments