คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายบทที่ 275 ยิ้มไม่ได้

Now you are reading คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย Chapter บทที่ 275 ยิ้มไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใน​วง​เวท​ดวงตา​สวรรค์​ชักนำ​สายฟ้า​ด้านล่าง​ไหล่เขา​ ปรากฏ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​หนึ่ง​ที่​เหนือศีรษะ​มีบงกช​ผลึก​น้ำแข็ง​ร่ายรำ​ต้านทาน​อัสนี​สวรรค์​ พอดี​เป็น​ติง​จั๋ว​ขั้น​ผสาน​ร่าง​คน​นั้น​

ข้าง​กาย​เขา​มีสัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ ใบหน้า​เหลียว​มามอง​หลง​ที่อยู่​บน​ไหล่เขา​ “หลง​! เจ้ามีความกล้า​ไม่เบา​ เจ้านึก​ว่า​วง​เวท​ชักนำ​สายฟ้า​อัน​หนึ่ง​จะสามารถ​เอาชนะ​ข้า​ได้​หรือ​ เจ้าอย่า​ประเมิน​ตนเอง​สูงไป​ ตอนนี้​ข้า​เป็น​ขั้น​ผสาน​ร่าง​นะ​!”

เนื่องจาก​ใช้พลัง​วิญญาณ​ เสียง​ของ​ติง​จั๋ว​จึงดัง​สะท้อน​ไป​รอบด้าน​ สั่นสะเทือน​จน​แก้วหู​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ดัง​วิ้งๆ​ นาง​เกรง​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะจำตนเอง​ได้​จึงหดตัว​อยู่​ด้านหลัง​หลง​

“เจ้าเป็น​เต่า​หดหัว​อยู่​ที่นี่​ อาศัย​ลวดลาย​อาคม​ป้องกัน​สายฟ้า​ก็​คิด​จะหลบ​จนถึง​วันที่​สามารถ​ขึ้น​โลก​ตู้​เทียน​ได้​ วันนี้​ข้า​ช่วย​ชักนำ​สายฟ้า​มาให้​เจ้า ให้​เจ้าได้​รื่นรมย์​กับ​รสชาติ​ของ​โลก​ตู้​เทียน​ล่วงหน้า​” หลง​มอง​ติง​จั๋ว​ ใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​เจตนา​สังหาร​อัน​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

“วันนั้น​ข้า​น่าจะ​สังหาร​เดรัจฉาน​อย่าง​เจ้าเสีย​ ข้า​ยังมี​จิต​เมตตา​นิดหน่อย​จึงปล่อย​พวก​เจ้าสอง​คน​ไป​ พวก​เจ้ากลับ​ตอบแทน​ข้า​แบบนี้​ เดิมที​เห็น​ว่า​พวก​เจ้าเป็น​เผ่า​มนุษย์​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะไป​เข้ากับ​เผ่า​มาร​” ติง​จั๋ว​มองเห็น​จิน​เฟย​เหยา​นาน​แล้ว​ ก่อนหน้านี้​เนื่องจาก​นาง​ไม่มีเขา​บน​ศีรษะ​ดังนั้น​จึงจำนาง​ไม่ได้​ แต่​ตอนนี้​ถึงนาง​กลายเป็น​เถ้าธุลี​เขา​ก็​จำได้​ไม่พลาด​

จิน​เฟย​เหยา​ทน​ฟังไม่ไหว​ รีบ​โผล่​ศีรษะ​มาเอ่ย​ว่า​ “ข้า​ไม่ได้​พูด​ออก​ไป​เสียหน่อย​ ทำไม​ต้อง​ด่าว่า​ข้า​เป็น​เดรัจฉาน​ด้วย​”

ปาก​ไม่กล้า​พูด​ ใน​ใจนาง​กลับ​คิด​เช่นนี้​ หาก​มิใช่ตอนนั้น​ท่าน​ไร้ความสามารถ​ ได้​แต่​กักขัง​แต่​สังหาร​จอม​มาร​หลง​ไม่ได้​ วันนี้​พวกเรา​สอง​คน​จะได้รับ​ความ​ทรมาน​ได้​อย่างไร​ พูด​ไป​พูด​มาก็​เพราะ​ท่าน​แข็งแกร่ง​ไม่พอ​

“ติง​จั๋ว​ รับ​ความตาย​เถอะ​” หลง​เอ่ย​พลาง​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​ จากนั้น​ยื่น​มือขวา​มาด้าน​ข้าง​ หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​ที่​มีแสงดารา​กระพริบ​ก็​ปรากฏ​ใน​มือ​เขา​

จากนั้น​จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ดวง​ตาพร่า​พราย​ ด้านหน้า​หลง​กระพริบ​วาบ​ มีหลง​สอง​คน​ปรากฏตัว​ขึ้น​ คน​หนึ่ง​ถือ​ร่ม​สีดำ​ อีก​คน​ถือ​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​ด้วย​ใบหน้า​ไร้ความรู้สึก​

หลง​ที่​ถือ​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​หายวับ​ไป​จาก​ที่​เดิม​ ตอน​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​อึดใจ​ถัดมา​ก็​อยู่​ใน​วง​เวท​ดวงตา​สวรรค์​ชักนำ​สายฟ้า​แล้ว​ เขา​กระโดด​ขึ้น​สูงกลางอากาศ​แทง​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​ลง​ใส่ติง​จั๋ว​

ติง​จั๋ว​ไถล​มือ​ผนึก​มนุษย์​วารี​ขึ้น​คน​หนึ่ง​ มนุษย์​วารี​ยก​ดาบ​วารี​ปะทะ​กับ​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​

“ใต้เท้า​หลง​ ท่าทาง​ร่าง​แยก​ของ​ท่าน​ยิ่ง​เหมือน​ท่าน​เข้าไป​ทุกที​ราวกับ​พิมพ์​เดียวกัน​” จิน​เฟย​เหยา​ยก​ศีรษะ​ขึ้น​มอง​การต่อสู้​อัน​ร้อนแรง​ด้านล่าง​พลาง​เอ่ย​ถามอย่าง​สงสัย​

“ข้า​เป็น​ร่าง​แยก​” หลง​เอียง​ศีรษะ​มอง​นาง​พลาง​เอ่ย​วาจา​

“เอ๋​!” จิน​เฟย​เหยา​มอง​เขา​อย่าง​ตกตะลึง​ ร่าง​แยก​อย่าง​ท่าน​กางร่ม​อยู่​ที่นี่​ทำไม​ ร่าง​จริง​ก็​ไป​เสี่ยงอันตราย​ใน​วง​เวท​สายฟ้า​แล้ว​

“ถ้าใน​สนาม​เป็น​ร่าง​แยก​ เขา​ย่อม​รู้สึก​พะว้าพะวัง​ร่าง​จริง​ของ​ข้า​อยู่​บ้าง​” หลง​อธิบาย​คร่าวๆ​

จิน​เฟย​เหยา​อดทน​อดกลั้น​ สุดท้าย​ทนไม่ไหว​เอ่ย​ว่า​ “ใต้เท้า​หลง​ เมื่อ​ครู่​ร่าง​เดิม​ของ​ท่าน​ทำให้​ฟ้าผ่า​ ท่าน​ไม่กลัว​ร่าง​จริง​จะดับสูญ​หรือ​?”

สายฟ้า​ผ่า​ลงมา​ใน​วง​เวท​ดวงตา​สวรรค์​ชักนำ​สายฟ้า​ตลอดเวลา​ กระทบ​ถึงการต่อสู้​ของ​พวกเขา​อย่าง​รุนแรง​ ร่าง​มนุษย์​วารี​มีขนาดใหญ่​จึงกลายเป็น​เป้าหมายหลัก​ของ​อัสนี​สวรรค์​ ไม่มีอะไร​ก็​ถูก​อัสนี​สวรรค์​ผ่า​ ถึงแม้จะผนึก​ตัว​ขึ้น​ได้​ใหม่​ทันที​ แต่​ครู่​ถัดมา​ก็​ถูก​สายฟ้า​ผ่า​กระจาย​อีก​

หลง​ก็​ถูก​อัสนี​สวรรค์​ผ่า​ แต่ละครั้ง​ที่​อัสนี​สวรรค์​ผ่า​โดน​ร่าง​เขา​ ชุด​อาคม​ชั้นยอด​บน​ร่าง​เขา​จะเปล่งแสง​สีขาว​สว่าง​เจิดจ้า​ มังกร​ทะยาน​สีขาว​ก็​จะเหาะ​ออก​มาจาก​ชุด​ทันที​และ​อ้า​ปาก​สะอึก​เข้า​รับ​อัสนี​สวรรค์​ ดูเหมือน​ถูก​สาย​ฟ้าผ่า​ แต่​พอ​มองดู​อย่าง​ละเอียด​ก็​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่ได้รับ​ผลกระทบ​อะไร​

อัสนี​สวรรค์​ราวกับ​สายฝน​ ติง​จั๋ว​แค้น​หลง​สุดขีด​ ต่อให้​ครั้งนี้​ไม่เกิดเรื่อง​ก็​สิ้นเปลือง​ของ​วิเศษ​ต้านทาน​สายฟ้า​ไป​ไม่น้อย​ เช่นนี้​จะลาก​ถ่วงเวลา​ที่​ตนเอง​ไป​ยัง​โลก​ตู้​เทียน​ ไม่แน่​ว่า​จอม​มาร​หลง​มีแผนการ​เช่นนี้​ คิด​จะกัก​ข้า​ไว้​ที่​โลก​ระดับ​เทพ​

เห็น​เขา​พลิก​มือ​ครา​หนึ่ง​ ใน​มือ​พลัน​ปรากฏ​มุก​กลม​เม็ด​หนึ่ง​ มุก​กลม​ขาว​เนียน​นุ่ม​ประดุจ​หยก​ พอ​มุก​นี้​ปรากฏ​ อัสนี​สวรรค์​ที่​โจมตี​ไป​รอบด้าน​โดย​ไร้จุดหมาย​ต่าง​โจมตี​มาที่นี่​ทั้งหมด​ ติง​จั๋ว​โยน​มุก​กลมขึ้น​ฟ้า อัสนี​สวรรค์​รอบด้าน​ล้วน​โจมตี​ไป​ เกิด​เป็น​สถาน​ที่ว่าง​อัน​ปลอดภัย​แห่ง​หนึ่ง​

จากนั้น​ติง​จั๋ว​ยก​มือขึ้น​ใน​ความว่างเปล่า​ พลัน​ปรากฏ​ผลึก​น้ำ​ใสกระจ่าง​ผนึก​เป็น​กระบี่​วารี​ยาว​ห้า​จั้งเล่ม​หนึ่ง​ พอ​กระบี่​ยาว​ปรากฏ​ก็​ส่งเสียง​มังกร​คำราม​ออกมา​ บน​ตัว​กระบี่​มีหมอก​ขาว​ลอย​อยู่​จางๆ ปราณ​วิญญาณ​แห่ง​ฟ้าดิน​โอบล้อม​รอบตัว​กระบี่​ อานุภาพ​ของ​มัน​มิอาจ​ดูเบา​

“ฮึ” ร่าง​แยก​ของ​หลง​ส่งเสียง​ขึ้น​จมูก​ กางร่ม​สีดำ​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​วง​เวท​ดวงตา​สวรรค์​ชักนำ​สายฟ้า​ ส่วน​ร่าง​จริง​ของ​หลง​สะบัด​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​กลางอากาศ​ ความร้อน​สีดำ​ทะลัก​ออกมา​ การ​ยกระดับ​พลัง​ทำให้​พื้น​ที่ว่าง​ด้าน​หลังเขา​บิดเบี้ยว​ ส่วน​ร่าง​แยก​เพิ่ง​ร่อน​ลง​ใน​วง​เวท​ดวงตา​สวรรค์​ชักนำ​สายฟ้า​ เท้า​เพิ่ง​แตะ​พื้น​ สถานที่​แห่ง​นี้​ก็​มืด​ลง​เหลือ​เพียง​เสาแสงแปด​สิบเอ็ด​สาย​ที่​ยัง​พุ่ง​สู่กลางอากาศ​ใน​ความ​มืดมิด​

“ฟ้าดิน​ดับสูญ​” ร่าง​แยก​ยื่นมือ​ออกมา​และ​เอ่ย​อย่าง​เย็นชา​

สายตา​ของ​ติง​จั๋ว​เคร่งเครียด​ กระบี่​วารี​โจมตี​ไป​ที่​ร่าง​แยก​ เขา​แน่ใจ​ว่า​คน​ผู้​นี้​ต้อง​เป็น​หลง​ตัวจริง​ อานุภาพ​ของ​ฟ้าดิน​ดับสูญ​ไม่อาจ​ดูเบา​ ดับชีพ​ร่าง​จริง​ของ​เขา​ร่าง​แยก​ย่อม​หาย​ไป​เอง​ กระบี่​วารี​ลาก​ไอ​หมอก​เป็น​ทาง​ยาว​ร้อง​คำราม​มา ร่าง​แยก​ใช้ร่ม​สีดำ​สกัด​ไว้​เบื้องหน้า​ พื้นดิน​สั่นสะเทือน​ ปราณ​วิญญาณ​และ​ไอ​ปิศาจ​พวยพุ่ง​สู่ฟ้า วัตถุ​สอง​ชิ้น​ปะทะ​กัน​

ร่าง​แยก​ขมวดคิ้ว​แน่น​ กัดฟัน​ยิ้ม​จางๆ ความ​มืดมิด​ใต้เท้า​ของ​เขา​กำลัง​หด​เล็ก​ลง​ ใบหน้า​ของ​ติง​จั๋ว​กำลัง​ยิ้มแย้ม​

“ฟ้าดิน​ดับสูญ​!” ขณะที่​ติง​จั๋ว​มอง​ฟ้าดิน​ดับสูญ​ที่​กำลัง​หด​เล็ก​ลง​ หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​ของ​หลง​ร่าง​จริง​พุ่ง​เข้ามา​แล้ว​ เดิมที​ติง​จั๋ว​คิด​จะใช้บงกช​ผลึก​สวรรค์​ต้านทาน​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​ของ​หลง​ไว้​ ถึงอย่างไร​ตนเอง​ก็​เป็น​ขั้น​ผสาน​ร่าง​ พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​หลง​กับ​เขา​แตก​ต่างกัน​อยู่​ช่วง​ใหญ่​

ทว่า​ได้ยิน​คำพูด​ประโยค​นี้​ ติง​จั๋ว​สีหน้า​แปรเปลี่ยน​ เห็น​บงกช​ผลึก​ซึ่งเป็น​ของ​วิเศษ​ชั้นยอด​และ​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​ปะทะ​กัน​ จากนั้น​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​พลัน​อ่อน​ยวบ​กลายเป็น​ก้อน​สีดำ​และ​กลืน​กิน​บงกช​ผลึก​สวรรค์​เข้าไป​ ใน​เวลา​ชั่วพริบตา​ หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​กลับคืน​สู่สภาพเดิม​อีกครั้ง​กระพริบ​แสงเย็นเยียบ​ทิ่มแทง​มา

“เจ้าจึงเป็น​ร่าง​จริง​!” ติง​จั๋ว​ได้สติ​คืน​มา เสี่ยงอันตราย​มาเช่นนี้​จึงเป็น​ร่าง​จริง​ของ​หลง​ ส่วน​คน​ที่​กางร่ม​คือ​ร่าง​แยก​ของ​หลง​

หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​พุ่ง​เข้ามา​แล้ว​ ด้านหลัง​ติง​จั๋ว​กระพริบ​วาบ​ ปีก​ที่ซ่อน​ไว้​ปรากฏ​ขึ้น​บน​แผ่น​หลัง​ส่งเสียง​หึ่งๆ​ แล้ว​หลบ​ออก​ไป​ได้​ ทว่า​หอก​วิญญาณ​มาร​ดำ​ราวกับ​กิน​มากเกินไป​ หัวหอก​เปลี่ยนเป็น​อ่อน​ยวบ​แล้ว​คาย​กะโหลก​ยักษ์​ตาเดียว​ออกมา​ใส่เขา​

พอ​หัวกะโหลก​ปรากฏ​ อัสนี​สวรรค์​ที่​ถูก​มุก​กลม​กักขัง​ไว้​บน​ท้อง​นภา​ทั้งหมด​ก็​เปลี่ยน​เป้าหมาย​ ผ่า​ลง​บน​กะโหลก​ชิ้น​นั้น​ทันที​ เหนือ​กะโหลก​เกิด​บอล​สายฟ้า​กว้าง​หนึ่ง​จั้งและ​กะโหลก​พา​บอล​สายฟ้า​อัด​กระแทก​ใส่ติง​จั๋ว​

“อ๊า!”​ ติง​จั๋ว​ส่งเสียงร้อง​โหยหวน​ อัสนี​สวรรค์​บน​ท้อง​นภา​ผ่า​ลงมา​ตาม​กะโหลก​ชิ้น​นี้​

“ยอดเยี่ยม​ยิ่ง​ คิดไม่ถึง​ว่า​หอก​จะเปลี่ยน​รูปร่าง​ได้​” จิน​เฟย​เหยา​จุปาก​เอ่ย​ชม

“ฟู่ว…​ฟู่ว…”​ จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ว่า​ด้านหลัง​คอ​มีไอ​ร้อน​ส่งมา นาง​สงบ​สติ​พลิกตัว​ไป​อีก​ด้าน​แล้ว​หมุนตัว​ใช้อุ้งเท้า​ตบ​

บางอย่าง​ด้านหลัง​ก็​หายตัว​หลบหลีก​อย่าง​รวดเร็ว​ สะบัด​ขน​อ้า​ปาก​พ่น​แสงสีขาว​ดวง​หนึ่ง​ออกมา​

จิน​เฟย​เหยา​วิ่ง​ตะบึง​ หลบหลีก​แสงสีขาว​และ​โจมตี​แสงสีขาว​กระเด็น​ไป​ทำให้​ไหล่เขา​ฝั่งตรงข้าม​ถูก​ตัด​ราบ​ทันที​ นาง​เห็น​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​สูงสิบ​จั้งตัว​นี้​ ก็​อด​ด่าทอ​ไม่ได้​ “เจ้านี่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะลงมือ​กับ​ข้า​ เสียที​ที่​ก่อนหน้านี้​ข้า​ดี​ต่อ​เจ้า”

สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​คำราม​ใส่นาง​ ไม่มีความคิด​จะพูดคุย​ตีสนิท​กับ​คนรู้จัก​เลย​สักนิด​

จิน​เฟย​เหยา​มีโทสะ​แล้ว​ สะบัด​ร่าง​คำราม​ลั่น​และ​ขยาย​ร่าง​สูงสิบ​จั้งกว่า​ จากนั้น​อ้า​ปาก​กัด​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ นาง​เข้ามา​กัด​แบบนี้​และ​ไม่มีความคิด​จะใช้เวทมนตร์​เลย​สักนิด​ ทำให้​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ไม่มีหนทาง​ใช้เวทมนตร์​ออกมา​ ได้​แต่​ยก​กรงเล็บ​และ​กัด​กับ​จิน​เฟย​เหยา​

แต่​ปกติ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ใช้เวทมนตร์​ ถึงตัว​มัน​จะมีเรี่ยวแรง​มาก​ทว่า​นั่น​คือ​เผชิญ​กับ​สัตว์​ปิศาจ​อื่นๆ​ เมื่อ​ต่อกร​กับ​เทา​เที่ย​ที่​ดำรงชีพ​ด้วย​การ​กิน​ การต่อสู้​ประชิดตัว​แบบนี้​มัน​เสียเปรียบ​มาก​ จิน​เฟย​เหยา​ใช้กรงเล็บ​กด​มัน​ไว้​แล้ว​กัด​คอ​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ ฟัน​อัน​แหลมคม​กรีด​ลำคอ​ของ​มัน​ออก​อย่าง​ง่ายดาย​

สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​คำราม​อย่าง​เดือดดาล​ พ่น​แสงสีขาว​ดวง​หนึ่ง​ออกจาก​ปาก​ ลอย​เฉียด​แขน​ซ้าย​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ไป​ เลือดเนื้อ​กระเซ็น​ทันที​ จิน​เฟย​เหยา​รู้สึก​ว่า​แขน​ซ้าย​เจ็บปวด​อย่าง​รุนแรง​ เมื่อ​ครู่​ด้าน​ซ้าย​ก็​ถูก​ดาบ​ของ​มนุษย์​วารี​ฟัน​ ตอนนี้​ถูก​แสงสีขาว​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​โจมตี​อีก​ นาง​เจ็บ​จน​เพลิง​โทสะ​สูงเทียมฟ้า​

จิน​เฟย​เหยา​ผลัก​อย่าง​แรง​และ​กด​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ลง​บน​พื้น​ ใช้กรงเล็บ​ขวา​กด​ขากรรไกร​ล่าง​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ไว้​แน่น​ แล้ว​ผลัก​ปาก​มัน​ขึ้นไป​ ลำคอ​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ก็​เผย​ออกมา​

ปาก​ของ​เทา​เที่ย​สามารถ​เปลี่ยน​ตาม​ขนาด​ของ​เหยื่อ​ได้​ ดังนั้น​นาง​จึงสามารถ​กลืน​ทุกสิ่ง​ได้​ ไม่ว่า​เจ้าจะมีขนาดใหญ่​และ​ล่ำสัน​เพียงใด​ก็​หนี​ไม่พ้น​ปาก​ขนาดใหญ่​ของ​นาง​ นี่​คือ​สาเหตุ​ที่​หลังจาก​จิน​เฟย​เหยา​กลายเป็น​เทา​เที่ย​แล้ว​ไม่มีเวทมนตร์​เลย​ แค่​ใช้พละกำลัง​อัน​ดุร้าย​และ​ความอยาก​อาหาร​ก็​พอ​

กร้วม​ จิน​เฟย​เหยา​กัด​คอ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​คำ​ใหญ่​ โลหิต​สด​ทะลัก​ราวกับ​บ่อน้ำ​ล้น​ สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ดิ้นรน​อย่าง​สุดกำลัง​ การ​โจมตี​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ยัง​ไม่สิ้นสุด​ นาง​กัด​คอ​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​แน่น​ ทง​เทียน​หรู​อี้​สอง​ชิ้น​รวม​เป็นหนึ่ง​และ​กลายเป็น​กระบอง​เขี้ยว​สุนัขป่า​ยาว​ห้า​หก​จั้ง

กระบอง​เขี้ยว​สุนัขป่า​ปัก​เข้าไป​ใน​ก้น​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​อย่าง​แรง​ จากนั้น​กรงเล็บ​ซ้าย​ที่​บาดเจ็บสาหัส​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ขยับ​เบา​ๆ กระบอง​เขี้ยว​สุนัขป่า​ก็​หมุน​วน​อย่าง​รวดเร็ว​ใน​ร่าง​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​

ทั่ว​ทั้ง​เกาะ​ลอย​ได้​มีเพียง​เสียง​โหยหวน​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ร้อง​ดัง​ไป​ถึงขอบฟ้า​ ทำให้​ผู้​ได้ยิน​หลั่ง​เหงื่อ​เย็น​โซมกาย​

ภายใต้​การ​โจมตี​อย่าง​ดุร้าย​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​อ่อนปวกเปียก​ไป​ทั้งตัว​ ใน​ลำคอ​ส่งเสียง​อู้อี้​และ​ค่อยๆ​ ขาดใจตาย​ อย่า​สิ้นเปลือง​อาหาร​ใดๆ​ จิน​เฟย​เหยา​ใช้กรงเล็บ​แหลมคม​ฟาด​ที​หนึ่ง​ก็​ดึง​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ออกมา​ ตาน​สัตว์​ปิศาจ​ที่​ราวกับ​หยวน​อิง​ของ​คน​ทำให้​นาง​ตะลึงงัน​เล็กน้อย​ จากนั้น​ได้ยิน​ภายใน​วง​เวท​ดวงตา​สวรรค์​ชักนำ​สายฟ้า​เกิด​เสียง​ดังสนั่น​ทันที​

นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ เบื้อง​หน้าเป็น​แสงสีขาว​แถบ​หนึ่ง​ อัสนี​สวรรค์​ระเบิด​แล้ว​! คลื่น​การ​โจมตี​อัน​แข็งแกร่ง​กวาด​พัด​มา ซาก​ของ​สัตว์​เพาะเลี้ยง​วิญญาณ​ถูก​ทำลาย​ทันที​ จิน​เฟย​เหยา​รีบ​โยน​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​เข้า​ปาก​แล้ว​ใช้กรงเล็บ​จิก​พื้น​แน่น​

หลัง​คลื่น​การ​โจมตี​ผ่านพ้น​ รอบด้าน​เละเทะ​ระเกะระกะ​ น้ำพุ​ความฝัน​ไม่เหลือ​แม้เงา ป่าทึบ​รอบด้าน​ก็​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​ กะโหลก​ที่​เปล่งแสง​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​เหล่านั้น​กลายเป็น​ธุลี​ เมฆดำ​บน​ท้องฟ้า​หาย​ไป​จน​เกลี้ยง​ ไม่มีติง​จั๋ว​ และ​ไม่มีหลง​ ร่าง​แยก​ยิ่ง​หาไม่​พบ​เลย​สักนิด​

จิน​เฟย​เหยา​นิ่งอึ้ง​ ขณะ​กำลังจะ​หัวเราะ​อย่าง​ยินดี​ก็​ได้ยิน​เสียง​อัน​คุ้นเคย​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​ “เมื่อ​ครู่​เจ้านึก​ว่า​ข้า​ตาย​แล้ว​และ​กำลัง​เตรียม​จะหัวเราะ​ใช่หรือไม่​?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด