คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 261 สะกดข่ม

Now you are reading คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย Chapter บทที่ 261 สะกดข่ม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลัง​ปู้จื้อ​โหย​วจา​ก​ไป​ จิน​เฟย​เหยา​จึงเริ่ม​อาศัย​อยู่​ที่นี่​อย่าง​วางใจ​

วัชพืช​ใน​แปลง​ยาสมุนไพร​เหล่านั้น​งอก​ยาว​ แต่​เรื่อง​พวก​นี้​จิน​เฟย​เหยา​โยน​ให้​ต้า​นิว​ไป​จัดการ​ ส่วน​นาง​หลังจาก​ตรวจสอบ​ปริมาณ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​ก็​คำนวณ​วัน​แล้ว​ปิด​ด่าน​กัก​ตน​ทันที​

นาง​ตั้งใจ​ปิด​ด่าน​กัก​ตน​ พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิ​วจะ​ได้​ไม่กังวล​ กบ​สอง​ตัว​ทุบ​อุโมงค์​เล็ก​ๆ หยาบ​เท่า​ลูก​แตงโม​สาย​หนึ่ง​ใน​ถ้ำภูเขา​ หลังจาก​เปลี่ยน​ให้​เล็ก​ลง​ก็​มุด​ออก​ไป​เล่น​ข้าง​นอกจาก​ตรงนี้​

เห็น​ปู้จื้อ​โหย​ว​สังหาร​นก​ตง​จือ​ใน​วันนั้น​ ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​เหงื่อ​ตก​ด้วย​ความ​อับอาย​ ตนเอง​ไม่ตั้งใจ​ฝึก​บำเพ็ญ​เป็นเวลา​นาน​ หลังจาก​กิน​อาหาร​แล้ว​สามารถ​เพิ่ม​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​และ​พลัง​วิญญาณ​ได้​ นาง​ก็​นำ​เวลา​ฝึก​บำเพ็ญ​ไป​กิน​ นอน​ และ​เล่น​สนุก​ ตอนนี้​นึก​แล้ว​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​เหลวไหล​จริงๆ​ ใน​เมื่อ​กิน​อาหาร​แล้ว​สามารถ​เพิ่ม​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ได้​ ถ้าตนเอง​นั่ง​ฝึก​บำเพ็ญ​อีก​ พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​มิเพิ่ม​เร็ว​ขึ้น​หรือ​

หลังจาก​กลืน​หยวน​อิง​ลง​ไป​ พลัง​วิญญาณ​ภายใน​ร่าง​ก็​ถึงจุดสูงสุด​ ขอ​เพียง​ทะลวง​อีกหน่อย​ บรรลุ​ขั้น​หลอม​รวม​ช่วง​กลาง​ก็​เป็นเรื่อง​สบาย​ๆ ดังนั้น​จิน​เฟย​เหยา​จึงปิดประตู​กระท่อม​ ไม่ถึงขั้น​หลอม​รวม​ช่วง​กลาง​ก็​จะไม่ออกมา​

ส่วน​โลก​ระดับ​เทพ​ส่วน​ใน​ การ​สู้รบ​ของ​ทั้งสอง​โลก​ก็​ปะทุ​ขึ้น​อย่าง​แท้จริง​โดย​เริ่ม​จาก​เหตุการณ์​ที่​เมือง​ซัน​จือ​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ผสาน​ร่าง​ทั้งหมด​อยู่​ที่​โลก​ตู้​เทียน​ คน​ที่​ไม่ได้​ไป​คน​สอง​คน​วัน​ๆ ก็​ต้านทาน​อัสนี​สวรรค์​ เข้า​ร่วมใน​การ​สู้รบ​ไม่ได้​ บรรดา​ตา​เฒ่าขั้น​ว่างเปล่า​เริ่ม​ยืน​ดู​อยู่​ด้าน​ข้าง​และ​สั่งการ​ ส่วน​เป้าหมาย​คือ​สถานที่​หลาย​แห่ง​ซึ่งมีไผ่​อัสนี​ม่วง​และ​ศิลา​พิรุณ​อัสนี​ เรื่อง​เหล่านี้​ย่อม​ไม่อาจ​ให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ระดับ​ล่าง​ล่วงรู้​ แม้แต่​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ยัง​นึก​ว่า​กำลัง​แย่งชิง​ดินแดน​และ​ทรัพยากร​

เนื่องจาก​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​แปลง​จิต​เป็น​ผู้นำ​และ​กำลัง​หลัก​ใน​การ​สู้รบ​ครั้งนี้​ย่อม​รู้​ความคิด​ของ​บรรดา​ตา​เฒ่าและ​ยาย​เฒ่าขั้น​ว่างเปล่า​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​

โลก​ตู้​เทียน​เป็น​สถานที่​ซึ่งทำให้​คน​ทั้ง​รัก​ทั้ง​แค้น​จริงๆ​ ติง​จั๋ว​มอง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​ขั้น​ว่างเปล่า​สอง​คน​ที่นั่ง​อยู่​บน​พื้น​เบื้องหน้า​ แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ชืด​ชา “เรื่อง​นี้​ข้า​ไม่เหมาะ​จะสอด​มือ​ ตัว​ประหลาด​เฒ่าขั้น​ผสาน​ร่าง​ของ​เผ่า​มาร​ก็​ไม่เคลื่อนไหว​ ข้า​ลงมือ​ช่วยเหลือ​เพราะ​สิ่งของ​เล็กน้อย​ไม่ได้​”

“ผู้อาวุโส​ติง​ ถ้าไผ่​อัสนี​ม่วง​และ​ศิลา​พิรุณ​อัสนี​ถูก​คน​เผ่า​มาร​ยึดครอง​ พวกเรา​ก็​ไม่มีทาง​มอบ​สิ่งของ​ที่​ท่าน​ต้องการ​ได้​” ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​หน้าตา​ธรรมดา​กลับ​มีท่าทาง​กดดัน​ผู้คน​ ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ขาว​อวบอ้วน​ ล้วน​มีอายุ​สามสิบ​กว่า​ปี​เช่นเดียวกัน​ คำพูด​นี้​กลับ​ออก​มาจาก​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขาว​อวบอ้วน​คน​นั้น​

ติง​จั๋ว​กวาดตา​มอง​พวกเขา​สอง​คน​อย่าง​เย็นชา​ ทั้งสอง​คน​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​จมลง​สู่ความว่างเปล่า​ทันที​ ปราณ​แห่ง​การเข่นฆ่า​ที่​เย็นเยียบ​เสียด​กระดูก​โอบล้อม​รอบกาย​ อด​หลั่ง​เหงื่อ​เย็น​โซมกาย​ไม่ได้​

“หาก​มิใช่ข้า​เลื่อนขั้น​อย่าง​กะทันหัน​ ข้า​ยัง​จำเป็นต้อง​ใช้พวก​เจ้าหรือ​? เรื่อง​เล็กน้อย​แค่นี้​ยัง​มาขอให้​ข้า​ออกโรง​ พวก​เจ้ารู้สึก​ว่า​ตนเอง​ถึงขั้น​ว่างเปล่า​แล้ว​ ถ้ามอบ​สิ่งของ​เหล่านี้​ให้​ข้า​มิสู้เก็บ​ไว้​ใช้เอง​ใน​ภายหลัง​ดีกว่า​” ติง​จั๋ว​เอ่ย​อย่าง​เฉยชา​

ขนาด​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ข้าง​กาย​ของ​เขา​ยัง​ส่งเสียงคำราม​ออก​มาจาก​ใน​ลำคอ​ ดม​พวกเขา​สอง​คน​อย่าง​ไม่พอใจ​

“ผู้อาวุโส​ล้อเล่น​แล้ว​ พวกเรา​มิได้คิด​เช่นนี้​ เพียงแต่​ครั้งนี้​หลง​ถูก​ปล่อยตัว​ออกมา​ เรื่อง​นี้​มีผลกระทบ​ต่อ​สงคราม​ของ​พวกเรา​อย่าง​มาก​ และ​ตอนนี้​ยังมี​คน​เผ่า​มาร​ขั้น​แปลง​จิต​ที่​ชื่อ​หง​ เขา​คนเดียว​สามารถ​กลายเป็น​กองทัพ​ได้​ ทำให้​พวกเรา​ปวดศีรษะ​จริงๆ​” ท่าทาง​ข้อเรียกร้อง​ให้​ไม่ต้อง​จ่าย​บรรณาการ​คง​ใช้ไม่ได้​ ทว่า​พวกเขา​สอง​คน​คิด​จะได้​ผลประโยชน์​เพิ่ม​อีก​

ติง​จั๋ว​ขมวดคิ้ว​ “ถ้าครั้ง​ที่แล้ว​มิใช่เพื่อ​ช่วย​พวก​เจ้า ข้า​คง​ไม่อยู่​ที่นี่​ ถึงโลก​ตู้​เทียน​จะอยู่​ไม่สบาย​และ​สายฟ้า​ไม่มาก​เท่า​ที่นี่​ สุดท้าย​ผ่าน​มาไม่นาน​ พวก​เจ้ากลับ​ปล่อย​ให้​หลง​หนี​ออกมา​ได้​ มาบอก​ข้า​เรื่อง​นี้​หรือยัง​คิด​จะให้​ข้า​ไป​อีก​?”

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​สอง​คน​ไม่ส่งเสียง​ แต่กลับ​ด่าทอ​ใน​ใจ ตอนนั้น​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เจ้าสูงกว่า​เขา​หนึ่ง​ขั้น​ เพียงแค่​กักขัง​ไว้​ ยัง​สังหาร​ไม่ได้​ อีก​ทั้ง​เจ้ารั้ง​อยู่​ที่นี่​ไม่ใช่กลับ​ไป​โลก​ตู้​เทียน​ไม่ได้​ เรื่อง​นี้​เกี่ยว​อะไร​กับ​พวกเรา​ด้วย​ เห็นได้ชัด​ว่า​เจ้าได้​ของดี​จาก​จอม​มาร​หลง​จึงบรรลุ​ขั้น​ผสาน​ร่าง​โดยบังเอิญ​ ยัง​ไม่ได้​เตรียม​สิ่งของ​ให้​พร้อมสรรพ​จึงฝืน​รั้ง​อยู่​ที่นี่​ทำร้าย​พวกเรา​จน​ไม่รู้​ว่า​มอบ​บรรณาการ​ให้​เจ้าตั้ง​เท่าใด​แล้ว​

คิด​แล้วก็​คิด​อีก​ พวกเขา​สอง​คน​ล้วน​ไม่กล้า​พูด​ออกมา​ พวกเขา​รู้ดี​ ติง​จั๋วคน​นี้​ไม่ใช่ชนชั้น​มีเมตตา​ เพื่อ​เลี้ยงสัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ให้​เติบใหญ่​อย่าง​สบาย​ๆ จึงหลอก​คน​ตระกูล​หวา​ให้​พา​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ไป​ ตอนนี้​กลับ​ดี​ยิ่ง​ ไม่รู้​ว่า​ถูก​ใคร​ส่งกลับมา​อย่าง​ปลอดภัย​

“ถ้าผู้อาวุโส​ติง​ไม่ลงมือ​ สามารถ​ชี้แนะ​หนทาง​เอาชนะ​ได้​หรือไม่​” หลังจาก​พวกเขา​สอง​คน​ครุ่นคิด​พลัน​เอ่ย​ถาม

“พวก​เจ้าไม่ย้าย​คน​จาก​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงมาหรือ​? คาด​ว่า​พวกเขา​ต้อง​สนใจ​ที่นี่​อย่างยิ่ง​” ติง​จั๋ว​พลัน​เอ่ย​เสนอแนะ​

คำพูด​ของ​เขา​ทำให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​สอง​คน​สูด​ลมหายใจ​ โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงคือ​สถาน​ที่ใด​ ที่นั่น​ล้วน​เต็มไปด้วย​โจร​ขโมย​ บอ​กว่า​เป็น​โลก​ระดับ​วิญญาณ​ ที่จริง​เป็น​เพียง​ดินแดน​ป่าเถื่อน​ที่อยู่​ชายขอบ​ของ​โลก​ระดับ​วิญญาณ​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ชั่วร้าย​จำนวนมาก​ซึ่งไม่มีที่​ไป​ใน​โลก​ระดับ​วิญญาณ​ล้วน​รวมตัวกัน​อยู่​ที่นั่น​ คิดไม่ถึง​ว่า​สุดท้าย​จะพัฒนา​จน​ดีขึ้น​มาก​ ปกติ​ระวัง​ป้องกัน​พวกเขา​แทบ​ไม่ทัน​ แล้​วจะ​นำ​สุนัขป่า​เข้า​บ้าน​ได้​อย่างไร​

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ชั่วร้าย​ใน​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​เมื่อ​เปรียบกับ​เจ้าพวก​นั้น​ใน​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงแล้วก็​คือ​เด็กน้อย​เล่น​ดิน​โคลน​ ไม่ควรค่า​แก่​การเอ่ยถึง​ เนื่องจาก​เผ่า​มนุษย์​ล้วน​ระวัง​ป้องกัน​พวกเขา​ ดังนั้น​เกาะ​ลอย​ได้​ระดับ​เทพ​จึงไม่ถูก​พวกเขา​รุกราน​และ​ยึดครอง​ ถ้าให้​พวกเขา​ขึ้น​มา เกรง​ว่า​คง​เป็น​เหมือน​ตัว​เรือด​ที่​ไล่​ไม่ไป​และ​ฆ่าไม่หมด​

เสิ่นกวงเจี๋ย​และ​เจี่ยง​เจ๋อ​รู้สึก​อึดอัด​อย่างยิ่ง​ ทุก​ห้าสิบ​ปี​ล้วน​ต้อง​มาทุ่ม​วัตถุดิบ​ล้ำค่า​จำนวนมาก​ที่นี่​ ทุกอย่าง​ล้วน​เป็น​สิ่งที่​พวกเขา​สอง​คน​จำเป็นต้อง​ใช้หลังจาก​บรรลุ​ขั้น​ผสาน​ร่าง​ ตนเอง​เงียบเสียง​ระงับ​โทสะ​มาที่นี่​ก็​เพื่อ​ทุกคน​ คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​จะอยากได้​แต่​ผลประโยชน์​ทว่า​ไม่คิด​จะทำงาน​

เรื่อง​ผลักไส​พวกเขา​ไป​ให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ชั่วร้าย​ทันที​ยัง​กระทำ​ออกมา​ได้​ น่าชัง​เกินไป​แล้ว​

พวกเขา​ครุ่นคิด​ ตา​เฒ่าเจ้าเล่ห์​ติง​จั๋ว​พึ่งพา​ไม่ได้​ หวัง​ว่า​เขา​จะไสหัว​กลับ​โลก​ตู้​เทียน​โดยเร็ว​หรือ​ให้​อัสนี​สวรรค์​มาอย่าง​ดุร้าย​ โจมตี​ถ้ำโทรม​ๆ แห่ง​นี้​และ​ผ่า​เจ้าเฒ่านี้​ให้​ตาย​ทันที​

ทว่า​ใบหน้า​ของ​พวกเขา​สอง​คน​ยังมี​สีหน้า​ลำบากใจ​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ติง​ ไป​ตาม​โลก​วิญญาณ​หนาน​เฟิงมาช่วยเหลือ​ไม่ได้​ พวกเรา​กลับ​ไป​ย้าย​คน​มาจาก​โลก​วิญญาณ​เป่ยเฉิน​ดีกว่า​”

ติง​จั๋ว​หลุบ​ตา​ลง​ครึ่งหนึ่ง​ เอ่ย​อย่าง​เฉยชา​ “อืม​ ไป​เถอะ​”

ทั้งสอง​คน​ออกจาก​น้ำพุ​ความฝัน​และ​กลับ​ไป​เมือง​ซวง​โหล​ว​ที่​เผ่า​มนุษย์​อาศัย​อยู่​ ผลสุดท้าย​ก็​ไม่ได้​ไป​เรียก​คน​ของ​โลก​หนาน​เฟิงมา

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เผ่า​มนุษย์​เพียง​สูญเสีย​เมือง​ซัน​จือ​ไป​ ใน​สงคราม​ต่อมา​ก็​ไม่ได้เสีย​เมือง​ไป​อีก​ ทั้งสองฝ่าย​สร้าง​ขึ้น​เป็น​สงคราม​ผลัดกัน​รุก​และ​รับ​อย่าง​ช้าๆ การต่อสู้​กัน​ครั้งนี้​นาน​ถึงห้า​ปี​กว่า​และ​ไม่มีการพัฒนา​ คน​จึงเริ่ม​เบื่อหน่าย​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ระดับสูง​บางคน​เริ่ม​ใช้ตัวแทน​ลาดตระเวน​และ​เอ้อระเหย​ลอยชาย​ทำ​เรื่องส่วนตัว​

ห้า​ปี​นี้​จิน​เฟย​เหยา​ไม่ได้​เหยียบย่าง​ออกจาก​เกาะ​ลอย​ได้​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ใช้เวลา​ส่วนใหญ่​ไป​กับ​การ​ฝึก​บำเพ็ญ​และ​ศึกษา​เคล็ด​วิชา​สร้าง​ร่าง​มาร​ ถ้ายัง​ไม่ตั้งใจ​ฝึก​บำเพ็ญ​อีก​ ตนเอง​คง​ลำบาก​ ครั้ง​ที่แล้ว​แย่งชิง​หยวน​อิง​และ​ใช้เวท​หนี​ไฟนรก​ อย่า​เห็น​ว่า​ตอนนั้น​นาง​เหมือน​ไม่มีอะไร​ ที่จริง​ตอนนั้น​กระดูก​เจ็บปวด​แทบตาย​

ตอนนี้​นาง​นั่ง​อยู่​ใน​กระท่อม​ ทั่ว​ร่าง​มีแสงสีดำ​กระพริบ​ กระดูก​แต่ละ​ชิ้น​ภายใต้​เนื้อหนัง​ล้วน​กระพริบ​แสงสีดำ​ เห็นได้ชัด​ว่า​แข็งแกร่ง​สุด​เปรียบ​ปาน​แล้ว​ ทั่ว​ร่าง​กลายเป็น​ของ​วิเศษ​ชั้นล่าง​ แน่นอน​ว่า​นิ้วกลาง​มือขวา​ของ​นาง​เป็น​ของ​วิเศษ​ชั้น​กลาง​ คิด​จะเปลี่ยน​ทั่ว​ร่าง​ให้​กลายเป็น​ของ​วิเศษ​ชั้น​กลาง​ นาง​ยัง​ห่าง​อีก​ไกล​

แต่​ถือว่า​ใช้ไฟนรก​ได้​อย่าง​ไม่มีปัญหา​ ตอนนี้​มือเปล่า​ของ​นาง​สามารถ​ต้านทาน​ของ​วิเศษ​ได้​แล้ว​ ถ้าหลอม​ทั่ว​ร่าง​เป็น​ของ​วิเศษ​ชั้นบน​หรือ​ชั้นยอด​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะบรรยาย​อย่างไร​ ตอน​ไม่มีศิลา​วิญญาณ​ก็​สามารถ​ดึง​กระดูก​ชิ้น​หนึ่ง​มาขาย​ได้​ เส้นเอ็น​และ​กระดูก​สามารถ​ทำเป็น​กระบี่​บิน​ได้​ ก็​ร่ำรวย​แล้ว​

แต่​จิน​เฟย​เหยา​มีเรื่อง​หนึ่ง​ไม่เข้าใจ​ นาง​ฝึก​เคล็ด​วิชา​สร้าง​ร่าง​มาร​เพื่อ​ทำให้​ร่างกาย​แข็งแกร่ง​ น่าจะ​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​เทา​เที่ย​สักนิด​ ถึงอย่างไร​นั่น​ก็​เป็น​จิน​ตัน​ ถ้าจะให้​มีประสิทธิภาพ​ก็​ต้อง​เป็น​เคล็ด​วิชา​เพิ่ม​การรับรู้​และ​พลัง​วิญญาณ​ ทว่า​ทุกครั้งที่​ฝึก​เคล็ด​วิชา​สร้าง​ร่าง​มาร​ นาง​ก็​จะเห็น​เทา​เที่ย​ส่องแสง​สีดำ​ทั่ว​ร่าง​ราวกับ​กำลัง​ฝึก​บำเพ็ญ​อยู่​เช่นเดียวกัน​

คิด​อย่างไร​ก็​ไม่เข้าใจ​ จิน​เฟย​เหยา​เพียง​ถือว่า​เคล็ด​วิชา​สร้าง​ร่าง​มาร​มีประสิทธิผล​กับ​จิน​ตัน​ เคล็ด​วิชา​เดียว​ได้ผล​ถึงสอง​อย่าง​ ลด​เรื่อง​ยุ่งยาก​และ​ได้​กำไร​จริงๆ​

สิ่งที่​น่ายินดี​คือ​ นาง​กิน​จิน​ตัน​ของ​สาวน้อย​เผ่า​มาร​สอง​คน​นั้น​แล้ว​เลื่อน​เป็น​ขั้น​หลอม​รวม​ช่วง​กลาง​ได้​อย่าง​ราบรื่น​ จิน​เฟย​เหยา​โชคดี​มาตลอด​ ผู้อื่น​เลื่อนขั้น​ต้อง​ฝึก​จน​พลัง​เต็ม​สมบูรณ์​จากนั้น​ค่อย​กิน​ยา​นานา​ชนิด​เพื่อ​ทะลวง​ระดับ​ขั้น​ นาง​กลับ​ดี​ยิ่ง​ แค่​กิน​อาหาร​ก็​สะสมพลัง​วิญญาณ​มากมาย​ สุดท้าย​กิน​จิน​ตัน​สอง​เม็ด​ก็​บรรลุ​ขั้น​หลอม​รวม​ช่วง​กลาง​

การ​เลื่อนขั้น​ที่​ไม่รู้สึก​ว่า​ว่า​ประสบความสำเร็จ​แบบนี้​ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​คิด​ว่า​ว่า​ความรู้สึก​ยินดี​ยัง​สู้กิน​อิ่ม​สัก​มื้อ​ไม่ได้​

อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​ นาง​ก็​นำ​พรม​บิน​ที่​ทั้ง​เก่า​ทั้ง​สกปรก​ออกมา​ พรม​บิน​ผืน​นี้​อยู่​กับ​นาง​มาร้อย​ปี​ ถึงระดับ​ความเร็ว​จะไม่เร็ว​นัก​ แต่​ดี​ตรง​มีพื้นที่​กว้างขวาง​และ​บิน​ได้​นิ่ง​ สิ่งเดียว​ที่​ไม่ดี​คือ​ไม่มีอะไร​เลย​ ถ้าเป็น​รถ​เหาะ​มีหลังคา​สัก​คัน​ก็ดี​สิ

แต่​จิน​เฟย​เหยา​มิใช่ไม่มีวิธี​ ไม่มีหลังคา​ก็​แค่​เพิ่ม​มา บอก​จะทำ​ก็​ทำ​ทันที​ นาง​ใช้กระดูก​สัตว์​และ​หนัง​สัตว์​หลอม​ร่ม​คัน​ใหญ่​ บน​ตัว​ร่ม​สีขาว​ยังมี​กลีบดอกไม้​สีชมพู​ล่องลอย​ทั่ว​นภา​ หวน​นึกถึง​พวก​หมอน​นุ่ม​ๆ และ​เบาะ​หนา​ๆ ที่​เห็น​ใน​บ้าน​ใต้เท้า​ไหว​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ทำ​เบาะ​ที่​ทั้ง​ยาว​ทั้ง​นุ่ม​เลียนแบบ​หลาย​อัน​

สุดท้าย​นาง​หลอม​สร้าง​พรม​บินขึ้น​ใหม่​อีกครั้ง​ รอยเปื้อน​ทั้งหมด​หาย​ไป​ ใหม่เอี่ยม​เหมือน​ใน​ตอนแรก​ จากนั้น​นาง​ก็​โยน​ร่ม​และ​พวก​เบาะ​นุ่ม​ๆ เข้าไป​ใน​เพลิง​แท้​แปะ​ติด​ลง​บน​พรม​บิน​ ไม่เช่นนั้น​สิ่งของ​เหล่านี้​จะวาง​บน​พรม​บิน​ไม่ได้​ ถ้าเหาะ​เหิน​ขึ้น​มาคง​เทกระจาด​ลง​ไป​หมด​

จัดการ​ของ​วิเศษ​ที่​ใช้แทน​การ​เดินเท้า​เสร็จ​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ทำ​ทง​เทียน​หรู​อี้​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ของ​ตนเอง​

หล่อเลี้ยง​ทง​เทียน​หรู​อี้​ที่​แตก​เสียหาย​ชิ้น​นั้น​จน​เสร็จ​สมบูรณ์​แล้ว​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​โยน​พวก​มัน​เข้าไป​หลอม​สร้าง​ใน​เพลิง​แท้​อีกครั้ง​ จากนั้น​นำ​ใย​ทอง​มัด​นั้น​ออกมา​ บอ​กว่า​มัด​หนึ่ง​ ที่จริง​หยาบ​แค่​นิ้วมือ​เท่านั้น​ ถ้าถัก​ทอ​ก็​มีปริมาณ​พอ​ทำ​เชือก​ทอง​เพียง​สอง​เส้น​

แต่​มีเท่านี้​ก็​เพียง​พอแล้ว​ จิน​เฟย​เหยา​โยน​ใย​ทอง​ทั้งหมด​เข้าไป​ใน​เพลิง​แท้​ ภายใต้​การหลอม​สร้าง​ของ​เพลิง​แท้​ ใย​ทอง​กลายเป็น​ของเหลว​สีทอง​สอง​ก้อน​ จากนั้น​นาง​ก็​ผสาน​ใย​ทอง​ลง​ใน​ทง​เทียน​หรู​อี้​อย่าง​ระมัดระวัง​ สมดัง​เจตนา​ ทง​เทียน​หรู​อี้​อัน​โปร่งใส​ที่​แฝงริ้ว​โลหิต​นิดๆ​ มีลวดลาย​สีทอง​เพิ่ม​เข้ามา​ งดงาม​ราวกับ​ภาพวาด​อย่างยิ่ง​

นี่​ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​นึกถึง​ก้อนหิน​ไร้ค่า​ชนิด​หนึ่ง​ที่​โปร่งใส​และ​มีลวดลาย​สีทอง​ ถึงแม้จะเพิ่ม​ใย​ทอง​เข้าไป​ ทว่า​ต้อง​มีสิ่งอื่น​เจือปน​ ยาม​นี้​หยก​จิน​กัง​ที่​ได้​มาจาก​คฤหาสน์​อีก​แห่ง​ของ​จอม​มาร​หลง​จึงมีประโยชน์​อย่างยิ่ง​

ผู้อื่น​หลอม​สร้าง​ของ​วิเศษ​ครา​หนึ่ง​อย่าง​มาก​ก็​โยน​หยก​จิน​กัง​ชิ้น​สอง​ชิ้น​ขนาด​เท่า​หิน​ก้อน​เล็ก​ๆ เข้าไป​ ทว่า​จิน​เฟย​เหยา​กลับ​โยน​ก้อน​เท่า​กำปั้น​เข้าไป​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ หลังจาก​ทง​เทียน​หรู​อื้ถือ​กำเนิด​ใหม่​ อานุภาพ​ก็​ยิ่งใหญ่​และ​แข็งแรง​ทนทาน​ยิ่งขึ้น​กว่า​เมื่อก่อน​ ยาม​เปลี่ยนเป็น​สิ่งของ​ที่​เล็ก​ละเอียด​ก็​ไม่เสียหาย​ง่ายๆ​

มองดู​ของ​วิเศษ​และ​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ทั่ว​ร่าง​ของ​ตนเอง​ ทั้ง​ยัง​ใช้ไฟนรก​อย่างไร​ก็​ไม่ต้อง​กังวล​ว่า​กระดูก​จะหัก​ จิน​เฟย​เหยา​กระหยิ่ม​ยินดี​อย่างยิ่ง​ ถึงแม้อยู่​ที่​โลก​ระดับ​เทพ​ ตนเอง​ยัง​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ต่ำ​ที่สุด​ แต่​ก็​ถือว่า​ร้ายกาจ​กว่า​เมื่อก่อน​มาก​นัก​

ทันใดนั้น​ ชาถ้วย​หนึ่ง​ก็​ยื่น​มาเบื้องหน้า​นาง​ เกือบ​ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​ตกใจกลัว​ หลังจาก​เห็น​คน​ที่​ยก​น้ำชา​มาให้​ชัดเจน​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ถอนหายใจ​โล่งอก​ หยิบ​ถ้วย​ชาขึ้น​จาก​ถาด​น้ำชา​แล้​วอด​เอ่ยปาก​ไม่ได้​ว่า​ “พี่​สยง​ เวท​หุ่นเชิด​นี้​น่ากลัว​เกินไป​จริงๆ​ ต่อไป​ข้า​ต้อง​เพิ่ม​ความจำ​หน่อย​ จะได้​ไม่ถูก​ทำให้​ตกใจกลัว​”

คน​ที่​ยก​น้ำชา​มาให้​ไม่ใช่ต้า​นิว​ ทว่า​เป็น​เด็กหญิง​อายุ​ห้า​หก​ขวบ​ สวม​ชุด​กระโปรง​ยาว​ หน้าตา​งดงาม​น่ารัก​ แต่​ขอ​เพียง​มอง​ให้​ละเอียด​จะพบ​ว่า​นาง​ยังมี​ความแตกต่าง​จาก​มนุษย์​ที่​แท้จริง​

ที่จริง​เส้น​ผม​สีดำ​ทำ​จาก​ขนสัตว์​สีดำ​ ส่วน​ผิวหนัง​ จิน​เฟย​เหยา​ต้อง​ค้น​ทั้ง​ถุงเฉียน​คุ​น​จึงหา​หนัง​สัตว์​บางอย่าง​ที่​จำไม่ได้​แล้ว​พบ​ชิ้น​หนึ่ง​ เนื่องจาก​สีสัน​ใกล้เคียง​กับ​เผ่า​มนุษย์​ ถึงแม้จะหยาบ​ไป​หน่อย​แต่​ก็​ดีกว่า​ไม่มีมาก​นัก​ ดวงตา​งดงาม​ที่​ขยับ​ได้คู่​นั้น​เป็น​ดวงตา​ที่​จิน​เฟย​เหยา​เอา​มาจาก​ร่าง​สัตว์​ปิศาจ​ตัวเล็ก​ๆ ที่​สังหาร​ทิ้ง​

สิ่งของ​ที่​ฟังดู​แล้ว​ไม่ค่อย​จะน่ารัก​พวก​นี้​ประกอบ​กับ​กระดูก​สัตว์​ที่​ผ่าน​การ​ขัดเกลา​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะทำให้​จิน​เฟย​เหยา​หลอม​หุ่นเชิด​ที่​เหมือน​มนุษย์​ออกมา​ได้​ หลัง​สวม​เสื้อผ้า​ให้​นาง​และ​ใส่การรับรู้​เข้าไป​ใน​หุ่นเชิด​ตาม​วิธี​ใน​ป้าย​หยก​ หุ่นเชิด​ตัว​นี้​ก็​เคลื่อนไหว​ได้​เอง​

เห็น​สาวน้อย​หุ่นเชิด​ตัว​นี้​กวาด​เกาะ​ลอย​ได้​ ดูแล​แปลง​ยาสมุนไพร​ และ​ยัง​ซักผ้า​ทำกับข้าว​ ตามคำสั่ง​ที่​เคย​บอก​เพียง​ครั้ง​เดียว​ใน​การรับรู้​สายใย​นั้น​ ก็​ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​ยินดี​เป็น​ล้นพ้น​ ถึงจะทำ​ไม่อร่อย​นัก​ แต่​ก็​ถือว่า​ไม่ต้อง​ใช้คน​ควบคุม​ นาง​จึงหา​งาน​ให้​ตนเอง​ทำ​

เนื่องจาก​ต้อง​ดูแล​เจ้ามด​หนึ่ง​ผนึก​ที่​ไร้ประโยชน์​ตัว​นั้น​ จิน​เฟย​เหยา​จึงทำ​หุ่นเชิด​อีก​ตัว​ สาวน้อย​งดงาม​สอง​คน​จึงยุ่ง​อยู่​บน​เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ นี้​โดย​ไม่ต้อง​พักผ่อน​เลย​สักนิด​ ทั้ง​ยัง​ไม่ดูแคลน​ตนเอง​

เพื่อ​ลด​ปัญหา​ จิน​เฟย​เหยา​จึงเรียก​หุ่นเชิด​ที่​ผูก​เชือก​สีเขียว​บน​ศีรษะ​ว่า​เสี่ยว​ลวี่​ ตัว​ที่​ผูก​เชือก​สีแดง​ชื่อ​เสี่ยว​หง​ เนื่องจาก​นาง​ไม่ได้​สวม​เครื่องประดับ​เป็นเวลา​นาน​ หุ่นเชิด​จึงได้​แต่​ยากจน​ตาม​นาง​

ถึงแม้บางครั้ง​จิน​เฟย​เหยา​จะถูก​พวก​นาง​ทำให้​ตกใจ​เนื่องจาก​ลืม​ไป​ว่า​บน​เกาะ​มีคน​เช่นนี้​อยู่​สอง​คน​ ทว่า​กลับ​ปลดแอก​ต้า​นิว​ ตอนนี้​มัน​ไม่ต้อง​ทำงาน​แล้ว​ ออก​ไป​ทาง​อุโมงค์​เล็ก​ๆ กับ​พั่งจื่อ​ทั้งวัน​ วันนี้​ได้​สัตว์​ปิศาจ​ตัว​หนึ่ง​ พรุ่งนี้​แบก​ผลไม้​ป่า​ ร่วง​ชั้น​ลงมา​เป็น​คน​เสเพล​โดย​สมบูรณ์​

หุ่นเชิด​สอง​ตัว​นี้​ใช้แล้ว​สบายใจ​อย่างยิ่ง​ จัดการ​บน​เกาะ​ได้​อย่าง​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ มด​หนึ่ง​ผลึก​ตัว​นั้น​จึงถ่าย​ศิลา​วิญญาณ​ชั้น​กลาง​ก้อน​แรก​ออกมา​อย่าง​ไม่ยอม​ล้าหลัง​ สิบ​วัน​ครึ่ง​เดือน​จึงถ่าย​ออกมา​ก้อน​หนึ่ง​ แต่​ก็​ถือว่า​ก้าวหน้า​มากกว่า​เมื่อ​ก่อนที่​ถ่าย​ได้​แค่​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นล่าง​

ที่จริง​จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​น่าเบื่อหน่าย​อย่างยิ่ง​ เลี้ยง​มด​หนึ่ง​ผลึก​คือ​เรื่อง​ที่​ทำ​หรือไม่​ทำ​ก็ได้​ แต่​นาง​ยัง​เลี้ยง​มาตลอด​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ต้อง​ดูแล​เอง​ ใคร​จะรังเกียจ​ว่า​มีศิลา​วิญญาณ​มาก​ไป​

สบายใจ​นั้น​สบายใจ​ แต่​มีอยู่​จุด​หนึ่ง​ที่​ไม่ดี​ นั่น​คือ​ไม่มีประโยชน์​ นอกจาก​เป็น​บ่าว​รับใช้​จัดการ​เรื่อง​จิปาถะ​ หุ่นเชิด​สอง​ตัว​นี้​ก็​ไม่มีความสามารถ​ใน​การต่อสู้​เลย​สักนิด​ ใน​นั้น​ยัง​จดบันทึก​หุ่นเชิด​รูปร่าง​คน​ที่​มีความสามารถ​ด้าน​การต่อสู้​ไว้​หลาย​ตัว​ แต่​กู่​ห​ลิง​ซิน​คือ​ของเล่น​อะไร​ ของ​สิ่งนี้​จิน​เฟย​เหยา​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ย​ถึงว่า​จะไปหา​มาหลอม​สร้าง​หุ่นเชิด​ต่อสู้​

จิน​เฟย​เหยา​ดื่ม​ชาใน​มือหนึ่ง​คำ​ก็​จุปาก​เอ่ย​ว่า​ “คิดไม่ถึง​ว่า​จะหวาน​เปรี้ยว​ ไม่รู้​ว่า​ต้า​นิว​ใส่สิ่งใด​ลง​ใน​นั้น​อีก​ จะดื่ม​แล้ว​ตาย​หรือไม่​”

ไม่รอ​ให้​นาง​ดื่ม​อีก​คำ​ พื้นดิน​พลัน​สั่นสะเทือน​อย่าง​รุนแรง​ จากนั้น​ก้อนหิน​เหนือศีรษะ​พังทลาย​ลงมา​ เศษศิลา​แตก​ร่วง​ลงมา​ตาม​วง​แสงของ​เกาะ​ลอย​ได้​ จิน​เฟย​เหยา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ข้างบน​อย่าง​ประหลาดใจ​ เห็น​แสงอาทิตย์​สาดส่อง​เข้า​มาจาก​ใน​หิน​ภูเขา​ที่​พังทลาย​ สาดส่อง​จน​นาง​อดหรี่ตา​ลง​ไม่ได้​

หลังจาก​นาง​มองเห็น​ชัดเจน​ คิดไม่ถึง​ว่า​ยอดเขา​ถล่ม​ลงมา​ทั้งหมด​ เกาะ​ลอย​ได้​เล็ก​ๆ เผยโฉม​ออกมา​ ใน​มือ​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ยัง​ถือ​ถ้วย​ชา พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ก็​อ้า​ปากกว้าง​มอง​ท้องฟ้า​ เสี่ยว​หง​และ​เสี่ยว​ลวี่​ยัง​เดิน​ไปมา​ทำงาน​อยู่​บน​เกาะ​ดังเดิม​

“มาร​ร้าย​ รับ​ความตาย​เสียเถอะ​!” เสียง​ราวกับ​ฟ้าผ่า​ดัง​ขึ้น​กลางอากาศ​ สั่นสะเทือน​จน​จิน​เฟย​เหยา​หู​ชา

นาง​มองดู​อย่าง​ละเอียด​ กลางอากาศ​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​เกราะ​ทอง​คน​หนึ่ง​ รัศมี​ของ​เกราะ​ทอง​บน​ร่าง​ยัง​เสียดแทง​นัยน์ตา​มากกว่า​ดวงอาทิตย์​ด้าน​หลังเขา​ ต่อให้​มองเห็น​ไม่ชัดเจน​จิน​เฟย​เหยา​ก็​รู้ดี​ เจ้าหมอ​นี่​คง​ไม่มีเจตนา​ดี​ ยิ่ง​มิใช่พลาด​มาทำลาย​ยอดเขา​ของ​ตนเอง​

จิน​เฟย​เหยา​นำ​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​สาวเท้า​ออก​มาจาก​เกาะ​ลอย​ได้​ จากนั้น​พลิก​มือ​เก็บ​เกาะ​ลอย​ได้​ ตอนนี้​ใน​เกาะ​มีเสี่ยว​หง​กับ​เสี่ยว​ลวี่​ จึงไม่ต้อง​ห่วง​ว่า​จะไม่มีคน​ดูแล​

จากนั้น​จิน​เฟย​เหยา​ก็​หรี่ตา​มอง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​กลางอากาศ​ พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ช่วงต้น​ เรือนร่าง​สูงใหญ่​อย่างยิ่ง​ ตลอด​ร่าง​สวม​ชุด​เกราะ​สีทอง​เป็นประกาย​ แม้แต่​ศีรษะ​ก็​สวม​หมวก​เกราะ​สีทอง​ มือถือ​กระบอง​มังกร​เพลิง​ ตำแหน่ง​สามฉื่อ​ด้านหน้า​กระบอง​ มีแสงสีแดง​กระพริบ​ราวกับ​หิน​หลอมเหลว​ บวก​กับ​กล้ามเนื้อ​มันวาว​ทั่ว​ร่าง​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​ทำให้​คน​รู้สึก​ว่า​ร้อนแรง​จน​ทน​ไม่ได้​

จิน​เฟย​เหยา​ครุ่นคิด​ แล้ว​เอ่ย​ถามอย่าง​ถือว่า​เกรงใจ​ “ผู้อาวุโส​ ท่าน​กำลัง​หา​สัตว์​ปิศาจ​ใด​อยู่​ใช่หรือไม่​? ทำลาย​ถ้ำเซียน​ของ​ข้า​แล้วก็​ไม่เป็นไร​ โชคดี​ที่​ไม่พลาด​มาทำร้าย​คน​”

ใคร​จะรู้​ว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​เร่าร้อน​คน​นี้​ใช้กระบอง​มังกร​เพลิง​ชี้จิน​เฟย​เหยา​ เอ่ย​อย่าง​ดุร้าย​ “มาร​ร้าย​ ข้า​มาหา​เจ้าโดยเฉพาะ​!”

“มาหา​ข้า​ทำไม​?” จิน​เฟย​เหยา​เอ่ยปาก​ถาม ดวงตา​เริ่ม​มอง​พินิจ​รอบด้าน​ พบ​ว่า​คน​ผู้​นี้​มาเพียง​คนเดียว​ไม่ได้​พา​ผู้ช่วย​มาจึงมีความกล้า​ขึ้น​มาก​

“เจ้ากลืน​หยวน​อิง​ต่อหน้า​ทุกคน​ที่​เมือง​ซัน​จือ​ใน​วันนั้น​ เป็น​ผู้ฝึก​วิชา​ชั่วร้าย​ที่​ไม่อาจ​อยู่​ใน​เผ่า​มนุษย์​ได้​ ข้า​ตามหา​เจ้าอย่าง​ลำบากลำบน​มาสามปี​ก็​เพื่อ​กำจัด​เจ้า และ​ชำระ​สำนัก​แทน​!” ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​กระตือรือร้น​ดุจ​เปลวเพลิง​จริงๆ​ ระหว่าง​ที่​พูดจา​ จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ได้​ถึงไอ​ร้อนที่​พุ่ง​เข้ามา​ปะทะ​หน้า​

ว่าง​เกินไป​แล้ว​! คิด​ว่า​ตนเอง​เป็น​วีรบุรุษ​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะใช้เวลา​สามปี​มาตามหา​ตนเอง​ ทั้ง​ยัง​มิใช่เพื่อ​เทา​เที่ย​ จิน​เฟย​เหยา​บอก​เขา​ด้วย​สีหน้า​ช่วยไม่ได้​ “ผู้อาวุโส​ ข้า​ไม่รู้จัก​ท่าน​ ใคร​จะรู้​ว่า​หยวน​อิง​นั่น​เป็น​คนรู้จัก​หรือ​ญาติสนิท​ของ​ท่าน​ ท่าน​ไม่ไป​ค้นหา​เผ่า​มาร​ แต่กลับ​ใช้เวลา​สามปี​มาตามหา​ข้า​ สิ้นเปลือง​ชีวิต​มากเกินไป​หรือไม่​”

“ฮึ! มาร​ร้าย​ เจ้าเล่ห์​ให้​มัน​น้อย​ๆ หน่อย​ ข้า​จะให้​เจ้าตาย​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​ ข้า​คือ​ราชัน​อัคคี​แดง​ หยวน​เห​มิ่ง! วันนี้​มาเพื่อ​ส่งเจ้ากลับ​แดน​ประจิม​[1]ขณะที่​เทา​เที่ย​ใน​ตัว​เจ้ายัง​ไม่โต​เต็ม​วัย​” หยวน​เห​มิ่งถลึงตา​อย่าง​เดือดดาล​ ตลอด​ร่าง​เปล่งแสง​สีทอง​

หยวน​เห​มิ่ง? จิน​เฟย​เหยา​เอียง​ศีรษะ​ครุ่นคิด​ คือ​คน​ที่อยู่​อันดับ​หนึ่ง​บน​ผัง​สงคราม​วิญญาณ​มิใช่หรือ​ ได้ยิน​ว่า​มีนิสัย​เจ้าอารมณ์​ ชอบ​ต่อสู้​รัก​ความยุติธรรม​ ทั้ง​ยัง​ใช้เคล็ด​วิชา​หยาง​บริสุทธิ์​ทำลาย​เคล็ด​วิชา​ชั่วร้าย​นอกรีต​โดยเฉพาะ​ เผ่า​มาร​จำนวนมาก​ล้วน​ตาย​ด้วย​น้ำมือ​ของ​เขา​ อีก​ทั้ง​ได้ยิน​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​ร้ายกาจ​ยิ่ง​

“ท่าน​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ข้า​อยู่​ที่นี่​?” จิน​เฟย​เหยา​รู้​ว่า​ต้อง​มีคน​มากมาย​กำลัง​ค้นหา​ตนเอง​ แต่​ก็​รู้สึก​ว่า​ซ่อนตัว​ได้​ดีแล้ว​ ทำไม​เขา​จึงหา​พบ​ได้​

“ฮึ! นก​ไท่หยาง​ของ​ข้า​สามารถ​ค้นหา​สิ่งที่​มีปราณ​ชั่วร้าย​ทุกอย่าง​ได้​ ต่อให้​เจ้าซ่อนตัว​อยู่​ใน​ภูเขา​ แต่​มีเทา​เที่ย​อยู่​ใน​ร่าง​ ข้า​ก็​สามารถ​หา​เจ้าพบ​เช่นเดียวกัน​!” ระหว่าง​ที่​หยวน​เห​มิ่งเอ่ย​วาจา​ นก​ตัว​หนึ่ง​ซึ่งสร้าง​ขึ้น​จาก​แสงเพลิง​ออกมา​บินวน​กลางอากาศ​รอบ​หนึ่ง​ราวกับ​สำแดง​อานุภาพ​

ได้ยิน​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​บ้า​ความรุนแรง​ อีก​ทั้ง​ลงมือ​กับ​ศัตรู​อย่าง​อำมหิต​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ไม่พูดมาก​กับ​เขา​อีก​ ทว่า​คิด​จะฉวยโอกาส​หลบหนี​ นาง​เพิ่ง​บรรลุ​ขั้น​หลอม​รวม​ช่วง​กลาง​ เมื่อ​ครู่​ยัง​รู้สึก​พึงพอใจ​ใน​ตนเอง​อยู่​ เพียง​พริบตา​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะต้อง​หลบหนี​อีกแล้ว​ จิน​เฟย​เหยา​ไม่พอใจ​อย่างยิ่ง​ หรือว่า​จะไม่มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​หลอม​รวม​หลาย​คน​มาให้​ข้า​ได้​แสดง​อานุภาพ​สักหน่อย​!

ทันใดนั้น​ จิน​เฟย​เหยา​มอง​ด้าน​หลังเขา​แล้ว​ร้อง​อย่าง​ประหลาดใจ​ “ท่าน​คิด​จะทำ​อะไร​!”

หยวน​เห​มิ่งถูก​สีหน้า​ของ​นาง​ทำให้​ตกใจ​ รีบ​หันหน้า​ไปดู​ กลับ​พบ​ว่า​ด้านหลัง​ไม่มีอะไร​เลย​ ติดกับ​แล้ว​! เขา​ยัง​นึก​ว่า​มีเผ่า​มาร​ระดับสูง​อะไร​เสีย​อีก​ จึงสามารถ​ปรากฏตัว​ขึ้น​ด้านหลัง​ตนเอง​ได้​โดย​ไร้​เสียง​

จริง​เสีย​ด้วย​ เมื่อ​เขา​หันหน้า​กลับมา​ จิน​เฟย​เหยา​กลาย​เป็นไฟ​นรก​หลบหนี​ไป​แล้ว​

“จะหนี​ไป​ที่ใด​!” หยวน​เห​มิ่งพลิก​กระบอง​มังกร​ทอง​ใน​มือ​ไป​เสียบ​ไว้​ด้านหลัง​ คน​ก็​กลายเป็น​เปลวเพลิง​พุ่ง​ออก​ไป​

เขา​ก็​เป็น​เวท​เปลวเพลิง​หลบหนี​! จิน​เฟย​เหยา​รีบ​ถ่ายเท​พลัง​วิญญาณ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ คิด​จะชิงหลบหนี​ออก​ไป​ก่อน​ ส่วน​บน​ร่าง​หยวน​เห​มิ่งพลัน​มีเปลวเพลิง​ออกมา​ พอดี​เป็น​นก​ไท่หยาง​เมื่อ​ครู่​ มัน​พลัน​กู่​ร้อง​ แบ่ง​เปลวเพลิง​ขุม​หนึ่ง​ออกมา​ให้​ไป​โอบล้อม​จิน​เฟย​เหยา​จาก​อีก​ด้าน​หนึ่ง​

เปลวเพลิง​และ​น้ำแข็ง​เข้ากัน​ไม่ได้​! แลเห็น​เปลวเพลิง​ที่​ไล่​ตามมา​โจมตี​ด้านหลัง​เปลี่ยนเป็น​สอง​สาย​ ทั้ง​ยัง​กำลัง​กดดัน​เข้ามา​ใกล้​ จิน​เฟย​เหยา​พลัน​หยุด​ร่าง​กลางคัน​ พอ​นาง​หันมา​ ไฟนรก​สีดำ​ใน​มือ​ซึ่งแฝงความ​เย็นเยือก​สุดขั้ว​ก็​พุ่ง​ไป​ใส่หยวน​เห​มิ่ง

ส่วน​ทาง​ด้าน​นก​ไท่หยาง​ จิน​เฟย​เหยา​โย​นท​งเทียน​หรู​อี้​ออก​ไป​ฟัน​นก​ไท่หยาง​โดยตรง​

ไฟนรก​พุ่ง​ออก​ไป​โจมตี​ร่าง​ที่​กลายเป็น​เปลวเพลิง​ของ​หยวน​เห​มิงทันที​ จิน​เฟย​เหยา​ไม่ขอ​ดับชีพ​หยวน​เห​มิ่งที่อยู่​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ใน​หนึ่ง​กระบวนท่า​ เพียง​หวัง​ว่า​จะทำร้าย​หรือ​ถ่วงเวลา​เขา​ทำให้​ตนเอง​หลบหนี​ได้​ง่าย​ขึ้น​ ไฟนรก​เป็น​เปลวเพลิง​ที่​ร้ายกาจ​กว่า​เปลวเพลิง​ธรรมดา​หลายเท่า​ ขอ​เพียง​ใช้เปลวเพลิง​มาต่อกร​ ต่อให้​อีก​ฝ่าย​เป็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ก็​น่าจะ​จัดการ​ได้​

คิด​เสีย​ดิบดี​ ทว่า​เรื่องจริง​ไม่เป็นไป​ตามที่​นาง​คิด​

เสียง​เปรี๊ยะ​ๆ ดัง​มาไม่หยุด​ ตรง​ที่​ไฟนรก​ปะทะ​กับ​เปลวเพลิง​ ผลึก​น้ำแข็ง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​กระจาย​ออกมา​ จากนั้น​ก็​ละลาย​เป็น​ไอ​สีขาว​ภายใต้​อุณหภูมิ​สูงจัด​ จิน​เฟย​เหยา​ประหลาดใจ​อย่างยิ่ง​ เนื่องจาก​ความเร็ว​ของ​หยวน​เห​มิ่งไม่ได้​ลดลง​ภายใต้​การ​โจมตี​ของ​ไฟนรก​ ทว่า​ยัง​รักษา​ความเร็ว​สูงสุด​สะอึก​เข้าหา​

เพียง​พริบตา​ หยวน​เห​มิ่งก็​ปราด​มาถึงเบื้องหน้า​จิน​เฟย​เหยา​ ได้ยิน​เสียง​สัมผัส​ครา​หนึ่ง​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ถูก​หยวน​เห​มิ่งซึ่งกลายร่าง​เป็น​เปลวเพลิง​ชน​กระเด็น​ออก​ไป​ทันที​

ถึงแม้จะใช้ไฟนรก​ผนึก​เป็น​ผลึก​น้ำแข็ง​สกัด​ไว้​แล้ว​ ทว่า​ไฟนรก​ที่​สามารถ​แช่แข็ง​ทุกสิ่ง​ได้มา​ตลอด​กลับ​ล้มเหลว​ โล่​ผลึก​น้ำแข็ง​กลายเป็น​เศษน้ำแข็ง​ราวกับ​แก้ว​ที่​เปราะ​แตก​ง่าย​และ​ถูก​เปลวเพลิง​ของ​หยวน​เห​มิ่งกวาด​ม้วน​หาย​ไป​ทั้งหมด​

จิน​เฟย​เหยา​ถูก​เปลวเพลิง​ของ​หยวน​เห​มิ่งโจมตี​โดน​ จึงพกพา​ความร้อน​ลวก​สุดขีด​ทั่ว​ร่าง​ กระแทก​กับ​พื้น​และ​กลิ้ง​ออก​ไป​หลาย​ร้อย​จั้ง

“ฮ่าๆๆ! เจ้านึก​ว่า​มีไฟนรก​ที่​เยียบ​เย็น​สุดขีด​ก็​จะไร้​ผู้​ต่อต้าน​หรือ​! ข้า​จะบอก​ให้​ทุก​สรรพสิ่ง​ล้วน​มีสิ่งที่​เกื้อหนุน​และ​สะกด​ข่ม​กัน​ เพลิง​แท้​ไท่หยาง​และ​ร่าง​หยาง​บริสุทธิ์​ของ​ข้า​ก็​คือ​สิ่งที่​สะกด​ข่ม​เปลวเพลิง​เย็นเยียบ​ชนิด​นี้​ของ​เจ้าโดยเฉพาะ​!” กลาง​ท้อง​นภา​มีเสียงหัวเราะ​อย่าง​กระหยิ่ม​ใจของ​หยวน​เห​มิ่งดัง​มา

จิน​เฟย​เหยา​ม่านตา​หด​วูบ​ เปลี่ยนเป็น​เคร่งขรึม​ใน​พริบตา​

…………………………………….

[1] แดน​ประจิม​ หมายถึง​ สวรรค์​ซึ่งเชื่อ​กัน​ว่า​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด