คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 270 ลุย

Now you are reading คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย Chapter บทที่ 270 ลุย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใต้เท้า​อา​ปู้​ปรากฏตัว​ขึ้น​ครู่เดียว​ราวกับ​แมลงปอ​แตะ​ผิวน้ำ​แล้ว​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​ ครั้งนี้​ก็​เช่นเดียวกัน​ เขา​ทิ้ง​กบ​สอง​ตัว​ไว้​ ทักทาย​ตามสบาย​แล้ว​หนี​ไป​ราวกับ​สายลม​ ไม่รู้​ว่า​ยุ่ง​อะไร​ทั้งวัน​

คิด​จะเก็บ​แผ่น​หยก​ซ่อน​ จิน​เฟย​เหยา​จึงพบ​ว่า​ตนเอง​ไม่มีที่​ใส่ คิด​นิดหนึ่ง​ นาง​ก็​โยน​แผ่น​หยก​ใส่ถุงเฉียน​คุ​นบ​นค​อต้า​นิว​ ส่วน​พวก​กำไล​เฉียน​คุ​น​แค่​ใช้ใส่สิ่งของ​เท่านั้น​ ไม่มีความสามารถ​ใน​การ​เปลี่ยน​ขนาด​ ดังนั้น​ตอนนี้​นาง​จึงไม่มีทาง​สวม​บน​มือ​ได้​

จิน​เฟย​เหยา​ใช้กรงเล็บ​ค้น​ถุงเฉียน​คุ​น​ อด​ทอดถอนใจ​ชมว่า​ตนเอง​โชคดี​ไม่ได้​ เพลิง​ใหญ่​ขนาด​นั้น​ยัง​ไม่ได้​เผา​ถุงเฉียน​คุ​น​ทิ้ง​ โชคดี​จริงๆ​ มอง​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ทาง​ด้าน​ข้าง​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​เอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​ “เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​พวก​เจ้าสอง​คน​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะถูก​คน​ส่งกลับมา​ ถือว่า​พวก​เจ้าสอง​ตัว​โชคดี​ ที่นี่​มีอาหาร​กิน​มีที่อยู่​รับประกัน​ว่า​เลี้ยง​พวก​เจ้าสอง​ตัว​ให้​อ้วนท้วน​ได้​”

“อ๊บ!”​ พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​พร้อมใจกัน​ร้อง​อย่าง​ยินดี​ พวก​มัน​ทน​ปู้จื้อ​โหย​ว​มามาก​พอแล้ว​ ติดตาม​เจ้าหมอ​นั่น​ลำบาก​กว่า​ติดตาม​จิน​เฟย​เหยา​อีก​ พอ​นึก​ถึงชีวิต​เกือบ​หนึ่ง​ปี​มานี้​พวก​มัน​ก็​ระทม​ทุกข์​

เมื่อ​สอง​เผ่า​สู้รบ​อย่าง​รุนแรง​ก็​ต้อง​ปะปน​เข้าสู่​สนามรบ​เพื่อ​ตรวจสอบ​ของ​วิเศษ​แก่น​ชีวิต​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​คน​หนึ่ง​ว่า​โจมตี​อย่างไร​ ใน​กระโจม​ใหญ่​ที่​มีการ​เฝ้ายาม​อย่าง​เข้มงวด​ก็​ต้อง​แนบ​ร่าง​กับ​มุมผนัง​เพื่อ​แอบ​ฟังข้อมูล​ทางการทหาร​หรือ​แอบ​ฟังว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​ว่างเปล่า​ก่น​ด่า​สหาย​ร่วม​สำนัก​อย่างไร​

ครั้ง​ที่แล้ว​ยัง​แอบมอง​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ขั้น​แปลง​จิต​คน​หนึ่ง​อาบน้ำ​เพียง​เพื่อ​ยืนยัน​ว่า​นาง​มีปาน​แดง​บน​ก้น​หรือไม่​ ต่อมา​ถูก​ผู้อื่น​ไล่ล่า​อยู่​สิบ​กว่า​วัน​ วิ่ง​ผ่าน​เกาะ​ลอย​ได้​เจ็ด​เกาะ​จึงหนีรอด​มาจาก​เงื้อมมือ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ด้วย​โอกาส​ตาย​เก้า​รอด​หนึ่ง​ ใช้ชีวิต​ติดตาม​เจ้าวิปริต​แบบนี้​ยัง​ลำบาก​กว่า​ติดตาม​ยาย​โง่จิน​เฟย​เหยา​เสีย​อีก​

กบ​สอง​ตัว​ครุ่นคิด​ ถึงแม้ติดตาม​จิน​เฟย​เหยา​จะต้อง​หลบหนี​สามวัน​สอง​คืน​เช่นเดียวกัน​ ทว่า​ดี​ที่​มีอาหาร​กิน​เยอะ​ และ​ยัง​ได้​สำราญ​บ่อยๆ​ ไม่เหมือน​ปู้จื้อ​โหย​ว​ พา​ตนเอง​เข้า​ไปหา​อันตราย​แท้ๆ​ ทั้ง​ยัง​เป็นเรื่อง​เสี่ยงอันตราย​สูงที่​ไม่ได้รับ​สิ่งตอบแทน​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ย​ถึงว่า​ต้อง​ช่วย​เขา​หลบหนี​แบบ​หิว​ไส้กิ่ว​ ไม่มีข้าว​กิน​สอง​สามวัน​

เมื่อ​หง​ออก​มาจาก​บ้าน​หลง​ พลัน​พบ​ว่า​ข้าง​จิน​เฟย​เหยา​มีกบ​สีขาว​สอง​ตัว​เพิ่มขึ้น​มา เขา​เอ่ย​ถามอย่าง​ประหลาดใจ​ “นี่​คือ​ตัว​อะไร​ คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าจะรับ​เจ้าสอง​ตัว​นี้​เป็น​ลูกสมุน​?”

“นี่​เป็น​สัตว์​ภูติ​ของ​ข้า​ใน​อดีต​ ตอนนี้​มัน​หา​ข้า​พบ​แล้ว​ ให้​พวก​มัน​รั้ง​อยู่​เถอะ​ ถึงอย่างไร​พวก​มัน​ก็​กิน​น้อย​ ทั้ง​ยัง​หน้าตา​น่ารัก​” จิน​เฟย​เหยา​เอ่ย​

ได้ยิน​คำพูด​ของ​นาง​ หง​ก็​กอดอก​มอง​พินิจ​พวก​มัน​สอง​ตัว​ สายตา​หลุกหลิก​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​

จิน​เฟย​เหยา​สะบัด​หาง​เอ่ย​อย่าง​อารมณ์ไม่ดี​ “มีอะไร​น่าดู​กัน​ ไม่ใช่สัตว์​ปิศาจ​ขั้นสูง​เสียหน่อย​ เจ้าเอา​ไป​ก็​ไม่มีประโยชน์​”

คิด​ๆ ดู​แล้วก็​ใช่ จากนั้น​หง​จึงลง​นั่งยองๆ​ ดึง​กรงเล็บ​ของ​จิน​เฟย​เห​ยามา​ดู​ จากนั้น​ก็​ดึง​ขน​และ​ตบ​แผ่น​หลัง​กว้าง​ เอ่ย​พึมพำ​กับ​ตนเอง​ว่า​ “ขน​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ถ้าถลก​หนัง​มาทำ​หมอนอิง​ น่าจะ​พอ​ไหว​ บางที​ใต้เท้า​หลง​อาจจะ​ชอบ​”

“อ๊า!​ รีบ​ปล่อย​ข้า​นะ​!” หง​ร้อง​ตะโกน​ จิน​เฟย​เหยา​พลัน​กระโดด​ขึ้น​ใช้ปาก​กัด​ศีรษะ​ของ​เขา​ ทั้งสอง​คน​ด่าทอ​พลาง​ทะเลาะ​กัน​อีก​ นอกจาก​บรรดา​สตรี​เผ่า​มาร​เห็น​ใต้เท้า​หง​เสื่อมเสีย​ภาพลักษณ์​และ​เจ็บปวด​อย่างยิ่ง​แล้ว​ ผู้ฝึก​บำเพ็ญ​คนอื่นๆ​ ก็​คร้าน​จะใส่ใจเจ้าบ้า​สอง​คน​นี้​

หลังจาก​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​กลับมา​ ชีวิต​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ก็ดี​ยิ่งขึ้น​ ตอน​กินข้าว​เสร็จ​แล้ว​อาบแดด​ ต้า​นิว​ก็​ถือ​ใบไม้​มาพัด​ให้​นาง​ ถึงแม้ว่า​พั่งจื่อ​จะไม่ทำงาน​ แต่​นอน​หงายท้อง​อยู่​ด้าน​ข้าง​เบี่ยงเบน​ความแค้น​ของ​คน​เผ่า​มาร​ได้​

ขณะที่​จิน​เฟย​เหยา​นึก​ว่า​ตนเอง​จะใช้ชีวิต​อย่าง​ไร้​ทุกข์​ไร้กังวล​จน​ถึงขั้น​กำเนิด​ใหม่​ ปิศาจ​ร้าย​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​อีก​ หลง​สวม​ชุด​เสื้อคลุม​มังกร​เหิน​สีดำ​ยืน​อยู่​เบื้องหน้า​นาง​อีกครั้ง​ มอง​ตัว​กิน​จุสามตัว​ เขา​ก็​เอ่ย​อย่าง​เย็นชา​ “เปลี่ยน​ร่าง​ให้​ใหญ่​ขึ้น​แล้ว​ตาม​ข้า​ไป​”

“เปลี่ยน​ร่าง​ให้​ใหญ่​ขึ้น​?” จิน​เฟย​เหยา​พลิกตัว​ลุกขึ้น​นั่ง​ มอง​เขา​อย่าง​งุนงง​

“ถ้าเจ้าไม่เปลี่ยน​ให้​ใหญ่​ขึ้น​ ตัวเล็ก​ขนาด​นี้​ข้า​จะขี่​ได้​อย่างไร​ ไม่ต้อง​ใหญ่​นัก​ประมาณ​สอง​จั้งก็​พอ​ ถ้าใหญ่​เกินไป​จะเดิน​ใน​ป่า​ไม่ได้​” หลง​มอง​นาง​อย่าง​เฉยชา​ ความหมาย​ใน​ดวงตา​คือ​ เรื่อง​นี้​เจ้าก็​ไม่รู้​ โง่งมจริงๆ​

จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​ไม่อยาก​จะเชื่อ​ “ท่าน​คิด​จะขี่​ข้า​?”

“ทำไม​ เจ้ารู้สึก​ว่า​เป็น​หมอนอิง​ที่​วิ่ง​ไป​ทั่ว​ไม่ได้​กับ​เป็น​พาหนะ​อย่าง​ไหนจะ​สบาย​กว่า​กัน​?”

ข่มขู่​ นี่​คือ​การข่มขู่​อย่าง​เปิดเผย​! จิน​เฟย​เหยา​ลุกขึ้น​อย่าง​ไม่ยินยอม​ สะบัด​ขน​ทั่ว​ร่าง​ผ่อนคลาย​กระดูก​ กำลัง​เตรียม​จะเปลี่ยน​ขนาด​ให้​ใหญ่​ขึ้น​ก็​ได้ยิน​หลง​เอ่ย​ถามว่า​ “บน​ร่าง​เจ้ามีหมัด​หรือ​?”

“ไม่มี! ข้า​อาบน้ำ​ทุกวัน​ ไม่ชอบ​นั่ง​ท่าน​ก็​ไป​เหยียบ​ของ​วิเศษ​สิ” จิน​เฟย​เหยา​หันหน้า​ไป​คำราม​ใส่เขา​ แค่​สะบัด​ขน​ จะมีหมัด​อะไร​

“เช่นนั้น​หรือ​?” หลง​ตอบ​อย่าง​เฉยชา​ดังเดิม​

น่า​โมโห​แทบตาย​แล้ว​ เจ้าหมอ​นี่​เห็น​ข้า​ใช้ชีวิต​อยู่ดี​มีสุข​ที่นี่​เป็นที่​ขัดตา​ ดังนั้น​จึงจงใจหาเรื่อง​ข้า​ จิน​เฟย​เหยา​ไม่พอใจ​ เพียง​แค้น​ที่​ตนเอง​ทำไม​ไม่มีหมัด​สัก​หลาย​ตัว​จริงๆ​ เวลานี้​หมัด​จะได้​กระโดด​ขึ้น​ร่าง​เขา​พอดี​ ดู​สิว่า​เขา​จะยัง​ได้ใจ​อยู่​หรือไม่​

ภายใต้​การ​จับจ้อง​อย่าง​เย็นชา​ของ​หลง​ ร่าง​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ขยาย​เป็น​สูงสอง​จั้งกว่า​ จากนั้น​มือ​ของ​หลง​ก็​ดีด​เบา​ๆ อาน​อัน​งดงาม​ก็​สวม​อยู่​บน​หลัง​นาง​

หลัง​สวม​อาน​เสร็จ​ หลง​กระโดด​ขึ้น​นั่ง​อย่าง​สบาย​ๆ จากนั้น​ก้มลง​พยักหน้า​ให้​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ที่​ยืน​เรียบร้อย​ราวกับ​หยก​สลัก​สอง​ชิ้น​ “พวก​เจ้าสอง​ตัว​ก็​ขึ้น​มา”

จิน​เฟย​เหยา​วิ่ง​เข้าไป​ใน​ป่า​และ​แค้นใจ​จน​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​ หลง​นั่ง​บน​หลัง​นาง​อย่าง​เอ้อระเหย​ ต้า​นิว​มีท่าทาง​หวาดกลัว​ขณะ​ริน​น้ำชา​ ส่วน​พั่งจื่อ​กลับ​โบก​พัด​ให้​เขา​ด้วย​ร่าง​แข็งทื่อ​

“ข้า​ได้ยิน​ว่า​ตอนแรก​เจ้ากลับ​มาจาก​ถิ่น​ยักษ์​ตาเดียว​ เจ้าน่าจะ​รู้จัก​ทาง​ ไป​ที่นั่น​อีกครั้ง​” หลง​ดื่ม​ชาพลาง​สั่งการ​ ใต้เท้า​หลง​

“ที่นั่น​อันตราย​เกินไป​ ข้า​พา​ท่าน​ไป​ชมทะเล​เมฆดีกว่า​” จิน​เฟย​เหยา​ไม่อยาก​ไป​ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​ ที่นั่น​เต็มไปด้วย​สัตว์​ปิศาจ​ขั้น​เก้า​วิ่ง​กัน​ให้​วุ่น​น่ากลัว​จริงๆ​

“ข้า​ไม่รังเกียจ​ที่จะ​เตะ​เจ้าลง​จาก​บน​ทะเล​เมฆ” หลง​จิบ​ชาเบา​ๆ เอ่ย​อย่าง​ชืด​ชา

“ถือว่า​ท่าน​อำมหิต​” จิน​เฟย​เหยา​ด่าทอ​ แบก​หลง​วิ่ง​ไป​ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​

มีหลง​นั่ง​บัญชาการ​ จิน​เฟย​เหยา​จึงมาถึงชายขอบ​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​ส่วนนอก​โดย​ไร้​อุปสรรค​ตลอดทาง​ เพียงแต่​ตำแหน่ง​ไม่เหมือนกับ​ครั้ง​ที่แล้ว​เท่านั้น​ นาง​หยุด​อยู่​ตรง​ชายขอบ​ มอง​ม่าน​สายฟ้า​บน​ทะเล​เมฆเบื้องหน้า​แล้ว​เอ่ย​ถามหลง​ “ใต้เท้า​หลง​ ทำ​อย่างไร​จึงข้าม​ม่าน​สายฟ้า​ฝั่งตรงข้าม​ได้​?”

จิน​เฟย​เหยา​ไม่คิด​จะบอ​กว่า​ตอนนั้น​ตนเอง​ข้าม​มาอย่างไร​ ให้​เจ้าหมอ​นี่​คิด​ว่า​เจอ​ความลำบาก​แล้ว​ล่าถอย​ไป​ ตนเอง​จะได้​ไม่ต้อง​เคราะห์ร้าย​แล่น​ไป​ยัง​ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​อี​กรอบ​

แต่​หลง​กลับ​ทำลาย​แผนการ​ของ​นาง​ เห็น​เขา​นำ​ร่ม​สีดำ​คัน​หนึ่ง​ออกมา​โยน​ขึ้นไป​ ร่ม​สีดำ​กาง​ออก​และ​ลอย​ขึ้น​เอง​ หมุน​วน​อยู่​เหนือศีรษะ​และ​มีม่าน​แสงสีขาว​ชั้นหนึ่ง​ร่วง​ลงมา​ บน​ร่ม​มีประกาย​สายฟ้า​กระพริบ​นิดๆ​ ตาม​ม่าน​แสงที่​เปิด​ออก​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​ของ​วิเศษ​ชั้นบน​ที่​มีคุณสมบัติ​สายฟ้า​

“ไป​” หลง​เอ่ย​เหมือน​ไม่มีเรื่องราว​ใด​เมื่อ​เผชิญ​กับ​ม่าน​สายฟ้า​

ก็ได้​ ข้า​เชื่อ​ว่า​จะท่าน​จะไม่ไป​ตาย​เปล่า​ จิน​เฟย​เหยา​กระโดด​ไป​อย่าง​ฝืนใจ​เชื่อมั่น​และ​ไม่แน่ใจ​ แสงสีดำ​ใต้เท้า​แลบ​แปลบปลาบ​ก็​เริ่ม​เดิน​กลางอากาศ​อย่าง​ช้าๆ

เมื่อ​อยู่​ห่าง​จาก​ม่าน​สายฟ้า​สอง​สามจั้ง จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ได้​ว่า​ขน​สีดำ​บน​ร่าง​ของ​ตนเอง​เริ่ม​ลอย​ขึ้น​เนื่องจาก​สายฟ้า​ นาง​กัดฟัน​คำราม​ครั้งหนึ่ง​บรรทุก​หลง​พุ่ง​ข้าม​ม่าน​สายฟ้า​

ฟ้าร้อง​ฟ้าแลบ​อย่าง​รุนแรง​ ม่าน​สายฟ้า​ที่​ทอดตัว​ลงมา​ถูก​ร่ม​สีดำ​ชักนำ​ไป​ ถึงแม้รอบด้าน​จะยังมี​สายฟ้า​ตัด​สลับ​กัน​ ทว่า​จิน​เฟย​เหยา​ก็​ข้าม​ไป​ได้​อย่าง​ตื่นตระหนก​แต่​ไร้​อันตราย​ เหิน​ร่อน​ลง​บน​พื้นดิน​ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​ จิน​เฟย​เหยา​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​ม่าน​สายฟ้า​แวบ​หนึ่ง​ ช่อง​นั้น​ปิด​ลง​เอง​แล้ว​ ทว่า​ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​ยังมี​ฝนตก​อย่าง​ต่อเนื่อง​เหมือน​ใน​อดีต​ทำให้​คน​รู้สึก​หดหู่​

จิน​เฟย​เหยา​หา​ทิศทาง​แล้ว​วิ่ง​ไป​ทาง​ตะวันออก​ ตอนแรก​นาง​มุ่งหน้า​มาทางตะวันตก​ตลอดทาง​จึงพบ​ไห่​ห​ลัน​อิน​ ตอนนี้​กลับ​ไป​ย่อม​ต้อง​ไป​ทาง​ตะวันออก​ อย่า​เห็น​ว่า​นาง​อยู่​ที่​ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​มาสามปี​กว่า​ ที่จริง​มีอยู่​สอง​ปี​ที่​ไม่ได้​ออกจาก​เกาะ​ลอย​ได้​ และ​หนึ่ง​ปี​ที่​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​กระดอง​เต่า​ ชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​มีลักษณะ​เป็น​อย่างไร​ นาง​ไม่ทราบ​กระจ่าง​จริงๆ​

ตอนนี้​ไม่ต้อง​เดิน​อยู่​ใน​กระดอง​เต่า​อย่าง​หลบ​ๆ ซ่อน​ๆ หยาดฝน​ก็​ถูก​ม่าน​แสงของ​ร่ม​สีดำ​กัน​ไว้​ข้างนอก​ บน​หลัง​ยังมี​จอม​มาร​ขั้น​ว่างเปล่า​ ตลอดทาง​สามารถ​เดิน​ช้าๆ ได้​

จิน​เฟย​เหยา​เหลียว​ซ้าย​แล​ขวา​คิด​จะหา​หญ้า​วิญญาณ​ขั้น​เทพ​ใน​ตำนาน​ ไม่เห็น​หญ้า​วิญญาณ​กลับ​เจอ​หอย​ทาก​สูงหนึ่ง​ตัว​คน​กว่า​จำนวนมาก​คลาน​อย่าง​เชื่องช้า​ใน​สายฝน​ พอ​พบ​ความเคลื่อนไหว​ก็​หยุด​ลง​ทันที​และ​หดตัว​เข้า​ใน​ข้างใน​ทั้งหมด​ เปลือก​แข็ง​ทั่ว​ร่าง​งอก​หนาม​แหลม​มีพิษ​ขนาด​ยักษ์​เต็มไปหมด​เป็น​การป้องกัน​

คิดถึง​ฉาก​นี้​จริงๆ​ ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​อด​นึกถึง​เรื่อง​ในเวลานั้น​ไม่ได้​ ที่จริง​ถ้าทุกคน​ต่าง​หลบ​อยู่​ใน​เปลือกหอย​ทาก​ การบุก​ฝ่าชั้น​เมฆส่วนนอก​ของ​โลก​ระดับ​เทพ​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​ นั่น​คือ​อะไร​ จิน​เฟย​เหยา​วิ่ง​ไป​วิ่ง​มาพลัน​หยุด​ลง​ ใต้​ราก​ไม้อัน​ห่างไกล​มีพืช​ที่​เหมือน​ก้อนหิน​ก้อน​หนึ่ง​ หาก​มิใช่มัน​ส่งกลิ่นหอม​ออกมา​และ​ยังมี​ปราณ​วิญญาณ​โอบล้อม​ก็​เกือบจะ​พลาด​ไป​เสียแล้ว​

“หญ้า​ศิลา​สวรรค์​ เจ้าโชคดี​ไม่เลว​ นี่​เป็น​วัตถุดิบ​หลอม​ยา​แดน​สวรรค์​” หลง​ก็​สังเกตเห็น​หญ้า​ศิลา​สวรรค์​ก้อน​นั้น​ แต่กลับ​ไม่รีบร้อน​ไป​เด็ด​ ทว่า​อธิบาย​ให้​จิน​เฟย​เหยา​ฟังรอบ​หนึ่ง​

จิน​เฟย​เหยา​รู้จัก​ยา​แดน​สวรรค์​ นี่​เป็น​ยา​ชนิด​หนึ่ง​ที่​ให้​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​กิน​ เป็น​ยา​วิญญาณ​ทั่วไป​ที่​ใช้สำหรับ​เพิ่ม​พลัง​บำเพ็ญ​เพียร​ นาง​เพียง​รู้จัก​ยา​แต่​ไม่รู้​ตำรับ​ยา​ แต่​สิ่งที่​จิน​เฟย​เหยา​สนใจ​มากกว่า​ตำรับ​ยา​คือ​สิ่งนี้​ขาย​ได้​กี่​ศิลา​วิญญาณ​

เห็น​หลง​ไม่เอ่ย​วาจา​และ​ไม่มีความคิด​จะเข้าไป​เด็ด​ จิน​เฟย​เหยา​อด​คาดเดา​ไม่ได้​ หรือว่า​เขา​ไม่ต้อง​กิน​ยา​แดน​สวรรค์​ ดังนั้น​จึงไม่สนใจ​ ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ก็​อย่า​ให้​เสียเปล่า​เลย​ให้​ข้า​เด็ด​มัน​ไป​เถอะ​ นาง​กำลัง​คิด​จะสั่งให้​พั่งจื่อ​นำ​กล่อง​หยก​ออกมา​เด็ด​หญ้า​วิญญาณ​ ก็​เห็น​ด้านหลัง​ต้นไม้​ข้างหลัง​หญ้า​ศิลา​สวรรค์​มีหัว​จิ้งจอก​สีขาว​โผล่​ออกมา​ จากนั้น​ก็​เห็น​จิ้งจอก​แสงจันทร์​ขั้น​แปด​ตัว​นี้​วิ่ง​ออกมา​จากด้านหลัง​ต้นไม้​ มีร่างกาย​ขนาด​ห้า​จั้งกว่า​ จับจ้อง​จิน​เฟย​เหยา​ด้วย​สายตา​ดุร้าย​

“หญ้า​ศิลา​สวรรค์​เป็น​ยาบำรุง​ที่​ดี​ที่สุด​ของ​จิ้งจอก​แสงจันทร์​ ตั้งแต่​หญ้า​ศิลา​สวรรค์​งอก​ออกมา​ก็​จะมีจิ้งจอก​แสงจันทร์​ตัว​หนึ่ง​อยู่​ด้วย​ หลังจาก​หญ้า​ศิลา​สวรรค์​สุกงอม​ก็​จะกิน​จน​หมด​แล้ว​พวก​มัน​ก็​จะไป​ค้นหา​หญ้า​ศิลา​สวรรค์​ต้น​อื่นๆ​ อีก​” เหนือศีรษะ​มีเสียงหลง​ดื่ม​น้ำชา​พลาง​เอ่ย​วาจา​ดัง​มา

จิน​เฟย​เหยา​ได้​แต่​ถอยหลัง​ไป​หลาย​ก้าว​ พลัน​นึกได้​ว่า​ตอนนี้​ตนเอง​ก็​เป็น​สัตว์​ปิศาจ​ขั้น​เก้า​ตัว​หนึ่ง​ ถึงตอนนี้​ร่าง​จะเล็ก​ไป​หน่อย​ทว่า​ยังมี​พลัง​อยู่​ เมื่อ​ตระหนักถึง​ปัญหา​นี้​นาง​ก็​อด​คิด​ไม่ได้​ หรือว่า​หลง​เรียก​ให้​ตนเอง​มาที่นี่​ไม่เพียง​ใช้เป็น​พาหนะ​ ยังมี​อีก​สาเหตุ​หนึ่ง​คือ​เรียก​ให้​ข้า​มาสังหาร​สัตว์​ปิศาจ​?

เพิ่ง​คิด​เช่นนี้​ ก็​ได้ยิน​เสียง​เอื่อย​เฉื่อย​ของ​หลง​ลอย​มา “ลุย​ กำจัด​มัน​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด