ข้ามเวลาล่าฝัน บทที่ 33 1
นิยาย ข้ามเวลาล่าฝัน! ข้ามเวลาล่าฝัน!บทที่ 33 ตอนที่ 1 ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 33 ตอนที่ 1 สถานีฮเยวา นานมากแล้วที่เขาไม่ได้มาที่นี่ถนนถูกพัดด้วยลมอุ่น ๆ ของ กมาเดินกันด้วยเสื้อผ้าบาง ๆ พวกเขาเป็นนักแสดงหรือผู้ชมกันนะ? มารุเองก็ ไม่แน่ใจเขาหันไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาพร้อมสะพายกีต้าร์บนหลัง เขานั่งลงข้าง ๆ ร้านกาแฟก่อนจะเริ่มเล่นราว กับว่าที่ตรงนั่นคือเวทีของตัวเอง เสียงของกีต้าร์ไม่ได้ดังมาก ยิ่งพอ ไม่มีลําโพงด้วยแล้วแต่ถึงจะเป็นแบ บนั้น ก็ยังมีคนมุงดูเขาอยู่มากมายเสียงอันไพเราะของชายหนุ่มฟังดูทรงพลัง ทั้งนักเรียนคู่รักและคนธรรมดาต่างรุมล้อมมุงดูเขา “อยากไปฟังไหม?” มิโซถาม และมารุก็พยักหน้ารับ เพราะดนตรีของชายหนุ่มมันมีค่าพอ จะเข้าไปฟังไม่นานนักก็มีคนมามุงดูเขา จํานวนมาก หลังจากเขาเล่นเพลงแรกจบเขาก็ก้มหัวขอบคุณผู้ชม ดูท่าแล้วนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาเล่น เมื่อเห็น ชายหนุ่มเปิดกล่องกีต้าร์ออกเหล่าคนดูก็ต่างพากันหยิบกระเป๋าเงินออกมา มารุ หยิบเงินออกมาหนึ่งพันวอนส่วนเด็กคนหนึ่งยื่นขนมปังที่ยังไม่ได้แกะห่อให้เขา “ขอบคุณนะ” นักดนตรีหนุ่มกดขนมปังที่ได้รับมาและหันไปพยักหน้าให้กับเด็กน้อยคนนั้นทําให้มีคนยื่นน้ําให้เขาตามไปด้วย “ว้าว วันนี้โชคดีจริง” ชายหนุ่มหัวเราะ หลังจากกินอาหารเสร็จเขาก็เริ่มเล่นเพลงต่อไป เขาเล่นแต่ละเพลงด้วยนิ้วและเสียงเป ล่า ๆ ของเขาไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ช่วย ห ลังจากเล่นไปได้อีก 4 เพลง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน “การแสดงครั้งต่อไปจัดที่สวนมารอนนิเยนะครับ” และเขาก็เดินจากไป ทําให้เหล่าเกาหลีมุงต่างตามไปติด ๆ ราวกับต้องมนตร์ “ไปกันแล้วไหม?” มิโซถาม “ไปไหน?”
“มานี่ก็ต้องมาดูการแสดงอยู่แล้วสิไปหาเรื่องสั้น ๆ ดูกัน”
มิโซพยายามดึงแขนมารุอีกครั้งแต่มารุก็ค่อยๆสะบัดแขนตัวเองออกก่อนจะก้าวเดินไปด้วยตัวเอง “นิสัยดีไม่เบานี่เรา?” “ผมแค่ไม่ชอบโดนลากไปไหนมาไหนน่ะ” “ทั้ง ๆ ที่โดนลากมาถึงนี่แล้วเนี่ยนะ?” “งั้นกลับไหม?” “…ชิ ปากเก่งจริงนะ” มิโซเดินนําหน้าไป ด้านหน้าของทั้งสองมีคนอยู่ค่อนข้างเยอะ เพราะวันนี้ เป็นวันเสาร์ที่อากาศดีแน่นอนล่ะว่าคนจะออกจากบ้านมาเดินเล่นกันทั้งสองคนเดินเข้าไปในโรงละครที่เล็กกว่าโรงอื่น จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง “มาดูละครเหรอ?” มีเสียงจากชายหนุ่มรูปหล่อดังขึ้นที่ด้านหลังคงเป็นเด็กมหาวิทยาลัย เขา ถือตั๋วและแผ่นพับมาเต็มมือ “เด็กทํางานพิเศษเหรอ” มารรู้ทันที นี่คือสิ่งที่เราจะเห็นได้เมื่อมาที่สถานั้นฮเยวาบางครั้งก็จะเป็นพวกสมาชิกห น้าใหม่ของคณะละคร แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกพนักงานพาร์ทไทม์มากกว่ามารุรู้เรื่องพวกนี้ดีเพราะพวกเขาจะได้ เงินจากยอดขายตัวโดยตรงทําให้หลาย ๆ ครั้งพวกเขาจะเกาะติดเราเป็นปลิงเลย “นี่เป็นการแสดงที่เรากําลังจะ…” ตอนที่ชายหนุ่มกําลังพูดอยู่ มิโซก็จับไหล่ชายหนุ่มและผลักเขาออกไป “เราสายงานเดียวกัน ขอผ่านได้ไหม?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วหลังได้ยินเขาทําหน้าเหมือนเดินมาเหยียบขี้ก็ไม่ปานเขาปัดไหล่ของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินห่างออกไป “โชคร้ายฉิบหาย “หา? โชคร้าย?” มิโซพูดขึ้น
“ไปเถอะ อย่ามากวนคนกําลังทํางาน ฮีย” การจากไปของชายหนุ่มทําให้มิโซตาขวางขึ้นทันทีมิโซกําลังอ้าปากขึ้นด้วยความโกรธแต่ก็ต้องหุบลงหลังหันไปเห็นมารุ “เฮอะ หลัง ๆ มานี้มีแต่พวกนักเลง” เธอกล่าว “ไม่ต้องคิดมากหรอก เขาแค่พยายามทํางานแค่นั้น” “ใช่ พยายามทํางาน เพราะแบบนั้นไงฉันถึงได้พยายามจะเข้าใจอยู่ แต่มันก็… เดี๋ยวนะเคยมาเหรอ?” “ก็มาบ้าง” มารุตอบไปอย่างเฉื่อยชา ก่อนจะหันไปมองที่ชายหนุ่มอีกครั้ง ตอนนี้เขากํา ลังเดินเข้าไปหากลุ่มเด็กสาวด้วยรอยยิ้มเขาพยายามอธิบายอะไรต่าง ๆ ให้พวกนั้นฟังพร้อมแสดงท่าทางทําให้กลุ่มเด็ กนักเรียนต้องหยุดฟัง “ได้จนได้ ไอ้บ้านั่น” มิโซกล่าว มารหันไปมองที่ชายหนุ่มและกลุ่มเด็กนักเรียนเขาพยายามใช้คําพูดกดดัน มากขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้เหล่าเด็ก ๆ ต้องมีท่าที่ลําบากใจ ชายหนุ่มโบกตัวให้พวกนั้นดูท่าทางกัดไม่ยอมปล่อยแน่ๆหาก พวกนั้นไม่ซื้อตั๋วสุดท้ายเหล่าเด็กนักเรียนก็กระซิบกันและกําลังหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา มารุเดินเข้าไปหาเด็กกลุ่มนั้น มันไม่ แย่หรอกถ้าจะได้เริ่มดูการแสดงเพราะอะไรแบบนี้แต่… เขาแค่ไม่ชอบวิธีการของชายหนุ่ม เพราะการข่มขู่น่ะใช้ไม่ได้เด็ดขาด “ไปซื้อตั๋วคู่รักตรงนูนสิ” “อะไรนะ?” เด็กนักเรียนหันมาถามเขาว มารรู้สึกได้ถึงสายตาจ้องมองมาจากด้านหลัง “นักเรียนน่ะได้รับส่วนลดลองไปดูตรงนั้นสิ” “อ่า ขอบคุณ” เด็กสาวเก็บกระเป๋าของตัวเองลงทันทีและเดินไปทางที่มารุชี้บอก พวกนั้นไม่หยุดลงแม้จะได้ยินเสียงเรียก “เดี่ยวๆกลับมาก่อนเรามีส่วนลดที่ดีกว่านะ
นิยาย ข้ามเวลาล่าฝัน! ข้ามเวลาล่าฝัน!บทที่ 33 ตอนที่ 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 33 ตอนที่ 1
สถานีฮเยวา นานมากแล้วที่เขาไม่ได้มาที่นี่ถนนถูกพัดด้วยลมอุ่น ๆ ของ
กมาเดินกันด้วยเสื้อผ้าบาง ๆ พวกเขาเป็นนักแสดงหรือผู้ชมกันนะ? มารุเองก็ ไม่แน่ใจเขาหันไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาพร้อมสะพายกีต้าร์บนหลัง เขานั่งลงข้าง ๆ ร้านกาแฟก่อนจะเริ่มเล่นราว กับว่าที่ตรงนั่นคือเวทีของตัวเอง
เสียงของกีต้าร์ไม่ได้ดังมาก ยิ่งพอ ไม่มีลําโพงด้วยแล้วแต่ถึงจะเป็นแบ บนั้น ก็ยังมีคนมุงดูเขาอยู่มากมายเสียงอันไพเราะของชายหนุ่มฟังดูทรงพลัง ทั้งนักเรียนคู่รักและคนธรรมดาต่างรุมล้อมมุงดูเขา
“อยากไปฟังไหม?” มิโซถาม และมารุก็พยักหน้ารับ
เพราะดนตรีของชายหนุ่มมันมีค่าพอ จะเข้าไปฟังไม่นานนักก็มีคนมามุงดูเขา จํานวนมาก หลังจากเขาเล่นเพลงแรกจบเขาก็ก้มหัวขอบคุณผู้ชม ดูท่าแล้วนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาเล่น เมื่อเห็น ชายหนุ่มเปิดกล่องกีต้าร์ออกเหล่าคนดูก็ต่างพากันหยิบกระเป๋าเงินออกมา มารุ หยิบเงินออกมาหนึ่งพันวอนส่วนเด็กคนหนึ่งยื่นขนมปังที่ยังไม่ได้แกะห่อให้เขา
“ขอบคุณนะ”
นักดนตรีหนุ่มกดขนมปังที่ได้รับมาและหันไปพยักหน้าให้กับเด็กน้อยคนนั้นทําให้มีคนยื่นน้ําให้เขาตามไปด้วย
“ว้าว วันนี้โชคดีจริง” ชายหนุ่มหัวเราะ หลังจากกินอาหารเสร็จเขาก็เริ่มเล่นเพลงต่อไป
เขาเล่นแต่ละเพลงด้วยนิ้วและเสียงเป ล่า ๆ ของเขาไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ช่วย ห ลังจากเล่นไปได้อีก 4 เพลง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน
“การแสดงครั้งต่อไปจัดที่สวนมารอนนิเยนะครับ”
และเขาก็เดินจากไป ทําให้เหล่าเกาหลีมุงต่างตามไปติด ๆ ราวกับต้องมนตร์
“ไปกันแล้วไหม?” มิโซถาม
“ไปไหน?”
“มานี่ก็ต้องมาดูการแสดงอยู่แล้วสิไปหาเรื่องสั้น ๆ ดูกัน”
มิโซพยายามดึงแขนมารุอีกครั้งแต่มารุก็ค่อยๆสะบัดแขนตัวเองออกก่อนจะก้าวเดินไปด้วยตัวเอง
“นิสัยดีไม่เบานี่เรา?”
“ผมแค่ไม่ชอบโดนลากไปไหนมาไหนน่ะ”
“ทั้ง ๆ ที่โดนลากมาถึงนี่แล้วเนี่ยนะ?”
“งั้นกลับไหม?”
“…ชิ ปากเก่งจริงนะ”
มิโซเดินนําหน้าไป ด้านหน้าของทั้งสองมีคนอยู่ค่อนข้างเยอะ เพราะวันนี้ เป็นวันเสาร์ที่อากาศดีแน่นอนล่ะว่าคนจะออกจากบ้านมาเดินเล่นกันทั้งสองคนเดินเข้าไปในโรงละครที่เล็กกว่าโรงอื่น จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“มาดูละครเหรอ?”
มีเสียงจากชายหนุ่มรูปหล่อดังขึ้นที่ด้านหลังคงเป็นเด็กมหาวิทยาลัย เขา ถือตั๋วและแผ่นพับมาเต็มมือ
“เด็กทํางานพิเศษเหรอ” มารรู้ทันที
นี่คือสิ่งที่เราจะเห็นได้เมื่อมาที่สถานั้นฮเยวาบางครั้งก็จะเป็นพวกสมาชิกห น้าใหม่ของคณะละคร แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกพนักงานพาร์ทไทม์มากกว่ามารุรู้เรื่องพวกนี้ดีเพราะพวกเขาจะได้ เงินจากยอดขายตัวโดยตรงทําให้หลาย ๆ ครั้งพวกเขาจะเกาะติดเราเป็นปลิงเลย
“นี่เป็นการแสดงที่เรากําลังจะ…”
ตอนที่ชายหนุ่มกําลังพูดอยู่ มิโซก็จับไหล่ชายหนุ่มและผลักเขาออกไป
“เราสายงานเดียวกัน ขอผ่านได้ไหม?”
ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วหลังได้ยินเขาทําหน้าเหมือนเดินมาเหยียบขี้ก็ไม่ปานเขาปัดไหล่ของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินห่างออกไป “โชคร้ายฉิบหาย
“หา? โชคร้าย?” มิโซพูดขึ้น
“ไปเถอะ อย่ามากวนคนกําลังทํางาน ฮีย”
การจากไปของชายหนุ่มทําให้มิโซตาขวางขึ้นทันทีมิโซกําลังอ้าปากขึ้นด้วยความโกรธแต่ก็ต้องหุบลงหลังหันไปเห็นมารุ
“เฮอะ หลัง ๆ มานี้มีแต่พวกนักเลง” เธอกล่าว
“ไม่ต้องคิดมากหรอก เขาแค่พยายามทํางานแค่นั้น”
“ใช่ พยายามทํางาน เพราะแบบนั้นไงฉันถึงได้พยายามจะเข้าใจอยู่ แต่มันก็… เดี๋ยวนะเคยมาเหรอ?”
“ก็มาบ้าง”
มารุตอบไปอย่างเฉื่อยชา ก่อนจะหันไปมองที่ชายหนุ่มอีกครั้ง ตอนนี้เขากํา ลังเดินเข้าไปหากลุ่มเด็กสาวด้วยรอยยิ้มเขาพยายามอธิบายอะไรต่าง ๆ ให้พวกนั้นฟังพร้อมแสดงท่าทางทําให้กลุ่มเด็ กนักเรียนต้องหยุดฟัง
“ได้จนได้ ไอ้บ้านั่น” มิโซกล่าว
มารหันไปมองที่ชายหนุ่มและกลุ่มเด็กนักเรียนเขาพยายามใช้คําพูดกดดัน มากขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้เหล่าเด็ก ๆ ต้องมีท่าที่ลําบากใจ ชายหนุ่มโบกตัวให้พวกนั้นดูท่าทางกัดไม่ยอมปล่อยแน่ๆหาก พวกนั้นไม่ซื้อตั๋วสุดท้ายเหล่าเด็กนักเรียนก็กระซิบกันและกําลังหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา
มารุเดินเข้าไปหาเด็กกลุ่มนั้น มันไม่ แย่หรอกถ้าจะได้เริ่มดูการแสดงเพราะอะไรแบบนี้แต่… เขาแค่ไม่ชอบวิธีการของชายหนุ่ม เพราะการข่มขู่น่ะใช้ไม่ได้เด็ดขาด
“ไปซื้อตั๋วคู่รักตรงนูนสิ”
“อะไรนะ?” เด็กนักเรียนหันมาถามเขาว
มารรู้สึกได้ถึงสายตาจ้องมองมาจากด้านหลัง
“นักเรียนน่ะได้รับส่วนลดลองไปดูตรงนั้นสิ”
“อ่า ขอบคุณ”
เด็กสาวเก็บกระเป๋าของตัวเองลงทันทีและเดินไปทางที่มารุชี้บอก พวกนั้นไม่หยุดลงแม้จะได้ยินเสียงเรียก “เดี่ยวๆกลับมาก่อนเรามีส่วนลดที่ดีกว่านะ
Comments
ข้ามเวลาล่าฝัน บทที่ 33 1
นิยาย ข้ามเวลาล่าฝัน! ข้ามเวลาล่าฝัน!บทที่ 33 ตอนที่ 1 ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 33 ตอนที่ 1 สถานีฮเยวา นานมากแล้วที่เขาไม่ได้มาที่นี่ถนนถูกพัดด้วยลมอุ่น ๆ ของ กมาเดินกันด้วยเสื้อผ้าบาง ๆ พวกเขาเป็นนักแสดงหรือผู้ชมกันนะ? มารุเองก็ ไม่แน่ใจเขาหันไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาพร้อมสะพายกีต้าร์บนหลัง เขานั่งลงข้าง ๆ ร้านกาแฟก่อนจะเริ่มเล่นราว กับว่าที่ตรงนั่นคือเวทีของตัวเอง เสียงของกีต้าร์ไม่ได้ดังมาก ยิ่งพอ ไม่มีลําโพงด้วยแล้วแต่ถึงจะเป็นแบ บนั้น ก็ยังมีคนมุงดูเขาอยู่มากมายเสียงอันไพเราะของชายหนุ่มฟังดูทรงพลัง ทั้งนักเรียนคู่รักและคนธรรมดาต่างรุมล้อมมุงดูเขา “อยากไปฟังไหม?” มิโซถาม และมารุก็พยักหน้ารับ เพราะดนตรีของชายหนุ่มมันมีค่าพอ จะเข้าไปฟังไม่นานนักก็มีคนมามุงดูเขา จํานวนมาก หลังจากเขาเล่นเพลงแรกจบเขาก็ก้มหัวขอบคุณผู้ชม ดูท่าแล้วนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาเล่น เมื่อเห็น ชายหนุ่มเปิดกล่องกีต้าร์ออกเหล่าคนดูก็ต่างพากันหยิบกระเป๋าเงินออกมา มารุ หยิบเงินออกมาหนึ่งพันวอนส่วนเด็กคนหนึ่งยื่นขนมปังที่ยังไม่ได้แกะห่อให้เขา “ขอบคุณนะ” นักดนตรีหนุ่มกดขนมปังที่ได้รับมาและหันไปพยักหน้าให้กับเด็กน้อยคนนั้นทําให้มีคนยื่นน้ําให้เขาตามไปด้วย “ว้าว วันนี้โชคดีจริง” ชายหนุ่มหัวเราะ หลังจากกินอาหารเสร็จเขาก็เริ่มเล่นเพลงต่อไป เขาเล่นแต่ละเพลงด้วยนิ้วและเสียงเป ล่า ๆ ของเขาไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ช่วย ห ลังจากเล่นไปได้อีก 4 เพลง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน “การแสดงครั้งต่อไปจัดที่สวนมารอนนิเยนะครับ” และเขาก็เดินจากไป ทําให้เหล่าเกาหลีมุงต่างตามไปติด ๆ ราวกับต้องมนตร์ “ไปกันแล้วไหม?” มิโซถาม “ไปไหน?”
“มานี่ก็ต้องมาดูการแสดงอยู่แล้วสิไปหาเรื่องสั้น ๆ ดูกัน”
มิโซพยายามดึงแขนมารุอีกครั้งแต่มารุก็ค่อยๆสะบัดแขนตัวเองออกก่อนจะก้าวเดินไปด้วยตัวเอง “นิสัยดีไม่เบานี่เรา?” “ผมแค่ไม่ชอบโดนลากไปไหนมาไหนน่ะ” “ทั้ง ๆ ที่โดนลากมาถึงนี่แล้วเนี่ยนะ?” “งั้นกลับไหม?” “…ชิ ปากเก่งจริงนะ” มิโซเดินนําหน้าไป ด้านหน้าของทั้งสองมีคนอยู่ค่อนข้างเยอะ เพราะวันนี้ เป็นวันเสาร์ที่อากาศดีแน่นอนล่ะว่าคนจะออกจากบ้านมาเดินเล่นกันทั้งสองคนเดินเข้าไปในโรงละครที่เล็กกว่าโรงอื่น จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง “มาดูละครเหรอ?” มีเสียงจากชายหนุ่มรูปหล่อดังขึ้นที่ด้านหลังคงเป็นเด็กมหาวิทยาลัย เขา ถือตั๋วและแผ่นพับมาเต็มมือ “เด็กทํางานพิเศษเหรอ” มารรู้ทันที นี่คือสิ่งที่เราจะเห็นได้เมื่อมาที่สถานั้นฮเยวาบางครั้งก็จะเป็นพวกสมาชิกห น้าใหม่ของคณะละคร แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกพนักงานพาร์ทไทม์มากกว่ามารุรู้เรื่องพวกนี้ดีเพราะพวกเขาจะได้ เงินจากยอดขายตัวโดยตรงทําให้หลาย ๆ ครั้งพวกเขาจะเกาะติดเราเป็นปลิงเลย “นี่เป็นการแสดงที่เรากําลังจะ…” ตอนที่ชายหนุ่มกําลังพูดอยู่ มิโซก็จับไหล่ชายหนุ่มและผลักเขาออกไป “เราสายงานเดียวกัน ขอผ่านได้ไหม?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วหลังได้ยินเขาทําหน้าเหมือนเดินมาเหยียบขี้ก็ไม่ปานเขาปัดไหล่ของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินห่างออกไป “โชคร้ายฉิบหาย “หา? โชคร้าย?” มิโซพูดขึ้น
“ไปเถอะ อย่ามากวนคนกําลังทํางาน ฮีย” การจากไปของชายหนุ่มทําให้มิโซตาขวางขึ้นทันทีมิโซกําลังอ้าปากขึ้นด้วยความโกรธแต่ก็ต้องหุบลงหลังหันไปเห็นมารุ “เฮอะ หลัง ๆ มานี้มีแต่พวกนักเลง” เธอกล่าว “ไม่ต้องคิดมากหรอก เขาแค่พยายามทํางานแค่นั้น” “ใช่ พยายามทํางาน เพราะแบบนั้นไงฉันถึงได้พยายามจะเข้าใจอยู่ แต่มันก็… เดี๋ยวนะเคยมาเหรอ?” “ก็มาบ้าง” มารุตอบไปอย่างเฉื่อยชา ก่อนจะหันไปมองที่ชายหนุ่มอีกครั้ง ตอนนี้เขากํา ลังเดินเข้าไปหากลุ่มเด็กสาวด้วยรอยยิ้มเขาพยายามอธิบายอะไรต่าง ๆ ให้พวกนั้นฟังพร้อมแสดงท่าทางทําให้กลุ่มเด็ กนักเรียนต้องหยุดฟัง “ได้จนได้ ไอ้บ้านั่น” มิโซกล่าว มารหันไปมองที่ชายหนุ่มและกลุ่มเด็กนักเรียนเขาพยายามใช้คําพูดกดดัน มากขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้เหล่าเด็ก ๆ ต้องมีท่าที่ลําบากใจ ชายหนุ่มโบกตัวให้พวกนั้นดูท่าทางกัดไม่ยอมปล่อยแน่ๆหาก พวกนั้นไม่ซื้อตั๋วสุดท้ายเหล่าเด็กนักเรียนก็กระซิบกันและกําลังหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา มารุเดินเข้าไปหาเด็กกลุ่มนั้น มันไม่ แย่หรอกถ้าจะได้เริ่มดูการแสดงเพราะอะไรแบบนี้แต่… เขาแค่ไม่ชอบวิธีการของชายหนุ่ม เพราะการข่มขู่น่ะใช้ไม่ได้เด็ดขาด “ไปซื้อตั๋วคู่รักตรงนูนสิ” “อะไรนะ?” เด็กนักเรียนหันมาถามเขาว มารรู้สึกได้ถึงสายตาจ้องมองมาจากด้านหลัง “นักเรียนน่ะได้รับส่วนลดลองไปดูตรงนั้นสิ” “อ่า ขอบคุณ” เด็กสาวเก็บกระเป๋าของตัวเองลงทันทีและเดินไปทางที่มารุชี้บอก พวกนั้นไม่หยุดลงแม้จะได้ยินเสียงเรียก “เดี่ยวๆกลับมาก่อนเรามีส่วนลดที่ดีกว่านะ
นิยาย ข้ามเวลาล่าฝัน! ข้ามเวลาล่าฝัน!บทที่ 33 ตอนที่ 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 33 ตอนที่ 1
สถานีฮเยวา นานมากแล้วที่เขาไม่ได้มาที่นี่ถนนถูกพัดด้วยลมอุ่น ๆ ของ
กมาเดินกันด้วยเสื้อผ้าบาง ๆ พวกเขาเป็นนักแสดงหรือผู้ชมกันนะ? มารุเองก็ ไม่แน่ใจเขาหันไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาพร้อมสะพายกีต้าร์บนหลัง เขานั่งลงข้าง ๆ ร้านกาแฟก่อนจะเริ่มเล่นราว กับว่าที่ตรงนั่นคือเวทีของตัวเอง
เสียงของกีต้าร์ไม่ได้ดังมาก ยิ่งพอ ไม่มีลําโพงด้วยแล้วแต่ถึงจะเป็นแบ บนั้น ก็ยังมีคนมุงดูเขาอยู่มากมายเสียงอันไพเราะของชายหนุ่มฟังดูทรงพลัง ทั้งนักเรียนคู่รักและคนธรรมดาต่างรุมล้อมมุงดูเขา
“อยากไปฟังไหม?” มิโซถาม และมารุก็พยักหน้ารับ
เพราะดนตรีของชายหนุ่มมันมีค่าพอ จะเข้าไปฟังไม่นานนักก็มีคนมามุงดูเขา จํานวนมาก หลังจากเขาเล่นเพลงแรกจบเขาก็ก้มหัวขอบคุณผู้ชม ดูท่าแล้วนี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาเล่น เมื่อเห็น ชายหนุ่มเปิดกล่องกีต้าร์ออกเหล่าคนดูก็ต่างพากันหยิบกระเป๋าเงินออกมา มารุ หยิบเงินออกมาหนึ่งพันวอนส่วนเด็กคนหนึ่งยื่นขนมปังที่ยังไม่ได้แกะห่อให้เขา
“ขอบคุณนะ”
นักดนตรีหนุ่มกดขนมปังที่ได้รับมาและหันไปพยักหน้าให้กับเด็กน้อยคนนั้นทําให้มีคนยื่นน้ําให้เขาตามไปด้วย
“ว้าว วันนี้โชคดีจริง” ชายหนุ่มหัวเราะ หลังจากกินอาหารเสร็จเขาก็เริ่มเล่นเพลงต่อไป
เขาเล่นแต่ละเพลงด้วยนิ้วและเสียงเป ล่า ๆ ของเขาไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ช่วย ห ลังจากเล่นไปได้อีก 4 เพลง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน
“การแสดงครั้งต่อไปจัดที่สวนมารอนนิเยนะครับ”
และเขาก็เดินจากไป ทําให้เหล่าเกาหลีมุงต่างตามไปติด ๆ ราวกับต้องมนตร์
“ไปกันแล้วไหม?” มิโซถาม
“ไปไหน?”
“มานี่ก็ต้องมาดูการแสดงอยู่แล้วสิไปหาเรื่องสั้น ๆ ดูกัน”
มิโซพยายามดึงแขนมารุอีกครั้งแต่มารุก็ค่อยๆสะบัดแขนตัวเองออกก่อนจะก้าวเดินไปด้วยตัวเอง
“นิสัยดีไม่เบานี่เรา?”
“ผมแค่ไม่ชอบโดนลากไปไหนมาไหนน่ะ”
“ทั้ง ๆ ที่โดนลากมาถึงนี่แล้วเนี่ยนะ?”
“งั้นกลับไหม?”
“…ชิ ปากเก่งจริงนะ”
มิโซเดินนําหน้าไป ด้านหน้าของทั้งสองมีคนอยู่ค่อนข้างเยอะ เพราะวันนี้ เป็นวันเสาร์ที่อากาศดีแน่นอนล่ะว่าคนจะออกจากบ้านมาเดินเล่นกันทั้งสองคนเดินเข้าไปในโรงละครที่เล็กกว่าโรงอื่น จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“มาดูละครเหรอ?”
มีเสียงจากชายหนุ่มรูปหล่อดังขึ้นที่ด้านหลังคงเป็นเด็กมหาวิทยาลัย เขา ถือตั๋วและแผ่นพับมาเต็มมือ
“เด็กทํางานพิเศษเหรอ” มารรู้ทันที
นี่คือสิ่งที่เราจะเห็นได้เมื่อมาที่สถานั้นฮเยวาบางครั้งก็จะเป็นพวกสมาชิกห น้าใหม่ของคณะละคร แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกพนักงานพาร์ทไทม์มากกว่ามารุรู้เรื่องพวกนี้ดีเพราะพวกเขาจะได้ เงินจากยอดขายตัวโดยตรงทําให้หลาย ๆ ครั้งพวกเขาจะเกาะติดเราเป็นปลิงเลย
“นี่เป็นการแสดงที่เรากําลังจะ…”
ตอนที่ชายหนุ่มกําลังพูดอยู่ มิโซก็จับไหล่ชายหนุ่มและผลักเขาออกไป
“เราสายงานเดียวกัน ขอผ่านได้ไหม?”
ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วหลังได้ยินเขาทําหน้าเหมือนเดินมาเหยียบขี้ก็ไม่ปานเขาปัดไหล่ของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินห่างออกไป “โชคร้ายฉิบหาย
“หา? โชคร้าย?” มิโซพูดขึ้น
“ไปเถอะ อย่ามากวนคนกําลังทํางาน ฮีย”
การจากไปของชายหนุ่มทําให้มิโซตาขวางขึ้นทันทีมิโซกําลังอ้าปากขึ้นด้วยความโกรธแต่ก็ต้องหุบลงหลังหันไปเห็นมารุ
“เฮอะ หลัง ๆ มานี้มีแต่พวกนักเลง” เธอกล่าว
“ไม่ต้องคิดมากหรอก เขาแค่พยายามทํางานแค่นั้น”
“ใช่ พยายามทํางาน เพราะแบบนั้นไงฉันถึงได้พยายามจะเข้าใจอยู่ แต่มันก็… เดี๋ยวนะเคยมาเหรอ?”
“ก็มาบ้าง”
มารุตอบไปอย่างเฉื่อยชา ก่อนจะหันไปมองที่ชายหนุ่มอีกครั้ง ตอนนี้เขากํา ลังเดินเข้าไปหากลุ่มเด็กสาวด้วยรอยยิ้มเขาพยายามอธิบายอะไรต่าง ๆ ให้พวกนั้นฟังพร้อมแสดงท่าทางทําให้กลุ่มเด็ กนักเรียนต้องหยุดฟัง
“ได้จนได้ ไอ้บ้านั่น” มิโซกล่าว
มารหันไปมองที่ชายหนุ่มและกลุ่มเด็กนักเรียนเขาพยายามใช้คําพูดกดดัน มากขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้เหล่าเด็ก ๆ ต้องมีท่าที่ลําบากใจ ชายหนุ่มโบกตัวให้พวกนั้นดูท่าทางกัดไม่ยอมปล่อยแน่ๆหาก พวกนั้นไม่ซื้อตั๋วสุดท้ายเหล่าเด็กนักเรียนก็กระซิบกันและกําลังหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา
มารุเดินเข้าไปหาเด็กกลุ่มนั้น มันไม่ แย่หรอกถ้าจะได้เริ่มดูการแสดงเพราะอะไรแบบนี้แต่… เขาแค่ไม่ชอบวิธีการของชายหนุ่ม เพราะการข่มขู่น่ะใช้ไม่ได้เด็ดขาด
“ไปซื้อตั๋วคู่รักตรงนูนสิ”
“อะไรนะ?” เด็กนักเรียนหันมาถามเขาว
มารรู้สึกได้ถึงสายตาจ้องมองมาจากด้านหลัง
“นักเรียนน่ะได้รับส่วนลดลองไปดูตรงนั้นสิ”
“อ่า ขอบคุณ”
เด็กสาวเก็บกระเป๋าของตัวเองลงทันทีและเดินไปทางที่มารุชี้บอก พวกนั้นไม่หยุดลงแม้จะได้ยินเสียงเรียก “เดี่ยวๆกลับมาก่อนเรามีส่วนลดที่ดีกว่านะ
Comments