คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย 242 สำนักฉีเทียนที่เย็นชา

Now you are reading คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย Chapter 242 สำนักฉีเทียนที่เย็นชา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ศิษย์​เฝ้ายาม​ของ​สำนัก​ฉีเทียน​ถูก​จิน​เฟย​เหยา​พา​มาที่นี่​อย่าง​กะทันหัน​ เบื้องหน้า​ทั้งหมด​เป็น​ผู้อาวุโส​ขั้น​กำเนิด​ใหม่​ที่​ปกติ​ไม่ได้​เห็น​เลย​ ทำให้​เขา​หวาดกลัว​จน​ขนาด​พูด​ยัง​พูดไม่ออก​

เขา​ถูก​จิน​เฟย​เหยา​ใช้ศอก​กระทุ้ง​อย่าง​แรง​ เจ็บ​จน​แยกเขี้ยว​ จึงเอ่ย​อย่าง​หวาดกลัว​ “ผู้​…ผู้อาวุโส​ทุกท่าน​ นี่​คือ​คน​ของ​สำนัก​ตง​อวี้​หวง​ อาจารย์​ลุง​ผู้ดูแล​เคย​กำชับ​พวกเรา​ไว้​ บอ​กว่า​มีคน​ของ​สำนัก​ตง​อวี้​หวง​จะมาโดยสาร​เรือ​ ตรวจ​…ตรวจสอบ​แล้ว​”

ชาย​ชรา​ที่​มีลักษณะ​เทพ​เซียน​คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​มอง​จิน​เฟย​เหยา​หลายครั้ง​ ราวกับ​ไม่พอใจ​ที่​นาง​มาสาย​ เอ่ย​ถามอย่าง​เข้มงวด​ “เหตุใด​เจ้าจึงเพิ่ง​มาตอนนี้​ สำนัก​ตง​อวี้​หวง​ส่งคน​ไม่ตรงต่อเวลา​มาหรือ​!”

จิน​เฟย​เหยา​แลบลิ้น​ใน​ใจ เอ่ย​พร้อม​ยิ้ม​ประจบ​ “อาจารย์​ลุง​อาจารย์​อา​โปรด​อภัย​ให้​ด้วย​ ระหว่างทาง​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​อิสระ​หลาย​คน​กำลัง​ปล้น​ชิงผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ระดับ​ต่ำ​ ข้า​บังเอิญ​ผ่าน​มา จะเห็น​การตาย​โดย​ไม่ช่วยเหลือ​ได้​อย่างไร​ ดังนั้น​จึงมาสาย​”

ได้ยิน​คำพูด​ของ​นาง​สีหน้า​ของ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​จึงอ่อนโยน​ขึ้น​หน่อย​ “ใน​เมื่อ​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ผู้อื่น​ ยัง​พอ​สามารถ​อภัย​ให้ได้​ เจ้ารีบ​ขึ้น​เรือ​เถอะ​ เรือ​เหาะ​กำลังจะ​ออกเดินทาง​แล้ว​”

“ขอบคุณ​อาจารย์​อา​อาจารย์​ลุง​ ศิษย์​ขอตัว​ก่อน​” จิน​เฟย​เหยา​ปล่อย​ศิษย์​เฝ้ายาม​คน​นั้น​ คารวะ​ผู้อาวุโส​ของ​สำนัก​ฉีเทียน​สามท่าน​ แล้ว​รีบ​วิ่ง​เข้า​ประตู​เรือ​เหาะ​ที่​กำลังจะ​บินขึ้น​

จิน​เฟย​เหยา​เพิ่ง​ก้าว​เข้าไป​ใน​เรือ​ ประตู​เรือ​ก็​ปิด​ จากนั้น​มีศิษย์​สำนัก​ฉีเทียน​ซึ่งมีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ขั้น​หลอม​รวม​ช่วง​ปลาย​อายุ​สามสิบ​กว่า​ปี​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ เอ่ย​วาจา​เย็นชา​กับ​นาง​ “ขอ​เชิญสหาย​เซียน​ทาง​นี้​ ตาม​ข้า​ไป​ที่​ดาดฟ้า​พบ​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​”

“ขอบคุณ​ศิษย์​พี่​ ทำให้​พวก​ท่าน​ต้อง​รอ​แล้ว​” ถึงแม้จิน​เฟย​เหยา​จะรู้สึก​ไม่พอใจ​เขา​ก็​ยัง​ยิ้ม​ให้​อย่าง​เป็นมิตร​

ทว่า​ผู้อื่น​ไม่ให้เกียรติ​นาง​สักนิด​ ยัง​เอ่ย​อย่าง​เฉยชา​ดังเดิม​ “เจ้าไม่ต้อง​ขอบคุณ​ ถึงอย่างไร​พวกเรา​ก็​ไม่ได้คิด​จะรอ​เจ้า”

“แบบนี้​เอง​ เช่นนั้น​ข้า​คง​โชคดี​ ถือว่า​มาทัน​” หลัง​จิน​เฟย​เหยา​เอ่ย​คำพูด​นี้​จบ​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นั้น​ก็​ไม่พูด​กับ​นาง​อีก​ นำ​นาง​เดิน​ขึ้น​บันได​ไม้ไป​ดาดฟ้า​

เรือ​เหาะ​ลำ​นี้​เล็ก​มาก​ ยาว​ไม่ถึงหนึ่งร้อย​จั้ง ยัง​ขาด​อีก​หนึ่ง​จั้ง ใน​ตัว​เรือ​แบ่ง​เป็น​สองชั้น​ใช้บันได​ไม้เชื่อม​ ตอนนี้​พวกเขา​อยู่​ที่​ชั้นล่าง​สุด​

ที่นี่​ว่างเปล่า​ไม่มีอะไร​เลย​ เหมือน​ห้อง​เก็บ​สินค้า​อย่างยิ่ง​ ถ้าเป็น​เรือ​ธรรมดา​จิน​เฟย​เหยา​ยัง​เข้าใจ​ได้​ ทว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คนใด​บ้าง​ไม่มีถุงเฉียน​คุ​น​ที่​สามารถ​บรรจุ​สิ่งของ​ขนาด​หลาย​สิบ​จั้งได้​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​เรือ​ที่​ยาว​รวมทั้งหมด​ไม่ถึงร้อย​จั้ง หรือว่า​ใช้สำหรับ​กอง​ถุงเฉียน​คุ​น​

ถึงผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สำนัก​ฉีเทียน​คน​นี้​จะไม่สนใจ​นาง​ จิน​เฟย​เหยา​ยัง​ทำ​หน้าหนา​เอ่ย​ถามว่า​ “ศิษย์​พี่​ท่าน​นี้​ นี่​น่าจะเป็น​ห้อง​สินค้า​สินะ​ แต่​ไม่มีสิ่งของ​ให้​บรรจุ​ เพราะเหตุใด​จึงว่างเปล่า​?”

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​มอง​นาง​อย่าง​ดูแคลน​ ไม่ได้​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ทว่า​เอ่ย​อย่าง​ดูเบา​ “โลก​ระดับ​เทพ​มีสิ่งของ​บางอย่าง​ที่เก็บ​ไว้​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ไม่ได้​ ย่อม​ต้อง​เว้น​ที่​ไว้​วาง​”

“สิ่งของ​อะไร​จึงใส่ถุงเฉียน​คุ​น​ไม่ได้​ บอก​ข้า​หน่อย​สิ” พอ​จิน​เฟย​เหยา​ได้ยิน​ก็​รู้สึก​สงสัย​ คิดไม่ถึง​ว่า​ยังมี​สิ่งของ​ที่​ถุงเฉียน​คุ​น​ใส่ไม่ได้​ด้วย​ ถ้าเป็น​พื้นที่​มิติ​จะเก็บ​สิ่งของ​เหล่านี้​ได้​หรือไม่​?

ไม่รู้​ว่า​จิน​เฟย​เหยา​เหยา​พูดมาก​จน​เขา​ไม่อยาก​สนใจ​หรือ​นี่​คือ​ความลับ​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​เพียงแค่​มองดู​นาง​ แล้ว​เอ่ย​อย่าง​เย็นชา​ประโยค​หนึ่ง​ “นี่​เป็นความลับ​ของ​สำนัก​ฉีเทียน​ เจ้าไม่จำเป็นต้อง​รู้​”

จิน​เฟย​เหยา​ถูก​ปฏิเสธ​ ใน​ใจด่าทอ​เขา​หลาย​ประโยค​อย่าง​ไม่พอใจ​ ต่อมา​นาง​ก็​ไม่พูดมาก​อีก​ เพียง​ติดตาม​ด้าน​หลังเขา​เงียบๆ​

หลัง​ขึ้น​มาถึงชั้นสอง​ ใน​ตัว​เรือ​ยัง​เป็นพื้น​กระดาน​ไม้ว่างเปล่า​ ไม่ได้​กั้น​เป็น​ห้อง​ มีเพียง​โครง​บันได​ไม้สอง​สาย​อยู่​ใน​ตัว​เรือ​

อาจจะ​เป็น​พื้นฐาน​ว่า​ต้อง​พูด​สักหน่อย​ ศิษย์​พี่​ผู้​เย็นชา​คน​นี้​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “นี่​คือ​สถานที่พักผ่อน​ของ​ทุกคน​ ขณะ​ผ่าน​ชั้น​เมฆดำ​ทุกคน​ต้อง​อยู่​ที่นี่​ ยืน​อยู่​บน​ดาดฟ้า​เรือ​ไม่ได้​”

เห็น​ห้อง​สินค้า​อัน​ว่างเปล่า​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​เอ่ย​ถามอย่าง​ไม่เข้าใจ​ “ไม่มีอะไร​เลย​จะพักผ่อน​ได้​อย่างไร​ ให้​บุรุษ​สตรี​พัก​รวมกัน​หรือ​?”

“ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ไม่จำเป็นต้อง​พิถีพิถัน​มาก​ เจ้าไม่ได้มา​เสพ​สุข​เสียหน่อย​ ถ้ารังเกียจ​พื้น​กระดาน​แข็งๆ​ ก็​พก​เบาะ​กลม​มาเอง​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​อย่าง​พวก​เจ้า ปกติ​ก็​ทน​ความลำบาก​ไม่ได้​ ไม่รู้​ว่า​สำนัก​ตง​อวี้​หวง​ให้​เจ้ามาทำ​อะไร​ที่​โลก​ระดับ​เทพ​” เห็นได้ชัด​ว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​คน​นี้​ไม่พอใจ​จิน​เฟย​เหยา​อย่างยิ่ง​ จัด​ให้​นาง​อยู่​ใน​คน​ประเภท​ถูก​ตามใจ​จน​เคยตัว​ทันที​

นาง​เหล่​มอง​เขา​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​มาทำ​อะไร​ที่​โลก​ระดับ​เทพ​ก็​เป็นความลับ​ของ​สำนัก​ตง​อวี้​หวง​ ท่าน​ไม่จำเป็นต้อง​รู้​”

“ฮึ” ทั้งสอง​คน​ส่งเสียง​ฮึพร้อมกัน​ มอง​เมิน​อีก​ฝ่าย​แล้ว​เดิน​ขึ้น​บันได​มาถึงดาดฟ้า​

เพิ่ง​เหยียบ​ดาดฟ้า​ สายลม​คลั่ง​ก็​พัด​มาทำให้​ดวงตา​ลืม​ไม่ขึ้น​ จิน​เฟย​เหยา​รีบ​กาง​ม่าน​แสงกั้น​ลม​ไว้​ จากนั้น​พอ​มอง​ไป​รอบด้าน​ก็​ตะลึงงัน​

เรือ​เหาะ​ลำ​นี้​หยาบ​จริงๆ​ ไม่มีตึก​ มีเพียง​ห้อง​เล็ก​แคบ​ห้อง​เดียว​ด้านหลัง​ดาดฟ้า​ บน​ดาดฟ้า​เรือ​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​หลอม​รวม​สิบ​ห้าสิบ​หก​คน​ยืน​อยู่​ มีทั้งหมด​ตั้งแต่​ขั้น​หลอม​รวม​ช่วงต้น​ถึงขั้น​หลอม​รวม​ช่วง​ปลาย​ แต่ละคน​ล้วน​กาง​ม่าน​แสง และ​ทุกคน​เป็น​บุรุษ​

ไม่มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​จิน​เฟย​เหยา​เข้าใจ​ได้​ แต่​สิ่งที่​ทำให้​นาง​ไม่เข้าใจ​คือ​ เพราะเหตุใด​บน​ดาดฟ้า​จึงมีสถานที่​สีดำ​สนิท​มากมาย​ขนาด​นี้​ราวกับ​เคย​ถูก​อะไร​เผา​ ทำให้​เรือ​เหาะ​ทั้ง​ลำ​แลดู​เก่า​และ​โทรม​ ไม่รู้​ว่า​เรือ​ที่​ต้อง​จ่าย​หนึ่ง​แสน​ศิลา​วิญญาณ​ชั้น​กลาง​จึงสามารถ​โดยสาร​ได้ที่​เมือง​วั่น​เซียน​สุ่ย​จะเป็น​เช่นไร​ เก็บ​เงิน​แพง​ขนาด​นั้น​ ต้อง​ดีกว่า​เรือ​ลำ​นี้​มาก​แน่​ เรือ​เหาะ​ลำ​นี้​ทำให้​คน​สะท้าน​ขวัญ​จริงๆ​

“ทุกท่าน​ นี่​คือ​คน​ของ​สำนัก​ตง​อวี้​หวง​ที่จะ​โดยสาร​เรือ​” ลมแรง​มาก​ โชคดี​ที่​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​หลอม​รวม​ใช้พลัง​วิญญาณ​เอ่ย​วาจา​ ลมแรง​ขนาด​นี้​ยัง​สามารถ​ถ่ายทอด​ถึงหู​ทุกคน​ได้​

เพียงแต่​คน​เหล่านี้​เย็นชา​เกินไป​ ทุกคน​เพียงแค่​มอง​จิน​เฟย​เหยา​แวบ​หนึ่ง​ แล้ว​ต่าง​คน​ต่าง​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​ตนเอง​ต่อ​ ไม่สนใจ​จิน​เฟย​เหยา​เลย​สักนิด​ เสียที​ที่​นาง​แสดง​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​คิด​จะมอบ​สีหน้า​ดี​ๆ ให้​กับ​คน​เหล่านี้​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะเอา​หน้าร้อน​ๆ ไป​แนบ​ก้น​เย็น​ๆ[1]

ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​หลอม​รวม​ของ​สำนัก​ฉีเทียน​ทุกคน​เคย​ถูก​สตรี​หลอก​ใช่หรือไม่​ ถึงไป​โลก​ระดับ​เทพ​ครั้งนี้​จะให้​พวกเขา​ไป​ขุด​ศิลา​วิญญาณ​ แต่​สิ่งที่​ขุด​คือ​ศิลา​วิญญาณ​ชั้น​กลาง​ ทำไม​ต้อง​ตีหน้า​เคร่งขรึม​กัน​หมด​ ไม่ได้​ไป​งานศพ​ท่าน​พ่อ​เสียหน่อย​ ท่าทาง​เย็นชา​ขนาด​นี้​ทำให้​จิน​เฟย​เหยา​ไม่สบายใจ​ จึงสาปแช่ง​พวกเขา​ทั้งหมด​ใน​ใจรอบ​หนึ่ง​

อีก​ทั้ง​สำนัก​เทียน​ฉีทำ​อะไร​ คิดไม่ถึง​ว่า​บน​เรือ​เหาะ​จะไม่มีแม้แต่​ม่าน​กัน​ลม​ ต้อง​ตากลม​โล้น​ๆ กัน​แบบนี้​

จิน​เฟย​เหยา​คง​ม่าน​แสงไว้​แล้ว​เดิน​มาข้าง​ลำ​เรือ​ พอ​มอง​ลง​ไป​ ยอดเขา​ห​ลิง​ชางของ​สำนัก​ฉีเทียน​หาย​ลับ​ไป​นาน​แล้ว​ เรือ​เหาะ​ลำ​นี้​เหาะ​ได้​รวดเร็ว​ยิ่ง​ ทิวทัศน์​ด้านล่าง​ถอยหลัง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ราวกับ​สายน้ำ​ไหล​ จิน​เฟย​เหยา​มอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​รู้สึก​เบื่อหน่าย​ ทั้ง​ยัง​ไม่มีใคร​สนใจ​นาง​ นั่ง​เรือ​เหาะ​ที่​บรรยากาศ​อึมครึม​แบบนี้​ ติดกับดัก​ของ​ฉือ​ชางเจิน​เห​ริน​จริงๆ​

จิน​เฟย​เหยา​ครุ่นคิด​ แล้ว​ลง​ไป​ยัง​ห้อง​สินค้า​ ยืน​อยู่​ด้านบน​มอง​ใบหน้า​แข็งทื่อ​เหมือน​ซากศพ​ของ​คน​สิบ​กว่า​คน​ มิสู้นั่ง​ที่นี่​ดีกว่า​ ถึงจะไม่มีอะไร​เลย​ทว่า​อย่าง​น้อย​ก็​ไม่มีคน​

เพียงแต่​ ใคร​ขับ​เรือ​ลำ​นี้​?

ใน​เมื่อ​มาแล้วก็​อยู่​ไป​และ​ทำให้​ดี​ที่สุด​ จิน​เฟย​เหยา​นั่งขัดสมาธิ​บน​พื้น​ ค้น​เบาะ​กลม​ซึ่งเย็บ​ด้วย​มุกล้ำ​ค่าที่​ทำ​ใน​เมือง​ลั่ว​เซียน​ออก​มาจาก​ของ​จิปาถะ​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ ตั้ง​กี่​ปี​มาแล้ว​ ดู​เหมือนเคย​ใช้ไม่กี่​ครั้ง​

เหลียว​ซ้าย​แล​ขวา​เล็กน้อย​ น่าเบื่อ​สุดขีด​จริงๆ​ อีก​ทั้ง​ขณะที่​นาง​เหยียบ​เข้า​ห้อง​สินค้า​ก็​ใช้เวท​แปลง​โฉมเปลี่ยน​บน​ใบหน้า​นิดหน่อย​ คน​ของ​หอ​ฉีเทียน​น่าจะ​จำตนเอง​ไม่ได้​ ถ้ามีคน​ค้นหา​ตนเอง​ร้อย​ปี​เพื่อ​เรื่อง​เล็กน้อย​ก็​โง่งมเกินไป​

จิน​เฟย​เหยา​นำ​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ออก​มาจาก​ถุงสัตว์​ภูติ​ ตอนนี้​มีต้า​นิว​ควบคุม​ดูแล​พั่งจื่อ​ ลด​เรื่อง​ยุ่งยาก​ไป​ได้​มาก​จริงๆ​

“ต้า​นิว​ จุดไฟ​ดู​หน่อย​ว่า​มีอะไร​กิน​บ้าง​ ทำ​มาฆ่าเวลา​ ข้า​จะนอน​สักครู่​ ทำ​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​เรียก​ข้า​” จิน​เฟย​เหยา​หาว​ ใช้เบาะ​กลม​เป็น​หมอน​หนุน​แล้ว​ลง​นอนตะแคง​

เนื่องจาก​ตอนนี้​นาง​กิน​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​ ดังนั้น​อาหาร​ส่วนมาก​ล้วน​ใส่ไว้​ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ใบ​หนึ่ง​และ​ห้อย​ไว้​บน​คอ​ของ​ต้า​นิว​ พวก​มัน​อยาก​กิน​อาหาร​ก็​ทำ​กันเอง​ ถ้าจิน​เฟย​เหยา​อารมณ์ดี​ก็​นั่ง​กิน​ด้วย​ ถ้าอารมณ์ไม่ดี​ไม่อยาก​อาหาร​ก็​คร้าน​จะกิน​ แต่​นาง​แทบ​ไม่เคย​อารมณ์ไม่ดี​เลย​

ไม่รู้​ว่า​ต้า​นิว​ทำ​อะไร​ แขวน​หม้อ​ที่​ทำ​ขึ้น​โดยเฉพาะ​ไว้​ ก่อนหน้านี้​จิน​เฟย​เหยา​อยู่​ว่าง​ๆ จึงทำ​หม้อ​ขึ้น​ใบ​หนึ่ง​เพื่อให้​สะดวก​ใน​การ​ทำอาหาร​ เตา​และ​หม้อ​อยู่​ใน​ร่าง​เดียวกัน​ ด้านบน​เป็น​หม้อ​ ด้านล่าง​มีขาตั้ง​ จากนั้น​ก็​เป็น​ร่อง​ลึก​ลง​ไป​ ด้านบน​ใส่ของกิน​ ด้านล่าง​เผา​พวก​ฟืน​ สะดวก​เป็นพิเศษ​ อีก​ทั้ง​หม้อ​ใหญ่​มาก​ไม่แตกต่าง​จาก​อ่าง​อาบน้ำ​

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ก็​ได้กลิ่น​เปรี้ยว​เผ็ด​นิดๆ​ จิน​เฟย​เหยา​ลุกขึ้น​นั่ง​ทันที​ พอ​มองดู​ใน​หม้อ​ “เอ๋​? กลิ่น​ประหลาด​ ดม​แล้ว​เหมือน​เปรี้ยว​มาก​ ทว่า​กลับ​สดชื่น​ น้ำลายไหล​ออกมา​แล้ว​”

ใน​หม้อ​มีผลไม้​เปรี้ยว​ที่​ถูก​หั่น​เป็น​สิบ​กว่า​ชิ้น​กำลัง​เดือด​ขึ้น​ลง​อยู่​ใน​น้ำแกง​ ผัก​ป่า​กอง​หนึ่ง​ที่​ไม่รู้​ว่า​ต้า​นิว​ไป​เด็ด​มาจาก​ที่ใด​โยน​ลง​ใน​หม้อ​ผสม​ปนเป​กัน​ ที่จริง​ผัก​ป่า​เหล่านี้​เป็น​พวก​ใบ​และ​ก้าน​ จิน​เฟย​เหยา​ไม่เคย​เห็น​มีคน​กิน​สิ่งของ​เหล่านี้​มาก่อน​ อีก​ทั้ง​ไม่รู้​ว่า​เอา​มาจาก​ที่ใด​

ทว่า​ด้วย​ฝีมือ​ของ​ต้า​นิว​ก็​อร่อย​เกินคาด​ สำหรับ​เรื่อง​มีพิษ​หรือไม่​ จิน​เฟย​เหยา​คร้าน​จะใส่ใจ คาด​ว่า​ต้า​นิว​น่าจะ​ลอง​ชิมมาก่อน​ รสชาติ​ดี​และ​ไม่มีพิษ​ถึงตาย​จึงเด็ด​มา

เพื่อ​ไม่ให้​ตนเอง​ต้อง​แบก​รับภาระ​ทางใจ​ นาง​จึงไม่เคย​มอง​สิ่งของ​เหล่านี้​ว่า​เด็ด​มาจาก​พืช​ชนิด​ใด​ บางครั้ง​แม้แต่​ที่มา​ของ​พวก​เนื้อสัตว์​ก็​คร้าน​จะยุ่งเกี่ยว​ ทั้งสอง​ตัว​เป็น​สัตว์​ภูติ​ขั้น​ห้า​ ชนิด​สัตว์​ที่​สามารถ​จับ​มากิน​ได้​มีมากมาย​ ขอ​เพียง​จัดการ​จน​สะอาด​ ไม่ให้​ดู​แล้ว​น่ากลัว​ก็​พอ​

ผัก​ป่า​หนึ่ง​ใน​สามส่วน​ เนื้อ​สอง​ใน​สามส่วน​ นี่​เป็น​ของโปรด​ของ​พวก​จิน​เฟย​เหยา​ และ​เป็น​หม้อไฟ​เนื้อที่​สะดวก​ที่สุด​ เพียงแต่​ รสชาติ​ใน​วันนี้​แตกต่าง​ออก​ไป​ เป็น​รสเปรี้ยว​เผ็ด​ เหมาะ​จะใช้กระตุ้น​ความอยาก​อาหาร​ใน​สถานที่​อึมครึม​แบบนี้​พอดี​

“เฮ้อ​ ข้า​ยัง​นึก​ว่า​มีตาน​สัตว์​ปิศาจ​กรอก​ท้อง​จะกิน​อาหาร​ไม่ลง​เสีย​อีก​ คิดไม่ถึง​ว่า​กระเพาะ​ที่​กิน​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​และ​กิน​เนื้อ​จะอยู่​คนละ​ที่​กัน​ ดังนั้น​ ต่อให้​กิน​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​จน​อิ่ม​ แต่​มีอาหาร​อร่อย​แบบนี้​ก็​ยัง​สามารถ​ใส่ลง​ไป​ได้​” จิน​เฟย​เหยา​แย้มยิ้ม​อย่าง​เบิกบาน​ ยื่นมือ​ไป​ขอ​ตะเกียบ​กับ​ชามจาก​ต้า​นิว​

ต้า​นิว​และ​พั่งจื่อ​มอง​นาง​อย่าง​ดูแคลน​ ข้ออ้าง​เช่นนี้​ยัง​ใช้ออกมา​ได้​ ไม่ใช่วัว​เสียหน่อย​ จะได้​มีสี่กระเพาะ​

……………………………………..

[1] เอา​หน้าร้อน​ๆ ไป​แนบ​ก้น​เย็น​ๆ หมายถึง​ แสดง​ความเป็นมิตร​แต่​ถูก​เย็นชา​ใส่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด