คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย 256 กำเริบเสิบสานจริงๆ

Now you are reading คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย Chapter 256 กำเริบเสิบสานจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หนึ่ง​ก้อน​ สอง​ก้อน​ สามสี่ก้อน​ ศิลา​วิญญาณ​ทั้งหมด​บิน​เข้า​กระเป๋า​ข้า​” จิน​เฟย​เหยา​ส่งเสียง​ฮัมเพลง​ไม่เป็น​ทำนอง​ กลายเป็น​ทิวทัศน์​อย่างหนึ่ง​ใน​อุโมงค์​เหมือง​ซัน​จือ​

เสียง​ของ​นาง​ดัง​สะท้อน​ไป​ตาม​ถ้ำเหมือง​ และ​ล่องลอย​ไป​ใน​อุโมงค์​เหมือง​แต่ละ​สาย​ ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ที่​ขุด​เหมือง​แทบ​ทั้งหมด​ล้วน​ได้ยิน​นาง​ร้องเพลง​ที่​แต่ง​เอง​

เพียงแต่​ทำนอง​ที่​ดัง​มาแต่ละครั้ง​ไม่เหมือนกัน​ บางครั้ง​เป็น​ทำนอง​รื่นเริง​ บางครั้ง​เป็น​ทำนอง​ประหลาด​ราวกับ​ไค​ว่​ซู[1] หลายครั้ง​เหมือนกับ​ท่อง​คาถา​ที่​ทำให้​คน​ง่วงเหงาหาวนอน​ อีก​ทั้ง​ใน​สิบ​วัน​ยังมี​ช่วงเวลา​ครึ่งหนึ่ง​ที่​เหมือน​นา​งอม​สิ่งของ​อยู่​ใน​ปาก​แล้ว​ร้องเพลง​เสียง​อู้อี้​

ตอนแรก​ยัง​รู้สึก​ว่า​น่าสนใจ​ ภายใน​ถ้ำเหมือง​ที่​เงียบสงบ​คึก​ครื้น​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ ทว่า​พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​เข้า​ ร้องเพลง​นี้​ซ้ำไปซ้ำมา​บ่อยๆ​ ก็​ทำให้​คน​รู้สึก​รำคาญ​

อีก​ทั้ง​ฟังเนื้อร้อง​ของ​นาง​ เห็นได้ชัด​ว่า​คิด​จะยึด​ศิลา​วิญญาณ​เป็น​ของ​ตนเอง​ ทว่า​ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้ดี​ว่า​หนู​ตัวเล็ก​ๆ ขน​สีทอง​ไม่ใช่ชนชั้น​กินเจ​ เคย​มีคน​ขโมย​ศิลา​วิญญาณ​ สุดท้าย​ถูก​ตรวจสอบ​พบ​ ฮุบ​ไม่ได้​นั้น​ยัง​ง่ายดาย​ไป​ ถูก​ทุบตี​จน​อาจารย์​ของ​ตนเอง​จำไม่ได้​จึงเป็น​วิธี​ปกติ​

“เอ๋​! นี่​คือ​อะไร​ ศิลา​วิญญาณ​ชั้นยอด​! ฮ่าๆๆ ข้า​รวย​แล้ว​!” ใน​อุโมงค์​เหมือง​มีน้ำเสียง​ยินดี​ของ​จิน​เฟย​เหยา​ดัง​มาอีก​ นี่​เป็น​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นยอด​ก้อน​ที่หก​ซึ่งนาง​ขุด​ได้​หลังจาก​ลง​เหมือง​มา

ศิลา​วิญญาณ​ชั้นยอด​มีรูปไข่​และ​มีห้า​สีสัน​เปลี่ยนแปลง​อยู่​ตลอดเวลา​ส่อง​ประกาย​วิบวับ​อยู่​ใน​ถ้ำเหมือง​ไม่เหมือนกับ​ศิลา​วิญญาณ​ธรรมดา​ที่​เป็น​รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน​ เอา​มัน​มาแนบ​กับ​ใบหน้า​ ดูเหมือน​จะรู้สึก​ได้​ถึงปราณ​วิญญาณ​เข้มข้น​ที่​บรรจุ​อยู่​ด้านใน​ สิ่งของดี​ๆ แบบนี้​ไม่อาจ​ใช้ต่าง​เงินตรา​ นี่​เป็น​ของดี​ที่​ต่อไป​ใช้สำหรับ​ฝึก​บำเพ็ญ​เพื่อ​เลื่อนขั้น​พลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ ต้อง​เก็บรักษา​ไว้​อย่าง​ดี​ดุจ​ของล้ำค่า​

จิน​เฟย​เหยา​เช็ดถู​อย่าง​ยินดี​ มอง​หนู​ดม​วิญญาณ​ที่​กระพริบตา​ปริบๆ​ แล้ว​โยน​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นยอด​ใส่ใน​ถุงเฉียน​คุ​น​ นาง​ใช้ถุงสอง​ใบ​ในเวลาเดียวกัน​ ใบ​หนึ่ง​บรรจุ​ศิลา​วิญญาณ​ห้า​หกร้อย​ก้อน​ ใช้สำหรับ​มอบให้​หวัง​โหย​วห​ลิง​ อีก​ใบ​หนึ่ง​แอบ​เก็บ​ให้​ตนเอง​

จิน​เฟย​เหยา​ขุด​มาเกือบ​ครึ่ง​ปี​แล้ว​ ด้วย​ระดับ​ความเร็ว​ใน​การขโมย​ศิลา​วิญญาณ​วัน​ละ​เกือบ​พัน​ก้อน​ ขนาด​พวก​เว่ย​อัน​และ​ห​ลี่​อี​เจรจา​เสร็จ​แล้ว​ นาง​ยัง​ไม่ว่าง​ไป​ถาม อย่างไร​ตนเอง​ก็ได้​แบ่ง​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นบน​ห้า​หกร้อย​ก้อน​ แต่​ตนเอง​อยู่​ที่นี่​วันหนึ่ง​ได้​มากกว่า​นั้น​ ผู้ใด​ยังมี​เวลาว่าง​ไป​สนใจ​เรื่อง​เล็กน้อย​อีก​ ถือว่า​ทำ​ความดี​ให้​พวกเขา​ได้รับ​ศิลา​วิญญาณ​มาก​หน่อย​

หนึ่ง​ปี​สามารถ​หา​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นบน​ได้​ถึงสามแสน​กว่า​ก้อน​ ถ้าสิบ​ปี​ก็​คือ​สามล้าน​ก้อน​ เพียงพอ​จะซื้อ​พื้นที่​มิติ​ใน​ม้วน​ภาพวาด​แล้ว​ ราคา​สูงขนาด​นี้​ พื้นที่​มิติ​ใน​นั้น​น่าจะ​กว้าง​มาก​ อาจจะ​เป็น​สถานที่​ซึ่งกลายเป็น​แคว้น​เล็ก​ๆ ได้​ สามารถ​ปลูก​หญ้า​วิญญาณ​ได้​หลาย​แสน​หมู่​และ​เลี้ยงดู​สำนัก​ใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​ได้​อย่าง​เพียงพอ​

เดิมที​จิน​เฟย​เหยา​คิด​จะขุด​สัก​สิบ​กว่า​ปี​ จน​หา​ศิลา​ได้​พอใช้​ไป​ชั่วชีวิต​ค่อย​ออก​ไป​ แต่​คิด​ถึงว่า​ไม่ใช่ทุกคน​ที่จะ​มีตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ ถ้าไม่แยก​ซื้อ​ก็​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ซื้อ​ได้​จำนวนมาก​ขนาด​นั้น​ ดังนั้น​นาง​จึงคิด​จะออกมา​ก่อน​ นำ​ศิลา​วิญญาณ​เกือบ​สอง​แสน​ก้อน​ไป​ซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ จากนั้น​ปล่อยข่าว​ออก​ไป​ให้​พวกเขา​จัดเตรียม​มาก​หน่อย​ อีก​ครึ่ง​ปี​ตนเอง​จะออก​ไป​ซื้อ​อีกครั้ง​

คิดถึง​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ที่จะ​กอง​สุมราวกับ​ฝนตก​ลงมา​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​อด​ยิ้ม​ชั่วร้าย​ไม่ได้​

เรื่องราว​ไม่อาจ​ล่าช้า​ วันนี้​ออก​ไป​สัก​รอบ​ดีกว่า​ ถึงอย่างไร​ศิลา​วิญญาณ​ที่นี่​ก็​มีมากมาย​ขนาด​นี้​ ชั่วครู่​ชั่วคราว​ก็​ขุด​ไม่หมด​ พอ​คิดถึง​ตรงนี้​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​นำ​กระเป๋า​เก็บ​ของ​ที่​เตรียม​ส่งมอบ​ออกมา​โยน​ลง​บน​พื้น​

หนู​ดม​วิญญาณ​พุ่ง​เข้ามา​ วนรอบ​กระเป๋า​เก็บ​ของ​ไม่หยุด​ จิน​เฟย​เหยา​ฉวยโอกาส​นี้​นำ​ถุงเฉียน​คุ​น​อีก​ใบ​หนึ่ง​โยน​ใส่ปาก​พั่งจื่อ​ พั่งจื่อ​ก็​กลืน​ลง​ไป​โดย​ไม่กระพริบตา​

หลัง​พั่งจื่อ​และ​ต้า​นิว​ถูก​จิน​เฟย​เหยา​โยน​ออกมา​ก็​ไม่ได้​เก็บ​เข้า​ถุงสัตว์​ภูติ​มาตลอด​ นาง​วางแผน​จะให้​พวก​มัน​สอง​ตัว​ช่วย​ขุด​ศิลา​วิญญาณ​ด้วย​ ดังนั้น​จึงให้​พวก​มัน​สอง​ตัว​ไป​ขุด​ พั่งจื่อ​ใช้ขา​หน้า​ขุด​ตามสบาย​อย่าง​เกียจคร้าน​แล้ว​กลอกตา​ใส่จิน​เฟย​เหยา​ จากนั้น​นั่งลง​โดย​ไม่สนใจ​เศษหิน​บน​พื้น​พิง​ตัว​บน​กำแพง​หิน​และ​หลับใหล​ไป​

ต้า​นิว​กลับ​ขยันขันแข็ง​ ใช้เวลา​สามวัน​ ใช้ขา​หน้า​ขุด​จน​โลหิต​ไหล​ จึงนำ​ศิลา​วิญญาณ​เปื้อน​คราบเลือด​ก้อน​หนึ่ง​มายื่น​ให้​จิน​เฟย​เหยา​ด้วย​สีหน้า​ประจบ​เอาใจ​

จิน​เฟย​เหยา​มอง​ศิลา​วิญญาณ​เปื้อน​เลือด​ใน​มือ​มัน​และ​ดวงตา​สัตย์ซื่อ​เป็นประกาย​วิบวับ​ก็​ยก​เท้า​ขึ้น​เตะ​มัน​ออก​ไป​ ศิลา​วิญญาณ​เปื้อน​เลือด​ร่วง​พื้น​ จิน​เฟย​เหยา​เก็บ​ขึ้น​มาเช็ด​แล้ว​ให้​พวก​มัน​ไสหัวไป​เล่น​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ จะได้​ไม่กระทบ​ถึงการทำงาน​ของ​ตนเอง​

ขอ​เพียง​มีคน​ผ่าน​มา จะพบเห็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​ที่​น่าสงสาร​คน​หนึ่ง​กำลัง​ใช้นิ้ว​ขุด​ศิลา​วิญญาณ​อยู่​ที่นี่​ ส่วน​ผู้ตรวจสอบ​นาง​ก็​แตกต่าง​จาก​คนอื่น​ไม่ใช่ตัว​เดียว​แต่​เป็น​สามตัว​ นอกจาก​หนู​ดม​วิญญาณ​ผู้ตรวจสอบ​ตัว​หนึ่ง​ ยังมี​กบ​อันธพาล​เพิ่ม​มาอีก​สอง​ตัว​

เห็น​รูปร่าง​ของ​กบ​ขั้น​ห้า​สอง​ตัว​นี้​และ​สายตา​ไม่มีความรู้สึก​ราวกับ​สัตว์ประหลาด​แห่ง​การเข่นฆ่า​ก็​สามารถ​เดา​ได้​ว่า​ขอ​เพียง​พวก​มัน​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​หนู​ดม​วิญญาณ​ จะลง​มือสังหาร​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​คน​นี้​อย่าง​ไร้​ปราณี​ ไม่รู้​ว่า​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​สตรี​คน​นี้​ไป​ล่วงเกิน​ใคร​เข้า​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะถูกลาก​มาใช้นิ้ว​ขุด​ศิลา​วิญญาณ​ที่นี่​ ช่างน่าสงสาร​จริงๆ​

จิน​เฟย​เหยา​ไม่รู้​เลย​ว่า​ทุกคน​คาดเดา​ถึงตนเอง​เช่นนี้​ นาง​โยน​ถุงเฉียน​คุ​น​ทั้งหมด​ให้​พั่งจื่อ​อย่าง​ว่องไว​ หนู​ดม​วิญญาณ​เพียง​เงยหน้า​ขึ้น​ ดวงตา​เล็ก​ๆ มีความสงสัย​นิดๆ​ ทว่า​ก็​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ทันที​ วนรอบ​ศิลา​วิญญาณ​ถุงนั้น​ต่อไป​

ต่อให้​เฉลียวฉลาด​ก็​เป็น​เพียง​สัตว์เดรัจฉาน​ตัว​หนึ่ง​เท่านั้น​ จิน​เฟย​เหยา​หัวเราะ​แล้ว​เก็บ​ต้า​นิว​และ​พั่งจื่อลง​ใน​ถุงสัตว์​ภูติ​ จากนั้น​หยิบ​กระเป๋า​เก็บ​ของ​บน​พื้น​ขึ้น​ เดิน​ส่าย​อาด​ๆ ออกจาก​ถ้ำเหมือง​

ตอน​เข้ามา​นาง​เดิน​นำ​อยู่​ข้างหน้า​ ตอน​ออก​ไป​มีหนู​ดม​วิญญาณ​นำทาง​ นาง​ไม่ต้อง​ทำ​สัญลักษณ์​ ถ้าไม่มีหนู​ดม​วิญญาณ​นำทาง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ต้อง​เดิน​ไกล​เพียงใด​ จิน​เฟย​เหยา​ฮัมเพลง​ที่​ไม่ทราบ​ความหมาย​ชัดเจน​ จิน​เฟย​เหยา​เดิน​มาหนึ่ง​ชั่ว​ยาม​กว่า​ก็​เหยียบย่าง​ออกจาก​ถ้ำเหมือง​ของ​เหมือง​ศิลา​วิญญาณ​ซัน​จือ​

เพิ่ง​เดิน​ออกจาก​เหมือง​ จิน​เฟย​เหยา​ก็​ขยี้ตา​ ศิลา​แสงจันทร์​ไม่สามารถ​แทน​แสงจาก​ดวงอาทิตย์​ได้​ อยู่​ใน​สถานที่​มืดมิด​เป็นเวลา​นาน​ไม่ได้​จริงๆ​ ด้วย​ ไม่ค่อย​ดี​ต่อ​สายตา​ แต่​นาง​สงสัย​นิดๆ​ ว่า​ตนเอง​เป็นโรค​ที่อยู่​ใน​มุมคนเดียว​ถึงไม่ต้อง​ติดต่อ​กับ​คนอื่น​ก็​ไม่เศร้า​เสียใจ​ใช่หรือไม่​

นาง​ยังอยู่​ใน​การป้องกัน​สิบ​หก​ชั้น​คน​เฝ้ายาม​ภายนอก​ก็​รู้​แล้ว​ จึงยืน​รอ​นาง​อยู่​ด้านหน้า​การป้องกัน​แต่แรก​

เมื่อ​จิน​เฟย​เหยา​เหยียบย่าง​ออกจาก​การป้องกัน​ พวกเขา​ก็​ล้อม​ไว้​ ขอ​เพียง​ไม่ระวัง​ นาง​ก็​จะหนี​ไป​พร้อม​ศิลา​วิญญาณ​ทันที​ จิน​เฟย​เหยา​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​แต่​โดยดี​ ยื่น​ส่งกระเป๋า​เก็บ​ของ​ใบ​นั้น​ให้​ คน​เฝ้ายาม​คน​หนึ่ง​รับ​กระเป๋า​เก็บ​ของ​มา กวาดตา​ดู​ด้านใน​แล้ว​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ “เหตุใด​จึงน้อย​แค่นี้​ เจ้าคง​ไม่ได้​ยักยอก​ไป​หรอก​นะ​”

“ข้า​เป็น​ถึงผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​หลอม​รวม​ จะทำ​เรื่อง​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ พวก​ท่าน​ไร้เหตุผล​เกินไป​แล้ว​ พวก​ท่าน​มีหนู​ดม​วิญญาณ​และ​ปล่อย​มัน​ให้​เฝ้าไว้​มิใช่หรือ​ ลอง​ถามมัน​ดู​ก็ได้​” จิน​เฟย​เหยา​มีสีหน้า​เปิดเผย​ นาง​รู้สึก​ถูก​หยาม​เกียรติ​จึงเอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​

บรรดา​คน​เฝ้ายาม​สบตา​กัน​ จากนั้น​เก็บ​หนู​ดม​วิญญาณ​ แล้ว​ปล่อย​หนู​ดม​วิญญาณ​ที่​มีขนาดใหญ่​ขึ้น​หนึ่ง​เท่า​ออกมา​อีกครั้ง​ จิน​เฟย​เหยา​มีสีหน้า​ปกติ​ ที่จริง​ใน​ใจกลับ​ตึงเครียด​ คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าพวก​นี้​จะเลี้ยง​หนู​ดม​วิญญาณ​ตัว​ใหญ่​ถึงเพียงนี้​ คง​ไม่ถูก​มัน​ตรวจสอบ​พบ​หรอก​นะ​

ราชา​หนู​ดม​วิญญาณ​ตัว​นี้​สูด​จมูก​ วนรอบ​จิน​เฟย​เหยา​หลาย​รอบ​ แล้ว​หยุด​เอียง​หัว​กระพริบตา​เล็ก​ๆ ครุ่นคิด​ แล้ว​วนรอบ​นาง​ใหม่​อีกครั้ง​ ทำซ้ำ​อยู่​นาน​ก็​ไม่เห็น​มีความเคลื่อนไหว​ชัดเจน​

“วน​พอแล้ว​หรือยัง​! พวก​เจ้าหมายความว่า​อย่างไร​ ส่งหนู​ตัว​หนึ่ง​มาหยาม​เกียรติ​ข้า​หรือ​!” จิน​เฟย​เหยา​พลัน​ถลึงตา​ ด่าทอ​อย่าง​ดุร้าย​

พอ​ถูก​นาง​คำราม​ใส่ ในที่สุด​ราชา​หนู​ดม​วิญญาณ​ตัว​นั้น​ก็​ตัดสินใจ​ได้​ วิ่ง​กลับ​ไป​อย่าง​เงื่องหงอย​ บรรดา​คน​เฝ้ายาม​เพียง​เก็บ​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นบน​หกร้อย​กว่า​ก้อน​และ​ป้าย​หยก​สีเขียว​ที่​จิน​เฟย​เหยา​ใช้เข้า​เหมือง​ เวลานี้​จิน​เฟย​เหยา​จึงสังเกตเห็น​ ที่แท้​ของ​สิ่งนี้​ใช้ครั้ง​เดียว​แล้ว​ทิ้ง​ ท่าทาง​ตอน​กลับมา​คง​ต้อง​ไปหา​หวัง​โหย​วห​ลิง​เพื่อ​เอา​อีก​อัน​

จิน​เฟย​เหยา​สะกด​ความยินดี​ใน​ใจเอาไว้​ เดิน​ออกจาก​เขต​เหมือง​ศิลา​วิญญาณ​ซัน​จือ​มาถึงใน​เมือง​ซัน​จือ​ด้วย​สีหน้า​สงบ​

พอ​ออกมา​นาง​ไม่ได้​ไป​ที่ใด​ แต่​ไป​ซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ของ​ตนเอง​ก่อน​ ศิลา​วิญญาณ​ชั้นบน​เกือบ​สอง​แสน​ก้อน​ถูก​นาง​นำมา​ซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​ทั้งหมด​ ทำให้​ทั่ว​ทั้งเมือง​ซัน​จือ​ต่าง​รู้​ว่า​ มีคน​กำลังซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​อย่าง​บ้าคลั่ง​

บางคน​รีบ​ลงมือ​ก่อน​ ทว่า​บางคน​กลับ​ลังเล​ มีคนซื้อ​อย่าง​บ้าคลั่ง​แบบนี้​ แสดงว่า​ของ​สิ่งนี้​มีความลับ​ที่​ผู้อื่น​ไม่รู้​ ถ้าขาย​ทิ้ง​ตอนนี้​จะไม่คุ้มค่า​หรือไม่​ ต่อไป​ถ้าตนเอง​ต้องการ​ยาม​กะทันหัน​กลับ​หาไม่​ได้​ ยิ่ง​มีคน​คิด​จะกักตุนสินค้า​ไว้​ใน​มือ​รอ​ให้ราคา​พุ่ง​ไป​หลายเท่า​แล้ว​ค่อย​ขาย​

นาง​เดิน​วนรอบ​หนึ่ง​ ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​น้ำขึ้น​เรือ​ลอย​สูง[2] คิดไม่ถึง​ว่า​สุดท้าย​ราคา​จะทะยาน​ขึ้น​เป็น​สอง​พัน​ศิลา​วิญญาณ​ชั้นบน​ นาง​จึงสามารถ​ซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ของ​สัตว์​ปิศาจ​ขั้น​เจ็ด​ได้​หนึ่ง​พวง​ จิน​เฟย​เหยา​นึก​ว่า​มีใคร​เป็น​ศัตรู​กับ​ตนเอง​ ตนเอง​อยาก​ซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ก็​มีคน​บังคับ​ขึ้นราคา​ น่าชัง​จริงๆ​

คำนวณ​ดู​ ครั้งนี้​ตนเอง​เพิ่ง​ซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ได้​สามสิบ​กว่า​พวง​ ศิลา​วิญญาณ​ใน​มือ​ยัง​เหลือ​อีก​มาก​ กลับ​ไม่มีตาน​สัตว์​ปิศาจ​ให้​ซื้อ​

“ใคร​กัน​น่าชัง​ขนาด​นี้​ คิดไม่ถึง​ว่า​แย่งชิง​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​กับ​ข้า​!” จิน​เฟย​เหยา​สอบถาม​แล้ว​มีสตรี​ผู้​หนึ่ง​กว้านซื้อ​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​อย่าง​บ้าคลั่ง​จึงทำให้​ตาน​สัตว์​ปิศาจ​พวง​องุ่น​ราคา​พุ่ง​พรวดพราด​ สตรี​ผู้​นี้​ทำร้าย​ตนเอง​อย่าง​น่าอนาถ​ยิ่ง​ นาง​ด่าทอ​อย่าง​เดือดดาล​ และ​ไม่เคย​คิด​เลย​ว่า​สตรี​ผู้​นี้​คือ​ตนเอง​ นึก​ว่า​มีคน​แบบ​เดียวกัน​ใน​ตลาด​

เมือง​ซัน​จือ​ไม่มีคนธรรมดา​และ​ไม่มีคน​ที่​มีพลัง​การ​บำ​เพียร​เพียร​ต่ำต้อย​ คน​ที่​มีพลัง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ต่ำ​ที่สุด​คือ​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​ขั้น​หลอม​รวม​ ดังนั้น​เมือง​ซัน​จือ​จึงไม่มีร้าน​น้ำชา​และ​ร้านอาหาร​ นอกจาก​ร้าน​ขาย​อาวุธ​เวท​และ​ร้านขายยา​หลาย​ร้าน​ก็​เป็น​แผง​แบกะดิน​เล็ก​ๆ จำนวน​นับไม่ถ้วน​และ​ร้าน​ขาย​พื้นที่​มิติ​ร้าน​นั้น​

จิน​เฟย​เหยา​ไม่มีที่​ไป​จึงเดิน​บน​ถนน​ใน​เมือง​ซัน​จือ​อย่าง​เงียบๆ​ บอ​กว่า​เป็น​ถนน​ที่จริง​คือ​ที่ว่าง​ใต้​ต้นไม้​ ขณะที่​นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​ว่า​จะกลับ​ไป​ขุด​เหมือง​ต่อ​หรือ​จะออก​ไป​ล่าสัตว์​ปิศาจ​เอง​หรือ​จะไป​เยี่ยม​ไห่​ห​ลัน​อิน​ว่า​ครึ่ง​ปี​นี้​ยาย​นี่​เป็น​อย่างไรบ้าง​

ก็​เห็น​การป้องกัน​นอกเมือง​ซัน​จือ​พลัน​เกิด​แสงสีเหลือง​ จากนั้น​ได้ยิน​เสียง​คนใช้​เสียง​ราวกับ​สุกร​ถูก​เชือด​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ “แย่​แล้ว​ เผ่า​มาร​บุก​โจมตีเมือง​ซัน​จือ​ ทุกคน​รีบ​ออกมา​รับศึก​ เผ่า​มาร​บุก​โจมตี​แล้ว​!”

“อะไร​นะ​! โชคร้าย​ขนาด​นี้​เชียว​!” จิน​เฟย​เหยา​ตะลึงงัน​ เห็น​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​จำนวนมาก​เหาะ​ออก​ไป​นอกเมือง​ซัน​จือ​ นาง​เหยียบ​ทง​เทียน​หรู​อี้​ ติดตาม​ทุกคน​มานอกเมือง​ซัน​จือ​ทันที​

เห็น​เบื้องหน้า​มีกองทัพ​เผ่า​มาร​ปรากฏ​ขึ้น​ จิน​เฟย​เหยา​อด​ส่งเสียง​ขำ​ออกมา​ไม่ได้​

เผ่า​มาร​กล้า​เกินไป​แล้ว​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะพา​ลูกสมุน​ขั้น​หลอม​รวม​ที่​มีเส้น​ผม​ต่าง​สีสัน​กัน​มาเพียง​สิบ​คน​ อีก​ทั้ง​ทุกคน​ล้วน​เป็น​สตรี​ พวก​นาง​ยืน​อยู่​บน​หลัง​สัตว์​ปิศาจ​เซี่ยง​ซู่สูงเจ็ด​แปด​จั้ง รถ​เทียม​สัตว์​บน​หลัง​สัตว์​ปิศาจ​เซี่ยง​ซู่ดูดี​จริงๆ​ ใช้ปะการัง​อัน​งดงาม​ทำเป็น​หลังคา​ รอบด้าน​แขวน​ผ้า​โปร่ง​สีขาว​ยาว​หลาย​จั้ง

ด้านหน้า​รถ​เทียม​สัตว์​มีสตรี​เผ่า​มาร​เส้น​ผม​สีดำ​สอง​คน​นั่ง​อยู่​ ดูเหมือน​จะเป็น​หญิง​รับใช้​หรือ​อนุภรรยา​ นี่​แย่​เกินไป​แล้ว​ เส้น​ผม​สีดำ​ล้วน​เป็น​ชนชั้นสูง​มิใช่หรือ​?

จิน​เฟย​เหยา​มอง​คนใน​รถ​เทียม​สัตว์​ผ่าน​ผ้า​โปร่ง​สีขาว​เหล่านั้น​อย่าง​ประหลาดใจ​อยู่​บ้าง​ ราวกับ​เห็น​ชุด​สีแดง​ทั้งตัว​ หรือว่า​เป็น​ใต้เท้า​ไหว​ซึ่งเป็น​น้องสาว​ของ​จอม​มาร​หลง​และ​เป็น​ท่าน​แม่ของ​ปู้จื้อ​โหย​ว?​

ไม่จริง​น่า​…เรื่อง​นี้​จำเป็นต้อง​ให้​นาง​ออกโรง​ด้วย​หรือ​? เดี๋ยวก่อน​ ถ้านาง​ปรากฏตัว​ หมายความว่า​จอม​มาร​หลง​ก็​อยู่​ใกล้​ๆ ใช่หรือไม่​ จิน​เฟย​เหยา​ตกใจ​ อด​มอง​ไป​รอบด้าน​ไม่ได้​ คิด​จะดู​ว่า​นอกจาก​หลาย​คน​นี้​ยังมี​เผ่า​มาร​คนอื่นๆ​ อีก​หรือไม่​

ในเวลานี้​เอง​ ทาง​ด้าน​เมือง​ซัน​จือ​มีตา​เฒ่าที่​จิน​เฟย​เหยา​ไม่เคย​เห็น​กลุ่ม​หนึ่ง​รุด​มา นาง​มาถึงเมือง​ซัน​จือ​ก็​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ขุด​ศิลา​วิญญาณ​ ไม่รู้​ว่า​ตา​เฒ่าเหล่านี้​คือ​ใคร​ หนึ่ง​ใน​บรรดา​ตา​เฒ่าเหล่านั้น​พลัน​ก้าว​มาข้างหน้า​ เอ่ย​วาจา​กับ​เผ่า​มาร​ “ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​แล่น​มาถึงเมือง​ซัน​จือ​ด้วย​ธุระ​ใด​ ควร​รู้​ว่า​พวกเรา​ไม่ได้​ล่วงล้ำ​ดินแดน​ของ​เผ่า​มาร​ ตาม​กฎ​ที่​เจรจา​ไว้​ใน​อดีต​ พวกเรา​น้ำ​บ่อ​ไม่ยุ่ง​เกี่ยวกับ​น้ำ​แม่น้ำ​[3] ท่าน​มาวันนี้​หมายความว่า​อย่างไร​?”

บน​สัตว์​เซี่ยง​ซู่เงียบงัน​ไป​เล็กน้อย​ ก็​มีเสียง​บุรุษ​ที่​ฟังดู​หยิ่งผยอง​อย่างยิ่ง​ดัง​มา “น้ำ​บ่อ​ไม่ยุ่ง​เกี่ยวกับ​น้ำ​แม่น้ำ​? หก​เดือนก่อน​พวก​เจ้ารวบรวม​ผู้​บำเพ็ญ​เซียน​กลุ่ม​ใหญ่​ มิใช่คิด​จะรุกราน​เผ่า​มาร​เรา​หรอก​หรือ​? หาก​มิใช่พวก​เจ้ากังวล​อยู่​บ้าง​ เกรง​ว่า​ตอนนี้​คง​โจมตี​ดินแดน​เผ่า​มาร​นาน​แล้ว​”

ไม่ใช่ใต้เท้า​ไหว​ จิน​เฟย​เหยา​โล่งอก​ แต่​คน​เผ่า​มาร​บน​หลัง​สัตว์​เซี่ยง​ซู่ดุร้าย​จริงๆ​ เมือง​ซัน​จือ​มีผู้​บำเพ็ญ​เซียน​หลาย​พัน​คน​ ต่อให้​เจ้าจะมาแสดง​อานุภาพ​ของ​ตนเอง​หรือ​คิด​จะมาบุก​โจมตีเมือง​ซัน​จือ​จริงๆ​ ก็​ต้อง​พา​คน​มามาก​หน่อย​ มีเพียง​สิบ​กว่า​คน​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะมาท้าทาย​เมือง​ซัน​จือ​ มีความกล้า​ไม่เบา​

ได้ยิน​คำพูด​ของ​ผู้ฝึก​บำเพ็ญ​เผ่า​มาร​คน​นี้​ บรรดา​ตา​เฒ่าแห่ง​เมือง​ซัน​จือ​ก็​ตะลึงงัน​ คิดไม่ถึง​ว่า​เรื่อง​นี้​จะทำให้​เผ่า​มาร​ไม่พอใจ​ มีคน​มาอาละวาด​ก่อน​ล่วงหน้า​ ถึงแม้การ​โจมตี​ดินแดน​เผ่า​มาร​จะเป็นเรื่อง​ช้าหรือ​เร็ว​เท่านั้น​ แต่​พวกเขา​ยัง​หวัง​ว่า​จะสังหาร​เผ่า​มาร​โดย​ไม่ทัน​ตั้งตัว​ ตอนนี้​ไม่อยาก​ยอมรับ​เรื่อง​นี้​กับ​เผ่า​มาร​กลุ่ม​เล็ก​ๆ

อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่มีอะไร​น่า​ยอมรับ​ เพราะ​ไม่ได้​รวบรวม​คน​ไป​โจมตี​เผ่า​มาร​จริงๆ​ ดังนั้น​ชาย​ชรา​คน​ที่​ออกมา​คน​แรก​สุด​จึงเอ่ยปาก​อธิบาย​ “ท่าน​เข้าใจผิด​แล้ว​ นี่​ไม่ใช่การ​รวบรวม​คน​ไป​โจมตี​เผ่า​มาร​ อีก​ทั้ง​นี่​ยัง​เป็นเรื่อง​เมื่อ​ครึ่ง​ปีก่อน​ พวกเรา​ไม่ได้​มีความเคลื่อนไหว​ใดๆ​ มาโดยตลอด​ ต่อให้​ระดมกำลัง​มากล่าวหา​ท่าน​ก็​มาช้าเกินไป​กระมัง​?”

“ความหมาย​ของ​เจ้าคือ​รังเกียจ​ที่​ข้า​ยุ่ง​ไม่เข้าเรื่อง​? รู้สึก​ว่า​คน​ที่​ข้า​พา​มามีน้อย​เกินไป​ พวก​เจ้าจึงไม่เห็น​อยู่​ใน​สายตา​ ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ข้า​คง​ไม่อาจ​กลับ​ไป​มือเปล่า​ ข้า​จะขอรับ​เมือง​ซัน​จือ​นี้​ไว้​” บุรุษ​เผ่า​มาร​บน​หลัง​สัตว์​เซี่ยง​ซู่ เอ่ย​อย่าง​ชัดเจน​

“พูดจา​โอหัง​บังอาจ​! ใน​เมื่อ​เจ้าอยาก​ตาย​ วันนี้​พวกเรา​จะให้​เจ้ามาได้​กลับ​ไม่ได้​” ทาง​ด้าน​เมือง​ซัน​จือ​ก็​ไม่ยอม​แสดง​ความอ่อนแอ​ พวก​เจ้าแค่​สิบ​กว่า​คน​ยัง​โอหัง​แบบนี้​ ถ้าร้อย​คน​พวก​เจ้ามิกลืน​พวกเรา​ทั้งเป็น​หรอก​หรือ​ จะได้​สังหาร​ความ​หยิ่งผยอง​ของ​เผ่า​มาร​เพื่อ​เพิ่ม​ขวัญ​กำลังใจ​ให้​กับ​ศึก​ใหญ่​ในวันหน้า​พอดี​!

……………………………………

[1] ไค​ว่​ซู คือ​ เพลง​ละครเพลง​ชนิด​หนึ่ง​ ใช้แผ่น​ไม้ไผ่​และ​แผ่น​ทองเหลือง​เคาะ​จังหวะ​คลอ​เสียง​ไป​ด้วย​

[2] น้ำขึ้น​เรือ​ลอย​สูง หมายถึง​ ของ​บางอย่าง​เพิ่มขึ้น​เนื่องจาก​สิ่งที่​มัน​พึ่งพา​อยู่​เพิ่มขึ้น​

[3] น้ำ​บ่อ​ไม่ยุ่ง​เกี่ยวกับ​น้ำ​แม่น้ำ​ หมายถึง​ ไม่ล้ำเส้น​ หรือ​ รุกล้ำ​เขตแดน​กันและกัน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด